57 – ยังคงไม่เปลี่ยนไป
“ฮ่าฮ่า ความรักระหว่างครูกับลูกศิษย์” ไป๋อิ่งที่เปลี่ยนชุดสีขาวพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “เจ้านาย ฉันจะทำอย่างไรดี”
“หยิบแว่นให้ผมหน่อย” โจวเจ๋อพูดพร้อมกับดึงถุงมือ
“แว่นตา?”ไป๋อิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง
“แล้วผมจะแสดงให้คุณดูเอง”
โจวเจ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆความรู้สึกที่คุ้นเคยของเขากลับมาแล้ว
…………
“หมอในยุคปัจจุบันนั้นแตกต่างจากหมอในยุคที่ฉันเคยอยู่ “ไป๋อิ่งในชุดพยาบาลค่อนข้างอึดอัด
“ก็นะ” โจวเจ๋อไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
“ฉันไม่รู้อะไรเลย” ไป๋อิ่งพูดด้วยอารมณ์: “ฉันออกห่างจากโลกมนุษย์ไปนานเกินไป หลังจากนี้ฉันต้องศึกษาหลายอย่างเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ธรรมดาได้” ไป๋อิ่งตั้งเป้าหมายในชีวิต
ไป๋อิ่งนั้นแลบลิ้นออกมาแล้วพูดว่า “เจ้านาย หมอแบบไหนที่คุณเคยเป็น ฉันได้ยินมาว่าการเป็นสูตินรีแพทย์เป็นเรื่องดี”
“ตอนอยู่ในโลงศพคุณอ่านนิยายด้วยเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“อะไรนะ?” ไป๋อิ่งไม่ค่อยรู้จัก
โจวเจ๋อยิ้มและกล่าวว่า
“เฉพาะคนนอกวงการหรือพวกอ่านนิยายบ่อยๆเท่านั้นถึงคิดว่าสาขาสูตินารีเป็นเรื่องที่ดี”
ในเวลานี้ลิฟต์เปิดออกและรถเปลก็ถูกผลักออกมาโดยหมอฝึกหัดและพยาบาลหลายคน
โจวเจ๋อเดินไปทันทีและถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
เด็กฝึกงานตอบตามสัญชาตญาณว่า
“ผู้ป่วยหมดสติครับ”
โจวเจ๋อใช้มือของเขาเปิดตาของผู้ป่วยพร้อมกับใช้ไฟฉายส่อง เมื่อเห็นสถานการณ์ของผู้ได้รับบาดเจ็บเขาก็ตะโกนออกมาทันที
“กู้สัญญาณชีพด่วน!”
ในเวลานี้เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลหลายคนผลักรถเปลเข้าไปข้างในห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยจำนวนมากและสมาชิกในครอบครัวที่อยู่บนทางเดินนั้นทำได้เพียงตามมาอย่างเร่งรีบเท่านั้น
“ออกไปให้พ้นทาง!” โจวเจ๋อตะโกน
หมอหลินที่เพิ่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งเสร็จก็เดินออกมาจากนอกห้องฉุกเฉินอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่แล้วหลังจากที่มองเห็นร่างที่กำลังทำ CPR คนไข้อยู่เธอก็ตกใจ
เธอรีบวิ่งเข้าไปทันที
เขาจะทำอะไร
นี่มันโรงพยาบาล!
เมื่อมาถึงห้องกู้ภัยโจวเจ๋อก็สั่งโดยตรงว่า
“เตรียมพร้อมสำหรับการใส่ท่อช่วยหายใจ!”
“ครับ”
เด็กฝึกงานตอบและพยาบาลที่อยู่รอบๆก็ขานรับคำสั่งก่อนจะรีบออกไปเตรียมอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว
พวกเขาคิดว่าคนรอบข้างรู้จักหมอคนใหม่ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุด
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะเหตุฉุกเฉิน บวกกับน้ำเสียงและคำสั่งของโจวเจ๋อทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเป็นหมอจริงๆ
โจวเจ๋อยืนอยู่ที่หัวเตียงและใส่ท่อช่วยหายใจให้กับผู้ป่วย เขาเหยียดมือไปทางซ้ายแล้วพูดว่า
“ดึงลวดนำทางออกมา”
“ค่ะ” พยาบาลยื่นของให้โจวเจ๋อทันที
ก่อนหน้านั้นเด็กฝึกงานบางคนแทบจะเป็นประสาทไปแล้ว แต่เมื่อคนไข้มาถึงมือของหมอหนุ่มคนนี้ก็ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายไปหมด
นักศึกษาฝึกงานมีทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่เหมาะกับการอยู่คนเดียว พวกเขายังขาดประสบการณ์อีกมากต้องคอยรับคำสั่งของคนที่มีจิตใจสงบและมีประสบการณ์สูงอย่างโจวเจ๋อ
หมอฝึกงานคนนั้นสวมหูฟังและเริ่มฟังตำแหน่งหัวใจก่อนจะส่ายหน้าให้โจวเจ๋อ
โจวเจ๋อกล่าวว่า “คนต่อไปมากดต่อ”
“ค่ะ”
พยาบาลอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆปีนขึ้นเตียงเพื่อมาทำ CPR ต่อจากคนก่อนที่กำลังหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย
ในเวลานี้พยาบาลอีกคนมองไปที่จอภาพข้างๆและพูดว่า
“ไม่ไหวค่ะหมอสัญญาณชีพของคนไข้เต้นอ่อนลงไปเรื่อยๆ”
โจวเจ๋อเงยหัวขึ้น “เตรียมการช็อกไฟฟ้า”
“ให้ผมทำเอง”
เด็กฝึกงานหยิบกรรไกรออกมาแล้วตัดเสื้อผ้าให้คนไข้ทันที โจวเจ๋อเข้ามาแทนที่พยาบาลและเริ่มทำ CPR ด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันเขาพูดว่า
“ชาร์จ 200 จูล”
“พร้อมค่ะ” พยาบาลก็พร้อมทันทีแล้วพูดว่า “ชาร์จเสร็จแล้ว”
ในเวลานี้หมอหลินเปิดม่านและเข้ามา เขาเห็นร่างที่กำลังกู้สัญญาณชีพของคนไข้
ใช่ซูเล่อสามีของเธอเอง
หมอหลินชี้ไปที่โจวเจ๋อด้วยความโกรธ เธอไม่รู้ว่าสามีของเธอเป็นบ้าอะไรเขาพูดกับเธอว่าเขาคือโจวเจ๋อ แม้ว่าเขาอยากจะแกล้งเธอแต่เขาก็ไม่ควรล้อเล่นกับชีวิตคน!
“เตรียมพร้อม หลีกทาง!” โจวเจ๋อเตือนผู้คนรอบตัวเขา
ร่างของหมอหลินสั่นสะท้าน ความรู้สึกคุ้นเคยแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
ภาพที่คุ้นเคย น้ำเสียงที่คุ้นเคย ลีลาที่คุ้นเคย
ในเวลานี้เธอพูดอะไรไม่ออก
หลังจากการช็อกไฟฟ้าครั้งแรกโจวเจ๋อก็ดำเนินการทำ CPR ต่อและสายตาของเขาไม่ละจากจอภาพ
แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นโจวเจ๋อจึงตะโกนออกมา
“อีกครั้ง ชาร์จ 200 จูล!”
“ค่ะ” พยาบาลเตรียมการอีกครั้งแล้วพูดว่า “ชาร์จเรียบร้อยค่ะ”
“ถอยออกไป”
โจวเจ๋อช็อกไฟฟ้าอีกครั้ง
ภายใต้การช็อกไฟฟ้าร่างกายของผู้ป่วยสั่นสะท้าน
หลังจากนั้นเด็กฝึกงานในบริเวณใกล้เคียงก็เปลี่ยนกันขึ้นมาทำ CPR ต่อ
โจวเจ๋อมองไปที่จอภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในที่สุดสัญญาณชีพก็ถูกกู้คืนมาสำเร็จแล้ว
“เอารายงาน ECG มาดูหน่อย” โจวเจ๋อพูดกับเด็กฝึกงานที่อยู่ใกล้ๆ
“ครับ”
เด็กฝึกงานส่งรายงาน ECG ให้โจวเจ๋อ
โจวเจ๋อมองรายงานในมือและพูดว่า
“กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ติดต่อแผนกโรคหัวใจและเตรียมพร้อมสำหรับ PCI ฉุกเฉินทันที”
“ครับหมอ” เด็กฝึกงานปาดเหงื่อและถอนหายใจยาว
ในเวลานี้โจวเจ๋อก็เดินออกจากห้องฉุกเฉินเช่นกัน หมอหลินยืนอยู่ข้างนอก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เชื่อ ตื่นเต้น และหวาดกลัว
โจวเจ๋อจึงดุออกไปว่า
“คุณกำลังทำอะไร ยังมีคนไข้อีกหลายคนรอการช่วยเหลือ! ถ้าอยากร้องไห้ก็ค่อยกลับไปร้องไห้ที่บ้าน
หมอหลินกรีดร้องออกมาทันที เป็นเขาจริงๆ
เธอรีบตรงเข้าไปกอดโจวเจ๋อพร้อมกับซุกหน้าไว้ที่หน้าอกของเขา
โจวเจ๋อตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาเคยจินตนาการถึงปฏิกิริยามากมายของหมอหลินหลังจากที่เขาได้สารภาพแล้ว?
เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะวิ่งเข้ามากอดเขาตรงๆ
โจวเจ๋อสงสัยมาตลอดว่าตัวเขาในชีวิตที่แล้วได้รับความรักจากหมอหลินซึ่งก็คือเสี่ยวหลินคนนั้นได้อย่างไรทั้งที่เขาก็คอยดุด่าเธอตลอด
ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเข้าใจแล้ว หมอลินน่าจะเป็นโรคสตอกโฮล์มแน่ๆ?
ทั้งที่ถูกด่าว่าอยู่ตลอดแต่เธอกลับชอบเขา?
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้หญิงที่มีอาการแบบนี้มักจะมีรสนิยมที่ชอบความรุนแรงบนเตียงตามไปด้วย?
อิอิ