152 – ผลประโยชน์มหาศาล
“คุณยังมีวิญญาณหรือไม่ก็จิตสํานึกอยู่ ท้ายที่สุดคุณก็ไม่ใช่ผีดิบจริงๆ ตอนนี้ก็ปล่อยวางทุกอย่างเถอะแล้วผมจะส่งคุณไปตามทางของคุณ
ชายชราวางมือต่ําลง ดูเหมือนว่าเขาจะยอมแพ้แล้ว ไม่ว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาทําได้
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ชายชราก็กระโดดขึ้นจากพื้นพร้อมกับพยายามงับคอของโจวเจ๋อ!
“เจ้าโง่เอ้ย!”
โจวเจ๋อไม่ได้ขยับ แต่เล็บของเขาแทงเข้าไปในร่างของชายชราโดยตรงและอากาศสีดํารอบๆ เล็บของเขาก็เริ่มเดือดอย่างรุนแรงในร่างกายของชายชรา
นี่เป็นการทรมานอย่างรุนแรงที่สุดสําหรับวิญญาณ หากโจวเจ๋อไม่มีความสามารถแบบนี้มีหรือเขาจะจัดการกับโปอิ่งที่เป็นราชาผีดิบคนหนึ่งได้
ในเวลานี้ชายชราพยายามอ้อนวอนโจวเจ๋อ เขาเจ็บปวดมาก เขาต้องการให้โจวเจ๋อเอาเล็บพวกนั้นออกจากร่างกายของเขา
แต่โจวเจ๋อไม่ได้สนใจ สายตาของเขายังคงเย็นชาและมองดูชายชราดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
เห็นได้ชัดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพูดก็เพื่อให้ชายชราได้รู้สํานึก แต่ถึงกระนั้นการกระทําของเขาก็เปล่าประโยชน์
ชายชรายังคงดิ้นรนและแม้แต่เฮือกสุดท้ายในชีวิตยังพยายามต้องการฆ่าเขาอีกด้วย
นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นได้ว่าการแสดงความเมตตาต่อฆาตกรนั้นเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
หลายคนสูญเสียตัวตนที่แท้จริงไปแล้ว ในตอนที่พวกเขาลงมือฆ่าคนพวกเขาไม่ได้ลงมือไปเพราะความโกรธ
เพราะจิตใจของพวกเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป พวกเขาเป็นเพียงเดรัจฉานที่ทําไปตามสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น
“อันที่จริง ผมไม่ได้เกลียดคุณอย่างที่คุณคิดหรอกนะ” โจวเจ๋อพูดเบาๆ
“แต่คุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คุณไม่ใช่ผู้ผดุงความยุติธรรมอย่างที่ตัวเองเข้าใจ คุณเป็นเพียงปีศาจที่รอให้ผู้ผดุงความยุติธรรมตัวจริงมาจัดการเท่านั้น”
ภายใต้แรงกดดันจากเล็บของโจวเจ๋อ กลุ่มแสงสีดําก็ออกมาจากร่างของชายชรามาก
โจวเจ๋อเปิดประตูสู่ขุมนรก เขายื่นมือไปหยิบกลุ่มควันสีดําพวกนั้นก่อนจะโยนเข้าไปข้างใน
โจวเจ๋อไม่ได้ทําลายจิตวิญญาณของชายชรา เพราะเขาคิดว่าในตอนนี้ชายชราควรจะสร้างประโยชน์ให้เขาอย่างมหาศาล
อันที่จริงตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขาต้องการจะฆ่าคนพวกนั้นทั้งหมด แต่โจวเจ๋อก็ไม่ได้ทําเพราะเขาต้องการให้หญิงคนนั้นเป็นคนลงมือเอง
ต้องเข้าใจว่าเมื่อวิญญาณร้ายฆ่าคนได้จริงๆ ระดับความอันตรายของพวกเขาจะมีมากขึ้นและ ค่าประสบการณ์ของเขาที่ได้รับจากการส่งพวกนั้นลงนรกก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ตาของโจวเจ๋อก็เบิกกว้างทันที!
เชี่ย!
ค่าผลงาน: 50%!
กล่าวคือเพียงแค่ชายชราคนนี้คนเดียวก็ทําให้เขาได้รับผลงานเทียบเท่ากับผีที่เขาส่งไปนรกทั้งหมดตั้งแต่ได้กุญแจของนรกนี้มา!
โจวเจ๋อรู้สึกเสียใจ เขารู้ว่าเขาไม่ควรรีบร้อนที่จะชายชราคนนี้ลงนรกเลย เขาควรถามชายชราว่ามีคนอื่นๆในลักษณะเดียวกันหรือไม่ และพวกเขาซ่อนตัวอยู่ตรงไหนของเมือง
เด็กหญิงตัวน้อยยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น เมื่อมองเห็นว่าโจวเจ๋อหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาดวงตาเธอก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
จุดที่น่าตกใจไม่ใช่แค่ใบรับรองเท่านั้น แต่คือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้
ทันใดนั้นเธอก็จําสิ่งที่สาวไร้หน้าพูดกับเธอตอนที่พวกเธออยู่ในเฉิงตู สาวไร้หน้าบอกว่าในสายตาของเธอผู้ชายคนนี้ไม่ได้อันตรายน้อยกว่าคนที่อยู่ในเฉิงตูเลย!
ในเวลานี้ จู่ๆภรรยาของหวังเค่อก็เข้ามาพร้อมมีด ส้อม และจาน เธอนั่งลงข้างๆชายชราแล้วพยายามใช้มีดปาดเนื้อชายชราก่อนจะใช้ซ่อมส่งเข้าปากของตัวเอง
เหล่าเด็รีบวิ่งเข้ามาหยุดเธอไว้ เขาใช้มือจับมือทั้งสองข้างของเธอ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยัง ดิ้นรนและกรีดร้องออกมาว่า
“ให้ฉันกิน ให้ฉันกิน ให้ฉันกิน …”
โจวเจ๋อหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่บนพื้นจากนั้นเขาก็มองดูภรรยาของหวังเค่ออีกครั้งดวงตาของเขาเป็นประกายสดใสจากนั้นเขาก็พูดว่า
” ที่แท้ก็เป็นแม่ของคุณนี่เองที่ไม่ปกติ”
เด็กหญิงตัวน้อยหันศีรษะเล็กน้อย เธอรู้สึกเสมอว่าโจวเจ๋อจงใจพูดคําที่คลุมเครือเช่นนั้น
เธอไม่ตอบคําถามนี้ เพราะไม่ว่าจะตอบคําว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
นอกจากนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็เชื่อว่าโจวเจ๋อมองเห็นมันมาโดยตลอด
ใช่ โจวเจ๋อรู้มาโดยตลอด เพียงแต่เขาคิดว่าหวังเค่อคือคนที่มีงานอดิเรกแบบแปลกๆนั้น ไม่คิดว่าจะเป็นภรรยาของเขาเองที่เป็นคนที่ชอบกิน “เนื้อ”
หวังเค่อเป็นนักจิตวิทยา เขามีหน้าที่ดูแลปัญหาของภรรยาของเขาเอง ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างของเขาจึงเป็นการแสดงเพื่อให้ภรรยาของเขามีความสุข
ผู้ชายที่ประสบความสําเร็จทุกวันเขาต้องกลับบ้านมาเพื่อทาน ‘น้ําซุป’ ที่ภรรยาของเขาทํามิหนําซ้ําเขายังต้องแสดงท่าทางว่ามีความสุขด้วย
โจวเจ๋อไม่รู้ว่าภรรยาของหวังเค่อหา ‘เนื้อ’ พวกนี้มาจากไหน แต่เขารู้ดีว่าหวังเค่อต้องได้รับความทรมานจากการที่กินเนื้อพวกนี้ทุกวันแน่นอน
“มัดเธอไว้ จากนั้นก็เฝ้าเธออย่าให้เกิดอะไรขึ้น” โจวเจ๋อพูดกับไปยิ่ง
ไปยิ่งพยักหน้าจากนั้นก็ลากภรรยาของหวังเค่อเข้าไปในห้องทํางานของเขา
เหล่าเต๋ตรวจดูอาการบาดเจ็บของหวังเค่อ ก่อนจะอุ้มเขาขึ้นมาวางไว้บนโซฟาในห้องรับแขก
โจวเจ๋อไม่ต้องการพาหวังเค่อไปที่โรงพยาบาลโดยตรงไม่เช่นนั้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ภรรยาของเขาจะไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช
หวังเค่อควรมีทางเลือกของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของภรรยา
โจวเจ๋อไม่จําเป็นต้องสร้างปัญหาและตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้โจวเจ๋อยังไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเองเกี่ยวกับตํารวจอีกด้วย
แม้ว่าหวังเค่อจะอยู่ในอาการโคม่าและได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ปัญหาก็ไม่ใหญ่มาก เขาควรจะตื่นขึ้นในไม่ช้า ถึงเวลานั้นเขาจะคิดเอาเองว่าควรทํายังไง
ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้โจวเจ๋อยังมีอีกเรื่องที่ต้องแก้
เขานิ้วเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา ท่ามกลางการดิ้นรนของเธอ
ในอดีตเด็กหญิงตัวน้อยเคยขอให้โจวเจ๋ออุ้มเธอขึ้นมา แต่นั่นเป็นเพราะเธอต้องการอยู่ในระดับเดียวกับโจวเจ๋อและเธอมีอํานาจในการตัดสินชีวิตของเขาได้
ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างพลิกกลับ คราวนี้โจวเจ๋อเป็นคนที่ควบคุมความเป็นความตายของเธอ เมื่อเธอพยายามดิ้นรนโจวเจ๋อจึงหวดก้นเธอเบาๆไปครั้งหนึ่ง
“แกกล้าตีกันฉัน”
“ผมตีกันคุณแล้วยังไง”
โจวเจ๋ออุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นไปชั้นบน เหล่าเตยืนอยู่ที่บันไดและมองไปที่โจวเจ๋อที่นิ้วเด็กหญิงตัวน้อยเดินขึ้นไปด้วยมือเดียว
ใบหน้าของชายชรากําลังดิ้นรนและเจ็บปวด เธอยังเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่คิดว่าเจ้านายจะเป็นสัตว์ร้ายถึงขนาดนี้
ถ้าโจวเจ๋อรู้ว่าเหล่าเด็กําลังคิดอะไรอยู่ เขาคงไม่ลังเลที่จะทําให้ร่างกายของชายชรามีรูเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย