Long Live The Hokage – ตอนที่ 25 : 30 นาทีก่อนเริ่มสงคราม

เป็นเรื่องที่น่าตลกที่ ตระกูลขนาดกลางถึง 6 ตระกูล ต่อสู้กันเพื่อแย้งชิงเหมือง แต่จนถึงตอนนี้มันก็ยังเป็นของตระกูลเล็ก ๆ อย่าง ตระกูลซารุโทบิ

พวกเซนจู มาถึงเหมืองและตั้งค่ายที่นั่นทันที แต่ก็ไม่มีตระกูลอื่นเลยนอกจาก ตระกูลเซนจู

กลุ่มพันธมิตรขนาดเล็ก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าพวกเขาจะไม่เข้าร่วมในการต่อสู้ในครั้งนี้ตราบใดที่ ตระกูลซารุโทบิ ยังให้แร่พวกเขาแค่ 10% และถ้าหาก ตระกูลซารุโทบิ ต้องการให้พวกเขาช่วยในสงคราม พวกเขาก็ต้องการส่วนแบ่งเป็นแร่ที่หาได้เป็นจำนวน 30% ของทั้งหมด

เพราะแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะมี ฮาชิรามะ และ ซารุโทบิ อยู่ที่นี่ แต่พวกเขาก็คิดว่า คนแค่ 2 คน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับตระกูล 6 ตระกูลได้

ผลของมันก็คือ ตระกูลเซนจู ย้ายมาตั้งค่ายที่เหมืองเพียงแค่ตระกูลเดียว

เมื่อพวกเขาตั้งค่ายเสร็จ มาซาฮิโกะ ก็เห็น ทหารซารุโทบิ และ ทหารเซนจู นำสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของพวกเขา…พลั่ว?…จากนั้นคนเหล่านั้นก็เริ่มขุดหาแร่เหล็กนำจักระทันที

มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบา ๆ ว่า “นั่นมัน…”

เมื่อเห็น มาซาฮิโกะ แสดงความแปลกใจออกมา ฮาชิรามะ ก็อธิบายว่า “ใช่แล้วครับ พวกเขากำลังขุดหาแร่กันอยู่ ในขณะที่ตระกูลอื่นยังไม่บุกเข้ามา เราก็ใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ สำหรับพลั่วพวกนี้ เราก็เอามันมาก่อนที่เราจะมาที่นี่”

มาซาฮิโกะ รู้สึกแปลกใจและเขาก็สงสัยจนต้องถามออกไปว่า “ถ้าอย่างงั้นแล้วทำไมเอามาแค่นี้ละ?”

“ฮะ? ให้แบกพลั่วมาให้พอกับจำนวนคน…มันเยอะเกินไป เราเอามาไม่ไหวหรอกครับ!”

“เยอะเกินไป? แล้วทำไมไม่ผนึกมันใส่ในคัมภีร์ละ?” ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของเขา เขาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าในยุคนี้ยังไม่มีการคิดค้นคัมภีร์ผนึกขึ้นมาเลย

“คัมภีร์ผนึก? มันคืออะไรเหรอครับ?” ฮาชิรามะ ถามอย่างสงสัย

“เอ้อ…ไม่มีอะไร…” มาซาฮิโกะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง…

“เมื่อพูดถึงมันขึ้นมาแล้ว…คัมภีร์ผนึก ยังไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมา แล้วจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะพัฒนามันขึ้นมาด้วยระดับ วิชาผนึก ของเราในตอนนี้?”

“เอาละ โทบิรามะ , ฉัน และ นินจาคนอื่น ๆ จะช่วยกันขุดหาแร่” ฮาชิรามะ พูด “ส่วนท่านปู่…ท่านไปพักเถอะครับ”

มาซาฮิโกะ อยากใช้เวลานี้สร้างคัมภีร์ผนึก แต่มันก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน และเขาก็ไม่มีอุปกรณ์ที่จะทำมันในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขาขุดแร่

มาซาฮิโกะ เลือกมุมที่ไม่มีใครยืนอยู่ และหยิบพลั่วแล้วก็เริ่มขุด หลังจากนั้นครู่หนึ่งพลั่วก็แตก

หลังจากขุดจนพลั่วหักไป 3 อัน มาซาฮิโกะ ก็ทำมันได้ดีขึ้น และเขาก็อดคิดไม่ได้ที่จะทำบางอย่าง

“ไม่มีทาง…!”

มาซาฮิโกะ มองไปที่แถบสถานะของเขา แล้วเขาก็พบว่ามีค่าสถานะใหม่เพิ่มขึ้นมา 1 สถานะ

 

การขุด LV1 (1/100)

 

ทักษะ…การขุด? เขารู้สึกท้อแท้ขึ้นมาทันที

“เพื่อ!!”

แต่เมื่อค่าสถานะปรากฏขึ้นมาแล้ว และมันก็น้อยมาก ทำให้ มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะใช้แต้มการเข้าร่วม 4 เพื่อเพิ่มให้มัน…

 

การขุด LV6 (10,000/20000)

 

ทันใดนั้น ค่าทักษะการขุด ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น LV6!

ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็ขุดอย่างบ้าคลั่งจนเหมือนกับเทพเจ้ากำลังช่วยเขาขุดอยู่ และทุกที่ที่เขาขุดด้วยพลั่วของเขากองแร่ก็จะปรากฏขึ้น!

เขามองไปที่ ฮาชิรามะ ด้วยความตื่นเต้น…แต่เขาก็พบว่า ฮาชิรามะ ขุดแร่ได้เยอะจนกลายเป็นกองขนาดใหญ่แล้ว

เมื่อเห็นแบบนั้น มาซาฮิโกะ ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แล้เขาก็ขุดต่อไปจนค่ำ จนใจที่สุด กองแร่ของเขาก็ใหญ่กว่ากองแร่ของ ตระกูลเซนจู ทั้งหมดรวมกัน…

ตราบใดที่เขาสามารถเอาชนะ เทพเจ้าแห่งนินจา ได้ แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องขุดแร่ มันก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน

ทันทีที่ผู้นำตระกูลอื่นได้รับข้อมูลมาว่า ตระกูลเซนจู ได้เข้าร่วมกับ ตระกูลซารุโทบิ และได้ตั้งค่ายที่เหมืองเรียบร้อยแล้ว ผู้นำตระกูลของทั้ง 6 ตระกูลก็มาประชุมกันที่ค่ายของ ตระกูลนารา ทันที

“อะไรน่ะ? พวกเซนจู งั้นเหรอ?!” ผู้นำตระกูลอินุซึกะ พูดด้วยความประหลาดใจ “พวกมันได้ครอบครองดินแดนอันเขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ในฝั่งตะวันออกยังไม่พอ พวกมันยังจะอยากได้เหมืองนี้ด้วยงั้นเหรอ?! ผู้นำตระกูลนารา ท่านคิดว่าเราควรทำยังไงดี?”

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่พวกเขาก็เชื่อในความสามารถในด้านการวางแผนกลยุทธ์ของ ตระกูลนารา

“การที่ ตระกูลเซนจู ยื่นมือเข้ามายุ่ง…มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด” ผู้นำตระกูลนารา พูดอย่างช้า ๆ “ดูอย่างพวกเราสิ มันทำให้พวกเราทั้ง 6 ตระกูล ที่เกือบจะห้ำหั่นกันเอง ได้กลายมาเป็นพันธมิตรกัน”

“ในขณะเดียวกัน ตระกูลเซนจู ก็ไม่ได้มีพันธมิตรมากมายนัก แถมพวกเขาก็ยังมีความขัดแย้งกับ ตระกูลอุจิฮะ อยู่อีกด้วย ดังนั้นหากพวกเราทั้ง 6 ตระกูลร่วมมือกัน พวกเราจะไม่มีทางพ่ายแพ้ ตระกูลเซนจู อย่างแน่นอน”

“พวกเขามีกองทัพแค่เพียงหยิบมือ ฉันตรวจจับจักระของพวกเขาได้ไม่ถึง 1,000 คนด้วยซ้ำ แต่ 3 คนในพวกเขา…มีจักระจำนวนมหาศาล…จักระของพวกเขาทั้ง 3…มากกว่าพวกเราหลายเท่าเลยทีเดียว” ผู้นำตระกูลยามานากะ พูด

“นั่นจะต้องเป็น ฮาชิรามะ และ โทบิรามะ อย่างแน่นอน และแน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเราอยู่แล้ว ส่วนอีกคนหนึ่ง…น่าจะเป็นคนของ ตระกูลอุซึมากิ แต่เราก็ไม่น่าจะจัดการกับเขาได้ยากสักเท่าไรนัก” ผู้นำตระกูลอาคิมิจิ พูด

“นี่คือเหตุผลที่เราต้องร่วมมือกันขับไล่พวกมันออกไป…ใช่ไหม?”

“ฉันไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย…แต่ว่าท่านพูดถูก แม้ว่าพวกเราจะมาจากคนละตระกูลกัน แต่เมื่อมีคนนอกเข้ามารุกล้ำดินแดนของเรา พวกเราก็ต้องช่วยกันปกป้องดินแดนของเราเอาไว้! แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าเรา แต่เมื่อพวกเรารวมกันก็จะไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้!”

จากนั้น ผู้นำตระกูลนารา ก็พูดว่า “เรามีกองทัพถึง 6 กองทัพ และคนของเราก็มีมากกว่าพวกเขาอย่างน้อยก็ 3 เท่า พวกเขาไม่มีทางรับมือกับกองทัพทั้งหมดของเราได้อย่างแน่นอน!”

“สำหรับคนที่น่าจะเป็น คนของตระกูลอุซึมากิ เขาก็มีจักระที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน เป็นไปได้ว่าเขาจะเป็น ผู้นำตระกูลอุซึมากิ ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านช่วยจัดการกับเขาได้ไหม ท่านผู้นำตระกูลฮาตาเคะ”

ตระกูลฮาตาเคะ นั้น มีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในบรรดาตระกูลทั้ง 6 ตระกูลนี้ พวกเขามีจำนวนแค่ไม่ถึง 100 คนซึ่งนับว่าน้อยมาก แต่พวกเขาก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นตระกูลระดับกลาง เพราะทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้นของพวกเขา และผู้นำตระกูลของพวกเขาก็แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้นำของทั้ง 6 ตระกูล

ตั้งแต่เริ่มต้นการประชุม ผู้นำตระกูลฮาตาเคะ ก็นั่งอยู่ตรงหัวมุมพร้อมกับดาบที่สะพายอยู่ด้านหลังโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเข้าร่วมกลุ่มในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการมัน แต่เป็นเพราะ ตระกูลอาบุราเมะ และ ตระกูลอินุซึกะ สัญญากับเขาว่าจะแบ่งแร่และอาวุธคุณภาพสูงให้แก่เขาถ้าเขายอมเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

เมื่อได้ยิน ผู้นำตระกูลนารา ของมาแบบนั้น ผู้นำตระกูลฮาตาเคะ ก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ จากนั้นเขาก็กลับไปสู่ความเสียงเช่นเดิม

“ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องเป็นห่วงอีก วันนี้เราจะรวบรวมคนของเรา และพรุ่งนี้…สงครามครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคก็จะเปิดฉากขึ้น!” ตระกูลอินุซึกะ พูด

“ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้นหรอก…” ผู้นำตระกูลนารา พูดขึ้นมาทันที “ตอนนี้ พวกเซนจู คงจะกำลังขุดเหมืองอยู่ เรามีเวลาเหลือมากพอในการเตรียมการให้พร้อมและให้คนของเราพักผ่อนให้เต็มที่…เราก็จะโจมตีพวกเขาตอนที่พวกเขากำลังขนแร่กลับ แล้วชิงแร่พวกนั้นมาเป็นของเรา! พวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนนี้พวกเขากำลังขุดแร่ให้เราอยู่!”

ผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจในสิ่งที่ ผู้นำตระกูลนารา พูด เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้นำตระกูลอาคิมิจิ และ ผู้นำตระกูลยามานากะ ก็มองหน้ากันและพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า “ในที่สุด สุนัขจิ้งจอกแก่แห่งตระกูลนารา ก็ออกมาแล้วสินะ!”

ไม่มีใครคัดค้านความคิดนี้ เพราะทุกคนก็คิดแบบเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นจริงอย่างที่ ผู้นำตระกูลนารา พูด

ในช่วงสงครามแบบนี้ การมีเวลาเตรียมตัวเพิ่มอีก 2 – 3 วัน ย่อมให้ความแตกต่างเป็นอย่างมาก

ดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยให้ ตระกูลเซนจู ขุดแร่อย่างมีความสุขไปอีกครึ่งเดือน…

เวลาผ่านไปทั้ง 6 ตระกูลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาโจมตีแต่อย่างใด ทำให้ ฮาชิรามะ คิดว่าบางทีพวกเขาอาจจะเลิกคิดเรื่องที่จะแย่งชิงเหมืองนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมคนของเขาให้พร้อมสำหรับออกเดินทางกลับ

ทันใดนั้น ก็ใครบางคนวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางกระเสือกกระสนพร้อมกับข้อความบางอย่าง

และข้อความนั่นก็คือ กองทัพของ 6 ตระกูล กำลังใกล้เข้ามา และตอนนี้กองทัพนั้นก็อยู่ห่างไปเพียงแต่ 30 นาทีเท่านั้น!

Long Live The Hokage

Long Live The Hokage

Type: Author:
After Reincarnating into Naruto World at the Warring State Era as an Uzumaki, Masahiko thought that he got a useless System. He lived for 48 years as a normal, below average Uzumaki Shinobi. That changed when he finally knew how the system works the day of his 49th Birthday! นิยายแนว : แอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี ศิลปะการต่อสู้ นินจา เรื่องย่อ : เจิง หยาน ผู้บ้าคลั่งในการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ เป็นอย่างมาก เขาได้กลับชาติมาเกิดในโลกของ นารูโตะ ในยุคก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น และเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ตระกูลอูซิมากิ และมีชื่อใหม่ว่า อุซึมากิ มาซาฮิโกะ มาซาฮิโกะ เกิดมาในโลกนี้พร้อมกับระบบไร้สาระอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาอายุได้ 48 ปี เขาก็พบว่าระบบนั้นไม่ใช่ระบบธรรมดา ตลอดเวลาที่ผ่านมาในชีวิตใหม่นี้ เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าและทำความผิดพลาดมามากมายจนถึงอายุ 48 ปี แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ได้โอกาสอีกครั้งจาก ระบบพิเศษ นั้น และมันก็เริ่มทำงานและเปลี่ยนแปลงชีวิตในวันเกิดปีที่ 49 ของเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset