บทที่ 3 – นรก
ตื่นนอนตอน 7 โมงเช้าออกจากบ้านตอน 8 โมงไปโรงเรียน เข้าห้องเรียน และตั้งใจเรียนโดยที่ไม่หลับ หรือ คุย หลังจากนั้นก็ไปที่ห้องชมรมหลังเลิกเรียนแล้วเวลา 19.00 น. เพื่อกลับบ้านและเข้านอน
ชีวิตในโรงเรียนธรรมดาๆ เช่นนี้ คือสิ่งที่ผมคุโรโนะ มาโอ ต้องการ หรือพยายามที่จะเป็นในวันหนึ่ง แต่แล้วผมรู้สึกมีอาการปวดหัว ขณะที่อยู่ในห้องชมรม และสลบไป เมื่อผมตื่นขึ้นมาผมอยู่ในห้องแปลกๆ
ที่นั่น… มีวงแหวนที่น่ากลัวซึ่งมีเข็มยื่นออกมาติดอยู่ที่หัวของผม หลังจากนั้น… ผมก็เริ่มใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในนรก
ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วจากวันที่ผมตื่นขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ อย่างน้อยผมก็คิดว่ายังไม่ถึงเดือน แต่ไม่สามารถบอกจำนวนวันที่แน่นอนได้
ถึงอย่างนั้นก็มีบางสิ่งที่ผมจะต้องรู้ ก็คือมีกลุ่มคนที่ทำการทดลองกับมนุษย์ โดยผู้ที่เป็นหัวหน้ามีสัญลักษณ์ไม้กางเขน
วงแหวนสีขาวที่ยังคงติดคาอยู่ที่สมองของผม การกระทำของผมถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์ ด้วยการคิดของคนที่แต่งตัวประหลาดเพียงอย่างเดียว หรือคนที่สวมหน้ากาก สามารถให้ความเจ็บปวดแก่ผมมากพอที่จะทำให้ผมปรารถนาการตายของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังสามารถทำให้ร่างกายของผมเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผมทำอะไรไม่ได้ การควบคุมจิตใจของผมจากภายนอกพวกเขาควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่พวกเขาทำให้ผมเป็นนักโทษโดยที่ไม่ต้องใช้กุญแจมือ แม้ในระหว่างการทดลอง จะเจ็บปวดก็ไม่จำเป็นต้องพักร่างกายของผมไว้ อีกทั้งยังสามารถต้านทานความเจ็บปวดได้อีกด้วย ในส่วนของการทดลองที่ทำกับผมมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่นการทดสอบผลข้างเคียงของยาตัวใหม่
ตั้งแต่บนศีรษะจนถึงปลายเท้า ร่างกายของผมถูกปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมดโดยพวกเขา สิ่งที่คล้ายกับองค์กรลับที่ชั่วร้ายกำลังถูกทำขึ้นที่นี่ และเหนือสิ่งอื่นใดปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือการทดลองปรับโครงสร้างเหล่านี้ไม่ได้ทำผ่านเทคโนโลยีชั้นสูง
แต่ใช้ [เวทย์มนต์] แทน
การทดลองครั้งแรกที่ทำกับผมรวมถึงการทำให้ร่างกายของผมปรับเข้ากับพลังเวทย์ภายในร่างกาย
เรียกได้ว่าดึงออกมาจะดีกว่าไหม ผมไม่รู้รายละเอียด แต่ด้วยเหตุนี้ภายในตัวผม ผมสามารถรับรู้พลังที่แตกต่างออกไป เพียงแค่นั้นมันอาจฟังดูดีที่ได้ปลุกพลังใหม่ในตัวของผม แต่การทดลองนั้นเจ็บปวดสุดจะทานทนจากการทดลองทั้งหมดที่ทำกับผม
ราวกับว่าเหล็กที่หลอมละลายได้ถูกทำให้ไหลเข้าไปในเส้นเลือดของผมยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากวงแหวนที่สวมอยู่ สติของผมยังคงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและไม่ยอมให้สลบ
ตอนนี้ผมคิดได้แล้วมันยอดเยี่ยมมากที่ผมไม่ได้ตายจากความเจ็บปวด แม้หลังจากการทดลองแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าความรู้สึกร้อนที่เหลืออยู่ภายในร่างกายของผมจะลดลง จากประสบการณ์นี้ผมจึงสามารถเข้าใจญาณสัมผัสที่เรียกว่า [เวทมนตร์] ซึ่งเกิดจากพลังเวทย์มนตร์ แต่การเข้าใจและการใช้งานได้จริงนั้น เป็นสิ่งที่แตกต่าง ผมสามารถใช้เวทมนตร์ประเภทใดได้นั้นยังไม่ทราบเนื่องจากผมไม่ได้ลองใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่เนื่องจากวงแหวนควบคุมบนหัวของผมทำจากอนูเวทย์มนตร์ซึ่งลอยในอากาศ ผมมั่นใจว่าผมน่าจะป้องกันผลของมันด้วยเวทมนตร์ได้เช่นกัน
ดังนั้นตอนนี้ผมสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างชัดเจนจากการผ่านการทดลองอื่น ๆ อีกมากมาย หลังจากนั้น ความหมายหรือผลลัพธ์แบบใดในแต่ละการทดลอง ผมไม่มีทางรู้เลย
ของเหลวต่างๆที่มีสีฉูดฉาดถูกฉีดเข้ามาภายในตัวผมหลายครั้ง ครั้งหนึ่งหัวของผมจมอยู่ในของเหลวขุ่น ๆ ซึ่งเหม็นรุนแรงกว่าท่อน้ำเสียอีก แม้ว่าผมจะไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว แต่พวกมันยังฝังชิ้นส่วนโลหะและอัญมณีต่างๆไว้ในร่างกายของผมด้วย
จากนั้นด้วยการทดลองทุกครั้งความเจ็บปวดที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงติดต่อกันเช่นปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ไข้สูง จากนั้นเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ สูญเสียประสาทสัมผัส สายตามองเห็นภาพหลอน อัมพาตทั้งตัว เนื้อหลุดร่อน หยุดหายใจ และอาการร้ายแรงอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้การฟื้นฟูร่างกายของผมเริ่มปรากฏขึ้นชัดเจน
แต่ไม่ว่าอาการร้ายแรงจะปรากฏขึ้นเพียงใดในตอนท้ายผมก็สามารถฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงได้เสมอ
ระหว่างวัฏจักรแห่งการทำลายล้างและการฟื้นฟูร่างกายของผมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ผมเริ่มเห็นภาพหลอน บางทีผมอาจจะตายไปแล้วหลายครั้งและกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ไม่น่าแปลกใจเลย ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ท้ายที่สุดแล้วก็มีบางอย่างที่เหมือนเวทมนตร์
ทำให้ร่างกายของผมได้รับการปรับโครงสร้างระหว่างการทดลองเหล่านี้ โดยที่ผมแทบไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่มองเห็นได้เพียงอย่างเดียวสำหรับผมคือ ผมรู้สึกได้ถึงพลังเวทมนต์ และคำพูดที่พูดโดยชายสวมหน้ากากเริ่มฟังดูเหมือนภาษาญี่ปุ่นสำหรับผม
นั่นล่ะความจริงที่ว่าเวลาที่ความประหม่าของผมชัดเจนนั้นค่อยๆสั้นลงและสั้นลง ไม่ใช่เพราะเวลานอนของผมมีมากขึ้น นี่เป็นเวลาที่ผมอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น และร่างกายของผมเริ่มเคลื่อนไหวเอง
ชั่วโมงการนอนของผมในหนึ่งวันมีไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ในตอนแรกผมรู้สึกไม่มั่นใจว่าผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าหรือตอนกลางคืน
หลังจากนั้นมาผมก็ไม่ได้เห็นอะไรเลยนอกจากกำแพงสีขาว บางทีในโลกนี้ดวงอาทิตย์ และท้องฟ้าสีคราม โลกที่เขียวชอุ่มก็ไม่มีอยู่จริง
ในที่สุดผมก็ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่โลกที่ผมเคยอยู่มาก่อน แต่เป็น [โลกที่แตกต่าง] ที่ปกครองโดยแนวคิดที่เรียกว่าเวทมนตร์
กี่ครั้งแล้วที่ผมตกอยู่ในความสิ้นหวัง?
ผมจำได้แค่ใบหน้าของครอบครัวและเพื่อนที่โรงเรียนเท่านั้น
ถึงกระนั้นภายในห้องขังที่ว่างเปล่าของผมตราบใดที่ผมยังคงจดจำสมัยเรียนอันแสนสงบสุขในอดีตอันไกล
โพ้นผมจะฟื้นด้วยสติของผมต่อไป
วันนี้สภาพของผมค่อนข้างดี
ทั้งศีรษะและร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของผมอย่างชัดเจน
…ผมอยากกลับไป….ผมอยากกลับบ้าน ——–
“ หมายเลข 49 ออกมา”
เมื่อเปิดประตูชายสวมหน้ากากก็เรียกผม
หมายเลข 49. นั่นคือชื่อของผมที่นี่ นั่นหมายความว่าอย่างไร? ผมไม่มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ เร็วเข้า”
ยืน —– มา —– เดิน—–
ก่อนที่อาการปวดหัวจะแย่ลง รีบลุกขึ้นยืนอีกครั้งผมเดินต่อไปในอุโมงค์มืด