ภาคแยก 6 : Before the sun rises.
(ก่อนย่ำรุ่ง)
“นี่ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่ๆ”
แพทริเซียพูดอย่างจริงจังพร้อมส่ายหน้า มีร์ยาที่ฟังอยู่ก็ยิ้มเจื่อนๆ และพูดเสริม
“เห็นได้ชัดว่าองค์จักรพรรดิทรงคำนึงถึงพระองค์มิใช่หรือเพคะ”
“แต่นี่มันมากเกินไป มีร์ยา ไม่น่าเชื่อว่าฤดูหนาวปีนี้จะมีสตรอว์เบอร์รีมากมายขนาดนี้”
แพทริเซียมองผลไม้ตระกูลเบอร์รีหลากชนิดที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้าก่อนจะส่ายศีรษะอีกครั้ง ทั้งสตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี ราสเบอร์รี แบล็กเคอร์แรนต์ อโรเนีย และอื่นๆ… นี่เขาไปหาสตรอว์เบอร์รีมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนและได้อย่างไรในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้ แพทริเซียพึมพำด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
“ตั้งแต่เกิดมาข้าเพิ่งเคยเห็นผลไม้ตระกูลเบอร์รีเยอะขนาดนี้เป็นครั้งแรก”
เรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากตรงนี้
เมื่อแพทริเซียตั้งครรภ์ได้ราวสี่เดือน จู่ๆ นางก็อยากกินอาหารหลากชนิดมากขึ้น เมื่อคนที่ไม่ค่อยชอบกินอาหารอย่างนางร้องขออาหารที่มากขึ้น มีร์ยาก็รู้สึกยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งจึงสั่งหัวหน้าห้องเครื่องให้เตรียมอาหารไว้ตลอด ลูซิโอบังเอิญได้รู้เรื่องนี้เข้า ทั้งยังรู้มาอีกว่าช่วงนี้แพทริเซียกำลังตามหาสตอว์เบอร์รีจำนวนมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ส่งผลไม้ตระกูลเบอร์รีมาที่ตำหนักจักรพรรดินีตลอด แล้วผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นเช่นนี้
แพทริเซียส่ายหน้าหวือ
“ต่อให้ข้าอยากกินสตรอว์เบอร์รีมากแค่ไหน แต่นี่มันไม่ใช่แล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าอยากกินอะไรอีกหรือไม่”
ทันใดนั้นน้ำเสียงคุ้นหูก็ดังแทรกขึ้นมา แพทริเซียหันขวับไปมองและพบว่าลูซิโอยืนอยู่หน้าประตู แต่มีปัญหาอยู่เล็กน้อยนั่นคือเขาถืออะไรก็ไม่รู้มาเต็มสองมืออีกแล้ว คราวนี้อะไรอีกล่ะ
แพทริเซียเบิกตากว้างขึ้นเพื่อเพ่งมองว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ ให้ตายเถอะ นั่นมันทาร์ตสตรอว์เบอร์รี
“ฝ่าบาท ขืนเป็นแบบนี้ผิวของหม่อมฉันได้กลายเป็นสีแดงแน่เพคะ”
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า”
เขายิ้มพรายและเดินเข้ามาหา กลิ่นหอมหวานของสตรอว์เบอร์รีที่ลอยมาเตะจมูกทำให้รู้ว่าทาร์ตนี้น่าจะเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ สีหน้าของแพทริเซียผ่อนคลายลงโดยไม่รู้ตัว นานวันฝีมือของผู้ชายคนนี้ยิ่งสูงขึ้นทุกที
“เอาล่ะ นี่คือทาร์ตที่เราอบมาเป็นพิเศษวันนี้ หวังว่าเจ้าจะชอบ”
“ชอบสิเพคะ ฝีพระหัตถ์ของฝ่าบาทหม่อมฉันย่อมรู้ดีกว่าใคร”
ลูซิโอตัดแบ่งทาร์ตออกเป็นชิ้นๆ อย่างเอาใจใส่ก่อนจะยื่นให้แพทริเซีย ครั้นรับมาแล้วเห็นสตรอว์เบอร์รีที่เรียงตัวอัดแน่นอยู่บนนั้น แพทริเซียก็เผยสีหน้าลำบากใจ
“ใส่สตรอว์เบอร์รีมากไปแล้วเพคะ”
“ต้องกินมากๆ สิถึงจะดีต่อร่างกาย”
“เสวยด้วยกันสิเพคะ”
“แค่ดูเจ้ากินเราก็อิ่มแล้ว”
“หม่อมฉันกินคนเดียวไม่ไหวเพคะ ฝ่าบาท มาเถอะเพคะ”
เมื่อถูกแพทริเซียเร่งเร้า ลูซิโอจึงต้องนั่งลงข้างๆ อีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้ มีร์ยาปลีกตัวออกไปอย่างรู้งาน แพทริเซียกัดทาร์ตเข้าไปคำหนึ่ง น้ำที่ระเบิดตัวออกมาจากสตรอว์เบอร์รีช่างหวานล้ำจนแพทริเซียเผลอยิ้มออกมา
“อร่อยเพคะ”
“กินนี่หมดแล้วก็กินผลไม้ที่กองอยู่ตรงนั้นให้หมดด้วยนะ เราตั้งใจเลือกมาแต่ของชั้นดีทั้งนั้น น่าจะถูกปากเจ้า”
“ขืนกินหมดนั่นก็อ้วนพอดี” แพทริเซียพูดด้วยสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย “หมู่นี้ร่างกายของหม่อมฉันบวมขึ้นเพคะ คงต้องยั้งปากบ้างแล้ว”
“พูดอะไรน่ะ คนท้องก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าแพ้ท้องจนกินอะไรไม่ค่อยได้อยู่ตั้งนาน”
“รับสั่งมาตามตรงเถอะเพคะ ฝ่าบาท” แพทริเซียจ้องหน้าลูซิโอและถามด้วยสีหน้าจริงจัง “หม่อมฉันดูอ้วนขึ้นใช่ไหมเพคะ ดูแย่มากเลยใช่ไหมเพคะ”
“ริซซี่”
ลูซิโอเรียกแพทริเซียด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม นางยังคงจ้องมองเขา เขาจึงกุมมือทั้งสองข้างของนางไว้แน่น แพทริเซียเลื่อนสายตาไปมองด้านล่างครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาอีกครั้ง
“ในสายตาข้าเจ้างดงามที่สุดในโลก”
“โป้ปดเก่งนะเพคะ”
“พูดจริงๆ”
ลูซิโอยิ้มบางๆ พลางเลื่อนมืออีกข้างที่ไม่ได้จับมือแพทริเซียไปยังท้องน้อยของนางที่เริ่มนูนขึ้นบ้างแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ใหญ่จนเห็นได้ชัดว่าตั้งท้อง เขาลูบหน้าท้องของนางเบาๆ
“เจ้าคือคนที่ข้ารักที่สุดในโลก เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าเป็นคนที่งดงามที่สุดในสายตาข้า ตอนนี้เจ้ายังมีลูกให้ข้าแล้วด้วย”
“…”
“ต่อให้เจ้าอ้วนขึ้นสักหน่อยก็ไม่มีทางที่ข้าจะมองว่าเจ้าไม่สวย ริซซี่ ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้าอ้วนกว่านี้ด้วยซ้ำเพราะตอนนี้เจ้าผอมมาก”
“ให้อ้วนกว่านี้อีกหรือเพคะ ถึงตอนนั้นอาจจะกลายเป็นตัวตลกไปจริงๆ ก็ได้”
เห็นแพทริเซียถอนหายใจออกมา ลูซิโอก็ส่ายศีรษะพลางปลอบโยนอย่างนุ่มนวล
“ไม่มีทาง ใครที่ทำเช่นนั้นข้าจะสั่งประหารโทษฐานหมิ่นเชื้อพระวงศ์ทันที”
“ฝ่าบาท ลูกฟังอยู่นะเพคะ”
“อ๊ะ จริงด้วย”
สิ้นเสียงตำหนิของแพทริเซีย ลูซิโอก็สะดุ้งโหยงรีบปิดปาก ลูกกำลังเติบโตอยู่ในท้องแท้ๆ แต่ข้ากลับพูดจาหยาบคายเช่นนี้ออกไป! ลูซิโอรีบยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าท้องของแพทริเซียทันที
“ลูกพ่อ ลืมที่พ่อพูดเมื่อครู่ไปเสีย เข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้วฮะ ท่านพ่อ”
แพทริเซียตอบแทนด้วยน้ำเสียงน่ารัก ลูซิโอได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นพลางยิ้มกว้าง
“ใครบอกให้เจ้าทำตัวน่ารักไม่เปลี่ยนเช่นนี้กัน หืม?” เขาพูดกับนางด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“มีแต่ฝ่าบาทกระมังเพคะที่คิดเช่นนั้น”
“ควรจะต้องเป็นเช่นนั้น แค่คิดว่ามีตัวผ…ไม่สิ คนอื่นคิดเช่นเดียวกันกับข้าก็สยองแล้ว”
ลูซิโอจุมพิตหน้าผากของแพทริเซียอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะที่แพทริเซียเผยยิ้มตาม ริมฝีปากของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาที่สันจมูก ปลายจมูก และไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากครู่หนึ่งก่อนจะย้ายไปที่ไหปลาร้า หน้าอก แล้วก็…
“อา”
เขาเลื่อนริมฝีปากลงไปอีกก่อนจะถามด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
“ไม่ได้สินะ?”
“ไม่เป็นไรเพคะ ฝ่าบาท ทำต่อเถอะเพคะ…” แพทริเซียพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “หมอหลวงบอกว่าถ้าไม่หักโหมจนเกินไป นั่นกลับเป็นเรื่องที่ดีเสียอีก”
“จริงหรือ”
“ถ้าไม่ ‘หักโหม’ จนเกินไปนะเพคะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ริซซี่ เดี๋ยวข้าปรับให้เหมาะสมเอง”
“แต่นี่ยังกลางวันอยู่เลย…”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
เดี๋ยวตะวันก็ตกแล้ว
สิ้นเสียงกระซิบของลูซิโอ เขาก็ค่อยๆ ถอดชุดเดรสที่อยู่บนร่างของนางออก หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ด้วยรู้สึกจั๊กจี้และกระซิบเสียงค่อย
ลูกแม่ นอนหลับสักประเดี๋ยวนะลูก เข้าใจไหม?
***
“ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม” ลูซิโอถามพลางนวดหน้าท้องให้แพทริเซียเบาๆ
“ดีมากเพคะ” แพทริเซียซึ่งนอนเหยียดแขนเหยียดขาอยู่บนเตียงตอบด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ไม่เจ็บตรงไหนนะ?”
“ไม่เป็นไรเลยเพคะ”
“ข้ากังวลเล็กน้อย แต่หากเจ้าว่าอย่างนั้นก็โล่งอก”
“หมอหลวงก็บอกว่าไม่เป็นไรนี่เพคะ ฝ่าบาทขี้กังวลเกินไปแล้ว”
“สำหรับข้าเจ้าก็เหมือนลูกแก้ว ลูกแก้วอาจแตกได้ทุกเมื่อจึงต้องดูแลประคบประหงมอย่างดี…”
แพทริเซียฟังเสียงลูซิโอกระซิบแผ่วเบาพลางหาวด้วยสีหน้าเหม่อลอย ครู่ต่อมานางก็เรียกลูซิโออย่างอ่อนแรง
“ฝ่าบาท”
“หืม?”
“หม่อมฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รีเพคะ”
ได้ยินดังนั้นลูซิโอก็หัวเราะในใจ ที่เขานำเข้าสตรอว์เบอร์รีมากองไว้เป็นภูเขาเลากานับเป็นเรื่องที่เขาทำได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบปีจริงๆ ด้วย
“รอเดี๋ยวนะ”
เขาบอกอีกฝ่ายก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปยังโต๊ะที่มีผลไม้ตระกูลเบอร์รีกองพะเนินอยู่ เขาหยิบสตรอว์เบอร์รีใส่จานจนเต็ม ทั้งยังหยิบราสเบอร์รีและอโรเนียที่อยู่ข้างๆ มาเผื่อด้วย ครั้นหยิบใส่จานจนแทบจะล้น เขาก็เดินกลับไปที่เตียงอีกครั้งและถามแพทริเซียด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นชอบกล
“ถ้าขยับตัวไม่สะดวก ให้ข้าป้อนดีหรือไม่”
“จริงหรือเพคะ”
“จริงสิ”
เขารีบยื่นมือไปที่จานแล้วเลือกหยิบสตรอว์เบอร์รีลูกงามที่มีผลแดงที่สุดมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อ้าปากหน่อย”
แพทริเซียทำตามอย่างว่าง่าย จากนั้นสตรอว์เบอร์รีจากมือของเขาก็เข้าไปอยู่ในปากของนางอย่างราบรื่น แพทริเซียลิ้มรสชาติหอมหวานของสตรอว์เบอร์รีที่กระจายตัวอยู่ในปากแล้วยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ช่างหอมหวานยิ่ง
“ฝ่าบาทก็เสวยสักลูกสิเพคะ”
“แค่ให้เจ้ากินก็จะไม่พอแล้ว”
“มากขนาดนี้น่ะหรือเพคะ”
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ค่อยชอบสตรอว์เบอร์รี”
โกหก เขาชอบสตรอวเบอร์รีมาก แต่เขาเลือกที่จะโกหกเพราะสตรอวเบอร์รีไม่ได้หาง่ายถึงขนาดมีให้แบ่งกินกับคนท้องได้อย่างเหลือเฟือ และเขาต้องพูดออกไปเช่นนั้นนางถึงจะสบายใจ ลูซิโอป้อนสตรอวเบอร์รีที่อยู่ในจานเข้าปากแพทริเซียอีกลูก
“จริงสิ ข้าอ่านเจอในหนังสือว่าเด็กในท้องชอบฟังเสียงของพ่อมาก”
“อย่างนั้นหรือเพคะ”
“อืม ดังนั้นต่อไปข้าจะชวนลูกคุยบ่อยๆ”
ลูซิโอโน้มตัวเข้าไปใกล้ท้องของแพทริเซียราวกับจะยืนยันว่าเขาจะทำจริงๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ลูกพ่อ เจ้าเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง หืม?”
“ฝ่าบาทนี่ล่ะก็” แพทริเซียหัวเราะ “เรื่องนั้นจะรู้ได้อย่างไรเล่าเพคะ หมอหลวงยังพูดไม่ตรงกันเลย”
“เขาว่าอย่างไรกันบ้าง”
“บ้างก็ว่าเป็นเจ้าหญิง บ้างก็ว่าเป็นเจ้าชาย… แต่หม่อมฉันไม่เชื่อใครทั้งนั้นเพคะ พระองค์อยากได้เพศไหนเป็นพิเศษหรือไม่”
“ไม่หรอก ขอเพียงคลอดออกมาอย่างปลอดภัย จะเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงข้าก็ไม่เกี่ยง อย่างไรเขาก็ต้องได้ครองบัลลังก์ต่อจากข้าแน่นอน”
ลูซิโอยิ้มพรายก่อนจะพูดเสริม “แต่ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะเหมือนเจ้าหรือเหมือนข้า ถ้าเป็นเจ้าหญิงจะงดงามแค่ไหน และถ้าเป็นเจ้าชายจะรูปงามเพียงใด ข้าสงสัยจนจะบ้าอยู่แล้ว”
“ยังเลือกเวลาอีกตั้งหลายเดือน พระองค์คิดจะรอต่อไปอย่างไรเพคะ”
“ลูกกำลังเติบโตอย่างตั้งใจอยู่ตรงหน้าข้าเช่นนี้ แม้แต่ช่วงเวลาที่ต้องรอคอยก็ต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
“อ่อนโยนจัง”
“ไม่ชอบหรือ”
“ย่อมมิใช่”
แพทริเซียหัวเราะเบาๆ แล้ววางมือลงบนหน้าท้องอย่างเคยชิน นางวาดนิ้วเป็นวงกลมแล้วลูบเบาๆ ลูซิโอมองการกระทำนั้นเงียบๆ ก่อนจะเปิดปากขึ้นมาอีกครั้ง
“พรุ่งนี้ออกไปเดินเล่นด้วยกันดีหรือไม่ ว่ากันว่าถ้าได้ออกกำลังพอประมาณจะดีต่อทั้งแม่และเด็กในท้องนะ”
“ได้เพคะ”
“ริซซี่”
ลูซิโอเอ่ยเรียก ขณะนั้นแพทริเซียยังคงไม่ละสายตาจากหน้าท้องของตนแต่ก็ขานรับ
“เพคะ ฝ่าบาท?”
ทันใดนั้น ลูซิโอก้มลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากทำเอาแพทริเซียตกใจตาโต จากนั้นลูซิโอก็ผละออกไป เขาเผยยิ้มพลางกล่าว
“ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“ฝ่าบาท…”
“ข้าไม่รู้ว่าข้ามีคุณสมบัติดีพอที่จะ…เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีได้หรือไม่…”
เสียงของเขาค่อยๆ สั่นทีละน้อย ขณะที่แพทริเซียกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“แต่ข้าจะรักเจ้าให้มากที่สุด รักเจ้าและลูกของเรา”
“…ขอบพระทัยเพคะ”
แพทริเซียรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหลแต่นางก็พยายามคลี่ยิ้มกว้าง ลูซิโอเห็นดังนั้นก็จุมพิตลงบนเปลือกตาทั้งสองข้างของอีกฝ่าย
สุดท้ายแพทริเซียก็ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาหยดหนึ่งอย่างสุดกลั้น
ลูกคนสำคัญที่เติบโตอยู่ในท้องและสามีอันเป็นที่รักที่คอยอยู่เคียงข้าง
คงไม่มีความสุขใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว
[ภาคแยก 6] Before the sun rises. (จบบริบูรณ์)