Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 943 : องก์ที่สาม

“โชคชะตา!”

ท่ามกลางน้ำเสียงสากๆ ในจุดที่พลเรือเอกขุมนรกลูเธอร์ไวล์และผู้พิทักษ์ราตรีอินซ์·แซงวิลล์ยืนพลันดำมืด คล้ายกับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำจำนวนสองก้อน

ยันต์ ‘โจรปล้นดวง’ !

ไคลน์ใช้ ‘หนอนกาลเวลา’ ที่พาลีส·โซโรอาสเตอร์หามาให้ เพื่อสร้างยันต์ ‘โจรปล้นดวง’ !

เพื่อมิให้ถูก ‘0-08’ ตระหนักถึง มันวางแผนซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังมาตั้งแต่ต้น ไม่เพียงแต่จะให้ยุบพองหิวโหยกับเลียวนาร์ด·มิเชล แต่ยังมอบยันต์โจรปล้นดวงให้กับหุ่นเชิดด้วย!

ดังนั้น บุคคล ‘ผู้น่าสงสาร’ ที่ถูกวิญญาณมารเข้าสิง จึงเปลี่ยนเป้าจากอินซ์·แซงวิลล์กลายเป็นลูเธอร์ไวล์

พลเรือเอกขุมนรกถูกเซารอน ไอน์ฮอร์น เมดีซีซึ่งสวมชุดเกราะสีดำเปื้อนเลือดเข้าสิงทันที ดวงตาทั้งสองข้างพลันปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก

ณ ห้องพักในโรงแรม ไคลน์บงการหุ่นเชิดอย่างใจเย็น ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยทั้งที่ถูกอิทธิพลของวิญญาณมารเล่นงาน ลูเธอร์ไวล์ยกมือทั้งสองข้างฉีกเสื้อผ้าตัวเอง ถอดหน้ากากปลอบวิญญาณออกและนำขึ้นมาปกปิดใบหน้า

ขณะเดียวกัน เมื่อได้ยินคำพูดของวิญญาณมาร ‘เทวทูตสีชาด’ เมื่อครู่ และได้เห็นสภาพที่แท้จริงในปัจจุบันของอีกฝ่าย ดาลีย์·ซิโมเน่ที่ถูกแรงกดดันมหาศาลเล่นงาน คล้ายกับเริ่มเข้าใจบางสิ่ง ไม่เพียงจะไม่ปิด ‘ประตูโลกแห่งความตาย’ เธอกลับยอมกัดฟัน ทุ่มพลังทั้งหมดขยายช่องว่างให้กว้างขึ้น

ทั้งแขนเปื้อนเลือดปราศจากผิวหนัง ทั้งหนวดรยางค์เรียบมีฟัน เถาวัลย์เขียวเข้มที่มีใบหน้าทารก พลันยื่นออกจากด้านหลัง ‘ประตูโลกแห่งความตาย’ และจับลูเธอร์ไวล์

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พลเอกขุมนรกได้รับอิสระคืนมา ซึ่งเดิมที มันคิดจะทำสิ่งนี้ด้วยตัวเองหากไม่เกิดอุปสรรคขึ้นมาเสียก่อน ฉวยโอกาสขณะที่ร่างกายยังไม่ถูกทำลายโดยเซารอน ไอน์ฮอร์น เมดีซี เพียงแค่เนื้อเริ่มเน่าโดยยังไม่หลุด ร่างกายชักกระตุกแผ่วเบาก่อนที่จะกระโดดไปทางบานประตูมายา!

มันถูกท่อนแขน หมวดรยางค์ เถาวัลย์ และวิญญาณที่อยู่หลังประตูพันธนาการร่างกายและแขนขา ท่ามกลางความรู้สึกชาที่กำลังแล่นไปทั่วร่าง ลูเธอร์ไวล์อาศัยแรงเฮือกสุดท้ายกระโดดพรวดเข้าไปในประตูที่เปิดกว้างขึ้นจากเดิม ส่งตัวเองเข้าสู่โลกวิญญาณ

ดาลีย์เห็นเช่นนั้นรีบชักมือกลับ ประตูทองแดงมายาที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ลึกลับมิอาจคงสภาพไว้ได้อีกต่อไป

โครม!

ประตูมายาที่ยากอธิบายปิดสนิท พลเรือเอกขุมนรกพร้อมด้วยเซารอน ไอน์ฮอร์น เมดีซี รวมถึงสิ่งมีชีวิตจากโลกแห่งความตายในร่างกาย ล้วนถูกตัดขาดออกจากโล่งแห่งความจริงโดยสิ้นเชิง

นี่คือกุญแจสำคัญในแผนของไคลน์

แยกวิญญาณมาร ‘เทวทูตสีชาด’ ออกจากอินซ์·แซงวิลล์!

แม้มันจะเชื่อว่าวิญญาณมารเทวทูตสีชาดเป็นปัจจัยทำให้อินซ์·แซงวิลล์ขาดเสถียรภาพ แต่ก็ยังไม่พร้อมจะล้างแค้นครึ่งเทพที่มีวิญญาณมารซึ่งเกิดจากการร่วงหล่นของราชาเทวทูตและเทวทูตลำดับ 1 อีกสองตน – ไม่มีใครคาดได้ว่า ‘นักวางแผน’ จะมีเจตนาเช่นไรในสถานการณ์แบบนี้

ดังนั้น ไคลน์จึงคิดแผนโดยพิจารณาจากยันต์โจรปล้นดวงและพลังพิเศษของหุ่นเชิดลูเธอร์ไวล์ การมีดาลีย์เข้ามาช่วยทำให้แผนการทั้งหมดราบรื่นขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น ไม่ถูกขัดจังหวะ ประสบความสำเร็จในการส่งวิญญาณมาร ‘เทวทูตสีชาด’ เข้าสู่โลกแห่งความตาย!

ด้วยวิธีนี้ แม้ฝั่งตรงข้ามจะสามารถสิงร่างพลเรือเอกขุมนรกและเดินทางกลับมายังโลกความจริงได้ด้วยพลังกระสวยวิญญาณ แน่นั่นคือเรื่องราวในอนาคตอีกยาวไกล เนื่องจากการเดินทางออกจากโลกแห่งความตายไม่ใช่เรื่องง่าย เทพธิดารัตติกาลครอบครองอำนาจบนเส้นทางมรณาไว้บางส่วนแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้วิญญาณมารของเทวทูตสีชาดหลบหนีออกมาอย่างราบรื่น

สังเวยหุ่นเชิด ยันต์ระดับสูง และสมบัติวิเศษสองชิ้นเพื่อแลกกับการกีดกันวิญญาณมารเทวทูตสีชาดออกจากสนามรบ สำหรับไคลน์ แม้จะน่าเสียดายไปแล้ว แต่ก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก!

สำหรับ ‘ความอับโชค’ ที่อินซ์·แซงวิลล์ได้รับ ในแง่หนึ่งถือเป็นสภาวะต่อเนื่อง ไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปในช่วงเวลาสั้นๆ ในอีกแง่หนึ่ง เนื่องจากถูก ‘คำสาปแห่งเทพ’ เล่นงาน ถึงยันต์โจรปล้นดวงจะมีอัตราความล้มเหลว แต่ไคลน์ก็บังคับให้ ‘ผู้ชนะ’ เอ็นโซเสริมดวงให้ลูเธอร์ไวล์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทุกสิ่งที่ทำในช่วงเวลาดังกล่าวจะประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น

สำหรับสถานการณ์ตรงหน้า เลียวนาร์ดไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่มันก็เข้าร่วมกับหน่วยถุงมือแดงมาแล้วเกือบหนึ่งปี มีประสบการณ์มากมายในโลกเหนือธรรมชาติ ปราศจากความตะลึงหรือลังเล รีบหันไปจ้องหน้าอินซ์·แซงวิลล์ที่กำลังยืนผงะ

เมื่อกระจกตาของมันสะท้อนภาพอินซ์·แซงวิลล์ที่สวมชุดคลุมนักบวชสีดำ ใบหน้าเลียวนาร์ดพลันบิดเบี้ยว ประหนึ่งกำลังเผชิญแผลใจที่คอยตามหลอกหลอนตนมานาน

แผลใจที่เคยพยายามอย่างสุดความสามารถแต่ก็สูญเปล่า แผลใจที่ได้เห็นหัวหน้าและไคลน์ตายไปแล้วหลังจากได้สติกลับคืนมา

เลียวนาร์ดยกมือซ้ายขึ้น เลื่อนถุงมือหนังมนุษย์ขึ้นมาบนหน้าผาก มืออีกข้างกำลังกำยันต์โจรปล้นดวงพร้อมกับคำรามเสียงต่ำ

“โชคชะตา!”

ท่ามกลางภาษาเหนือธรรมชาติที่ดังกังวาน หน้าถุงมือข้างซ้ายของเลียวนาร์ดปรากฏหนังสือมายาสีใส ตามด้วยเสียงท่องมนต์อย่างเคร่งขรึม: “ข้าบรรลุ ข้าประจักษ์ ข้าบันทึก”

สายฟ้าสีเงินสว่างเส้นแล้วเส้นเล่า กระหน่ำผ่าลงมาและกลืนกินร่างเลียวนาร์ด

พายุสายฟ้า!

ขณะเดียวกัน เลียวนาร์ดชักลูกโม่ออกมาจ่อขมับพร้อมกับลั่นไก

มันกำลังฆ่าตัวตาย แต่ด้วยอำนาจของยันต์โจรปล้นดวง ชะตากรรมของมันจะถูกสลับที่กับอินซ์·แซงวิลล์!

นี่คือวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่มันจะคิดออกเมื่อพิจารณาว่าตนมียันต์โจรปล้นดวงและยุบพองหิวโหย เป็นวิธีที่ต้องใช้ความกล้าอย่างมาก!

ทันใดนั้น สายฟ้าสีเงินจำนวนมากเริ่มเลือนหาย ความมืดมิดโดยรอบกลับคืนสภาพปรกติ เลียวนาร์ด·มิเชลได้สติตื่นและพบว่าตนกำลังยืนอยู่ในจุดเดิม ฝ่ามือซ้ายมิได้ยกขึ้น ในมือขวายังมียันต์โจรปล้นดวงถืออยู่

ทั้งหมดที่มันทำเมื่อครู่เป็นเพียงความฝัน!

ทันใดนั้น ภายในดวงตาสีน้ำเงินเข้มของอินซ์·แซงวิลล์ ความมืดเริ่มเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังจะบอกว่า: ทำไมถึงคิดว่าตัวเองไม่ได้กำลังฝัน?

อันที่จริง ก่อนที่เซารอน ไอน์ฮอร์น เมดีซีจะหลุดออกจากร่าง อินซ์·แซงวิลล์ได้สร้างโดมความฝันขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อดึงศัตรูทั้งหมดในละแวกใกล้เคียง แต่น่าเสียดาย ชายพกเรเพียร์กลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ส่งผลให้ความพยายามของมันต้องกลายเป็นหมัน

เนื่องจากสัมผัสวิญญาณถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง แถมการเผชิญหน้าระหว่างสองราชาเทวทูตก็สามารถยุติลงได้ทุกเมื่อ อินซ์·แซงวิลล์จึงไม่ลังเลที่จะสร้างโดมความฝันขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้เลียวนาร์ด·มิเชลและดาลีย์·ซิโมเน่ที่เพิ่งมาถึงถูกดึงเข้าสู่โลกความฝันโดยปริยาย

จากนั้น มันหยิบ ‘ปากกาอัลเซอร์ฟอร์ด’ ขึ้นมาเขียนบนเสื้อผ้าบริเวณแขน

“ในวันนี้ อินซ์·แซงวิลล์อยู่ในสภาพที่พร้อมมาก สามารถควบคุมร่างสัตว์ในตำนานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้สามารถหลบหนีได้ด้วยการทุ่มเทพลังทั้งหมด!”

ในวินาทีที่คำสุดท้ายถูกตวัด ปากกาขนนกทรงโบราณพลันร่วงหล่นพร้อมกับร่างกายอินซ์·แซงวิลล์ที่เริ่มแปรสภาพ

ดวงตาของมันกลายเป็นสีดำสนิทราวกับหมึกดำ ลวดลายลึกลับจำนวนมากผุดขึ้น ก่อตัวเป็นสัญลักษณ์ลึกลับ แปลกประหลาด และบิดเบี้ยว

บริเวณเอวและซี่โครง เสื้อคลุมพองออกพร้อมกับมีมือไร้หนังสี่ข้างพุ่งพรวดออกมา เลือดสดกำลังดีดดิ้นไปพร้อมกับเส้นเลือดที่พัวพัน

แขนดังกล่าวถูกปกคลุมด้วยขนสีขาวอย่างรวดเร็ว ออร่าแห่งความตายพลุ่งพล่านเข้มข้น

ในเวลาเดียวกัน ฟันของอินซ์·แซงวิลล์ค่อยๆ เหยียดยาวอย่างแหลมคมทีละซี่ ร่างกายคล้ายกับกำลังอัดแน่นไปด้วยใบหน้าเล็กๆ จำนวนมหาศาล

เพียงพริบตา ผู้พิทักษ์ราตรีทิ้งตัวลงบนพื้น กลายเป็นสัตว์ประหลาดพิสดารแปด ‘ขา’ ซึ่งปกคลุมไปด้วยขนนกสีขาว!

รอบๆ จัตุรัสแปรสภาพกลายเป็นยามค่ำคืน แมลงในดินและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บนพื้นหินต่างตายคาที เข้าสู่การหลับใหลอันเป็นนิรันดร์

นี่คือการผนึกกำลังระหว่างพลังในขอบเขตความตายและรัตติกาล!

ขณะดาลีย์·ซิโมเน่และเลียวนาร์ด·มิเชลกำลังจะตายและเข้าสู่ห้วงนิทรานิรันดร์ เสียงฟ้าร้องพลันดังสนั่นจากด้านบน

สายฟ้าสีเงินฟาดลงมาทีละเส้น แปรสภาพบริเวณโดยรอบให้กลายเป็นผืนป่าสายฟ้า ท่วมท้นร่างกายอินซ์·แซงวิลล์ที่อยู่ในร่างสัตว์ในตำนาน

หลังจากเนรเทศวิญญาณมารเทวทูตสีชาดออกไป ไคลน์มิได้นิ่งเฉย ทำตัวราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตั้งคำสั่งไว้ล่วงหน้า รีบเดินถอยหลังที่ก้าวทวนเข็ม ส่งตัวเองเข้าสู่มิติหมอก สวมมงกุฎและเสื้อคลุมสันตะปาปาพร้อมกับเสกให้คทาเทพสมุทรลอยมาอยู่ในมือ!

นี่คือองก์ที่สามของบทละคร หลังจากอาดัมสยบพลังของ 0-08 และหลังจากวิญญาณมารเทวทูตสีชาดออกห่างจากอินซ์·แซงวิลล์ด้วยยันต์โจรปล้นดวง ศัตรูของตนต้องเผชิญหน้ากับความเกรี้ยวกราดของเทพสมุทรที่แข็งแกร่งทัดเทียมลำดับ 4!

ไคลน์ทราบดี ลำพังพลังของตนคงไม่สามารถจัดการกับผู้วิเศษลำดับ 4 ไหว จึงวางแผนขจัดผู้ช่วยของอินซ์·แซงวิลล์และเตรียม ‘ลงทัณฑ์’ อีกฝ่ายด้วยสายฟ้าจากมิติหมอก เป็นสถานการณ์แบบเดียวกับเมื่อครั้งที่สู้กับโจนาส·โคลเกอร์แห่งเส้นทางจักรพรรดิมืดกลางทะเล

แม้ว่าตนจะมิอาจดับลมหายใจครึ่งเทพที่มีพลังชีวิตสูงได้ตามลำพัง แต่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการยื้อเวลาให้เบื้องบนของโบสถ์รัตติกาลนำสมบัติปิดผนึกออกปฏิบัติการ!

ในแผนนี้ มีสองปัจจัยที่ยากจะควบคุม

ประการแรก ไคลน์เดาไม่ได้ว่า 0-08 จะมีอิทธิพลมากน้อยเพียงใด แผนสำรองสำหรับเรื่องนี้คือการให้เอ็นโซเตรียมสวดวิงวอนเพื่อนำ ‘การเดินทางของกรอซาย’ กลับมายังโลกความจริง เมื่อหนังสือเล่มดังกล่าวถูกอัญเชิญลงมายังชายขอบสนามรบ ไคลน์เชื่อว่ามีโอกาสที่จะดึงดูดความสนใจจากปากกาขนนกนั่นได้ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้มันหนีจากอินซ์·แซงวิลล์ เพราะท้ายที่สุด มันเชื่อว่าปากกาขนนกคือสมบัติปิดผนึกในเส้นทางผู้ชม ควรจะหันมาสนใจหนังสือวิเศษที่มังกรจินตภาพเป็นผู้ประพันธ์

ประการที่สอง อาดัม บุตรแห่งพระผู้สร้าง ไคลน์ไม่ทราบว่าเทวทูตรายนี้มีพลังมากเพียงใด แต่ก็ไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถสยบ 0-08 จัดการวิญญาณมารเทวทูตสีชาดและอินซ์·แซงวิลล์ไปพร้อมๆ กันได้!

สำหรับปัจจัยเหล่านี้ ไคลน์ไม่มีแผนการรองรับ ทำได้เพียงสวดวิงวอนถึงเทพธิดาและขอพรจากพระองค์

บรึ้ม!

ผืนป่าสายฟ้ากระหน่ำลงมาอีกครั้ง ท่วมท้นไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่แข็งแกร่ง

ทันใดนั้น ความมืดมิดอันเข้มข้นล้นทะลักออกจากช่องว่างสายฟ้า กลืนกินแสงสีเงินทั้งหมด

ถัดมา ‘ขา’ ทั้งแปดของอินซ์·แซงวิลล์ขยับอย่างบ้าคลั่งเพื่อพาเจ้าของร่างหนีออกจากพื้นที่

มันไม่ทราบว่าอีกฝ่ายโจมตีมาจากไหน ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ใช้พลังพายุสลายฟ้า ทำได้เพียงกล้ำกลืนโทสะพร้อมกับวิ่งไปทางอาคารหลังหนึ่งริมจัตุรัสด้วยความเร็วสูงจนเกิดภาพตกค้าง

ทว่า เสียงฟ้าร้องยังคงคำรามสนั่น สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งดักทางหนี ต้อนอินซ์·แซงวิลล์ให้อยู่แต่ภายในจัตุรัส

ดาลีย์และเลียวนาร์ดตื่นจากความฝันแล้ว แต่แสงของสายฟ้าส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัย ช่วยให้ทราบเพียงว่า ปัจจุบันอินซ์·แซงวิลล์กลายร่างเป็นสัตว์ในตำนาน แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน

ร่างสัตว์ในตำนาน… เนื่องจากทั้งสองมีพื้นฐานความรู้ด้านศาสตร์เร้นลับค่อนข้างแน่น จึงทราบถึงอันตรายได้ทันที รีบหลับตาลงและหาจุดซ่อนตัว

เมื่อตระหนักว่าตนคงหนีไม่พ้นจากสายฟ้าไปอีกสักพัก อินซ์·แซงวิลล์ตัดสินใจเหยียด ‘ขา’ ออกไปหยิบปากกาขนนก 0-08 พร้อมกับเขียนบนตัวขณะวิ่ง

“ตัวตนลึกลับเกิดสนใจในการต่อสู้ เกิดเห็นใจอินซ์·แซงวิลล์เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจช่วยเหลือเขาโดยการพาออกไปทางโลกวิญญาณ!”

……………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset