130 – วันเบาๆที่เป็นปกติ
ด้วยประสบการณ์ครั้งก่อน ดูเหมือนการอาบน้ำที่ไปยิ่งช่วยโจวเจ๋าจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวหลิน?”
โจวเจ๋อถาม
“เจ้านาย ตอนที่เราไปคุณหมดสติอยู่บนพื้น พี่หลินยังไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ครอบครัวก็วุ่นวาย โดยเฉพาะในห้องน้ำ กระจกและกระเบื้องแตกกระจายไปหมด
เราพาคุณออกมา ต่อมาไม่มีใครจากฝั่งของตระกูลหลินมาถาม เกี่ยวกับเรื่องของคุณด้วยซ้ำ น้องสาวคนเล็กของพี่หลินไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนพี่หลินก็ไปทํางาน”
โจวเจ๋อพยักหน้าและมองเข้าไปในกระจก ผมของเขาดูยาวขึ้นเล็กน้อย เขาพูดกับไปยิ่งว่า
“ช่วยผมเล็มผมสักหน่อย”
“ตกลง”
ไปวิ่งออกไปหยิบกรรไกรเพื่อช่วยโจวเจ๋อตัดผม
เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์โจวเจ๋อก็ถูกนําตัวไปนั่งรถเข็นที่เพิ่งซื้อมาใหม่ มันเป็นรถไฟฟ้าที่สามารถวิ่งไปเองคล้ายกับรถบั้มในสวนสนุก
“ใครซื้อ? “ ใบหน้าของโจวเจ๋อเป็นสีดํา
“เจ้านาย ไม่ชอบเหรอครับผมอุตส่าห์ซื้อมาเตรียมให้กับเจ้านายโดยเฉพาะ ดูสิ! ”
เหล่าเต๋ากดปุ่มบางอย่าง จากนั้นรถเข็นทั้งหมดก็เริ่มเรืองแสงด้วยแสงหลากสี เหล่าเต๋าคิดว่าโจวเจ๋อคงจะพอใจมาก
ไม่รู้ว่าวันนี้โจวเจ๋ออ่อนแอมากเกินไปหรือเปล่าแทนที่จะนั่งบนรถเข็นแต่เขากลับนั่งบนโซฟาตลอดทั้งวัน
ซูชิงหลางไม่ได้อยู่ในร้าน ดูเหมือนว่าเขาจะมีอะไรทําที่บ้านเดิม เขาจึงกลับไปแล้วแต่ว่าทิ้งน้ำผลไม้ไว้ค่อนข้างมาก
วันดูเหมือนว่าจะฟื้นคืนจังหวะที่คุ้นเคย ผ่านไปซักพักก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากในท้ายที่สุด
ในฐานะที่เป็นผีระดับเดียวกันภายในเมืองนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหญิงตัวน้อยจะไม่รู้ถึงการดํารงอยู่ของผู้หญิงชุดดําคนนั้น
แต่เธอไม่เคยบอกอะไรเขาเลย
โจวเจ๋อนั่งพิงโซฟาและอาบแดดผ่านกระจก ไป๋อิ่งทําหน้าที่ต้อนรับแขก แม้ว่าซูชิงหลางจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ไปอิงก็สามารถเรียนรู้วิธีชงกาแฟและเครื่องดื่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่โต๊ะข้างๆโจวเจ๋อ มีผู้หญิงสองคนที่มีผมยาวแต่เสียงของพวกเขาแหบแห้งเล็กน้อยเหมือนไม่ได้ทานน้ำมา
ผู้หญิงสองคนกําลังคุยกันเรื่องนิตยสารแฟชั่นในมือ และยิ่งพวกเขาคุยกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นเท่านั้น
“ฉันมีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง ฉันพบสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากเมื่อเร็วๆนี้
” พูดสิ”
“สัปดาห์ที่แล้ว ฉันสังเกตเห็นว่าถุงน่องและเสื้อคลุมอาบน้ำที่ฉันทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้า ในห้องน้ำที่บ้านหายไปไหนก็ไม่รู้”
“อ้าว มีคนเข้ามาขโมยของในบ้านเธอเหรอ”
“ ตอนแรกนึกว่าเป็นขโมย แต่กลับพบว่าไม่ใช่”
“ใครทํา?”
“เสี่ยวเหวิน ฉันสังเกตเห็นเวลานั้นมันคือเสี่ยวเหวิน หลังจากที่ฉันอาบน้ํา เขาเข้าไปในห้องน้ำด้วย เมื่อฉันกลับออกมาอีกครั้ง ฉันพบว่าถุงน่อง เสื้อคลุม และชุดชั้นในอื่นๆ ถูกพลิกกลับและมีรอยเปื้อนบางอย่าง”
“อา.”
ผู้หญิงอีกคนเอามือปิดปาก
“เสี่ยวเหวินทําอย่างนี้ได้ยังไง
“ฉันก็อารมณ์เสียเหมือนกัน”
“ไม่เป็นไร บางทีเสี่ยวเหวินเพิ่งโตขึ้นและมีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่ง ของของผู้หญิง เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านจุดนี้”
“ฉันต้องการปรึกษาจิตแพทย์ให้เขา”
“เธอต้องพยายามแนะนําเขาให้เหมาะสม “
“ฉันกําลังจะคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา แต่แล้วฉันก็พบอีกสิ่งหนึ่ง เมื่อสุดสัปดาห์ ที่แล้วฉันกลับมาทํางานเร็วกว่าปกติ ฉันเห็นเสี่ยวเหวินอยู่ในห้องนอน สวมถุงน่อง เสื้อชั้นในและกระโปรงของฉันอยู่หน้ากระจก”
“ถ้าเพียงเกี่ยวกับเรื่องนั้นฉันอาจจะทําเป็นไม่ใส่ใจได้ แต่นี่เขาเอาเสื้อผ้าของฉันไปใส่มันไม่ปกติชัดๆ”
“โอ้ ลูกชายฉันโทรมาขออนุญาตรับก่อน”
ผู้หญิงคนนั้นรับโทรศัพท์และพูดกับเพื่อนของเธอว่า
“ขอโทษนะลูกชายของฉันบอกว่าหิวแล้วเดี๋ยวฉันจะไปทําอาหารให้เขาก่อน”
“อืม ฉันก็จะกลับเหมือนกัน”
“คิดเงินด้วยค่ะ”
โจวเจ๋อมองดูผู้หญิงสองเดินออกจากร้านอย่างครุ่นคิด
“เจ้านายรับน้ำร้อนเพิ่มไหม” ไป๋อิ่งถาม
“ไม่ต้องแล้ว” โจวเจ๋อส่ายหัวและยกถ้วยชาขึ้น
ไป๋อิ่งใช้มือเท้าสะเอวอย่างหงุดหงิดพร้อมกับบ่นออกมาว่า
“ผู้ชายสองคนเมื่อกี้นี้ปวยจริงๆ พวกเขาเป็นผู้ชายชัดๆแต่ทําไมต้องแกล้งแต่งตัวเป็นผู้หญิง”
“แค่ก…”
โจวเจ๋อที่กําลังดื่มน้ําสําลักอย่างรุนแรง
“คุณว่าอะไรนะ พวกเขาเป็นผู้ชายเหรอ” โจวเจ๋อตกตะลึงเล็กน้อย
“เจ้านายไม่รู้หรือไงพวกเขาเป็นผู้ชายแน่นอน” ไป๋อิ่งหัวเราะออกมาเบาๆ
โจวเจ๋อนั่งบนโซฟาของร้านหนังสือและใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับความงุนงง เขากําลังคิดถึงเรื่องมากมายในสมอง
นี่คือร้านหนังสือของฉันเอง นี่คือชีวิตของฉันหลังจากนี้
โจวเจ๋อเอื้อมมือไปแตะเล็บนิ้วมือที่สั้นลงแล้ว ไป๋อิ่งเพิ่งช่วยเขาตัดเล็บไปเมื่อสักครู่นี้ เมื่อมันสั้นลงทุกอย่างก็ดูคล่องตัวและสบายมือมาก
โจวเจ๋อเห็นถึงชื่อยืนอยู่ที่ประตู เธอยืนอยู่ได้สามชั่วโมงแล้ว เธอยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้บ่ายสามก็ยังไม่ขยับไปไหน
โจวเจ๋อไม่ได้ถามเธอว่าเธอกําลังทําอะไรอยู่ที่นั่น ทุกคนต้องการช่วงเวลาในการอยู่คนเดียว ซึ่งไม่ต้องการการปลอบโยนของคนอื่น
โจวเจ๋อโทรศัพท์มือถือออกมาพร้อมกับเปิด WeChat ไม่มีข้อความจากใครทั้งนั้น
ในความเป็นจริงโจวเจ๋อเหนื่อยเล็กน้อย แต่ชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่สําคัญว่าคุณ จะมองย้อนกลับไปในอดีตหรือไม่สุดท้ายก็แก้ไขอะไรไม่ได้ปัจจุบันยังคงเป็นปัจจุบัน
โจวเจ๋อหยิบแผ่นพับออกมาอ่าน เพื่อดูว่าความสําเร็จของเขาที่สามารถจัดการผู้หญิงชุดดําคนนั้นเพิ่มขึ้นมาหรือไม่
หญิงสาวชุดดําคนนั้นก็มีหนังสือรับรองเช่นเดียวกันกับเขา แต่พวกไปวิ่งบอกว่าไม่เคยเห็นมัน บางทีมันอาจจะถูกทําลายไปพร้อมกันกับความตายของเธอ
ในที่สุดถังซื้อก็ขยับตัว เธอค่อยๆนั่งคุกเข่า อาจเป็นเพราะว่าเธอยืนมานานแล้วขาจึงเป็นโจวเจ๋อยิ้ม
จากนั้นยังชื่อหันศีรษะและมองไปที่โจวเจ๋อที่กําลังมองดูเธอจากด้านหลังด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
ลิงน้อยกระโดดไปข้างหน้าโจวเจ๋อพร้อมกับโบกค้อนของเล่นในมือ โจวเจ๋อ เอื้อมมือออกไปและตบหัวมันเบาๆ
โจวเจ๋อยังคงไม่รู้ว่าโคลนพวกนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ประสิทธิภาพของมันดีมาก เขาคิดว่าเขาสามารถเปิดร้านขายยาได้ถ้าเขาไม่ทําเงินในอนาคต
ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้น ลิงน้อยถือโทรศัพท์มือถือและโบกมือให้โจวเจ๋อ
โทรศัพท์มือถือของลิงน้อยเป็นเหล่าเต่ซื้อให้
“จะให้ทําอะไร?” โจวเจ๋อถาม
ลิงชี้ไปที่เครื่องเสียงที่ผนังร้านหนังสือ แล้วชี้มาที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองอีกรอบ
“เชื่อมต่อบลูทูธ?” โจวเจ๋อถาม
ใบหน้าของลิงมึนงง แต่หลังจากนั้นมันก็พยักหน้า
หลังจากได้รับโทรศัพท์มือถือของลิงแล้วโจวเจ๋อก็ช่วยเชื่อมต่อบลูทูธ ลิงพยายามเล่นเพลง “การกลับมาของปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่” จนเสียงดังสนั่นทั่วร้านหนังสือ โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีลูกค้าอยู่ในร้าน