Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี – ภาคแยก | บทที่ 15 ข้าปรารถนาจะอยู่เคียงข้างท่านชั่วนิรันดร์

“แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นครับ นิล”

รอธซีพูดอย่างอ่อนโยนเพื่อให้เปโตรนิยาสบายใจ นางเชื่อใจเขาจึงทำตามอย่างว่าง่าย รอธซีสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มเตรียมการขั้นสุดท้าย เขานำเทียนที่ซ่อนไว้ด้านหลังมาเรียงเป็นรูปหัวใจ ก่อนจะหยิบช่อดอกกุหลาบหนึ่งร้อยดอกมาถือไว้ ดูแล้วก็เป็นแค่การขอแต่งงานแบบดั้งเดิมและล้าสมัย แต่รอธซีคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่เขาสามารถแสดงความรู้สึกทั้งหมดในหัวใจได้ดีที่สุดแล้ว เขาจ้องมองเปโตรนิยาด้วยสีหน้าประหม่า

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงความรู้สึกของตนออกไปให้ชัดเจน ว่าเขารักนางหมดหัวใจและอยากจะอยู่กับนางไปชั่วชีวิต เขามั่นใจว่าเขาจะรักและปกป้องนางไปตลอดชีวิต รอธซียังคงจ้องมองเปโตรนิยาด้วยสีหน้าประหม่า แต่ดูเหมือนเปโตรนิยาจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคอยแล้วจึงเป็นฝ่ายเปิดปากถามออกมาก่อน

“โร ข้าลืมตาได้หรือยังคะ”

“อ๊ะ เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนครับ!”

เขายังเตรียมใจไม่พร้อมเลย!

รอธซีผ่อนคลายใบหน้าที่ร้อนผ่าวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกเปโตรนิยาด้วยน้ำเสียงที่ติดจะสั่นเล็กน้อย

“นิล ลืมตาได้แล้วครับ”

เปโตรนิยาได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ รอธซีเห็นดังนั้นก็หน้าแดงและเบือนหน้าหนีไปด้านข้าง

“รู้สึกเขินๆ เหมือนกันนะครับ”

“นี่มัน…”

“ข้าอยากทำอะไรที่โรแมนติกในตอนกลางวันอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าตอนกลางวันคงทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะแค่คิดว่าต้องมองตานิลแล้วเอ่ยคำว่ารักก็ไม่รู้ว่าหัวใจข้าจะเต้นรัวจนระเบิดออกมาหรือไม่”

เขาต้องสารภาพรักตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะหัวใจของรอธซีอ่อนแอเกินกว่าจะมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ พร้อมกับสารภาพรักตอนกลางวันแสกๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความเขาไม่รักอีกฝ่ายมากพอ อย่างไรก็ดี ดูเหมือนหัวใจของเปโตรนิยาจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง นางเรียกเขาด้วยน้ำเสียงตื้นตัน

“เอ่อ โร…”

อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็ยังดูราบรื่นดี ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งก่อนจะเรียกคนตรงหน้า

“เลดี้เปโตรนิยา”

นานแล้วที่เขาไม่ได้เรียกนางด้วยชื่อเต็ม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานางก็คือ ‘นิล’ ผู้แสนน่ารักของเขา เปโตรนิยาพยักหน้าและก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว รอธซีพยายามเผยความรู้สึกในใจอย่างสุขุม แม้จะยังไม่สามารถระงับอาการตื่นเต้นได้ แม้เขาจะฝึกซ้อมมาหลายครั้ง แต่เมื่อมีอีกฝ่ายมาอยู่ตรงหน้าย่อมต่างกันราวฟ้ากับเหว

รอธซีบอกความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา “ตระกูลของข้าอาจไม่สูงส่งเท่าตระกูลของท่าน และตัวข้าเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่มากความสามารถหรือดีพร้อมอันใด”

นี่คือเรื่องที่ติดอยู่ในใจของเขาเสมอมา เขาเป็นบุตรของเคานต์แต่นางเป็นบุตรีของมาร์ควิส เปโตรนิยาเป็นคนจิตใจดี นางอาจไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นมากนัก แต่ฝ่ายที่มีศักดิ์ต่ำกว่าย่อมเป็นฝ่ายที่คิดมากกว่าอยู่แล้ว นางเป็นคนมีเสน่ห์เหลือล้นและน่ารักมาก นางดีพอที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับผู้ชายคนอื่นที่ดีพร้อมกว่าเขา

“ถึงกระนั้น ข้าก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้เลดี้มีความสุข ข้าอยากเป็นผู้ชายที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่าน ปลอบโยนท่านในยามทุกข์ ยินดีกับท่านในยามสุข และอยู่เคียงข้างท่านไปชั่วนิรันดร์”

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอยากไล่ตามหัวใจของตนอย่างเห็นแก่ตัว เพียงนึกภาพนางไปรักผู้ชายคนอื่น พูดคุยกับผู้ชายคนอื่น และหัวเราะกับผู้ชายคนอื่น ใจเขาก็อึดอัดและโศกเศร้าเหลือแสนแล้ว เขาอยากทำให้นางกลายเป็นของเขา อยากจะป่าวประกาศให้โลกนี้รับรู้ว่าไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร นางก็เป็นผู้หญิงของเขา

นี่คือความโลภของเขาใช่หรือไม่ แต่อย่างไรเขาก็ไม่สน เขาไม่อยากคิดถึงโลกเดิมที่ไม่มีนาง เพราะโลกหลังจากนี้ที่มีนางอยู่คือสรวงสวรรค์อันสมบูรณ์แบบสำหรับเขา

รอธซีไม่มั่นใจว่าเขาจะทำให้เปโตรนิยาสุขสบายได้อย่างแพทริเซีย น้องสาวของนางหรือไม่ เพราะต่อให้เขาพยายามมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถดูแลนางได้ทัดเทียมกับสตรีในราชวงศ์

แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเขาสามารถทำให้นางเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกได้ เขาอยากเช็ดน้ำตาให้นางในวันที่นางโศกเศร้า อยากหัวเราะไปกับนางในวันที่นางมีความสุข อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกับนางทุกเวลา มิให้ขาดไปแม้เสี้ยววินาที

“ท่านจะ…แต่งงานกับข้าได้หรือไม่”

รอธซีหยิบแหวนออกมาจากระเป๋าในเสื้อสูทและวางไว้บนช่อดอกกุหลาบก่อนจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เสียงของเขาไม่สั่นแล้วแต่หัวใจของเขายังคงเต้นรัวไม่หยุดด้วยกลัวว่าจะถูกปฏิเสธ กลัวนางจะพูดว่าอยากใช้ชีวิตร่วมกับบุรุษอื่น เขาช้อนตามองหญิงสาวด้วยสายตาเว้าวอน

“ได้สิคะ”

นางตอบกลับในทันที นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง รอธซียิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เปโตรนิยามองเขาแล้วก้าวเร็วๆ เข้ามารับช่อดอกกุหลาบ ก่อนจะรีบสวมแหวนที่วางอยู่บนนั้นลงบนนิ้วนางข้างซ้ายและสวมกอดเขาด้วยสีหน้าปลื้มปิติ นางเอ่ยข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม

“การได้พบกับท่านเป็นเรื่องที่โชคดีและมีค่าที่สุดในชีวิตของข้า ไม่มีเรื่องใดเทียบเทียม”

โอ้…พระเจ้า รอธซีขอสาบานเลยว่าวินาทีนี้เป็นช่วงเวลาที่เขามมีความสุขที่สุดในชีวิต ดวงตาของเขาถูกบดบังด้วยม่านน้ำตา รอธซีตอบคนรักด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ขอบคุณที่ให้เกียรติผู้ชายอย่างข้าถึงเพียงนี้ครับ นิล”

“ท่านไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวและดูถูกตัวเองค่ะ ในจักรวรรดินี้ ไม่สิ ในโลกใบนี้ ท่านเป็นคนที่วิเศษที่สุดแล้ว ข้ารักท่านค่ะ โร ขอบคุณมากนะคะที่ขอข้าแต่งงาน” เปโตรนิยาร้องร่ำไห้สารภาพรัก

“ข้าสิต้องขอบคุณที่ท่านรับคำขอของข้า และข้ารักท่านมากกว่านะครับ นิล” รอธซีบอกรักกลับด้วยสีหน้าที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา

รอธซีสารภาพรักด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นราวกับว่าเรื่องนี้เท่านั้นที่เขายอมไม่ได้และมองเปโตรนิยาอย่างอ่อนโยน ฝ่ายเปโตรนิยาถูกมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งก็รู้สึกดีพลอยหัวเราะเสียงดังออกมาและเป็นฝ่ายมอบจุมพิตให้รอธซีก่อน

แน่นอนว่ารอธซีไม่หลบเลี่ยง เขารับจุมพิตด้วยความเต็มใจและมอบจูบที่เร่าร้อนให้กับนาง

เขาได้ยินเสียงระฆังและเสียงนกพิราบบิน ตอนนี้ เวลานี้ เขามั่นใจว่าตนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

ข่าวการขอแต่งงานของรอธซีเป็นที่โจษจันในหมู่ชนชั้นสูง ร่วมถึงข่าวที่คนทั้งคู่จะใช้ชีวิตร่วมกันที่คฤหาสน์มาร์ควิสโกรเชสเตอร์ด้วยเช่นกัน

“เมื่อพวกเราแต่งงานกันแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ก็จะเหลือกันแค่สองคน จะไม่เป็นไรจริงๆ หรือคะ”

วันหนึ่งที่แสงแดดสดใส เปโตรนิยากับรอธซีอยู่ด้วยกันที่ระเบียงของคฤหาสน์เคานต์ ครั้นได้ยินเปโตรนิยาเอ่ยถามดังนั้น รอธซีก็ตอบราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่

“พวกท่านออกปากเองเลยนะครับว่าในเมื่อขอแต่งงานสำเร็จแล้วก็ออกไปอยู่ด้วยกันเสีย คนรักกันมากก็แบบนี้แหละครับ ถ้าอายุน้อยกว่านี้สักหน่อยคงมีลูกหลงไปแล้ว”

“ตายจริง”

เปโตรนิยาหัวเราะคิกคัก ความรักใคร่กลมเกลียวของสามีภรรยาเบรดิงตันมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงมานานแล้วจริงๆ

“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…ไม่เป็นไรแน่นะคะ”

“ข้าไม่ติดอะไรครับ นิลไม่ชอบหรือ”

“ข้าอยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ เพราะตอนนี้ท่านพ่อท่านแม่ของโรก็เป็นเหมือนท่านพ่อท่านแม่ของข้าแล้ว”

“ข้าก็เช่นกันครับ เพราะฉะนั้น…”

รอธซียิ้มพรายและโน้มตัวประทับจูบลงบนหน้าผากของเปโตรนิยาเบาๆ หญิงสาวหลับตาพริ้ม จากนั้นรอธซีก็ค่อยๆ ผละตัวออก

มีความสุขจัง

“เรื่องนั้นพักไว้เท่านี้ เรามาคิดเรื่องงานแต่งพรุ่งนี้ก่อนดีไหมครับ”

หลังจากที่เปโตรนิยาตกปากรับคำแต่งงานกับรอธซี งานแต่งงานก็ถูกกำหนดให้จัดขึ้นในอีกสามเดือนให้หลังทันที คนรอบตัวต่างปรามว่าเร็วเกินไป แต่รอธซีกับเปโตรนิยาก็ไม่สนใจ เพราะพวกเขาอยากรีบแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยมเสียที

“โร นิล ขอโทษที่ขัดจังหวะจ้ะ”

ตอนนั้นเองน้ำเสียงอ่อนโยนของใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมา เจ้าของเสียงนั้นคือเคาน์เตสเบรดิงตันซึ่งจะกลายเป็นแม่สามีของเปโตรนิยาในวันพรุ่งนี้ นางเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับรอยยิ้มรักใคร่เอ็นดู

“วอลเทอร์มาหาจ้ะ โร”

เจ้าวอลเทอร์ ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเอาเสียเลย… คิ้วของรอธซีขมวดมุ่นอย่างชัดเจนและมองเปโตรนิยาราวกับจะบอกว่าไม่อยากไป เปโตรนิยาเห็นดังนั้นก็ยิ้มพรายพลางเอ่ย

“รีบไปเถอะค่ะ โร”

“จะไปแล้วหรือครับ นิล”

“ไม่ไปค่ะ ไม่ไปไหนทั้งนั้น” เปโตรนิยายิ้มน้อยๆ “ข้าจะอยู่เคียงท่านตลอดไป”

***

“ไม่รู้เวล่ำเวลาเลยนะ”

ครั้นมาถึงห้องรับรองรอธซีก็เปิดปากบ่นทันที วอลเทอร์ได้ยินดังนั้นก็โมโห

“เจ้าบ้านี่ ข้าอุตส่าห์เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เลยนะ!”

“ถึงกระนั้นจะทำอะไรก็ต้องดูกาลเทศะด้วย! ตอนนี้ข้ากำลังมีช่วงเวลาดีๆ กับคนรักอยู่นะ”

“รู้สึกเหมือนถูกหักหลังเลยทีเดียว พอแต่งงานไปแล้ว เจ้าก็จะไม่มาเจอข้าแล้วกระมัง?”

“เจ้าหึงรึ ขนลุกน่า”

“พอแล้ว ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว ข้าต้องหาคู่ชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง”

“ได้โปรดหาคู่ชีวิตจริงๆ เสียทีเถอะ จะได้ไม่ต้องมากวนใจข้า”

รอธซีกระเซ้าเย้าแหย่ติดตลกแล้วถามธุระ “แล้วเจ้ามาทำอะไร”

“อ้อ ข้ามีของจะให้น่ะ”

พูดจบวอลเทอร์ก็ล้วงของสิ่งหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้รอธซี รอธซีรับมาด้วยสีหน้าสงสัย

“นี่อะไร”

“เปิดดูสิ”

สิ่งที่วอลเทอร์ให้มาคือคราแวต[1]สีแดง

“จู่ๆ เป็นอะไรไป ทำไมถึงให้คราแวต” รอธซีถาม

“อย่างไรเจ้าก็จะแต่งงานแล้ว ข้าคิดว่าควรให้ของขวัญเจ้าสักชิ้น หลังจากคิดๆ ดูแล้วก็เลือกของที่เรียบง่ายที่สุดมา” วอลเทอร์ตบบ่ารอธซีเบาๆ พลางกล่าว “พรุ่งนี้น่าจะยุ่ง ข้าคงไม่ได้มาพูดอะไรแบบนี้กับเจ้า ขอให้เจ้ามีความสุขแล้วกัน”

“มาพูดอะไรน่าอาย…”

แม้จะพูดออกไปเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้วรอธซีประทับใจมาก อาจเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก การที่เขาได้แต่งงานก่อนอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ชอบกล

“เอาเป็นว่าเจ้ากลับไปได้แล้ว ข้าต้องไปหานิลแล้ว” รอธซีว่า

“เจ้างั่ง! เจ้าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานเลยหรือไร”

แม้จะพร่ำบ่น แต่วอลเทอร์ก็ยังยกยิ้มมุมปากและเดินออกจากห้องรับรองไปอย่างสง่าผ่าเผย ปัง สิ้นเสียงปิดประตู รอธซีก็จ้องมองคราแวตในมืออย่างเงียบงัน เห็นสิ่งนี้แล้วเขาก็คิดได้ว่าเขากำลังจะได้แต่งงานแล้วจริงๆ

-ก๊อกก๊อก

ครั้นได้ยินเสียงเคาะประตู รอธซีก็เอ่ยถามโดยอัตโนมัติ

“ครับ?”

“ข้าเองค่ะ โร”

“นิล” เขาหัวเราะเสียงใสและตอบ “เข้ามาสิครับ”

เปโตรนิยาแง้มประตูแล้วยื่นหน้าเข้ามา จากนั้นก็เดินมาพร้อมกับรอยยิ้ม

“สองคนคุยอะไรกันหรือคะ”

“เขาเอาคราแวตมาให้น่ะครับ”

รอธซียิ้มพลางโบกคราแวตที่ได้รับจากวอลเทอร์ให้เปโตรนิยาดู เปโตรนิยาจ้องสิ่งนั้นเขม็งแล้วก้าวเข้าไปใกล้รอธซี เขามองหญิงสาวด้วยสีหน้าสงสัย

“โร” เปโตรนิยาเรียกเสียงเบา

“ครับ? นีย่า”

“ข้ามีเรื่องอยากจะบอกค่ะ ที่จริงเก็บไว้พูดในวันพรุ่งนี้น่าจะดีกว่า แต่ข้าอยากจะพูดตอนนี้ให้ได้ค่ะ”

หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แล้วสารภาพ “ขอบคุณจริงๆ นะคะที่ขอข้าแต่งงาน”

“นิล”

“โรทำให้ข้ารู้สึกว่าจากนี้ไปข้าจะได้มีความสุขเสียที ตอนนี้ข้าดีใจมากเหลือเกินค่ะ ท่านคงไม่เข้าใจความรู้สึกของข้าหรอก”

พูดจบ เปโตรนิยาก็เป็นฝ่ายมอบจูบให้เขาก่อน รอธซีไม่หลบเลี่ยงและรวบร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด เขาจูบนางอย่างเร่าร้อนพลางคิดว่า

‘ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณท่านที่ยอมรับคำขอแต่งงานของข้า’

และนั่นคือจุมพิตแสนหวานในวันก่อนวันแต่งงานของพวกเขา

Lady to Queen

Lady to Queen

‘เปโตรนิยา’ และ ‘แพทริเซีย’ เป็นบุตรีฝาแฝดของ‘ตระกูลโกรเชสเตอร์’ สองพี่น้องรักใคร่กลมเกลียว ตระกูลโกรเชสเตอร์จึงอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมา ทว่า ความสงบสุขนั้นมีอันต้องสั่นคลอน เมื่อเปโตรนิยา บุตรีคนโตถูกเลือกเป็นจักรพรรดินี จนนำไปสู่จุดจบอันแสนเศร้าที่ทั้งตระกูลถูกประหารภายใต้กิโยติน เมื่อบุตรีคนเล็กของตระกูลอย่างแพทริเซียลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่า เธอได้ย้อนเวลากลับมา ณ จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม ครั้นได้เห็นรอยยิ้มสดใสของผู้เป็นพี่สาวอีกครั้ง แพทริเซียก็ปฏิญาณตนในใจอย่างแน่วแน่ ‘ข้าจะเป็นจักรพรรดินีแทนท่านพี่เอง’ แพทริเซียอาสาเข้ารับการคัดเลือกจักรพรรดินี คราวนี้เธอจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และเพื่อการนั้น เธอจึงต้องเผชิญหน้ากับทั้งความรักและความชิงชังอีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset