Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 867 : ภารกิจสืบสวน

ราชันเร้นลับ 867 : ภารกิจสืบสวน
เมื่อมองหน้า ‘เฮอร์มิท’ แคทลียา ไคลน์คาดเดาสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการได้ทันที จึงถอนหายใจเงียบ

มิสเตอร์ฟูลทราบได้อย่างไรว่าเราจะถาม ไม่ใช่การร้องขอในสิ่งอื่น? สมแล้วที่เป็นท่าน… ครุ่นคิดสักพัก แคทลียากล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความเคารพ

“เรียนมิสเตอร์ฟูล ดิฉันต้องการทราบความหมายของสัญลักษณ์สองภาพนี้”

หลังจากได้รับอนุญาต หญิงสาววาดภาพอักษรจีน ‘故’ และ ‘乡’

นั่นปะไร… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ

“เมื่อนำมารวมถึงกันจะมีความหมายว่าบ้านเกิด… บ้านเกิดของดวงวิญญาณ”

เมื่อรวมเข้าด้วยกัน… บ้านเกิดของดวงวิญญาณ… ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาให้ความสนใจกับประโยคหลังมากกว่า เพราะเธอทราบดีว่าบ้านเกิดของราชินีเงื่อนงำอยู่ที่ไหน ตรงจุดนั้นน่าจะไม่ใช่สาระสำคัญ

สมาชิกชุมนุมทาโรต์อย่างจัสติสและแฮงแมนถือโอกาสเรียนรู้ตัวอักษรของโรซายล์ พยายามจำจดรูปลักษณ์และความหมาย มีเพียงคนเดียวที่ไม่สนใจ – เดอะซัน เดอร์ริค

‘เดอะฟูล’ ไคลน์มิได้เล่าเสริม เพียงเอนหลังและเปล่งเสียง

“เชิญ”

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์หันหน้าไปทาง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่สุดขอบโต๊ะทองแดงยาวอีกฝั่งทันที

“สมบัติวิเศษของคุณใกล้เสร็จแล้ว ส่งมอบได้ภายในสัปดาห์นี้”

มันกำลังหมายถึงสมบัติวิเศษที่สร้างจากตะกอนพลังผู้ขับขานสมุทร

‘ช่างฝีมือ’ คนดังกล่าวเร่งมือผลิตถุงมือของจัสติสให้เสร็จก่อน งานของเดอะเวิร์ลจึงเลื่อนมาเป็นสัปดาห์นี้

ในช่วงที่มิสเตอร์อะซิกยังไม่ตอบจดหมายกลับ ในช่วงที่เรายังไม่มีวิธีผนึกยุบพองหิวโหย สมบัติวิเศษมาได้ถูกเวลามาก… ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลกล่าว

“ไม่ช้าจนเกินไป”

ไม่ช้าจนเกินไป… ถ้างานนี้เสร็จช้าลงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน เขาจะเทเลพอร์ตมาเยี่ยมเรา? ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก

เนื่องจากแผนขั้นถัดไปของแฮงแมนคือการขอโอสถ ‘ผู้สังเวยภัยพิบัติ’ จากโบสถ์วายุสลาตัน แถมโอสถผู้ขับขานสมุทรก็เพิ่งเริ่มย่อยได้ไม่นาน มันจึงไม่สนใจจะซื้อวัตถุดิบหลักใดๆ เพียงทำตัวเงียบและเฝ้ามองสมาชิกคนอื่นค้าขาย

สำหรับอัลเจอร์ เป้าหมายในตอนนี้ของมันคือการมองหาสมบัติวิเศษมาใช้คู่กับ ‘แส้จิต’ จริงอยู่ที่สมบัติวิเศษนั้นควรพกพาในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงเชิงลบที่ซ้อนทับ แต่สำหรับผู้วิเศษลำดับ 5 การมีสมบัติวิเศษเพียงชิ้นเดียวถือเป็นเรื่องค่อนข้างน่าอับอาย

ในสถานการณ์ปรกติ ผู้วิเศษลำดับ 5 ควรพกพาสมบัติวิเศษสองสามชนิดที่ผลข้างเคียงไม่ส่งเสริมกันและกัน นั่นจะเป็นการดีที่สุด

แน่นอน อัลเจอร์สั่งจองไปแล้วหนึ่งชิ้น หลังจากช่างฝีมือผลิตสมบัติวิเศษของเดอะเวิร์ลเสร็จเมื่อไร ถัดไปเป็นคิวของสมบัติวิเศษจากแก่นผลึกของการ์กอยล์หกปีก

สำหรับสิ่งนี้ มันต้องเสียค่าแรงเป็นจำนวนหนึ่งพันปอนด์ เมื่อผนวกกับค่าแรงในการผลิตสมบัติวิเศษของเดอะเวิร์ล เงินสดอันน้อยนิดในมือมันจะลดลงไปอีกเกือบสองพันปอนด์ เหลือติดตัวเพียงหนึ่งพันแปดร้อยปอนด์ โดยห้าร้อยปอนด์เป็นเงินค่านายหน้าที่ได้จากมิสจัสติส

หลังจากเห็นว่าไม่มีใครพูด ‘เดอะมูน’ เอ็มลินหันไปถาม ‘เดอะซัน’ เดอร์ริค

“ข้าต้องการตะกอนพลังแวมไพร์เทียมลำดับ 5 เจ้าต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน?”

ในช่วงที่ผ่านมา มันได้พูดคุยกับผีดูดเลือดคนอื่นๆ และพบว่า เบื้องบนของตระกูลผีดูดเลือดสามารถขจัดมลพิษทางจิตที่ปนเปื้อนมากับตะกอนพลังได้ แต่ต้องมีคะแนนผลงานเพียงพอสำหรับแลกเปลี่ยน

ดังนั้น เอ็มลินจึงหวังครอบครองวัตถุดิบหลักให้ได้เสียก่อน จึงค่อยดำเนินการเรื่องอื่นๆ

เท่าที่มันสังเกต ตะกอนพลังของแวมไพร์เทียมลำดับ 5 จะมีราคาอยู่ที่ประมาณแปดพันปอนด์ อ้างอิงจากราคาของมิสเตอร์เวิร์ล แต่ปัจจุบันมันมีเงินสดเพียงห้าพันสี่ร้อยปอนด์ จึงยังเหลือช่องว่างพอสมควร

จากอุปนิสัยส่วนตัวของเอ็มลิน มันต้องเก็บเงินให้ได้แปดพันปอนด์ก่อนจะติดต่อขอซื้อตะกอนพลังจากเดอะซัน เพราะเอ็มลินเป็นผีดูดเลือดที่ทระนงตน ไม่ชอบการใช้เงินจากอนาคต และไม่หน้าหนาพอจะขอยืมจากคนอื่น ไม่สนว่าจะเป็นตุ๊กตาที่อยากได้มากแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ต้องทำมีเพียงทำงานให้หนักขึ้น ประหยัดอดออม จากนั้นค่อยกำเงินสดไปซื้อ อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือเดอะซันไม่รับเงินสด เพราะสำหรับชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ ทองปอนด์หรือธนบัตรของโลเอ็นมีค่าไม่ต่างจากเศษกระดาษ

ดังนั้น เอ็มลินเชื่อว่าเดอะซันจะแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของ และนั่นต้องใช้เวลาเตรียมการ

เหนือสิ่งอื่นใด เดอะซันไม่เชี่ยวชาญตลาดของโลกภายนอก บางทีเขาอาจต้องการวัตถุที่มีมูลค่าเพียงห้าพันปอนด์… เอ็มลินรอฟังคำตอบอย่างมีความหวัง เชิดคางเล็กน้อยขณะจ้องหน้าเดอะซันด้านข้าง

เดอร์ริคไตร่ตรองสักพักก่อนจะตอบ

“เอ่อ… สูตรโอสถลำดับ 5 ของเส้นทางสุริยัน”

ใจจริง เด็กหนุ่มอยากตอบว่า ‘ช่วยใช้หนี้มิสเตอร์เวิร์ลให้หน่อย’ แต่เนื่องจากเดอะเวิร์ลยังไม่เรียกร้องสิ่งใดเป็นพิเศษ เดอร์ริคจึงมองว่าไม่เหมาะสมที่จะโยนหนี้ให้คนอื่น

นอกจากนั้น เดอะซันเคยผ่านชุมนุมทาโรต์มาแล้วหลายหน ไม่ใช่ไก่อ่อนในตลาด เมื่อผนวกเข้ากับมาตรฐานการแลกเปลี่ยนในเมืองเงินพิสุทธิ์ เด็กหนุ่มทราบว่าช่องว่างของสูตรโอสถลำดับ 6 ‘ผู้รับรอง’ กับตะกอนพลังลำดับ 5 นั้นมากเพียงใด หากแลกเปลี่ยนตรงๆ มีแต่จะเสียเปรียบ ส่งผลให้ยื่นข้อเสนอเป็นสูตรโอสถลำดับ 5 แทน

สูตรโอสถลำดับ 5… ของหายาก… ราคาแกว่งมาก มีตั้งแต่สี่พันห้าร้อยปอนด์ไปจนถึงเจ็ดพันปอนด์ ขึ้นอยู่กับความเร่งด่วนของผู้ซื้อขาย นอกจากนั้นยังมีค่าธรรมเนียมสำหรับพิสูจน์ความถูกต้อง… ขณะเอ็มลินเตรียมตอบตกลง มันได้ยินเสียงแหบพร่าของเดอะเวิร์ล

“ผมมี”

ทันใดนั้น พระราชวังที่ดูคล้ายถิ่นพำนักคนยักษ์พลันเงียบสงัด สมาชิกชุมนุมทาโรต์ต่างพากันมึนงง

สิ่งของเกี่ยวกับลำดับ 5 มันหาง่ายขนาดนั้นเลย? เอ็มลินรู้สึกต่ำต้อยอย่างอธิบายไม่ถูกในเรื่องที่ตนยังไม่ได้เป็นลำดับ 5 เสียที หลังจากพยายามข่มใจให้สงบสักพัก มันหันไปถาม

“เท่าไร?”

พิจารณาจากสถานภาพการเงินของเอ็มลิน·ไวท์ ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลหัวเราะในลำคอ

“ห้าพันปอนด์… สูตรโอสถนักบวชแสง”

ห้าพันปอนด์? เอ็มลินผงะเล็กน้อย ตอบโดยไม่ลังเล

“ตกลง!”

มันทำท่าทางราวกับได้เห็นตุ๊กตาตัวโปรดปักป้ายลดราคา

“ตกลง” เดอะเวิร์ลพยักหน้าแผ่วเบา ราวกับไม่ใช่การค้าขายใหญ่โตอะไร

จากนั้น มันเห็นมิสจัสติสมองไปรอบๆ ในทิศทางครึ่งวงกลม ตามด้วยกล่าว

“ดิฉันอยากว่าจ้างงานสืบสวน”

งานสืบสวน… หัวใจไคลน์เต้นแรงทันที ส่งผลให้ปฏิกิริยาตอบสนองของเกอร์มัน·สแปร์โรว์เฉื่อยชาลงเล็กน้อย

“สืบสวนอะไร?” ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สถามด้วยความกระตือรือร้น

จากประสบการณ์ส่วนตัว งานของมิสจัสติสค่อนข้างง่ายและได้ค่าตอบแทนสูง หากพอจะทำได้ก็ควรรีบคว้าไว้!

‘จัสติส’ ออเดรย์เรียบเรียงคำพูดก่อนจะตอบ

“มีสองเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นภายในเบ็คลันด์ หนึ่งคือคดีที่ต้องสงสัยว่าบารอนซินดราสจะถูกใส่ร้าย และอีกหนึ่งคือคดีพยายามลอบสังหารส.ส. มัคท์โดยมีแรงจูงใจมาจากการผลักดันปัญหามลพิษทางอาการ”

ยิ่งได้ฟังคำอธิบายจากจัสติส ฟอร์สก็ยิ่งคุ้นเคย เพราะทั้งสองคดี เธอได้เห็นมากับตาตัวเอง เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นจนจบ!

หญิงสาวเหยียดหลังตรงโดยไม่รู้ตัว ปล่อยให้มิสจัสติสเล่าต่อไป

“และจากทั้งสองคดี มีนักธุรกิจคนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เขาชื่อว่าดอน·ดันเตส เพิ่งย้ายมาอาศัยในกรุงเบ็คลันด์ได้ประมาณสองเดือน เพิ่งบริจาคหุ้นมูลค่าหนึ่งหมื่นกว่าปอนด์ให้โบสถ์รัตติกาลเพื่อจัดตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับผู้ยากไร้” ออเดรย์เล่าด้วยโทนเสียงราวกับเธอไม่เคยพบเจออีกฝ่าย แต่ได้ยินผ่านข่าวลือและเรื่องเล่า “ดิฉันต้องการให้ใครสักคนตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันของสุภาพบุรุษรายนี้”

ฉันรู้! รู้จักดีมากด้วย! เขาค่อนข้างร่ำรวย หล่อเหลา สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ตามแบบฉบับผู้มีประสบการณ์ และน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สอยากยกมือตอบ

ถ้ามิสจัสติสยังไม่พึงพอใจ เธอยังมีข้อมูลเพิ่มเติมให้ ยกตัวอย่างเช่น ดอน·ดันเตสกำลังตกอยู่ในสถานการณ์น่าสังเวช พ่อบ้านแอบศึกษามนต์ดำ บุรุษรับใช้แอบนับถือเทพมรณา มีเพื่อนบ้านเป็นผู้วิเศษ ในบล็อกถนนมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ และเพื่อให้พ้นจากเรื่องยุ่งยาก เขาตัดสินใจบริจาคหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์!

สรุปโดยสั้น เขาเป็นเหมือนกับคนต่างถิ่นที่ถูกสังคมรุมกลั่นแกล้ง เราเคยความคิดที่จะขายยารักษากระเพาะปัสสาวะให้เขา เพราะต้องไม่ลืมว่า มิสเตอร์มูนเก่งกาจด้านการปรุงยา เราสามารถทำตัวเป็นคนกลางและกินค่าธรรมเนียม… อา ใจเย็นไว้ อย่าเพิ่งรีบร้อนเปิดเผยตัว รอให้มิสจัสติสเล่าข้อเสนอให้จบ… ฟอร์สพยายามระงับความตื่นเต้น นั่งมองสตรีด้านข้างอย่างอดทน

แต่แรงกระเพื่อมทางอารมณ์อันเอ่อล้นย่อมมิอาจเล็ดลอดสายตา ‘ผู้ชม’ ภาษากายของฟอร์สทรยศต่อเจตจำนงตัวเองโดยสิ้นเชิง ออเดรย์ทั้งประหลาดใจและสับสน คาดไม่ถึงว่าฟอร์สจะรู้จักกับดอน·ดันเตสมาก่อน แถมดูเหมือนจะรู้สึกเสียด้วย

เรื่องนี้ทำให้เธอเริ่มเข้าใจเหตุผลที่ดอน·ดันเตสตกตะลึงในตอนได้เห็นตน เมื่อลองวิเคราะห์จากข้อมูลล่าสุด ออเดรย์สงสัยว่าฟอร์สอาจเคยแสดงบางสิ่งเกี่ยวกับเธอให้สุภาพบุรุษรายนี้เห็นมาก่อน

ขณะเดียวกัน ‘เดอะมูน’ เอ็มลินกำลังสมองขาวโพลน มันไม่เคยได้ยินเรื่องที่มิสจัสติสเล่ามาก่อน เพิ่งทราบว่าเคยมีคดีเหล่านี้เกิดขึ้นในเบ็คลันด์ ในทางกลับกัน ‘เดอะฟูล’ ไคลน์ที่กำลังนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เกือบหลุดกระตุกมุมปาก

มันไม่คาดคิดว่ามิสจัสติสจะลงทุนจ้างคนมาตรวจสอบข้อมูล เพราะทั้งสองฝ่ายบังเอิญเจอกันในงานเลี้ยงการกุศล และในอนาคตไม่น่าจะได้พบกันอีก ไม่มีความจำเป็นต้องสืบหาข้อมูลเชิงลึก!

หรือว่าบางพฤติกรรมของเราเป็นปัญหาจนไปกระตุ้นความสนใจจากมิสจัสติส? หรือว่าการทุ่มบริจาครวดเดียวหนึ่งหมื่นปอนด์ แสดงให้เห็นว่าเอิร์ลฮอลล์เพ่งเล็งเรา มิสจัสติสผู้ห่วยใยบิดาจึงแอบสืบสวนอย่างลับๆ? สมองไคลน์ว้าวุ่นเล็กน้อย ก่อนจะมองเห็นช่องว่างและวิธีรับมือ

ขณะเดียวกัน ออเดรย์ที่ตัดสินใจได้ หันไปมองทาง ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สด้านข้างและกล่าว

“ค่าจ้างในการสืบสวนเบื้องต้นคือห้าร้อยปอนด์ แต่ถ้าถูกลากเข้าไปพัวพันกับอันตราย ฉันจะจ่ายเพิ่มอย่างเหมาะสม”

ไม่มีปัญหา! ฟอร์สรีบขานรับในใจ

ขณะหญิงสาวเตรียมตอบตกลง เธอเหลือบเห็น ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ยกมือขึ้น

ใช่แล้ว เขายกมือขึ้น

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset