93 – ผมถือว่าคุณเป็นพี่น้อง
ไป๋อิ่งเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว ซูชิงหลางก็นั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นเธอเข้ามาซูชิงหลางก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า
“สองวันนี้มีอะไรผิดปกติกับเจ้านายของคุณ?”
“ฉันว่าเขาปกตินะ”
ไป๋อิ่งนั่งลงและเปิดคอมพิวเตอร์ราวกับว่ามันเป็นคอมพิวเตอร์ที่เธอซื้อมาเอง
“ปกติ?” ซูชิงหลางหัวเราะ “ฮ่าฮ่า” สองครั้ง “คุณไม่รู้หรือว่ามีคนกระโดดตึกลงมาที่หน้าร้านของพวกเราเมื่อคืนนี้ เจ้านายของคุณยืนอยู่ตรงนั้นไม่คิดจะช่วยชีวิตคนยังพอว่าเขายังเอาแต่ทำความสะอาดใบหน้าของตัวเอง!”
“คนคนนั้นจะต้องตายอยู่แล้ว เขาจะเช็ดหน้าตัวเองหรือไม่เธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมา”
ไป๋อิ่งเล่นเกมโดยไม่สนใจ
“เขาเป็นหมอที่มีประสบการณ์ในชาติที่แล้ว เขาไม่ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตคนด้วยซ้ำคุณคิดว่าเขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า!”
“คุณไม่รู้หรือไงว่าเราเป็นผี” ไป๋อิ่งเยาะเย้ยออกมา
“ป๊าววว!”
ขณะนี้หน้าจอคอมพิวเตอร์กะพริบกะทันหัน แล้วหน้าจอก็เป็นสีดำ
ไฟดับอีกครั้ง
“ป๊าป๊าป๊าป๊าป๊าป๊า!”
ไป๋อิ่งกระแทกแป้นพิมพ์ด้วยความโมโหพร้อมกับตะโกน
“แ***เอ้ย ฉันเพิ่งได้ Kar98 กับสโคป 8 มาพอดี อะไรมันจะซวยขนาดนี้ไอ้พวกการไฟฟ้าเฮงซวย!”
ซูชิงหลางรู้สึกเอะใจบางอย่าง เขาจึงรีบวิ่งออกไปหน้าร้านพร้อมกับมองขึ้นไปบนอาคารเมื่อคืน แล้วก็เป็นจริงอย่างที่เขาคิด
ชายชุดขาวคนหนึ่งยืนอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร
ตำรวจจำนวนมากที่อยู่รอบๆต่างตะโกนใส่เขาด้วยความโมโหว่า
“มีคนไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร? รีบลงมาเดี๋ยวนี้”
“ป๊า!”
และซูชิงหลางที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้แต่มองดูชายคนนั้นตกลงมาจากฟากฟ้าโดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับเมื่อคืนไม่ผิดเพี้ยน เขาค่อยๆหลับตาลงด้วยใบหน้าซีดเผือด
เมื่อได้ยินเสียงจากฝูงชนข้างนอก
โจวเจ๋อซึ่งนั่งยองๆอยู่ที่นั่นก็แค่นเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ พื้นกระเบื้องเย็นลงเล็กน้อย แต่ที่เย็นกว่านั้นคือหัวใจของเขา
อ้อ
ลืมไป
เขาไม่มีหัวใจ
เมื่อเปิดเสื้อออกดูโจวเจ๋อก็พบว่าตำแหน่งบาดแผลตรงหัวใจของเขาได้รับการฟื้นฟูแล้ว ใช้เวลาเพียงคืนเดียวมันก็ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์
สิ่งนี้ทำให้โจวเจ๋อสงสัยว่าสิ่งที่เขาพบเจอกับชายชรานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือหัวใจของเขายังอยู่ที่เดิม
เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจ ร่างกายของเขาจึงยังมีชีวิตอยู่ และไม่มีปัญหา
แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์บางอย่างของเขาถูกพรากไป ตัวตนของเมื่อคืนนี้น่าจะรีบไปหาคนตายพร้อมกับซูชิงหลางแม้ว่าปฏิกิริยาแรกของเขาจะระบุว่าคนตายต้องตายไปแล้ว แต่มันก็ไม่ควรเป็นเช่นนั้น
ในตอนที่เขาถูกซูชิงหลางตำหนิเขาก็ยังพูดออกไปว่า
“มันไม่เกี่ยวข้องกับผม”
ในความเป็นจริง ในสภาพของเขาเมื่อคืนนี้เขาฆ่าลิงก่อน จากนั้นชายชราที่เป็นปีศาจคนนั้นก็เชิญเขาร่วมทานอาหารค่ำหลังจากนั้นเขาก็ตกอยู่ในภวังค์
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาเขาก็รู้สึกว่าตัวตนของเขามันไม่ใช่ตัวเองเหมือนกับถูกอะไรครอบงำอยู่
ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปโจวเจ๋อรู้สึกว่าเขาควรจะตายไปดีกว่า
โจวเจ๋อเอามือแตะพื้นถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า
“ต้องแข่งกับเวลาแล้ว”
เขาพูดในใจเสมอว่าอยากพบสิ่งนั้นแต่เนิ่นๆแล้วคว้ามัน โยนลงนรก แล้วทำผลงาน ซึ่งจะทำให้ค่าผลงานของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
แต่เขาก็คิดว่าหากเขาพบเจอกับเจ้าตัวนั้นบางทีเขาอาจจะตายอีกครั้งก็ได้ ตราบใดที่คุณตาย จะมีครั้งที่สองและสาม?
เมื่อผีฆ่าคนจริงๆมันจะยิ่งบ้าคลั่งและได้ใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้โจวเจ๋อมองไปที่ส่วนบนของเพดาน ราวกับว่ามีเส้นสีดำเล็กๆห้อยลงมา
ทันใดนั้นโจวเจ๋อก็ตัวสั่น เขาพบมัน เขาพบมันแล้ว
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้พบมันเมื่อคืนนี้ เพราะว่ามันไม่ได้เข้ามาในร้าน
มันอยู่ด้านบนมันกำลังเฝ้ามองทุกอย่างจากด้านบนตึกนั้น!
มันใช้เส้นด้ายสีดำนี้ในการควบคุมปากกาที่อยู่ในร้าน
นี่เป็นวิธีที่แปลก เป็นวิธีที่เกินความเข้าใจของโจวเจ๋อ
“ชีวิตของแกจะจบลงที่นี่!”
“อ๊าก!…”
โจวเจ๋อที่เพิ่งยืนขึ้นแต่ก็ต้องก้มลงอีกครั้งและใช้มือกุมบริเวณหน้าอกของตัวเอง
อึ!
…………
“คนตายคือเฉินหย่ง” ซูชิงหลางพูดกับโจวเจ๋อที่เพิ่งออกมาจากร้านขณะที่สูบบุหรี่
“ผู้ชายที่จะสารภาพรักเมื่อคืน?” โจวเจ๋อถาม
“ใช่ เขาเอง ฉันเพิ่งพูดคุยกับตำรวจมา เขาน่าจะเพิ่งให้ปากคำเสร็จ ใครจะไปรู้ว่าเขาที่เพิ่งออกมาจากโรงพักจะมากระโดดตึกที่นี่ทันที”
ตำรวจไม่ได้กักขังผู้ต้องสงสัยรายใดรายหนึ่ง ดังนั้นหลังจากที่โจวเจ๋อและซูชิงหลางให้ปากคำเสร็จทุกคนก็ออกมาจากโรงพักในเวลาไล่เลี่ยกัน ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากเมืองในช่วงเวลานี้
“เขาเพิ่งกลับจากสถานีตำรวจแล้วก็มากระโดดตึกที่นี่เลยเหรอ?” โจวเจ๋อถอนหายใจ “เป็นความรักที่เต็มไปด้วยความโชคร้ายจริงๆ”
“คุณพูดจาให้มันดีๆหน่อยได้ไหม ยังไงพวกเขาก็ตายไปแล้ว” ซูชิงหลางพูดกับโจวเจ๋อ “หรือคุณสนใจเฉพาะผลประโยชน์ของตัวเองถ้าอย่างนั้นฉันพอจะมีเงินผีอยู่บ้างเดี๋ยวจะเผาให้คุณ”
“ตามความเห็นของคุณดูเหมือนเงินเป็นรากเหง้าของความชั่วร้าย ทำไมคุณไม่ขายอพาร์ทเมนต์ของคุณที่มีมากกว่า 20 ห้องแล้วบริจาคให้ผู้ยากไร้ล่ะ”
“…………” ซูชิงหลาง
“คุณจะไปกับผมหรือเปล่า” โจวเจ๋อกล่าว
“ที่ไหน?”
โจวเจ๋อชี้ไปที่ตึกสูงทางฝั่งตะวันตกและพูดว่า “ที่นั่น”
มีอาคารสูงหลายแห่งในศูนย์ธุรกิจแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยช่องทางต่างๆ
นี่เป็นหนึ่งในอาคารของกรมการพัฒนาเมือง อาคารแห่งนี้สูงเกินความต้องการของผู้คนมันจึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยของผีไป
ลิฟต์ไม่สามารถใช้งานได้เพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้า โจวเจ๋อและซูชิงหลางทำได้เพียงต้องขึ้นไปทางบันไดเท่านั้น
“ต้องระวังด้วยนะ คนที่กระโดดตึกลงมาทั้งสองคนพวกเขาคงไม่คิดจะกระโดดลงมาเองแน่ๆ” ซูชิงหลางเตือน “เจ้าตัวนั้นมันอยู่ที่นี่แล้วเราจะเข้ามาที่นี่ทำไม”
“มาฆ่ามัน” โจวเจ๋อตอบกลับ
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่ามันอยู่ที่นี่”
“ผมเจอมัน”
พวกเขามาถึงชั้นสี่แล้ว โจวเจ๋อเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองไปที่ร้านของเขา จากนั้นเหยียดนิ้วชี้ออกและเลื่อนไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา
“นั่นหมายความว่าอย่างไร?” ถามซูชิงหลาง
“คุณจะต้องถามออกมาทุกๆ 5 วินาทีเลยหรือยังไง”
“อึก ช่วงนี้คุณใจร้ายจังนะ” ซูชิงหลางบ่น
“เพราะผมปฏิบัติต่อคุณในฐานะพี่น้องไม่ใช่ในฐานะผู้หญิง” โจวเจ๋อเอื้อมมือออกไปและตบไหล่ซูชิงหลาง
“สรุปแล้วมันคือยังไง”
โจวเจ๋อเลื่อนนิ้วแล้วชี้ไปที่ร้านของเขาก่อนจะพูดว่า
“คุณเห็นหรือเปล่าว่านั่นคือร้านของผม เห็นชัดเจนไหม”
“คุณหมายถึงว่าเมื่อคนพวกนั้นเล่นผีปากกาที่ร้านของคุณ พวกเขาเรียกอะไรบางอย่างออกมาได้จริงๆ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เข้ามาใกล้ มันกลับยืนอยู่ในบริเวณที่เรายืนอยู่ตรงนี้เพื่อสังเกตการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างในร้าน แล้วมันก็สามารถควบคุมปากกาให้ชี้ไปที่คุณอย่างนั้นหรือ “
“ใช่แล้ว”
โจวเจ๋อยิ้ม “เจ้าตัวนั้นค่อนข้างจะกล้าหาญ ในตอนที่ถูกสมาคมเรื่องเล่าผีถามว่าพวกเขาจะเจอผีไหมในคืนนี้ เจ้าตัวนั้นไม่ลังเลเลยที่จะชี้ปากกามาที่ผม นั่นแสดงว่ามันไม่ได้กลัวที่จะทำร้ายผม หากมีโอกาสมันจะต้องฆ่าผมอย่างแน่นอน”
” พูดเล่นหรือเปล่า?”
“ไม่เลย ในสายตาของผม มันหมายความว่านี่อาจจะเป็นผีที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก มันเป็นปลาใหญ่ ปลาใหญ่มากพอที่จะไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ยมโลกอย่างผม”
“มันไม่อันตรายเหรอ?” ซูชิงหลางพึมพำ
“นั่นคือเหตุผลที่ผมให้คุณมาด้วย” โจวเจ๋อมองไปที่ซูชิงหลางและพูดว่า “ผมถึงบอกไงว่าผมถือว่าคุณเป็นพี่น้องที่ดีที่สุด ในเมื่อเรามาที่นี่ด้วยกันหากเราตายเราก็ต้องตายด้วยกันคุณไม่คิดว่าดีหรือ?”
“…………” ซูชิงหลาง