93 โซ่ลูกศร
ความเร็วในการยิงของถังเอี๋ยน ได้แสดงให้เห็นแล้วในรอบคัดเลือก
แต่ในการแข่งขันประเภททีม เพื่อไม่ให้เกิดแรงกดดันต่อเพื่อนร่วมทีมเขาจึงไม่ทำมันอีก
แต่ในความเป็นจริงแม้จะผ่านการคัดเลือกเขาก็ไม่ได้แสดงความเร็วเต็มที่ ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้แต่เขาไม่ต้องการ เพราะถ้าแสดงความเร็วสุดขีดแบบนั้นมันอาจทำให้เขาเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของอังฮันเต็งนั้นเหนือความคาดหมายของเขาและทุกครั้งที่เขายิงได้ 10 คะแนนก็จะมีสายตาท้าทายส่งมาโดยตลอด
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกถึงความเกลียดชังที่ชายคนนี้มีต่อเขา
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ
เขาปรับน้ำหนักบนคันธนูซ้ำโดยตรงจาก 50 ถึงสูงสุดที่ 100 ปอนด์
“นักธนูจีนคนต่อไปโปรดออกมา!”
ผู้ตัดสินส่งสัญญาณให้เขาขึ้นไป
ถังเอี๋ยนเดินไปประจำจุดยิง
ไม่เหมือนกับรอบที่แล้วมันมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในดวงตาของเขา
อารมณ์แบบนี้ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ผู้ชมรอบข้างรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนจ้องไปที่ถังเอี๋ยนด้วยความกลัวว่าจะพลาดอะไรบางอย่าง
ภายใต้สายตาของผู้ชม ถังเอี๋ยนเดินไปประจำจุดของเขา
เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะยิง แต่เขาเริ่มขยับมือขวาของเขาไปมาแสร้งทำเป็นว่าจับลูกศรตะปบและยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ผู้ชายคนนี้กำลังทำอะไร” เมื่อมองเห็นการกระทำของถังเอี๋ยน, อังฮันเต็งเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
ความสงสัยยังปรากฏในใจของผู้ชม
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ถังเอี๋ยนก็หยุดและวางมือลงบนลูกศรในซอง
เมื่อเห็นว่าถังเอี๋ยนกำลังจะเริ่ม ผู้ชมในสนามก็หยุดพูดกันทันทีและหันกลับไปมองอย่างตั้งใจ
ถังเอี๋ยนขยับตัวเขาดึงลูกศรออกจากซองและพาดสายอย่างรวดเร็วจากนั้น …
ควับ!
เขาเคลื่อนไหวเร็วเกินไปผู้ชมแทบไม่สามารถตอบสนองตามทันได้
ถังเอี๋ยนยกเลิกการเคลื่อนไหวทางเทคนิคโดยตรง
ถังเอี๋ยนไม่หยุดหลังจากยิงลูกศรลูกแรกเขาดึงลูกศรอีกลูกออกจากซองอย่างรวดเร็ว มันเป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องลื่นไหลอย่างถึงที่สุด เมื่อมือขวาของเขาปล่อยออก เมื่อลูกศรแรกถูกยิงออกไปเขาก็ขยับตรงไปหาลูกศรที่สองทันที
ตอนนี้ผู้คนตระหนักแล้วว่าทำไมถังเอี๋ยนถึงขยับมือขวาไปมาด้วยลักษณะที่แปลกประหลาดเมื่อครู่นี้ ก็เพื่อที่จะฝึกฝนการใช้ลูกศรลูกที่สองในเวลาที่เร็วที่สุด
แต่เมื่อทราบถึงเรื่องนี้ก็มีคำถามอื่นปรากฏขึ้น
ทำไมต้องรีบร้อน?
มีเวลา 4 นาทีในแต่ละรอบให้กับนักธนู ทำไมถึงไม่ใช้เวลาให้คุ้มค่า
ฟิ้วว!
ลูกศรลูกที่สองพุ่งออกจากสายธนู
ว้าว!
ตามที่คาดไว้เส้นทางลูกศรพุ่งออกไปตรงๆด้วยความเร็วอันมหาศาล
ท่ามกลางการแสดงออกที่สับสนของผู้ชม ลูกศรทั้งสองปรากฏขึ้นในอากาศ ลูกศรลูกแรกอยู่ด้านหน้าโดยมีลูกศรลูกที่สองตามหลัง
ลูกหนึ่งอยู่บนวิถีพาราโบลาส่วนอีกลูกหนึ่งอยู่บนเส้นทางเกือบตรง
ระยะห่างระหว่างลูกศรทั้งสองปิดลงเรื่อยๆ มันแทบจะตกลงที่เป้ายิงในเวลาพร้อมกัน
“นั่น … ” เมื่อลูกศรทั้งสองเข้าใกล้กันมากขึ้นอังฮันเต็งก็ตระหนักว่าถังเอี๋ยนพยายามทำอะไรใบหน้าของเขาซีดเผือดในทันที
ชลัค!
บูม !!
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของผู้ชมลูกศรลูกที่สองพุ่งเข้าใส่ลูกศรแรกก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เป้ายิง ลูกศรลูกแรกถูกลูกศรลูกที่สองแทงเข้าไปโดยตรงก่อนที่จะพุ่งปักกลางเป้ายิง
โรบินฮู้ดสไตล์!
ในสมัยโบราณการยิงธนูส่วนใหญ่จะใช้ในการสงครามการยิงธนูแบบนี้เรียกว่าการยิงธนูแบบแมนจู
ชาวแมนจูขึ้นชื่อเรื่องการยิงธนูอยู่แล้ว
สิ่งที่ถังเอี๋ยนเพิ่งแสดงให้เห็นคือเทคนิคระดับสูงของแมนจู
การปรับความเร็วและมุมของลูกศรเพื่อให้ลูกศรแรกอยู่บนวิภีพาราโบลาความเร็วต่ำ และลูกศรที่สองอยู่บนเส้นทางตรงความเร็วสูง ถ้าทำได้ดีพอลูกศรลูกที่สองจะพุ่งเข้าชนลูกศรแรก จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็พุ่งเข้าสู่เป้าหมาย
นี่เป็นศิลปะการยิงธนูขั้นสูง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของแมนจูใช้ออกมาเพื่อแสดงอำนาจและศักดิ์ศรีให้แก่ตนเอง
โดยปกติแล้วหลี่กวงก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
เนื่องจากถังเอี๋ยนมีพลังถึง 80% ของหลี่กวง เขาจึงสามารถทำได้อย่างง่ายดาย อันที่จริงตอนแรกเขาเตรียมสิ่งนี้ไว้สำหรับทีมเกาหลี แต่ตอนนี้เขาต้องใช้มันออกมาล่วงหน้า
และเนื่องจากลูกศรในยุคปัจจุบันทำจากคาร์บอนเมื่อลูกศรลูกที่สองเจาะลูกแรกจึงเกิดเสียงดังเหมือนเสียงกระสุนปืนทำให้เกิดความน่าตกใจมากยิ่งขึ้น
เป็นการเล่นที่สวยงามจริงๆ
ไม่มีเสียงใดๆในสนามเป็นเวลานานแม้แต่ผู้ตัดสินก็ลืมที่จะไปยืนยันจำนวนคะแนนของเขา
คนแรกที่ขยับตัวก็คือถังเอี๋ยน
เขาพาดคันธนูไว้บนไหล่แล้วเดินออกไปพักผ่อนอย่างใจเย็น
เมื่อเขามาถึงพื้นที่พัก ในที่สุดผู้ตัดสินรีบวิ่งเข้าไปดูคะแนนแล้วตะโกนออกมา
10 แต้ม!
10 แต้มทั้งสองครั้ง!
หลังจากกรรมการประกาศผลในสนามก็ตามมาด้วยเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง
ผู้ชมต่างลุกขึ้นกรีดร้องอย่างดุเดือดอย่างที่ไม่เคยปรากฏในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้มาก่อน