71 – ฉันมาเอาเงินคืน
การสอบเข้าวิทยาลัยสำหรับหญิงสาวเป็นความฝันที่ยากจะไปถึงได้มานานแล้ว เพราะผลงานของเธอย่ำแย่จนเธอสิ้นหวังไปนานแล้ว
ในความเป็นจริงเธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่กล่าวหาว่าอาจารย์ได้พยายามลวนลามเธอและเป็นเหตุให้เขาต้องกระโดดตึกฆ่าตัวตาย
เธอต้องการเรียกเงินกับเขาแค่ไม่กี่หยวนไม่คิดว่าเขาจะหัวโบราณถึงขนาดนี้
ในตอนที่เธอเล่าแผนการออกมาพ่อแม่ของเธอรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก แม่ของเธอปิดร้านถึง 3 วันและอุ้มพ่อที่เป็นอัมพาตรวมทั้งญาติหลายคนไปรวมตัวกันที่หน้าโรงเรียน
สามีภรรยาร้องไห้อย่างขมขื่น นักข่าวเป็นเหมือนฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือดและผู้คนทั่วไปมักให้ความสนใจในเรื่องแบบนี้
เธอไม่คิดว่าผู้คนจะสนใจในเหตุการณ์มากถึงขนาดนี้ มันทำให้เธอรู้สึกตกใจจริงๆ ในตอนแรกเธอคิดจะขู่กรรโชกโรงเรียนเพื่อเอาเงินชดเชยไปซื้อเสื้อผ้าเท่านั้น
อาจารย์สอนภาษาจีนของเธอเป็นคนดีมาก เขารู้ว่าสถานการณ์ของเธอยากลำบากดังนั้นเขาจึงให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธอเป็นประจำ
บางครั้งที่แม่ของเธอหาเงินไม่ทันอาจารย์ยังช่วยออกค่าเล่าเรียนให้ก่อนด้วยซ้ำ บางครั้งแม่ของเธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับการหาเงินอาจารย์ก็ชวนเธอไปกินข้าวที่บ้าน
เคยมีคนนินทาเรื่องของพวกเธออยู่บ่อยครั้งเหมือนกันเพียงแต่ว่าอาจารย์ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเพราะเขารู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันคือความถูกต้อง
แต่แล้ววันหนึ่งอาจารย์ก็จับได้ว่าเธอแอบไปเที่ยวบาร์กับเพื่อนๆในตอนกลางคืนทั้งที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์
ตอนนั้นดูเหมือนว่าอาจารย์จะผิดหวังในตัวเธอมากดังนั้นเขาจึงเลิกให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธออีกต่อไป
เขาไม่เคยจ่ายค่าเทอมล่วงหน้าให้อีก รวมทั้งยังไม่เคยชวนเธอไปกินข้าวที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียว
เรื่องนี้ทำให้เธอโมโหมากเธอจึงไปหาเขาแล้วข่มขู่เอาเงินเพื่อไปซื้อเสื้อผ้าลิปสติกและของใช้อื่นๆ
แต่อาจารย์ของเธอปฏิเสธแม้ว่าเธอจะขู่เรื่องการใส่ร้ายป้ายสีเขาก็ตาม
แม้กระทั่งเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้เธอก็ยังคิดว่าอาจารย์ของเธอหัวโบราณมากเกินไป ในตอนที่เขาถูกสอบความประพฤติโดยคณะกรรมการการศึกษาเขายังตะโกนออกมาว่า
“ผมเชื่อว่าโลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่”
แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?
หลังจากเหตุการณ์อื้อฉาวรั่วไหลออกไปเขาก็ถูกโรงเรียนพักงานเป็นอันดับแรก
แรงกดดันมหาศาลจากความคิดเห็นของสาธารณชนทำให้เขาตกอยู่ในความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
แม้ว่าเขาจะประกาศว่าตัวเองไม่ผิดและเชื่ออย่างนั้น แต่ด้วยแรงกดดันจากคนรอบข้างมันทำให้น้ำเสียงของเขาดูไม่น่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ
ในสายตาของคนภายนอกเขาเป็นเหมือนกับเป็ดที่ตายแล้วแต่ยังคงปากแข็งไม่ยอมรับผิดของตัวเอง
เขาหัวโบราณมากเกินไป สิ่งที่คนภายนอกสนใจไม่ใช่เรื่องความยุติธรรมหรือความถูกต้องอะไรแต่พวกเขาคิดในสิ่งที่พวกเขาต้องการให้มันเป็น
เรื่องอื้อฉาวระหว่างครูและนักเรียนร่วมเป็นสิ่งที่คนทั่วไปชื่นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปทุกคนจึงเชื่อว่ามันเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากนั้นดาราคนหนึ่งก็เสนอตัวออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเธอ นั่นยังรวมไปถึงคณะกรรมการบริหารการศึกษาระดับท้องถิ่นอีกมากมายที่ร่วมเป็นกำลังใจให้เธอ
หลังจากทนรับกับความกดดันมาอย่างยาวนานในที่สุดอาจารย์สอนวิชาภาษาจีนก็กระโดดลงมาจากชั้นบนสุดของอาคารเรียน
นี่เป็นเหมือนการยอมรับไปโดยปริยาย ในที่สุดโรงเรียนก็ได้จ่ายค่าชดเชยให้กับเธอเป็นจำนวนหลายหมื่นหยวน
นี่เป็นชัยชนะของเธอ แล้วเธอรู้สึกยินดีหรือไม่?
ไม่เลย!
หลังจากที่อาจารย์ของเธอได้กระโดดตึกตั้งแต่วันนั้นมันทำให้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เธอเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ทั้งหมด
แต่ความเสียใจของเธอก็อยู่ไม่นาน เมื่อเงินหมดลงเธอรู้สึกว่าเธอต้องหาวิธีหาเงินให้มากกว่านี้ เธอจึงนำเรื่องราวของตัวเองมาเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์กและเปิดรับเงินบริจาค
หลังจากนั้นเธอก็คิดหาวิธีการให้ได้เงินมาง่ายๆแบบนี้อีก เธอทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นลักขโมยหรือแม้กระทั่งขายตัว
อย่างเช่นวันนี้เธอขโมยกระเป๋าเงินของหลินยี่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีกทั้งยังคอยห่วงใยเธออยู่ตลอดด้วย
ในกระเป๋าไม่เพียงแต่จะมีเงินสดเป็นจำนวนมากเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงบัตรเครดิตที่มีวงเงินไม่จำกัดอีกด้วย
รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ “โอ้คนรวย”
จากนั้นเธอก็หยิบเงินห้าพันหยวนในกระเป๋าออกมาแล้วใส่ลงในลิ้นชักเล็กๆที่ล็อกไว้อย่างดี
แม้ว่าในตอนแรกเธอจะรู้สึกผิดแต่ตอนนี้เธอคิดว่ามันเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี เธอได้รับเงินบริจาคมาไม่น้อยอีกทั้งเพื่อนของเธอหลายคนยังคอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอดด้วยความสงสาร
หลังจากล้างเครื่องสำอางเสร็จแล้วเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น วันนี้เธอพร้อมที่จะเขียนเกี่ยวกับชีวิตในแต่ละวันของเธอแล้ว
ตัวอย่างเช่น เธอมีพี่เขยที่เปิดร้านหนังสือ เช่น เธอมีพี่สาวที่เป็นหมอ เช่น เธอมีพ่อที่เป็นผู้บริหารบริษัทยาและเคยทำงานเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล
เธอเขียนว่าวันนี้เธอและเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกอาจารย์ลวนลามได้ไปเที่ยวด้วยกันและถูกวิ่งราวกระเป๋าไปทั้งสองคน
เธอรู้สึกสงสารเพื่อนของเธอมากจึงไปขอเงินพี่เขย 5000 หยวนมาให้เพื่อนของเธอเพื่อเป็นการชดเชยที่เงินหายไป
เพราะเงิน 5000 หยวนสำหรับเธอคือเงินค่าขนมเพียงเล็กน้อยที่พ่อแม่ให้
ในบล็อกประจำตัวของเธอมีแฟนเป็นจำนวนมากที่คอยติดตาม ในทันทีที่เธอส่งข้อความ หลายคนก็เข้ามาตอบและชื่นชมเธอ เธอชอบความรู้สึกนี้ ที่นี่เธอพบชีวิตใหม่ของตัวเอง
แม้กระทั่งบางครั้งเธอก็ไม่สามารถแยกโลกความเป็นจริงและโลกบนอินเทอร์เน็ตออกจากกันได้
เธอคิดว่าเธอคือหลินยี่
แน่นอน บางคนเหน็บแนมว่าเธอดูถูกคนจนเพราะครอบครัวที่ร่ำรวยและฐานะที่ดีของเธอ
เธอตอบอย่างใจเย็นว่า “แล้วใครสนเรื่องนั้น?”
เธอปิดคอมพิวเตอร์พร้อมพักผ่อน การนอนดึกเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของผู้หญิง เธอต้องดูแลใบหน้าของเธอให้ดูสดใสเหมือนกับลูกคนรวยอยู่ตลอดเวลา
พ่อแม่ของเธอยังคงทะเลาะกันไม่หยุด เสียงข้าวของเครื่องใช้ถูกขว้างแตกกระจายไปทั่วห้อง เธอเปิดตู้เย็นและหยิบเอาน้ำขวดหนึ่งก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง
แต่เมื่อเปิดประตูห้องเธอก็พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่บนเตียงของเธอ
เป็นผู้ชาย
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังสูบบุหรี่และขี้บุหรี่ของเขาถูกเขี่ยลงในขวดโลชั่นที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ในราคา 300 หยวน
ชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญกับชายผู้นี้อย่างไร
ในขั้นต้นผู้ชายคนนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอขึ้นมาอีกครั้งและกำลังอ่านเรื่องราวที่เธอเขียนลงในบล็อกส่วนตัว
“คุณกำลังจะทำอะไร?” เธอถามออกมาด้วยความโกรธ
เธอก็รู้จักเขา เธอเพิ่งได้พบกับพี่เขยของหลินยี่ที่เปิดร้านหนังสือ
โจวเจ๋อวางก้นบุหรี่ลงในขวดโลชั่นของเธอพร้อมกับโยนมันไปข้างเตียง
หญิงสาวพยายามทำตัวให้ใจเย็น เธอหยิบบุหรี่ราคาแพงที่เธอเพิ่งซื้อมาและจุดสูบ
โจวเจ๋อมองเธอด้วยรอยยิ้มและพูดว่า
“ฉันมาเอาเงินคืน”