Long Live The Hokage Chapter 40 : อย่าทําอย่างนั้น!
2 ปีต่อมา
“2322, 2323, 2324. ถ้าทําไม่ถึง 5000 ครั้งละก็ เราต้องลุกนั่งอีก 10,000 ครั้ง!”
อย่าเข้าใจผิด นี่คือการฝึกของมาซาฮิโกะ ไม่ใช่เคนชิโร่
1 ปีที่แล้ว มาซาฮิโกะแพ้ให้กับเคนิชิโร่ ในการฝึกซ้อมของพวกเขาโดยบังเอิญ ดังนั้นเพื่อเรียกเกียรติของเขาคืนมา เขาจึงต้องเริ่มฝึกฝนความแข็งแกร่งของตัวเอง
แม้ว่าเขาจะไม่คุ้นเคยในตอนแรก แต่ก็ไม่ได้ทําให้ชาวบ้านหยุด ความตกใจของพวกเขาได้เลย เพราะสิ่งที่พวกเขารู้ก็คือตอนนี้ มาซาฮิโกะอายุ 63 ปี และการฝึกฝนร่างกายหนักขนาดนี้ แม้แต่วัยรุ่นก็ยังทําไม่ได้เลย แต่ในความเป็นจริงแล้วตอนนี้อายุของมาซาฮิโกะ เหลืออยู่ประมาณแค่ 22 ปีแล้ว และร่างกายของเขาก็สามารถทนต่อการฝึกฝนแบบนี้ได้อย่างสบายๆ
“อาจารย์ครับ! ผมทําได้แล้วครับ!” เคนชิโร่ตะโกนเสียงดังมาตั้งแต่ไกล พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มาซาฮิโกะ หยุดฝึก และด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “เร็วจริง ๆ…”
สิ่งที่เคนิชิโร่กําลังฝึกฝนคือวิชาใหม่ที่มาซาฮิโกะเพิ่งสอนให้เขา นั่นก็คือพันปักษา
ที่จริงแล้ว มาซาฮิโกะก็ไม่ได้คิดที่จะสอนวิชานี้ให้เขาเร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะหลังจากที่เริ่มฝึกซ้อมกับเคนชิโร่ เขาก็พบว่า…ความแข็งแกร่งด้านร่างกายของเขาไม่สามารถเทียบได้กับเคนชิโร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถฝึกให้เคนชิโร่ได้อีกต่อไป
แต่ก็เป็นเรื่องดีสําหรับมาซาฮิโกะ ที่บังเอิญว่าการที่มาซาฮิโกะสอนพันปักษาให้เคนชิโร่ ทําให้เคนชิโร่ หยุดการฝึกร่างกายและหันเหความสนใจไปให้กับการฝึกพันปักษาแทน
แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่ามาซาฮิโกะจะไม่ได้ชี้แนะแนวทางในการฝึกฝนพันปักษาให้กับเคนชิโร่เท่าไรนัก แต่เคนชิโร่ก็สามารถฝึกพันปักษาจนเชี่ยวชาญได้ในเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น
ในฐานะอาจารย์ มันเป็นเรื่องที่น่าละอายที่ตัวอาจารย์นั้นอ่อนแอกว่าลูกศิษย์
แม้ว่าในใจมาซาฮิโกะจะรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามซ่อนมันไว้และตอบกลับด้วยสีหยอกล้อ “เธอจะดีใจอะไร! ลืมไปหรือเปล่าว่ายูริโกะทํากระสุนวงจักรได้ในเวลาแค่ 3 วัน ทั้งๆที่ยูริโกะอายุน้อยกว่าเธอ!”
“ครับอาจารย์! ผมจะฝึกให้หนักขึ้นครับ!” เคนิชิโร่ตะโกนออกมาเสียงดัง จากนั้นเขาก็รีบลงไปวิดพื้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นแบบนั้นใบหน้าของมาซาฮิโกะ ก็ซีดขึ้นมาทันที เขาคิดกับตัวเองว่า “แย่ละ ถ้าเขาฝึกหนักกว่านี้ เราคงจะกลายเป็นตัวตลกของตระกูลอีกแน่เลย…”
เขาพูดออกมาในทันทีว่า “พักการฝึกร่างกายเอาไว้ก่อน เธอลืมเรื่องการฝึกอีกรูปแบบหนึ่งของพันปักษาแล้วหรือไง?”
เคนิชิโร่ หยุดวิดพื้นและเด้งตัวขึ้นมาทันที “จําได้ครับ คาถาตัดสายฟ้า ผมจะเริ่มฝึกทันทีครับ!”
มาซาฮิโกะมองไปที่เคนชิโร่ที่รีบวิ่งไปฝึกวิชาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะการอยู่ท่ามกลางอัจฉริยะมักจะทําให้ผู้คนรู้สึกเครียดอยู่เสมอ และไม่ใช่แค่เคนชิโร่คนเดียวเท่านั้น แต่ยูริโกะก็เป็นคนดีและเธอก็มีความสามารถด้านคาถานินจาอย่างแท้จริงอีกด้วย
มาซาฮิโกะมีชีวิตอยู่มา 60 ปีแล้ว เขาฝึกฝนจนสามารถใช้คาถาลมและคาถาไฟได้นับร้อยคาถา แต่เขาไม่เคยฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายเลย…แต่ในฐานะสมาชิกของตระกูลอุซุมากิ ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาก็ถือว่าพอใช้ได้ และหลังจากที่เขาได้รับระบบพิเศษมา เขาก็พึ่งมันอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
การฝึกฝนอย่างหนักในปีนี้นําผลลัพธ์ที่ดีมาให้กับมาซาฮิโกะ ในแถบสถานะของเขาในตอนนี้ ความแข็งแกร่งร่างกายของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกเกือบ 100 แต้ม ทําให้ตอนนี้ ค่าความแข็งแกร่งร่างกายของมาซาฮิโกะ เกือบจะถึง 500 แต้มแล้ว
“แค่นี้มันยังไม่พอ…แม้ว่าตอนนี้ ความแข็งแกร่งร่างกายของเคนิชิโร่จะอยู่ที่ประมาณ 300 แต้มเท่านั้น แต่เขาก็ยังอายุแค่ 13 ปี ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อีก 5 ปีเขาก็คงจะ…” มาซาฮิโกะพึมพําอยู่ในใจ “ไม่! ฉันจะต้องไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด”
“แล้วนี่ฉันวิดพื้นไปกี่ครั้งแล้วละเนี่ย?” มาซาฮิโกะบ่น
“ช่างมันเถอะ น่าจะประมาณ 2000 ละมั้ง งั้นมาต่อเลยดีกว่า!”
“ 2001 2002 2003…”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มาซาฮิโกะก็วิดพื้นจนครบ 5,000 ครั้ง และลุกนั่งอีก 10,000 ครั้ง แต่เมื่อเขากําลังจะพักผ่อน นานาโกะก็วิ่งมาหาเขา
“อาจารย์คะ! ผู้นําตระกูลกําลังตามหาอาจารย์อยู่ค่ะ!”
นานาโกะ อายุได้ 16 ปีแล้ว และตอนนี้เธอก็ทําความวุ่นวายให้กับหมู่เด็กชายทั่วทั้งหมู่บ้าน เพราะเธอโตขึ้นมาเป็นเด็กสาวที่สวย และมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ นานาโกะ? เธอไปหักอกใครอีกแล้วล่ะ?” มาซาฮิโกะ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แต่เมื่อคําพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของมาซาฮิโกะ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมากับสิ่งที่เขาพูดออกไปอย่างไม่คิด และเขาก็พร้อมที่จะยอมรับความโกรธของนานาโกะ
แต่นานาโกะกลับรู้สึกเขินอายเมื่อเธอได้ยินคําพูดหยอกล้อของมาซาฮิโกะ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็พูดกลับไปว่า “ไม่ใช่ค่ะ ผู้นำตระกูลกําลังตามหาอาจารย์อยู่ ตอนนี้ ผู้อาวุโสลําดับที่ 2 และ 3 อยู่ที่นั่นแล้ว ดูเหมือนมีบางอย่างที่ร้ายแรงกําลังเกิดขึ้น…”
มาซาฮิโกะ ได้แต่กระพริบตาด้วยความตกตะลึง เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ทั้งคู่รู้จักกันมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่า นานาโกะทําตัวน่ารัก
“ต้องมีบางอย่างอยู่เบื้องหลังท่าทางแบบนี้ของเธอแน่นอน” มาซาฮิโกะพูดพึมพํากับตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเธอกลับไป
มิโตะแต่งงานกับฮาชิรามะตั้งแต่เธออายุ 15 ปี ตอนนี้ นานาโกะอายุ 16 ปีแล้ว เขาคงไม่แปลกใจถ้ามีบางอย่างอยู่เบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
มาซาฮิโกะ หยุดล้อเล่นและหันหลังกลับจากนั้นเขาก็ตอบกลับไปว่า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” เขาโบกมือให้กับนานาโกะและเดินไปยังห้องประชุม
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ที่ห้องประชุมของตระกูลอุซุมากิ
มาซาฮิโกะ ตะโกนออกมาเสียงดัง “ตั้งหมู่บ้าน? นี่ล้อเล่นกันรึเปล่า?”
ใช่แล้ว ผู้นําตระกูลเรียกมาซาฮิโกะ มาเพื่อหารือกับเขาเกี่ยวกับการจัดตั้งหมู่บ้านอุซึมากิ
มาซาฮิโกะ มองไปที่ผู้อาวุโสลําดับที่ 2 และ แล้วพูดว่า “พวกเธอกําลังคิดอะไรอยู่?”
“ท่านลุง เราทั้งคู่ต่างคิดเหมือนกัน” ผู้อาวุโสลําดับที่ 2 ตอบกลับ
ตอนนี้ ผู้อาวุโสลําดับที่ 2 และ 3 คนปัจจุบันเป็นหลานชายคนที่ 2 และ 3 ของมาซาฮิโกะ
มาซาฮิโกะจําได้ว่าในการ์ตูนเรื่องดั้งเดิมของนารูโตะ การมีอยู่ของหมู่บ้านอุซึมากินั้นเป็นเรื่องจริง แต่มันก็ถูกทําลายโดยหมู่บ้านอื่น
“ทําไมเราถึงคิดแบบนั้นขึ้นมาในตอนนี้” มาซาฮิโกะยังไม่เข้าใจ
3 คนมองหน้ากัน จากนั้น ผู้นําตระกูลก็พูดอย่างช้าๆว่า “มันเป็นเพราะประชากรของเรา ตั้งแต่การทําสงครามกับตระกูลคางูยะ ตระกูลของเราก็มีจํานานลดลงมาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นเรามีประชากรเหลือเพียงแค่ 30,000 คนเท่านั้น แต่ตอนนี้เรามีประชากรมากถึง 10,000 คน นอกจากนี้ก็ยังมีชาวบ้านจากหมู่บ้านเล็กๆอีกมากมายที่อยากเข้าร่วมกับเรา รวมๆแล้วก็จะมีประชากรประมาณ 100,000 คน
มาซาฮิโกะพยักหน้า “เมื่อคิดดูแล้วก็เป็นโอกาสที่ดีที่นานาโกะจะได้พบกับความรักสักที หมู่บ้านเรามีแต่เด็กชายอายุต่ํากว่า 16 ปี ทั้งนั้น”
ใบหน้าของผู้นําตระกูล แสดงความเบื่อหน่ายออกมา “ท่านลุง เราจริงจังกับเรื่องนี้ก่อนดีไหม?”
มาซาฮิโกะยิ้ม “ฉันรู้ แต่หลังจากที่เราประกาศตัวว่าเป็นหมู่บ้านใหญ่ ความสัมพันธ์ของเรากับเซนจูในแคว้นแห่งไฟจะไม่แย่ลงเหรอ? แล้วเราจะทําอย่างไรถ้าเราถูกศัตรูจากต่างแคว้นโจมตี?”
ผู้อาวุโสลําดับที่ 2 ถามด้วยความสับสน “ต่างแคว้น? พื้นที่ของเราล้อมรอบไปด้วยทะเลและทางตะวันตกของเราก็คือหมู่บ้านตระกูลเซนจู แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ใกล้พวกเขามากนัก แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะมาช่วยเราได้อย่างรวดเร็ว และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเรา ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยตระกูลคางุยะ และจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ยินว่าใครเข้ามายึดครองพื้นที่ตรงนั้นแทน…”
มาซาฮิโกะถามต่อด้วย “แล้ว แคว้นแห่งน้ําที่อยู่ข้ามฝั่งทะเลไป และแคว้นแห่งสายฟ้าที่อยู่ทางเหนือล่ะ?”
พวกเขาทั้ง 2 มองหน้ากันแล้วส่ายหัว “พวกเขายังตกอยู่ในสงครามกลางเมือง ทําไมพวกเขาต้องสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นและเดินทางมาหาเราด้วยล่ะ?”
มาซาฮิโกะ ตกตะลึงแล้วเขาก็จําบางสิ่งได้
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จะมีการจัดตั้งหมู่บ้านนินจาใหญ่ทั้ง 5 แห่งขึ้น แต่แต่ละหมู่บ้านก็ยังไม่ทราบ มาซาฮิโกะยังรู้สึกไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาคงจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากทั้งหมู่บ้านคุโมะ และหมู่บ้านคิริ ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาสามารถรอได้จนกว่าโคโนฮะจะได้รับการก่อตั้งขึ้นแล้วละก็…
“รู้สึกว่าอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กําลังจะเกิดขึ้นในแคว้นแห่งไฟ..ฉันว่าการก่อตั้งหมู่บ้านของเราน่าจะเลือนไปก่อน…”
แม้ว่า ผู้นําตระกูลและผู้อาวุโส จะตะลึงกับคําพูดของ มาซาฮิโกะ แต่พวกเขาก็ไม่กระตือรือร้นที่จะรีบเร่งในการก่อตั้งหมู่บ้านอุซึมากิอยู่แล้ว จึงไม่เป็นไรหากพวกเขาจะต้องรอไปอีก 2 – 3 ปี และมองหาผู้คนมากขึ้นเพื่อเข้าร่วมเป็นหมู่บ้านลับสายน้ําวน
ด้วยการตัดสินใจแบบนี้ การประชุมเพื่อก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ก็ถูกพักไปชั่วคราวก่อน และมาซาฮิโกะก็กลับไปที่บ้านของเขา ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับรางวัลบางอย่าง
“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลกนารูโตะ ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านลับสายน้ําวน!”
“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 2 (X10) แต้ม!