การแข่งขันระดับชาติ 3
“ปีนี้มีนักกีฬาหลายคนที่น่าจับตามองแต่ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นฟ่านหยู เขาจะสามารถปรับปรุงผลงานในปีที่แล้วให้ดีขึ้นได้หรือไม่ เขานับได้ว่าเป็นตัวความหวังของทีมชุดนี้เลยก็ว่าได้หากว่าเขาสามารถรักษาฟอร์มหรือทำได้ดีกว่าเดิม ก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเราอาจไปถึงรอบรองชนะเลิศเลยก็ได้ ” หลินยี่ปินวิเคราะห์อย่างเป็นกลาง
“จริงอยู่ที่ฟ่านหยูเป็นนักยิงธนูที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง แต่เขาค่อนข้างโชคร้ายที่ได้พบกับหานเทียนฟู่จากเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วหวังว่าเขาจะสร้างประวัติศาสตร์ได้ในปีนี้” ฉีหมินกล่าว
“ใช่แล้วเรารอคอยดูว่าช่วงเวลาที่ประวัติศาสตร์ใหม่จะถูกสร้างขึ้นหรือไม่” หลินยี่ปินตอบด้วยรอยยิ้ม
การแข่งขันชิงแชมป์ระดับประเทศเป็นงานใหญ่ที่ต่ำกว่าระดับของการแข่งขันเช่นเอเชียนเกมส์และกีฬาโอลิมปิกเท่านั้น
จึงมีเพียงการแข่งขันประเภททีม 70 เมตรและการแข่งขันประเภทบุคคลเนื่องจากมีนักธนูและทีมจำนวนมากเข้าร่วมการแข่งขัน
ตามกำหนดการสองวันแรกจะเป็นการแข่งแบบทีมวันแรกเป็นรอบคัดเลือก หลังจากรอบคัดเลือกคือรอบน็อคเอาท์ในวันที่สอง
มีสองสนามแข่งสำหรับชายและหญิง หลังจากมาถึงพวกเขาก็แยกย้ายกันที่ทางเข้า
ในแง่ของความแข็งแกร่งในการยิงธนูของจีนทีมหญิงแข็งแกร่งกว่าทีมชายมาก ทีมหญิงได้รับรางวัลเหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและการแข่งขันชิงแชมป์โลกหลายครั้ง
ในทางตรงกันข้ามทีมชายดูค่อนข้างย่ำแย่เพราะพวกไม่ได้รับเหรียญอะไรเลยมานานแล้วจากการแข่งขันระดับโลก
หลังจากเข้ามาในสนามซ่งเฟิงก็ไปดูแลทีมหญิงและฟ่านหยูถูกปล่อยให้เป็นผู้ดูแลทีมชาย
ต่งจี้อยู่ในกลุ่มแรกตามด้วยฟ่านหยู; ถังเอี๋ยนและติงหรานอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
“ยินดีต้อนรับท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ … สู่การแข่งขันยิงธนูแห่งชาติ 2010 นี่เป็นงานยิ่งใหญ่ที่มีประวัติยาวนานที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการยิงธนูระดับประเทศก่อนอื่นให้ฉันแนะนำแขกที่มาร่วมงาน … ฉันจะเริ่มด้วยโค้ชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งที่เคยปรากฏตัว: หัวหน้าโค้ชทีมยิงธนูของจีนเถียนเจิ้นเจ๋อ”
หลังจากการแนะนำครั้งนี้ชายวัยกลางคนอายุสี่สิบเศษซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งกลางสุดในบรรดากรรมการก็ลุกขึ้นยืนและโบกมืออย่างสุภาพ เขาคนนี้แม้จะอายุไม่มาก แต่ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านการยิงธนูเขาได้ฝึกฝนจางเว่ยซึ่งเป็นนักยิงธนูชายเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ต่อจากนี้กรรมการคนอื่น ๆ ได้รับการแนะนำทีละคน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการยิงธนูและหัวหน้าโค้ชของทีมต่างจังหวัด
ถังเอี๋ยนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับหัวหน้าโค้ชของเมืองเซี่ยงไฮ้ชิวอ้านกั๋วและหัวหน้าโค้ชของมณฑลกวางตุ้ง;เล่ยหย่งซิงทั้งสองดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดี
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือในที่นั่งกรรมการมีผู้อาวุโสหลี่นั่งอยู่ด้วย
หลังจากการแนะนำกรรมการแล้วนักธนูกลุ่มแรกก็ถูกเรียกขึ้นมา
“ ต่งจี้แห่งเจ้อเจียง!” เมื่อตงจี้ถูกเรียก ถังเอี๋ยนและติงหรานก็ขยับเปิดทางให้เขา
ต่งจี้พยักหน้าและมองกลับไปที่ฟ่านหยูจากนั้นเดินขึ้นไปที่บูธสำหรับยิง
ฟ่านหยูไม่ได้พูดอะไร เขาเฝ้าดูนักกีฬาของเซี่ยงไฮ้และกวางตุ้งตั้งแต่เขาเข้าสู่สนาม
ในฐานะหนึ่งในสมาชิกทีมหลักต่งจี้เป็นนักยิงธนูที่มีประสบการณ์ ความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจและประสิทธิภาพของเขาทั้งสองมั่นคง เขาทำคะแนนได้ทั้งหมด 640 จากการยิงในรอบแรก
เขาเป็นคนแรกในกลุ่มนักธนูกลุ่มที่1; กล่าวอีกนัยหนึ่งต่งจี้ได้เริ่มต้นคนแรกถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับมณฑลเจ้อเจียง
“เพื่อนเก่าดูเหมือนว่านายตั้งใจจะประสบความสำเร็จในปีนี้” หลังจากกลุ่มแรกเริ่มยิงเสร็จสิ้นจางเฟิงหัวหน้าโค้ชอีกคนก็หันไปหาซ่งเฟิง
“ฮ่า ๆ เหล่าจางหยุดหยุดโยนความกดดันมาที่ฉันสักที ฉันได้ยินมาว่าทีมยิงธนูของนายมีเด็กอายุ 17 ปีที่ยิงได้ 630 คะแนนในปีนี้อนาคตของเขาเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้” ซ่งเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ ฮ่าฮ่า … นี่จะเป็นครั้งแรกของเขาที่เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนี้ดังนั้นจึงยากที่จะบอกว่าเขาจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน แต่ฉันหวังว่าเขาจะสร้างความประทับใจได้ดีเพราะยูธโอลิมปิกกำลังจะมาถึงในไม่ช้า และนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก “จางเฟิงตอบด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองนั่งอยู่ไม่ไกลจากล่ายหย่งซิงและชิวอ้านกั๋วดังนั้นคำพูดของพวกเขาจึงผ่านเข้าหูของทั้งสองเป็นธรรมดา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ล่ายหย่งซิงก็กระแอมไอและจงใจพูดด้วยเสียงดังดัง: “เหล่าชิวฉันได้ยินข่าวลือว่าหานเทียนฟู่ถึงเกณฑ์ 650 แล้วคุณต้องบอกเทคนิคกับผมมาว่าคุณสอนเขายังไง”
“ฮ่า ๆ สาเหตุหลักมาจากการทำงานหนักและความทุ่มเทของเขาผมให้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านั้นน่าเสียดายที่เราไม่ได้รับทรัพยากรมากมายเหมือนบางทีมที่สามารถพักในโรงแรมได้ไม่เช่นนั้นเราสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก น่าเศร้าที่เราพึ่งตัวเองได้เท่านั้น” ชิวอ้านกั๋วกล่าวด้วยอารมณ์
เมื่อได้ยินบทสนทนานี้คิ้วของซ่งเฟิงก็ขมวด ทุกคนเห็นได้ชัดว่าเขากำลังหมายถึงอะไร
การหายใจของเขาเริ่มหนักขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรท้ายที่สุดความจริงก็เป็นอย่างที่พวกเขาพูด เขาทำได้เพียงมองไปที่สนามและถอนหายใจ
นักธนูกลุ่มที่สอง ได้แก่หานเทียนฟู่การยิงของเขาดีกว่าต่งจี้มากโดยทำคะแนนได้ 650 คะแนน
เมื่อหานเทียนฟู่จบรอบชิวอ้านกั๋วมองไปที่ซ่งเฟิงด้วยสายตาเยาะเย้ย เขาได้ตกลงกับล่ายหย่งซิงแล้วว่าเมื่อการชิงแชมป์จบลงพวกเขาจะร่วมกันยื่นเรื่องร้องเรียนต่อมณฑลเจ้อเจียง
ซ่งเฟิงไม่รู้แผนการที่ล่ายหย่งซิงและชิวอังกั๋ววางไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นคะแนนของหานเทียนฟู่ที่ 650 คะแนนหัวใจของเขาก็หนาวเหน็บเล็กน้อยและเขารู้สึกกระวนกระวายในบางครั้งมือของเขาขยับไปมาอย่างอยู่ไม่สุข
เมื่อนักธนูกลุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นในหมู่พวกเขามีนักธนูหนุ่มที่รู้จักกันดีนามว่า หลี่เฮ่า จากซินเจียง แชมป์เมื่อปีที่แล้วชิวเทียน และคนสุดท้ายคือฟ่านหยู กลุ่มนี้มีเต็งแชมป์ถึง 3 คน
การปรากฏตัวของกลุ่มนี้ดึงดูดเสียงเชียร์จากผู้ชมได้ทันที
