63 ป้องหญิงงาม 2
ฉากนี้เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปจนทำให้ผู้คนประหลาดใจไม่น้อย
นักเลงอีกสองคนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าถังเอี๋ยนกลายเป็นปีศาจ
ไม่มีใครเชื่อว่าเด็กอายุไม่ถึง 20 จะเอาชนะนักเลงที่ผ่านการต่อยตีอย่างโชกโชน
ถังเอี๋ยนเองก็ตกตะลึงไม่น้อยหลังจากล้มนักเลงคนหนึ่งไปแล้วเขาก็มองลงไปที่กำปั้นของตัวเองด้วยความประหลาดใจ
นี่คือจุดแข็งของหย่งชุนหรือไม่?
แข็งแกร่งมาก!
หมัด 1 นิ้วเป็นเทคนิคที่มีชื่อเสียงและมีประโยชน์ที่สุดในวิชาหมัดหย่งชุน ต้องใช้ความแข็งแรงของสองเท้าและการควบคุมกล้ามเนื้อที่ไม่ธรรมดา
ข้อดีของเทคนิคนี้คือนักมวยที่มีพละกำลังเพียง 200 กิโลกรัมตามปกติสามารถเพิ่มพลังการชกได้ถึง 250 ถึง 300 กิโลกรัมหลังจากที่เชี่ยวชาญ!
ถังเอี๋ยนยังไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ แต่หลังจากได้รับ 80% ของความสามารถของหลี่กวงกำลังแขนของเขาก็เป็นไปตามความเหมาะสมและสามารถใช้ออกได้อย่างรวดเร็ว
นี่เท่ากับการที่เขาข้ามขั้นตอนการฝึกความแข็งแกร่งล่วงหน้ามาแล้ว และครอบครองพลังของนักมวยชั้นระดับชั้นนำโดยตรง
จากนั้นสถานการณ์ของการต่อสู้ก็เปลี่ยนไป
ลู่หยุนเป็นเพียงนักมวยที่อายุยังน้อย เขาไม่มีประสบการณ์ในการทะเลาะวิวาทบนท้องถนนมากนัก ในตอนแรกเขาบุกเข้าไปอย่างดุดัน แต่หลังจากความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาลดลงเขาก็ได้แต่ปกป้องตัวเองเท่านั้น
หัวหน้านักเลงกลุ่มนี้มีสภาพที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเหลือบมองไปด้านข้างแล้วเห็นลูกน้องของตัวเองนอนอยู่เขาก็ตะโกนอย่างโมโหออกมา: “พวกแกทำบ้าอะไรอยู่ ปัญญาอ่อนกันหมดไปแล้วหรือไง รีบจับตัวผู้หญิงคนนั้นแล้วไปกันเถอะ!”
เสียงตะโกนเหมือนแส้หวดใส่นักเลงคนอื่นๆ พวกเขาดึงเพื่อนที่ล้มอยู่กับพื้นขึ้นมาแล้วรีบวิ่งเข้าหาถังเอี๋ยน
การที่นักเลงคนหนึ่งล้มลงทำให้พวกเขาตกใจอยู่พอสมควร แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขารู้ว่า การจัดการถังเอี๋ยนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะใช้พวกมากเข้ารุม
แม้ว่าถังเอี๋ยนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยากที่จะสู้กับคนสามคนได้
ถังเอี๋ยนเห็นอันธพาลวิ่งเข้ามาพร้อมกัน แน่นอนว่าเขาไม่โง่พอที่จะอยู่เฉยๆกับที่ เขาเปลี่ยนจากการป้องกันเป็นการโจมตีและพุ่งเข้าหาอันธพาลที่อยู่ใกล้ที่สุด
ปฏิกิริยานี้ผิดจากความคิดของนักเลงคนนั้นโดยสิ้นเชิง เขาเห็นถังเอี๋ยนวิ่งเข้ามาเขาจึงเหวี่ยงหมัดขวาหนักๆสวนทางเข้าไป
จุดประสงค์ของเขาชัดเจนมากนั่นคือการเอาชนะถังเอี๋ยนด้วยความแข็งแกร่งล้วนๆ
เหตุผลที่บอกว่าเจี๋ยฉวนเต้าของบรูซลีมาจากวิชาหมัดหย่งชุน ก็เพราะว่าวิชาหมัดหย่งชุนนั้นใกล้เคียงกับมวยสมัยใหม่หรือศิลปะการต่อสู้สมัยใหม่มากที่สุด นอกจากหมัด 1 นิ้วแล้วคุณสมบัติที่มองเห็นได้ง่ายที่สุด 2 อย่างของหมัดหย่งชุน คือการเคลื่อนไหวของแขนที่รวดเร็วและแม่นยำและขาที่แข็งแรง
ถังเอี๋ยนหลบไปด้านข้างและออกหมัดตอบโต้อย่างรวดเร็ว
“ ตูม!”
หมัดของถังเอี๋ยนแข็งแกร่งกว่าลู่หยุนมาก ทำให้คู่ต่อสู้แกว่งไปมาอย่างงุนงง.
เมื่อนักเลงคนนั้นเปิดช่องให้ ถังเอี๋ยนก็ไม่พลาดโอกาสดังกล่าว เขารีบเหวี่ยงอัพเปอร์คัทอย่างรุนแรง
“ปลั๊ก!”
หมัดที่รวดเร็วของถังเอี๋ยนพุ่งเข้าใส่กรามล่างของคู่ต่อสู้
ขากรรไกรล่างเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดในร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ ถังเอี๋ยนยังใช้พละกำลังทั้งหมด ดวงตาของนักเลงคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีขาวจากนั้นร่างเขาโอนเอนก่อนจะล้มลง
เพื่อนของเขาอีกสองคนตกใจอย่างมากเมื่อเห็นฉากนี้ แต่ถังเอี๋ยนไม่ได้ให้เวลาพวกเขาตอบโต้ เท้าขวาของเขาก็ก้าวไปทางซ้ายในแนวทแยงและกระโจนไปข้างหน้าเพื่อจัดการนักเลงอีกคน
อีกคนที่เหลือเมื่อเห็นสหายของเขาล้มลงอย่างรวดเร็ว เขาก็ตั้งกาดสูงเพื่อปกป้องตัวเองด้วยสัญชาตญาณ
ถังเอี๋ยนเห็นการเคลื่อนไหวของเขาจึงไม่รอช้ารีบพุ่งเข้าหานักเลงคนนั้นด้วยความเร็ว
หมัดแรก
สองหมัด
สามหมัด
…
ถังเอี๋ยนใช้นักเลงคนนั้นเหมือนกระสอบทรายโดยโจมตีออกไป ครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากหมัดที่หกถูกปล่อยออกไปมือของถังเอี๋ยนก็ชาไปหมด
ถังเอี๋ยนตามด้วยตวัดเท้าขวาไปที่ใบหน้าของนักเลงคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม
นักเลงคนนั้นมีความรู้สึกเหมือนถูกรถไฟชนอย่างแรง ดวงตาเขาล่องลอยและล้มฟุบไปกับพื้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปเพียงไม่กี่วินาทีถังเอี๋ยนส่งนักเลงสองคนนอนลงไปกับพื้น
นักเลงคนสุดท้ายเห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวอย่างมาก
แม้ว่าถังเอี๋ยนจะดูตัวเล็ก แต่เขาก็มีแรงกดดันมหาศาลแผ่ออกมา
เขาเอื้อมมือไปดึงมีดที่เอวออกมาโดยสัญชาตญาณ
แต่ถังเอี๋ยนไม่ให้โอกาสเขา ถังเอี๋ยนพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนกับกระสุน เมื่อเข้าใกล้นักเลงคนสุดท้ายเขาก็เตะไปที่กกหูของศัตรูด้วยแรงทั้งหมด
นักเรียนคนสุดท้ายมีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ เขานอนอยู่ที่พื้นอย่างไม่ได้สติ
เก็บกวาดสะอาดเรียบร้อย
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกตกใจอย่างมาก เธอเฝ้าดูถังเอี๋ยนจัดการศัตรูทั้งหมดด้วยความหวาดกลัว
เธอมองถังเอี๋ยนเหมือนว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด
ไม่อยากจะเชื่อว่าพลังอันแข็งแกร่งดังกล่าว จะมาจากร่างกายที่ผอมบางของถังเอี๋ยนได้อย่างไร
“วิ่ง!” ถังเอี๋ยนเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ด้วยความงุนงง เขาก็ตะโกนใส่เธอจากนั้นก็วิ่งไปทางลู่หยุน
ลู่หยุนถูกหัวหน้าแก๊งจัดการอย่างสมบูรณ์ ในเวลานี้และดูเหมือนว่าเขาอาจจะจบชีวิตลงได้ทุกเมื่อ การต่อสู้ในครั้งนี้แตกต่างจากการต่อสู้ตามปกติของเขา มันไม่มีกฎสำหรับการทะเลาะวิวาทบนท้องถนน หัวหน้าทีมลักพาตัวมุ่งทำร้ายจุดอ่อนของเขาอย่างรุนแรงทั้งขว้างหมัดใส่คอและชกเข้าที่ลิ้นปี่ เมื่อลู่หยุนล้มลงเขาก็รีบตามซ้ำหมายจะให้ลู่หยุนไม่ตายก็พิการ
เมื่อหัวหน้าแก๊งสังเกตเห็นถังเอี๋ยนวิ่งเข้ามาและคนของเขาทุกคนก็นอนโอดครวญอยู่บนพื้น
ใบหน้าของเขาแสดงความตกใจเป็นครั้งแรก จากนั้นเขายิ่งเต็มไปด้วยความโกรธมากกว่าเดิม
เขาเหวี่ยงหมัดใส่ลู่หยุนเป็นชุดและเตะซ้ำเข้าไปอีกที ลู่หยุนกลิ้งไปบนพื้นหลายรอบ เขาได้รับอาการบาดเจ็บรุนแรงมาก
หลังจากที่เขาตีลู่หยุนจนหนำใจ เขาก็ดึงมีดสั้นออกมาจากเอว จากนั้นจึงเดินเข้าหาถังเอี๋ยนด้วยท่าทางดุดัน
“ระวัง! มีด!” ลู่หยุนเห็นฉากนี้เขาตะโกนออกมา เขาอยากจะลุกขึ้น แต่ไม่สามารถทำได้อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป
ผู้หญิงคนนั้นก็กรีดร้องจากนั้นก็วิ่งถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
ตอนแรกหัวหน้าแก๊งลังเลที่จะสั่งให้ชักมีดเพราะกลัวเรื่องจะบานปลาย หากมีใครตายที่นี่จะต้องใช้เวลานานในการทำลายหลักฐาน แต่ตอนนี้ความยับยั้งชั่งใจของเขาหมดไปแล้ว
ไม่นานทั้งสองก็มาเผชิญหน้ากัน
หัวหน้าแก๊งไม่ลังเลและแทงมีดในมือไปที่หน้าอกของถังเอี๋ยนโดยตรง
ถังเอี๋ยนระวังตัวอยู่แล้ว เขารีบหลบไปทางขวาทันทีพร้อมกับตวัดเท้าขวาเตะเข้าที่หลังมือหัวหน้าแก๊งคนนั้น
การกระทำของเขาลื่นไหลและรวดเร็ว ทั้งหมดเกิดขึ้นในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว หัวหน้าแก๊งรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่แขน มือที่จับมีดอยู่ในตอนแรกต้องคลายออกเพราะความเจ็บปวด
ถังเอี๋ยนไม่รอช้า เท้าซ้ายเขาเตะซ้ำเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่าย
แต่หัวหน้าแก๊งมีความอดทนมากกว่าคนอื่นๆ เขากล้ำกลืนความเจ็บปวดบนใบหน้าและรีบเหวี่ยงหมัดขวาเอาใส่ถังเอี๋ยนเป็นการตอบโต้
ถังเอี๋ยนหลบไปอีกทาง จากนั้นกระโดดสลับเท้าเตะเข้าที่ปลายคางของศัตรู
ในขณะที่หัวหน้าแก๊งกำลังเจ็บปวดและมึนงง ถังเอี๋ยนไม่แสดงความเมตตาใดๆ เขาตามเตะซ้ำเข้าไปอีก 2 เท้า
“ ตูม!”
หัวหน้าอันธพาลกลิ้งไปที่พื้น 2 รอบจากนั้นจึงแน่นิ่งไป
เมื่อคืนไฟกระชาก คอมพิวเตอร์ผมพังเพิ่งซื้อใหม่เมื่อตอนหัวค่ำนี่เอง เดี๋ยวพรุ่งนี้ลงเพิ่มให้อีกหลายตอนเลยครับ