บทที่ 95 – มอบอิสระภาพ (2)
พื้นที่ดันเจี้ยนระดับ A+ สุสานเหนือทะเลสาบมีมอนสเตอร์อยู่ 3 ชนิดที่ปรากฏตัว หนึ่งคือมอนสเตอร์ที่มีหัวเป็นปลามีขาเป็นมนุษย์ซึ่งจะปีนขึ้นมาบนเรือและโจมตีด้วยเขี้ยวของมันคือมนุษย์ปลา มันเป็นกลุ่มมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในพิ้นที่ดันเตจี้ยนนี้ แต่ว่ามันเป็นพวกที่มีจำนวนมากที่สุด พวกมันจะว่ายน้ำไปมาอย่างอิสระในทะเลสาบ จากนั้นมันก็จะโผล่ขึ้นมาบนเรือและทำร้ายผู้โดยสารทันที ในฐานะที่มันเป็นมอนสเตอร์ระยะประชิดมันก็เป็นประเภทที่พรรคพวกฮวาหยารำคาญมาที่สุด
อย่างที่สองก็คือมอนสเตอร์ประเภทฮลาดที่มีเขี้ยวคล้าบกับฉลาม พวกมันมีขากรรไกรที่ใหญ่ซึ่งปกคลุมเขี้ยวที่ดูเหมือนจะถูกเสริมด้วยมานาอีกด้วย มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ได้กระโดดขึ้นมาบนเรือเหมือนกับมนุษย์ปลา แต่มันจะเข้ามาหาเรือด้วยเขี้ยวที่เหมือนเรื่อยและเจารูเรือ
เพื่อป้องกันมันนี้เรือสำราญที่ฉันนั่งอยู่มันได้คลุมด้วยหหนังของมอนสเตอร์ระดับ S ไวเวิร์น ถึงแม้แบบนั้นมันก็ไม่สามารถจะต้านทานการโจมตีจากฟันได้นานนัก ดังนั้นพวกเราก็จะต้องจัดการมันในทันทีที่เห็นพวกมัน แม้ว่าพลังของฮวาหยาจะเสียเปรียบในพื้นที่นี้แต่ว่าไฟของเธอก็ยังสมกับเป็นของระดับ SS มันสามารถที่จะเผาศัตรูใต้น้ำได้ หรือก็คือพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องไปแตะตัวในตอนที่โจมตีพวกมันนี่มันจึงง่ายกว่ามนุษย์ปลามาก
อย่างที่สามและเป็นอย่างสุดท้ายเป็นมอนสเตอร์ที่มีค่าและเป็นมอนสเตอร์ยอดนิยม ทูน่าละลาย! ทำไมพวกเขาถึงเรียกมันว่าทูน่าละลายนะหรอ? มันก็เพราะว่าพวกมันมีเนื้อที่นุ่มและอร่อยจนเหมือนกับละลายในปากของเรา! พวกมันอร่อยมากเสียจนเรียกได้ว่าเป็นแผนของดันเจี้ยนวินเดอแมร์! แม้ว่าจะไม่มีหินบลูสโตน แต่ว่าทูน่าละลายก็ถูกขายในราคา 150 ล้านวอน
“แต่นายก็รู้เวทย์ของฉันจะย่างมันในทันที…”
“เวทย์ของฉันมันร่ายช้าเล็กน้อย…”
“พวกไร้ประโยชน์ อุ๋ย”
“นายต้องการจะให้ฉันย่างนายแทนหรอ?”
“รอเดี๋ยวเดี๋ยวเวทย์ฉันจะพร้อมแล้ว”
อุ๊บ ฉันเพลอพูดความคิดของฉันออกมา แต่ว่าฉันก็ไม่สนใจได้ๆและมองหาเหล่าปลาทูน่าละลายที่กระโดดขึ้นมาบนเรือของเราและดิ้นไปรอบๆ ฉันได้ถามกับคนอื่นๆ
“เจ้าพวกนี้มันจะโจมตีเราได้ยังไง?”
“พวกมันจะยิงน้ำออกจากปาก”
ก่อนที่ฮวาหยาจะกล่าวได้จบ ปลาทูน่าก็ได้หันหัวมาทางฉันและยิงนเออกมา ไมค์ที่พร้อมอยู่แล้วได้ป้องกันน้ำนั้น เสียงสนั่นได้ดังขึ้นจากการปะทะกัน จากนั้นฉันก็พรุ่งเข้าไปหาทูน่า
“อยู่นิ่งๆนะฉันจะจับแกมาทำอาหารให้เจ็บน้อยที่สุดเอง…อึก!”
“เกิดอะไรขึ้น TK?”
ฉันได้วิ่งได้ด้านหลังของทูน่าในจุดอับสายตาและเหวี่ยงมีดใส่มัน แต่ว่ามีดของฉันได้หักไปในทันทีที่สัมผัสมัน ดวงตาของฉันได้แต่เบิกกว้างขึ้น
“มีด…ฟันไม่เข้า!”
“มันเป็นมอนสเตอร์ระดับ A+ คิดอะไรโง่ๆ?”
“เวรเอ้ย!”
ฉันได้รัดแขนของฉันไปที่รอบๆเหงือกของทูน่า แม้ว่ามันจะพยายามดิ้นรนจนทำให้ฉันรำคาญ แต่ว่ามันก็ไม่สามารถจะเอาชนะแรงของฉันได้ซึ่งมันได้ถูกเสริมขึ้นอีกจากอุปกรณ์ เมื่อฉันได้ปล่อยสายฟ้าเข้าไปในร่างกายของมันผ่านทางเหงือกมันก็หยุดการดิ้นรนและเริ่มไอออกมา เยี่ยม มันได้ผล! ฉันได้ปล่อยสายฟ้าและรัดคอมันแน่นขึ้น ทุกๆครั้งจะมีประกายสายฟ้าแลบออกมาจากอ้อมแขนของฉัน
“นั่นคืออัศวินสายฟ้า”
“ภาพลักษณ์ของฉันที่มีให้กับเขา…พัง”
หลังจากที่ได้ต่อสู้กับทูน่าเป็นเวลาหนึ่งนาที ฉันก็ได้ฆ่ามันสำเร็จ ยังไงก็ตามเมื่อมองไปที่มันฉันก็ได้ตะหนักว่าฉันได้ทำผิดร้ายแรง
“โอ้ไม่นะ…ฉันย่างมัน”
“ฮ่านายก็ไม่ได้ต่างไปจากฉันหรอก TK!”
ภายในของทูน่าได้ถูกอย่างไปโดยสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าฉันจะดีใจที่ทุกคนบอกว่ามันอร่อยกว่าเวอร์ชั่นย่างของฮวาหยา แต่ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้ เวร เพราะว่าฉันไม่สามารถเอาหอกมาได้นี่จึงเป็นทางเดียวที่ฉันทำได้!
“ฉันจะต้องเรียนรู้เทคนิคดาบและการเสริมพลังให้กับมีดด้วยมานา!”
“นายบ้าหรือป่าว!?”
มีดทำครัวไม่สามารถจะเจาะทูน่าได้แม้ว่าจะในตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว มีดนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมันได้ไปนานแล้วหรือไม่ก็ถูกทำมาปรุงจนสมบูรณ์ไปแล้ว! ดังนั้นฉันก็เลยไม่สามารถจะหั่นเอาเนื้อมันออกมาได้ตามที่ต้องการได้แต่กินส่วนเหงือกที่อร่อยเช่นกัน ฉันได้พึมพำด้วยความไม่พอใจ
“เวรเอ้ย ซาซิมิทูน่าของฉัน…”
“ฉันจะพานายไปกินอะไรแบบนี้ในภายหลัง”
“ไม่ ฉันสาบานว่าจะกินของสด ทูน่าละลายที่ยังสดอยู่! งั้มๆ…”
“หยุดกินแล้วก็ไปฆ่ามนุษย์ปลาซะ
ฉันรู้สึกเศร้ามากเลยทีเดียวที่ไม่สามารถจะกินซาซิมิมูน่าที่ฉันรอคอยได้ เหล่ามอนสเตอร์พวกนี้ฉันสามารถจะจัดการมันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไรเลย ฉันไม่จำเป็นจะต้องใช้สายฟ้าคลั่งเลยด้วยซ้ำ
ถ้ามันเป็นฉันในตอนที่ฆ่าหมูป่าเหล็กยักษ์ฉันคิดว่ามันก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาฉันได้เลเวลอัพขึ้นและได้รับประสบการณ์การต่อสู้มา มอนสเตอร์ระดับ A+ จะเสียชีวิตไปในเพียงแค่ไม่กี่หมัดของฉัน ฉันได้ตระหนักถึงความสำคัญของสเตตัสอีกครั้งหนึ่ง
“แข็งแกร่ง”
“ฉันไม่ต้องการ”
“เหมือนกัน แต่ทำไมถึงทำฉับพลันแบบนั้นล่ะพอล? พวกเรากินแต่ป็อบคอนมานานแล้วนะ”
เมื่อพอลพูดออกมาอย่างคอตก ไมค์ก็ได้ตอบกลับไปด้วยความประหลาดใจ ฉันได้ยิ้มเบาๆและตอบกลับไปเมื่อได้ยินบทสนาของพวกเขา
“ทำไมถึงไม่เจอปลาทูน่าเลยล่ะ? ตั้งแต่ตัวแรก พวกเราก็เจอแต่พวกมนุษย์ปากไม่ก็พวกเขี้ยวฉลามที่พยายามจะเจาะเรือของเรา”
“มันมีอยู่ไม่มากนัก พวกเราโชคดีแล้วที่เจอตัวนึง”
“ฉันต้องการจะย่างปลา…”
หลังจากที่ฉันได้อยู่บนเรือเป็นเวลาสามชั่วโมง ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าทำไมฮวาหยาดูเหมือนจะร้องไห้ทุกครั้งที่ติดต่อหาฉัน
“ทะเลสาบนี่มันกว้างจริงๆ มันดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเลย ทะเลสาบวินเดอแมร์มันใหญ่แบบนี้เลยหรอ?”
“แน่นอนว่าไม่ เมื่อมันกลายมาเป็นดันเจี้ยนพื้นที่แปลกๆนี้ก็ได้ขยายใหญ่ขึ้น ส่วนเหตุผลว่าทำไมพวกเราก็ไม่แน่ใจนัก ตามรายงานของประเทศอื่นๆจำนวนมอนสเตอร์จะลดลงอย่างมากเมื่อบอสของพื้นที่ดันเจี้ยนถูกฆ่า…แต่ว่าพวกเราไม่สามารถจะหาบอสเจอได้เลย”
ฮวาหยาได้โยนลูกไฟลงไปในน้ำขณะที่ตอบคำถามของฉัน พวกฉลามที่พยายามจะเจาะเข้าไปในเรือได้ถูกย่างและตายไปในน้ำทันที เมื่อเห็นมันฉันได้พึมพัมขึ้นทันที
“ครีบฉลาก…”
“อย่านะ ผู้ใช้พลังระดับ S จากจีนเคยลองมันแล้วและครีปของฉลามพวกนี้มันไม่เหมือนกับฉลามปกติ ในความเป็นจริงแล้วมันแข็งมาก ร่างกายของผู้ใช้พลังนอกเหนือจากสายเสริมร่างกายไม่สามารถจะกินมันได้”
“แล้วชาวจีนทำสำเร็จไหม? เขาบอกว่าอร่อยปะ?”
“ไม่ เขาไม่ได้เป็นผู้ใช้พลังประเภทเสริมร่างกายดังนั้นฟันของเขาก็เลยหักไป”
“อึก อย่าน้อยเขาก็พยายามผู้ใช้พลังระดับ S นั่น….!”
ฉันได้ยอมแพ้ไปกับครีบฉลาด มันเป็นเวลาบ่ายสีโมงเย็นแล้ว ลมหนาวในทะเลสาบได้พัดต้านกับผมสีเงินของฉัน เมื่อฉันมองไปทางเมืองมันก็เป็นเหมือนจุดเล็กๆในเส้นขอบฟ้า ฉันได้บ่นออกมา
“แม้แต่การย้อนกลับไปก็จะใช้เวลาซักพัก”
“ใช่แล้ว พวกเราจะกลับไปเร็วๆนี้ แล้วนายก็จะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงบอกว่ามันจะใช้เวลานาน ใช่มั๊ย?”
“ใช่ เธอทำมันได้ดีมากจนถึงตอนนี้ แน่นอนว่าตั้งแต่ที่ฉันอยู่ที่นี่มันจะเร็วขึ้นอีกมาก
“ฮ่าๆ อย่างน้อยความเชื่อมั่นของนายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับ SS เลย”
ในขณะที่ฉันกับฮวาหยาคุยกัน ไมค์ก็ได้หยักหน้าและเอ่ยขึ้น
“นายเป็นคนที่สมควรจะได้รับชื่ออัศวินสายฟ้า”
ฮวาหยาได้จัดการเหล่าฉลาดและมนุษย์ปลา นอกเหนือจากนี้เมื่อพวกเราพบกับทูน่าพอลและไมค์จะยืนอยู่เฉยๆ สำหรับมาดาบราวน์เธอได้ใช้เวลาช่วงบบ่ายทั้งหมดไปกับการเพลิดเพลินไปกับลมทะเล ตามที่เธอได้พูดไว้เธอไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังของเธอเลย เธอนี่มีความคิดเป็นผู้รักษาจริงๆ
แม้ว่าพวกเราจะพบกับมอนสเตอร์มากมายในระหว่างทางกลับแต่มันก็ไม่มีทูน่าเลย และพวกเราก็ไม่ได้เจอบอสอีกด้วย เมื่อพวกเราได้ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงเพื่อที่จะกลับไปท่าเรือท้องฟ้าก็ได้มืดสนิทไปแล้ว
“TK ไปดื่มกันซักหน่อยในอาหารเย็นเถอะ”
“โอเค”
ไมค์ได้ตบลงมาบนไหล่ของฉันและฉันก็ยกนิ้วให้เขา พอลก็ดูเหมือนจะต้องการเข้ามาร่วมด้วย ในขณะที่มาดามบราวน์ได้บอกลาและเธอก็เดินกลับไปที่ๆพักของเธอ ฮวาหยาได้ส่งข้อความให้ฉันในขณะที่ก้มหน้า
[ไปจัดการทูน่าย่างกันเถอะ เวลามันถูกแช่แข็งในช่องเก็บของ ดังนั้นมันจึงยังสดและอร่อยอยู่ ฉันจะนำไวน์ที่ดีที่สุดไปให้นายด้วย]
[เยี่ยมไปเลย]
ฉันได้ตอบกลับฮวาหยาไปในขณะที่เอามือของไมค์ออกจากไหล่
“ตอนนี้ฉันพึ่งจะนึกออก ฉันจะต้องสอนฮวาหยาควบคุมมานาของเธอ พวกเราจะไปดื่มกันพรุ่งนี้นะ”
“มันไม่น่าแปลกใจเลย เฮะๆ แฟนๆของมัสติฟอร์ดทั่วโลกจะต้องร้องไห้แน่ๆ”
“พอล ปล่อยให้คู่รักหนุ่มสาวอยู่ตามลำพังแล้วเราก็ไปดื่มด้วยกันสองคนเถอะ!”
“เอาล่ะ ถ้างั้นเรามาดื่มกันจนเช้าเลยดีกว่าไมค์!”
พอลและไมค์ได้เดินจากไปด้วยความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงระหว่างฉันกับฮวาหยา ตั้งแต่ที่ฉันไม่สามารถตะได้ตามและแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ได้ ฉันก็ได้ตามฮวาหยาไปยังที่พักของเธอ เมื่อฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าหมู่ดาวนับไม่ถ้วนบนนั่นด้วยความกลัว ฮวาหยาก็เปิดปากพูดออกมา
“ตอนนี้นายได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเขาแล้ว พวกเขาเป็นยังไงบ้าง? พวกเขาเป็นคนดีเลยใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ฉันคิดว่าอังกฤษค่อนข้างจะโชคดีเลยล่ะ ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่มีคนมากมายมีความนิทสนมและจิตใจที่ใสสะอาด แม้ว่าจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่”
เมื่อฉันได้ชมเชย ฮวาหยาก็ได้ไอแห้งๆออกมาและตีหน้าอกของฉัน ฉันหวังจะแก้แค้นเธอด้วยการตีคืนไป แต่ว่าฉันไม่สามารถตีหน้าอกเธอคืนได้ ฉันเลยไม่รู้ว่าจะมองไปที่ไหน
“อังกฤษเป็ฯประเทศที่ยิ่งใหญ่! อา ฉันชอบเกาหลีเหมือนกัน มีคนที่ดีในเกาหลีเหมือนกัน นอกจากนี้ฉันยังชอบอาหารเกาหลี แม่ของฉันทำอาหารอร่อยมาก แต่ว่าฉันก็ยังคงชอบอังกฤษ”
“ฉันคิดว่าความภาคภูมิใจในประเทศที่เธอเกิดมาเป็นสิ่งที่ดี”
ฉันได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มขม เธอก็จอบกลับมาด้วยรอยยิ้มขมเช่นกัน จากนั้นราก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อเราได้มาถึงที่พักและเปิดประตูเข้าไป ในขณะที่ฮวาหยากำลังจะเข้าไปโดยไม่คิดอะไรมากฉันก็ได้หยุดเธอไว้ด้วยรอยยิ้ม ฉันได้ปิดประตู ในขณะที่คิดขึ้นว่าเขาคงจะไม่ฟังคำเตือนของฉัน
เมื่อคิดแบบนั้นฉันก็ได้เปิดตาขึ้นอย่างแหลมคมและตะโกนออกมา
“ริยู ไพก้าหยุดเขา!”
[บรูวววววว!]
ที่พักได้ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงน้ำแข็งในทันที เสียงดังขึ้นพร้อมด้วยกับเสียงเปิดหน้าต่าง มีสายฟ้าเป็นจำนวนมากเกิดประกายในอากาศ ชายชุดคบลุมดำคนหนึ่งที่พยายามจะหลบหนีออกมาจากหน้าต่างได้ถูกห้อมล้อมไปด้วยสายฟ้าของไพก้า
“อึก!”
ในขณะที่ฉันได้ยิมเสียงของเขา ฉัยก็ได้นึกถึงใครบางคน
“ริยู!”
[เจ้าจะไม่สามารถหนีไปได้!]
หลังจากที่ล้มลงไปบนพื้นชายชุดคลุมดำก็ได้พยายามที่จะหนีต่อไปโดยที่ไม่สนใจอากาศบาดเจ็บ แต่ว่าริยูก็ได้แช่แข็.เท้าของเขาไว้ก่อนที่จะได้เคลื่อนไหว ด้วยเท่าที่ถูกแช่แข็งอยู่กับพื้นทำให้เขาไม่สามารถจะขยับได้แม้แต่น้อย ไพก้าได้สร้างหอกสายฟ้าขึ้นมาในอากาศ
[นายท่านฆ่าเขาเลยไหม?]
“ทำให้เขาเป็นอัมพาตก่อน! อย่าให้เขาเป็นอะไรไป!”
ตามคำสั่งของฉันไพก้าได้ส่งสายฟ้าของเธอใส่เขา ตามที่ฉันคาดเอาไว้เขาได้พยายามที่จะเข้าถึงช่องว่างที่มองไม่เห็นในอากาศ อย่างไรก็ตามสายฟ้าของไพก้าได้ทำให้เขาหยุดก่อนที่จะสามารถทำอะไรได้อีก เขาได้ตัวสั่นในขณะที่ฟองออกมาจากปาก ในขณะเดียวกันน้ำแข็งที่ริยูสร้างขึ้นก็ได้พุ่งขึ้นจากเท้าไปจนถึงหน้าแข็ง เข่า แล้วก็เอว เขาได้ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์
เยี่ยม ด้วยเหตุนี้เขาก็จะไม่สามารถหนีไปยังดันเจี้ยนได้แล้ว
ฉันได้มายืนอยู่ข้างหน้าของเขา มันดูเหมือนว่าเขาจะหายจากการเป็นอัมพาตและส่งหมัดที่มีแสงสีน้ำเงินมาทางฉัน ยังไงก็ตามฉันได้ใส่สายฟ้าสีขาวลงไปในหมัดและจับหมัดของเขาไว้ เขาได้แต่สั่นไปมา
“น่าเสียดายอะไรแบบนี้”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงถึงฉันบีบหมัดเอาไว้ในมือ แคร๊ก ด้วยเสียงอันไม่พึงประสงค์นิ้วของเขาได้หักออก อีกหมัดนึงของเขาได้รอยเข้ามาหาฉันด้วยแสงแปลกๆ ก่อนที่ฉันจะคาดเดาได้ว่าเขาใช้ทักษะอะไร ฉันก็ได้ตีศอกของเขาขึ้นไปก่อน แคร๊ก เสียงอันไม่พึงประสงค์ได้ดังขึ้นอีกครั้ง แขนของเขาได้หักได้
“อึก…!”
“ฉันไม่คิดว่านายจะเป็นคนแบบนี้”
“อะไรนะ? ชิน… นายรู้จักเขาหรอ?”
ฉันเห็นฮวาหยายืนนิ่งและงงกับที่จนถึงเมื่อฉันจัดการสถารณ์การจนเข้าที่ ฉันจำได้ว่าร่างกายของนักเวทย์แย่มาก แต่บ่นบ่าของเธอมีแมวเพลิงตัวเล็กๆอยู่ มันดูเหมือนว่าอย่างน้อยเธอก็รู้จักการป้องกันตัวเอง ฉันให้เธอ 6 คะแนนจาก 10 คะแนน
ฉันได้ตอบกลับฮวาหยาไป
“เธอไม่รู้เลยหรอ?”
“รู้ว่าอะไร?”
เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเปิดประตูเข้าไปในดันเจี้ยนฉันได้จับแขนอีกข้างของเขาและงอมัน แม้ว่าเขาจะพยายามต่อต้านฉันด้วยมานา แต่พลังของฉันก็สูงกว่าเขามาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องนักสำรวจที่แข็งแกร่ง แต่ว่าฉันสามารถทำลายแขนของเขาได้ง่ายๆ
“อ๊าาา!”
“…หืม?”
แม้ว่าหลังจากที่ได้ยิงเสียงของเขา ฮวาหยาก็ยังเอียงหัวงง เธอดูน่ารักเป็นพิเศษแต่ว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามในเวลานี้ ฉันได้ทำให้หัวใจที่เต้นแรงสงบลงเพราะเธอและบอกคำตอบให้กับเธอ
“เขาคือวอร์คเกอร์ เอ็ดเวิร์ด วอร์คเกอร์”
“อา วอร์คเกอร์! ถ้างั้นคนๆนี้เป็น…วอร์คเกอร์!?”