Long Live The Hokage Chapter 49 : กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8
3 ปีต่อมา
ชื่อ : อุซึมากิ มาซาฮิโกะ
อายุ : 21 ปี (-)
คาถานินจา : 632 (+)
ความแข็งแกร่งร่างกาย : 824 (+)
จักระ : 4,534 (+10) (แปลงสภาพ)
วิชาพื้นฐาน : LV 10 (100000) (Max Level)
ความชํานาญการใช้ดาวกระจาย : LV 10 (100000) (MaxLevel)
คุณสมบัติจักระธาตุ
คาถาดิน : LV6 (436598/600000) (+) (หลอมรวม 1/2)
คาถาลม : LV 6 (497738/600000) (+) (หลอมรวม 12)
คาถาไฟ : LV 6 (462243/600000) (+) (หลอมรวม 12)
คาถาน : LV 2 (10000/20000) (4)
คาถาสายฟ้า : LV 5 (200007/400000) (+)
วิชาสะกด : LV 6 (413228/600000) (+)
จักระธาตุ หยาง : LV 5 (400000/600000) (4)
จักระธาตุ หยิน : LV 6 (510000/600000) (1)
ทักษะพิเศษ : ดวงตาแห่งเทพเจ้า
การขุด : LV 6 (10030/20000)
การตีเหล็ก : LV 8 (40059/60000)
ระดับ : S
แต้มการเข้าร่วม : 32 แต้ม
มาซาฮิโกะ มองไปที่แถบสถานะของเขาและถอกหายใจเล็กน้อย
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก มาซาฮิโกะ ได้ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อพัฒนา ตัวเอง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ และเขาตอนนี้เขาก็มีแต้ มการเข้าร่วมอยู่ 30 แต้ม
อย่างไรก็ตาม ระดับของเขาก็ยังคงอยู่ที่ระดับ S นั่นก็หมายควา มว่าเขาไม่มีการพัฒนาเชิงคุณภาพเกิดขึ้น ดังนั้นความสามารถของ เขาก็ยังคงมีขีดจํากัดเหมือนเมื่อก่อน
ในแง่ของอายุ ถึงแม้ว่าเขาจะลดอายุลงได้ แต่อายุของเขาก็ เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี และแม้ว่าเขาจะลดมันได้แต่ก็ไม่สามารถลดได้เหมี อนเมื่อก่อน ดูเหมือนว่าความฝันของ มาซาฮิโกะ ที่จะมีอายุ 18 ปี อีกครั้งจะยังคงเป็นแค่ความฝัน
“เหลือ 32 แต้มการเข้าร่วม…เฮ้อ น้อยเกินไป” เขาพึมพํากับตัว เอง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้รับแต้มการเข้าร่วมเลย ดูเห มือนว่าไม่มีเหตุการณ์สําคัญเกิดขึ้นเลย
ฮาชิรามะ ได้ชักชวนตระกูลทั้งหมดยกเว้นแต่ ตระกูลอุจิฮะ
เซนจู และ อุจิฮะ ได้ต่อสู้กันหลายครั้ง มาดาระ ยังไม่ได้เคลื่อน ไหว แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเขากําลังปรับตัวให้เข้ากับเนตรใหม่ของเขา
ด้วยเหตุนี้ อุจิฮะ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่ในตระกูลระดับเดียวกับ เซจู จึงเริ่มสูญเสียพื้นดินให้กับตระกูลอื่น ๆ
“ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่ความแข็ง แกร่งของเรา…”
“เฮ้อ ฉันคือ อุซึมากิ ที่ล้อมเหลว!” มาซาฮิโกะ ถอนหายใจและ สายหัว
“อาจารย์ เราอยู่ตรงนี้” ไกลออกไป เคนิชิโร่ ตะโกน ตามด้วย ยูริโกะ
ตอนนี้ มาซาฮิโกะ เหลือลูกศิษย์เพียง 2 คนเท่านั้น…แน่นอน นานาโกะ…เธอแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เธอกําลังจะเป็นแม่คน สามีของเธอไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหนึ่งในเด็กที่มาเข้าคัดเลือกเป็นลูก ศิษย์ของ มาซาฮิโกะ นั้นก็คือ อุซึมากิ เกนสีเกะ
“อาจารย์คะ เราเพิ่งไปหา พี่นานาโกะ มา เธอขอให้หนูอวย พรให้เธอด้วยค่ะ” ยูริโกะ พูด
มาซาฮิโกะ พยักหน้าแล้วพูดว่า “มีอะไรอีกไหม?”
ยูริโกะ เหลือบมองไปที่ เคนชิโร่ แล้ว เคนชิโร่ ก็ตะโกนว่า “อาจา รย์ครับ มาสู่กัน! ผมมีวิชาใหม่จะให้ดู!”
มาซาฮิโกะ รู้สึกหมดหนทาง ใน 3 ปีที่ผ่านมา เคนชิโร่ พัฒนา ขึ้นเล็กน้อย และเขามักจะมาหา มาซาฮิโกะ เพื่อเรียรู้
“โอเค มาดูวิชาใหม่ของเธอกัน…” มาซาฮิโกะ ตอบ
“โอ้…เอาละนะ อาจารย์!” เคนิชิโร่ ตะโกน “กระบวนท่าเปิดป ระตูด่านพลัง – ประตูแรก ไคมง เปิด!”
“ย้า”
ทันใดนั้นพลังงานที่รุนแรงพุ่งออกมาจากร่างของ เคนชิโร่ และ ระเบิดออกมา!
วินาทีต่อมา เคนชิโร่ ก็พุ่งเข้าหา มาซาฮิโกะ อย่างรวดเร็ว
“แย่แล้ว.อก!” มาซาฮิโกะ ตกใจเป็นอย่างมาก เคนิชิโร่ ต่อย หมัดเข้าที่ท้องของ มาซาฮิโกะ อย่างจัง เขาพยายามที่จะป้องกัน มันไว้ แต่เขาก็ยังกระเด็นออกไป
“อาจารย์!” ยูริโกะ รีบวิ่งไปช่วย มาซาฮิโกะ อย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรไหมคะ?!”
เคนชิโร่ เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “อุ้ย…วิชานี้มันดีจริง ๆ ใช้ให มเนี่ย?” เขาคลายวิชากระบวนท่าจากนั้นก็รีบวิ่งไปที่อาจารย์ของเขา
“แน่นอนว่ามันเป็นวิชาที่ดี ถ้าใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา” มาซาฮิโกะ หัวเราะขณะที่ตอบกลับ
ในเวลาเดียวกันประโยคหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของ มาซาฮิโกะ “เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลก นารูโตะ : กระ บวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8!”
“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 10 (X2) แต้ม!
“เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย? ดูเหมือนว่า กระบวนท่าเปิดประตูด่า นพลัง จะถูกสร้างขึ้นโดย เคนิชิโร่ จริง ๆ แต่ตอนนี้เขาสร้างมันขี้ นมาก่อนเวลาอันควร จริง ๆ แล้วตอนนี้เขาไม่ควรจะแข็งแกร่ง ขนาดนี้”
“ฉันน่าจะรู้อยู่แล้วน้าว่า ในการ์ตูนที่ เซนจู มี กระบวนท่าเปิด ประตูด้านพลัง ในม้วนตําราวิชาของพวกเขา ไม่ใช่เพราะพวกเขา เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่มันเป็นเพราะพวกเขาสนิทกับตระกูลที่ สร้างมันขึ้นมาต่างหาก…”
“ด้วยความสามารถและความอุตสาหะของเขา ฉันเชื่อว่าเมื่อเขา อายุได้ 20 เขาจะต้องมีพลังในระดับเดียวกับหัวหน้าตระกูลอย่าง แน่นอนและจะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาจะกลายเป็นผู้นําตระกูลคน ต่อไป เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นหลานชายของ มาซาโอะ ผู้อาวุโสลํา ดับที่ 2 เลยทีเดียว”
มาซาฮิโกะ กําลังคิดอยู่และทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของ ยูริโกะ ดังมาจากข้าง ๆ เขา
“เคนชิโร่ ดูสิ่งที่เธอทําลงไปสิ! อาจารย์แก่แล้วน่ะ นายไม่ควร ต่อยเขาแรงขนาดนั้น บ้าเอ้ย…นายนี้มันบ้าจริง ๆ”
มาซาฮิโกะ รู้สึกอายในขณะที่ ยูริโกะ กําลังดุ เคนชิโร่ “อาจารย์ อาจารย์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ฉันไม่เป็นไร เคนชิโร่ ในอนาคตเธอจะกลายเป็นอาจารย์ของ ฉันอย่างแน่นอน!” มาซาฮิโกะ ยืนขึ้นแล้วพูดอย่างรีบเร่ง
“แย่แล้ว ยูริโกะ ฉันคิดว่าอาจารย์หัวกระแทกพื้น…” เคนชิโร่ พูดด้วยความตกใจ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่ มาซาฮิโกะ อธิบายให้ลูกศิษย์ของ เขาฟัง ในที่สุดหลังจากคําอธิบายมากมายพวกเขาก็เข้าใจในที่สุด จากนั้น มาซาฮิโกะ ก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขา
“เคนิชิโร่ เธอสามารถเปิดประตูด้านพลังได้กี่บานแล้ว?” มาซาฮิ โกะ ถาม
“6 บานครับ” เคนิชิโร่ ตอบอย่างมีความสุข
มาซาฮิโกะ คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งทางกาย ภาพเรา เราก็ควรจะสามารถเปิดประตูด้านพลังบานที่ 7 ได้ แต่บานสุดท้าย…อาจเป็นไปได้ แต่เราก็ไม่อยากตาย!”
“กระบวนท่านี้มีผลข้างเคียงต่อร่างกายของผู้ใช้และต้องถูกจัด ให้เป็นวิชาต้องห้าม เธอจะต้องไม่สอนวิชานี้ให้คนอื่นด้วยความประ มาท แม้ว่าเราทั้ง 2 คนจะต้องฝึกฝนวิชานี้ให้มากขึ้นเพื่อใช้งานมัน แต่เธอห้ามเปิดประตูด่านพลังบานที่ 8 เด็ดขาด เพราะมันจะเผา ผลาญพลังชีวิตทั้งหมดของเธอ และแน่นอนว่าเธอจะต้องตายเว้น แต่ว่าเธอจะมี นารูโตะ อยู่ข้าง ๆ แต่มันก็ยังไม่คุ้มอยู่ดี” มาซาฮิโกะ อธิบาย
“อะไรนะครับ?” เคนิชิโร่ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนผมพ ยายามเปิดประตูด่านพลังบานที่ 5 ผมรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะตาย ผมไม่คิดว่าผมจะทนไหว”
มาซาฮิโกะ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและคิดกับตัวเอง ว่า “ซี้ด…แค่บานที่ 5 ยังเจ็บขนาดนั้น แล้วถ้าเราเปิดประตูด่านพ ลังบานที่ 7 จะเจ็บขนาดไหน บางทีบานที่ 5 คงจะพอแล้วมั้ง”
“อาจารย์ ท่านกับ เคนชิโร่ จะฝึกวิชานั้น แล้วหนูจะทําอะไรดี คะ?” ยูริโกะ ถาม
“อุ้ย” มาซาฮิโกะ ดูลังเลที่จะพูดเล็กน้อย ยูริโกะ อายุ 14 ปี แล้ว เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับ คาถาลม และ คาถาไฟ ที่ มาซาฮิโกะ รู้ ทั้งหมดแล้ว และ มาซาฮิโกะ ก็ไม่สามารถสอนคาถาพวกนั้นให้เธอ ได้อีกแล้ว
“ยูริโกะ เธอไม่เหมาะที่จะเรียนรู้วิชาทางกายภาพ…และฉันก็ สอน คาถาไฟ และ คาถาดิน ทุกอย่างที่ฉันรู้ให้เธอหมดแล้วบางที ฉันอาจจะสอนให้เธอรวมมันเข้าด้วยกันได้” มาซาฮิโกะ พูดออก ไปทั้ง ๆ ที่เขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะสอนให้คนอื่นมี ขีด จํากัดสายเลือด ได้โดยที่สายเลือดไม่ถูกต้อง
“อาจารย์ ท่านลืมไปแล้วเหรอ? หนูเพิ่งเรียนรู้การใช้ คาถาดิน ไปไม่นานนี้เองนะคะ!” ยูริโกะ พูดด้วยความโกรธ
ใบหน้าของ มาซาฮิโกะ ชาไปทั้งใบหน้า “เอ้อใช่ ฉันลืมไป”
ใบหน้าของ ยูริโกะ โกรธยิ่งกว่าเดิม มาซาฮิโกะ พยายาม ปลอบใจเธอในทันทีและรีบพูดว่า “เอาล่ะ ๆ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง! ฉันจะสอน คาถาดิน ให้เธอเอง!”
6 เดือนต่อมา
มาซาฮิโกะ ฝึกฝนตนเองไปพร้อม ๆ กับลูกศิษย์ของเขา
“กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลัง – ประตูที่ 7 เคียวมง เปิด!” เสียงตะโกนจาก มาซาฮิโกะ ดังก้องอยู่บนสนามฝึกซ้อม
“อุ้ย..โอ้ย!”
“พระเจ้า เจ็บปวดเหลือเกิน!”