เป็นเรื่องที่น่าตลกที่ ตระกูลขนาดกลางถึง 6 ตระกูล ต่อสู้กันเพื่อแย้งชิงเหมือง แต่จนถึงตอนนี้มันก็ยังเป็นของตระกูลเล็ก ๆ อย่าง ตระกูลซารุโทบิ
พวกเซนจู มาถึงเหมืองและตั้งค่ายที่นั่นทันที แต่ก็ไม่มีตระกูลอื่นเลยนอกจาก ตระกูลเซนจู
กลุ่มพันธมิตรขนาดเล็ก ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจว่าพวกเขาจะไม่เข้าร่วมในการต่อสู้ในครั้งนี้ตราบใดที่ ตระกูลซารุโทบิ ยังให้แร่พวกเขาแค่ 10% และถ้าหาก ตระกูลซารุโทบิ ต้องการให้พวกเขาช่วยในสงคราม พวกเขาก็ต้องการส่วนแบ่งเป็นแร่ที่หาได้เป็นจำนวน 30% ของทั้งหมด
เพราะแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะมี ฮาชิรามะ และ ซารุโทบิ อยู่ที่นี่ แต่พวกเขาก็คิดว่า คนแค่ 2 คน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับตระกูล 6 ตระกูลได้
ผลของมันก็คือ ตระกูลเซนจู ย้ายมาตั้งค่ายที่เหมืองเพียงแค่ตระกูลเดียว
เมื่อพวกเขาตั้งค่ายเสร็จ มาซาฮิโกะ ก็เห็น ทหารซารุโทบิ และ ทหารเซนจู นำสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของพวกเขา…พลั่ว?…จากนั้นคนเหล่านั้นก็เริ่มขุดหาแร่เหล็กนำจักระทันที
มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบา ๆ ว่า “นั่นมัน…”
เมื่อเห็น มาซาฮิโกะ แสดงความแปลกใจออกมา ฮาชิรามะ ก็อธิบายว่า “ใช่แล้วครับ พวกเขากำลังขุดหาแร่กันอยู่ ในขณะที่ตระกูลอื่นยังไม่บุกเข้ามา เราก็ใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ สำหรับพลั่วพวกนี้ เราก็เอามันมาก่อนที่เราจะมาที่นี่”
มาซาฮิโกะ รู้สึกแปลกใจและเขาก็สงสัยจนต้องถามออกไปว่า “ถ้าอย่างงั้นแล้วทำไมเอามาแค่นี้ละ?”
“ฮะ? ให้แบกพลั่วมาให้พอกับจำนวนคน…มันเยอะเกินไป เราเอามาไม่ไหวหรอกครับ!”
“เยอะเกินไป? แล้วทำไมไม่ผนึกมันใส่ในคัมภีร์ละ?” ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของเขา เขาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าในยุคนี้ยังไม่มีการคิดค้นคัมภีร์ผนึกขึ้นมาเลย
“คัมภีร์ผนึก? มันคืออะไรเหรอครับ?” ฮาชิรามะ ถามอย่างสงสัย
“เอ้อ…ไม่มีอะไร…” มาซาฮิโกะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง…
“เมื่อพูดถึงมันขึ้นมาแล้ว…คัมภีร์ผนึก ยังไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมา แล้วจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะพัฒนามันขึ้นมาด้วยระดับ วิชาผนึก ของเราในตอนนี้?”
“เอาละ โทบิรามะ , ฉัน และ นินจาคนอื่น ๆ จะช่วยกันขุดหาแร่” ฮาชิรามะ พูด “ส่วนท่านปู่…ท่านไปพักเถอะครับ”
มาซาฮิโกะ อยากใช้เวลานี้สร้างคัมภีร์ผนึก แต่มันก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน และเขาก็ไม่มีอุปกรณ์ที่จะทำมันในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขาขุดแร่
มาซาฮิโกะ เลือกมุมที่ไม่มีใครยืนอยู่ และหยิบพลั่วแล้วก็เริ่มขุด หลังจากนั้นครู่หนึ่งพลั่วก็แตก
หลังจากขุดจนพลั่วหักไป 3 อัน มาซาฮิโกะ ก็ทำมันได้ดีขึ้น และเขาก็อดคิดไม่ได้ที่จะทำบางอย่าง
“ไม่มีทาง…!”
มาซาฮิโกะ มองไปที่แถบสถานะของเขา แล้วเขาก็พบว่ามีค่าสถานะใหม่เพิ่มขึ้นมา 1 สถานะ
การขุด LV1 (1/100)
ทักษะ…การขุด? เขารู้สึกท้อแท้ขึ้นมาทันที
“เพื่อ!!”
แต่เมื่อค่าสถานะปรากฏขึ้นมาแล้ว และมันก็น้อยมาก ทำให้ มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะใช้แต้มการเข้าร่วม 4 เพื่อเพิ่มให้มัน…
การขุด LV6 (10,000/20000)
ทันใดนั้น ค่าทักษะการขุด ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น LV6!
ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็ขุดอย่างบ้าคลั่งจนเหมือนกับเทพเจ้ากำลังช่วยเขาขุดอยู่ และทุกที่ที่เขาขุดด้วยพลั่วของเขากองแร่ก็จะปรากฏขึ้น!
เขามองไปที่ ฮาชิรามะ ด้วยความตื่นเต้น…แต่เขาก็พบว่า ฮาชิรามะ ขุดแร่ได้เยอะจนกลายเป็นกองขนาดใหญ่แล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้น มาซาฮิโกะ ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แล้เขาก็ขุดต่อไปจนค่ำ จนใจที่สุด กองแร่ของเขาก็ใหญ่กว่ากองแร่ของ ตระกูลเซนจู ทั้งหมดรวมกัน…
ตราบใดที่เขาสามารถเอาชนะ เทพเจ้าแห่งนินจา ได้ แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องขุดแร่ มันก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
…
ในขณะเดียวกัน
ทันทีที่ผู้นำตระกูลอื่นได้รับข้อมูลมาว่า ตระกูลเซนจู ได้เข้าร่วมกับ ตระกูลซารุโทบิ และได้ตั้งค่ายที่เหมืองเรียบร้อยแล้ว ผู้นำตระกูลของทั้ง 6 ตระกูลก็มาประชุมกันที่ค่ายของ ตระกูลนารา ทันที
“อะไรน่ะ? พวกเซนจู งั้นเหรอ?!” ผู้นำตระกูลอินุซึกะ พูดด้วยความประหลาดใจ “พวกมันได้ครอบครองดินแดนอันเขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ในฝั่งตะวันออกยังไม่พอ พวกมันยังจะอยากได้เหมืองนี้ด้วยงั้นเหรอ?! ผู้นำตระกูลนารา ท่านคิดว่าเราควรทำยังไงดี?”
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่พวกเขาก็เชื่อในความสามารถในด้านการวางแผนกลยุทธ์ของ ตระกูลนารา
“การที่ ตระกูลเซนจู ยื่นมือเข้ามายุ่ง…มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด” ผู้นำตระกูลนารา พูดอย่างช้า ๆ “ดูอย่างพวกเราสิ มันทำให้พวกเราทั้ง 6 ตระกูล ที่เกือบจะห้ำหั่นกันเอง ได้กลายมาเป็นพันธมิตรกัน”
“ในขณะเดียวกัน ตระกูลเซนจู ก็ไม่ได้มีพันธมิตรมากมายนัก แถมพวกเขาก็ยังมีความขัดแย้งกับ ตระกูลอุจิฮะ อยู่อีกด้วย ดังนั้นหากพวกเราทั้ง 6 ตระกูลร่วมมือกัน พวกเราจะไม่มีทางพ่ายแพ้ ตระกูลเซนจู อย่างแน่นอน”
“พวกเขามีกองทัพแค่เพียงหยิบมือ ฉันตรวจจับจักระของพวกเขาได้ไม่ถึง 1,000 คนด้วยซ้ำ แต่ 3 คนในพวกเขา…มีจักระจำนวนมหาศาล…จักระของพวกเขาทั้ง 3…มากกว่าพวกเราหลายเท่าเลยทีเดียว” ผู้นำตระกูลยามานากะ พูด
“นั่นจะต้องเป็น ฮาชิรามะ และ โทบิรามะ อย่างแน่นอน และแน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเราอยู่แล้ว ส่วนอีกคนหนึ่ง…น่าจะเป็นคนของ ตระกูลอุซึมากิ แต่เราก็ไม่น่าจะจัดการกับเขาได้ยากสักเท่าไรนัก” ผู้นำตระกูลอาคิมิจิ พูด
“นี่คือเหตุผลที่เราต้องร่วมมือกันขับไล่พวกมันออกไป…ใช่ไหม?”
“ฉันไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย…แต่ว่าท่านพูดถูก แม้ว่าพวกเราจะมาจากคนละตระกูลกัน แต่เมื่อมีคนนอกเข้ามารุกล้ำดินแดนของเรา พวกเราก็ต้องช่วยกันปกป้องดินแดนของเราเอาไว้! แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าเรา แต่เมื่อพวกเรารวมกันก็จะไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้!”
จากนั้น ผู้นำตระกูลนารา ก็พูดว่า “เรามีกองทัพถึง 6 กองทัพ และคนของเราก็มีมากกว่าพวกเขาอย่างน้อยก็ 3 เท่า พวกเขาไม่มีทางรับมือกับกองทัพทั้งหมดของเราได้อย่างแน่นอน!”
“สำหรับคนที่น่าจะเป็น คนของตระกูลอุซึมากิ เขาก็มีจักระที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน เป็นไปได้ว่าเขาจะเป็น ผู้นำตระกูลอุซึมากิ ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านช่วยจัดการกับเขาได้ไหม ท่านผู้นำตระกูลฮาตาเคะ”
ตระกูลฮาตาเคะ นั้น มีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในบรรดาตระกูลทั้ง 6 ตระกูลนี้ พวกเขามีจำนวนแค่ไม่ถึง 100 คนซึ่งนับว่าน้อยมาก แต่พวกเขาก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นตระกูลระดับกลาง เพราะทักษะการต่อสู้ที่เหนือชั้นของพวกเขา และผู้นำตระกูลของพวกเขาก็แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้นำของทั้ง 6 ตระกูล
ตั้งแต่เริ่มต้นการประชุม ผู้นำตระกูลฮาตาเคะ ก็นั่งอยู่ตรงหัวมุมพร้อมกับดาบที่สะพายอยู่ด้านหลังโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเข้าร่วมกลุ่มในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการมัน แต่เป็นเพราะ ตระกูลอาบุราเมะ และ ตระกูลอินุซึกะ สัญญากับเขาว่าจะแบ่งแร่และอาวุธคุณภาพสูงให้แก่เขาถ้าเขายอมเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้
เมื่อได้ยิน ผู้นำตระกูลนารา ของมาแบบนั้น ผู้นำตระกูลฮาตาเคะ ก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ จากนั้นเขาก็กลับไปสู่ความเสียงเช่นเดิม
“ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องเป็นห่วงอีก วันนี้เราจะรวบรวมคนของเรา และพรุ่งนี้…สงครามครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคก็จะเปิดฉากขึ้น!” ตระกูลอินุซึกะ พูด
“ไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้นหรอก…” ผู้นำตระกูลนารา พูดขึ้นมาทันที “ตอนนี้ พวกเซนจู คงจะกำลังขุดเหมืองอยู่ เรามีเวลาเหลือมากพอในการเตรียมการให้พร้อมและให้คนของเราพักผ่อนให้เต็มที่…เราก็จะโจมตีพวกเขาตอนที่พวกเขากำลังขนแร่กลับ แล้วชิงแร่พวกนั้นมาเป็นของเรา! พวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนนี้พวกเขากำลังขุดแร่ให้เราอยู่!”
ผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจในสิ่งที่ ผู้นำตระกูลนารา พูด เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้นำตระกูลอาคิมิจิ และ ผู้นำตระกูลยามานากะ ก็มองหน้ากันและพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า “ในที่สุด สุนัขจิ้งจอกแก่แห่งตระกูลนารา ก็ออกมาแล้วสินะ!”
ไม่มีใครคัดค้านความคิดนี้ เพราะทุกคนก็คิดแบบเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นจริงอย่างที่ ผู้นำตระกูลนารา พูด
ในช่วงสงครามแบบนี้ การมีเวลาเตรียมตัวเพิ่มอีก 2 – 3 วัน ย่อมให้ความแตกต่างเป็นอย่างมาก
ดังนั้น พวกเขาจึงปล่อยให้ ตระกูลเซนจู ขุดแร่อย่างมีความสุขไปอีกครึ่งเดือน…
เวลาผ่านไปทั้ง 6 ตระกูลก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาโจมตีแต่อย่างใด ทำให้ ฮาชิรามะ คิดว่าบางทีพวกเขาอาจจะเลิกคิดเรื่องที่จะแย่งชิงเหมืองนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมคนของเขาให้พร้อมสำหรับออกเดินทางกลับ
ทันใดนั้น ก็ใครบางคนวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางกระเสือกกระสนพร้อมกับข้อความบางอย่าง
และข้อความนั่นก็คือ กองทัพของ 6 ตระกูล กำลังใกล้เข้ามา และตอนนี้กองทัพนั้นก็อยู่ห่างไปเพียงแต่ 30 นาทีเท่านั้น!