Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 858 : ใจกว้าง

ราชันเร้นลับ 858 : ใจกว้าง
บนระเบียงเล็กของห้องนอนใหญ่ ไคลน์ในร่างดอน·ดันเตสยืนอยู่หลังราวบันได เฝ้ามองรถม้าหรูหราของบารอนซินดราสค่อยๆ แล่นจากไปอย่างเงียบงัน

บทสนทนาของอีกฝ่ายยังคงดังกังวานในใจ ไคลน์เชื่อว่าการเข้าซื้อหุ้นบริษัทโคอิมของตนถูกใครบางคนวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น

สำหรับบารอนซินดราส แม้บริษัทโคอิมจะมีอนาคตสดใสและยังพัฒนาไปได้อีกไกล แต่มูลค่าปัจจุบันก็ถูกตีกรอบไว้แค่เบ็คลันด์ จึงยังไม่ดึงดูดสายตาบรรดานายธนาคารใหญ่รายอื่นมากนัก ไม่ถึงกับต้องแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังเหมือนอย่างตน และอันที่จริง ถึงจะพลาดการครอบครองหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับบารอนซินดราสก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป อย่างมากก็แค่กำไรลดลงเล็กน้อย

สำหรับผู้ขายอย่างคารอน ภายใต้แรงกดดันมหาศาลจากภายนอก เป็นเรื่องธรรมดาที่จะตัดสินใจขายหุ้นออกไป และเป็นเรื่องปรกติที่จะเกิดความลังเล ไม่อยากขายให้นักธุรกิจผู้เป็น ‘กระเป๋าสตางค์’ ของพรรคอนุรักษนิยม แต่ปัญหาคือ ในการซื้อขายที่ไม่สำคัญมากเช่นนี้ คารอนควรพิจารณาการขายให้กลุ่มทุนของนักการเมือง ไม่ใช่รีบขายให้นักธุรกิจอิสระแบบเราโดยไม่รอข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธของอีกฝ่าย เพราะเหนือสิ่งอื่นใด สิทธิประโยชน์ที่จะตามมาภายหลังนั้นสูงกว่ามาก เว้นเสียแต่มันจะเกลียดชังพวกทุนนิยม หรือไม่ก็เกลียดชังพรรคอนุรักษนิยมเข้าไส้ แต่สถานภาพทางการเมืองในปัจจุบันโลเอ็น มิได้ร้ายแรงจนต้องเกิดความขัดแย้งระดับนี้

ดูเหมือนว่า มีใครบางคนสั่งให้บารอนซินดราสเข้าซื้อหุ้น… และคนคนเดียวกันก็ออกแบบกับดักขึ้นมา ใช้หุ้นสามเปอร์เซ็นต์ของคารอนเป็นเหยื่อล่อ ใช้เราเป็นกำบังในการดึงบารอนซินดราสเข้ามาในเกมโดยหวังผลประโยชน์บางอย่าง… ไคลน์มองไปยังโคมไฟถนนยามค่ำคืน ถอนหายใจด้วยสีหน้าซับซ้อน

จากการคาดเดาของชายหนุ่ม หากตนไม่ฉุกคิดขึ้นมาได้และส่งคนไปแจ้งบารอนซินดราส เรื่องราวถัดมาจะลงเอยด้วยการที่ตนถูกจับขังคุกจากหลักฐานและพยานแวดล้อมที่แน่นหนา และเมื่อทางโบสถ์หรือกองทัพเริ่มเข้ามาแทรกแซง หลักฐานทั้งหมดจะถูกบิดเบือนให้ชี้นำไปหาบารอนซินดราสแทน

ระหว่างนั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่บารอนซินดราสจะเข้าใจผิด คิดว่าดอน·ดันเตสสมรู้ร่วมคิดกับคนที่ลอบวางกับดักตน มีโอกาสสูงที่จะตอบสนองด้วยท่าทีรุนแรงและเกรี้ยวกราด ตอกตะปูปิดฝาโลงใส่ดอน·ดันเตสให้ตายไปพร้อมกัน

ส่วนใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร ไคลน์ยังหาคำตอบไม่ได้ ทราบเพียงว่า มาดามแมรี่น่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอเองก็ถูกใช้ประโยชน์เนื่องจากไม่ต้องการสูญเสียอำนาจบริหารในบริษัทโคอิม หรือสรุปโดยสั้น เธอมีเหตุผลรองรับในการกระทำของตัวเองแน่นหนา ไม่เข้าข่ายผู้ต้องสงสัย

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม… พรรคหัวก้าวหน้า… พรรคอนุรักษนิยม… นายธนาคาร… ซื้อกิจการ… การใส่ร้าย… คำนามมากมายผุดขึ้นในใจไคลน์ทีละหนึ่ง ช่วยให้มันมองทะลุผ่านฉากหน้าอันแสนสงบสุขของกรุงเบ็คลันด์ จนกระทั่งเห็นกระแสน้ำวนอันเชี่ยวกรากแสนอันตรายที่อยู่ลึกลงไป

สิ่งเหล่านี้มีอยู่มานานแล้ว และมิได้สงบลงเพียงเพราะโศกนาฏกรรมมหาหมอกควัน บางส่วนอาจขยายตัวรุนแรงขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ผนวกกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอาณาจักร คำคำหนึ่งผุดหนึ่งในใจไคลน์

“ปฏิวัติ!”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มได้กลิ่นของพายุที่กำลังก่อตัว

ถ้าพิจารณาถึงคำทำนายเกี่ยวกับวันสิ้นโลก ไม่มีทางเดาได้เลยว่าโลกนี้มีความบ้าคลั่งกำลังก่อตัวเป็นพายุในเงามืดมากน้อยเพียงใด… เป้าหมายในปัจจุบันของเราคือการสืบหาความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควัน แต่ถ้าต้องถูกดูดเข้าไปพัวพันในพายุแห่งความโกลาหล เกรงว่าจะได้รับอันตรายโดยไม่จำเป็น แถมยังอาจถึงขั้นทำให้ลำดับพลังถูกเปิดโปงจนไม่สามารถใช้ตัวตนดอน·ดันเตสได้อีก… ไคลน์ถอนสายตากลับ ตัดสินใจกระทำบางสิ่ง

นั่นคือการนำตัวเองออกจากพายุโดยเร็ว!

สำหรับความปลอดภัยส่วนตัวของบารอนซินดราส ไคลน์ไม่กังวลมากนัก เหตุผลข้อแรก อีกฝ่ายมีพรรคอนุรักษนิยมคอยหนุนหลัง มีอำนาจในมือขนาดย่อม หลังจากถูกเตือนภัยล่วงหน้า มีโอกาสสูงที่จะเอาตัวรอดได้สบาย และเหตุผลข้อที่สอง ไคลน์กับซินดราสยังไม่สนิทกันขนาดนั้น ลำพังการช่วยแจ้งเตือนอย่างทันท่วงทีก็นับว่าเป็นประโยชน์มากแล้ว

ในส่วนคดีฆ่าตัวตายของคารอน ชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์เข้าไปวุ่นวายกับการสอบสวน คงต้องเชื่อใจว่าเหยี่ยวราตรีมีความเชี่ยวชาญและฝีมือมากพอจะสืบสวนหาความจริงในทางลับ

เราจะออกจากตรงนี้ยังไง? ตราบใดที่ยังถือหุ้นสามเปอร์เซ็นต์อยู่ เราจะกลายเป็นศูนย์กลางเวทีอย่างเลี่ยงไม่ได้… บอกให้มาดามแมรี่รีบมาซื้อไป? คงยาก เธอไม่มีเงินสด… ขายให้บารอนซินดราสทันที? นั่นถือว่าผิดสัญญาที่ทำไว้… ขณะความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์ค่อยๆ มองเห็นทางออก

กล้ามเนื้อใบหน้าไคลน์บิดเบี้ยวเล็กน้อย ก่อนจะคลายออกในเวลาไม่นาน เนื่องจากสิ่งที่ชายหนุ่มคิดจะทำต่อไป คือความตั้งใจที่เคยมีมานานแล้วแต่ไม่สามารถกระทำได้ นอกจากนั้นยังจะช่วยให้เข้าสู่สังคมชนชั้นสูงได้ง่ายขึ้น

ภายในห้องติดกันซึ่งมีระเบียงใหญ่ ซิลและฟอร์สมองไปยังถนนและสวนภายในคฤหาสน์ สลับกับมองไปยังดวงจันทร์สีแดงบนท้องฟ้าที่เผยตัวเพียงครึ่งซีกท่ามกลางกลุ่มเมฆ ไม่มีใครกล่าวคำใดเป็นเวลานาน

จนกระทั่งแสงไฟในห้องดอน·ดันเตสดับลง ฟอร์สหันไปมองเพื่อนสนิท กล่าวอย่างตื่นเต้นเจือตัดพ้อ

“การเป็นเศรษฐีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย… ถ้าเธอเป็นเขา คงได้ล้มละลายภายในสามวันและถูกจับขังคุก”

ซิลชำเลืองเพื่อนสนิทพลางตอบโต้

“ฉันสามารถจ้างพ่อบ้านมือฉมัง นักกฎหมายที่เก่งกาจ และเลขานุการมากฝีมือคอยช่วยเหลือ”

ฟอร์สหยุดการหยอกเย้าเพื่อนสนิท มุมปากเผยรอยยิ้ม

“ถ้าเป็นฉัน… ฉันจะเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นเงินฝากธนาคารและพันธบัตรของอาณาจักร กินดอกเบี้ยสบายๆ ไปจนวันตาย”

ขณะกล่าว เธอเห็นซิลขมวดคิ้วพลางจ้องลงไปยังชั้นหนึ่งของบ้านกะทันหัน

“เกิดอะไรขึ้น?” ฟอร์สเริ่มเครียด

ซิลเพ่งมองสองสามวินาทีก่อนจะตอบ

“สัมผัสวิญญาณบอกกับฉันว่า แถวนั้นมีสิ่งของที่เกี่ยวกับมนต์ดำ”

ลักษณะเด่นที่สำคัญของ ‘เจ้าพนักงาน’ ก็คือ เมื่อเข้าใกล้มากพอ จะสามารถตรวจจับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความชั่วร้าย ความวุ่นวาย และความบ้าคลั่งที่ไม่ถูกผนึกหรือปกปิดไว้

“มนต์ดำ?” ในฐานะผู้วิเศษชำนาญการ ฟอร์สไม่ประหลาดใจกับคำนี้

หากตีความตามตำรา ทุกสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ็ดเทพจารีตล้วนถือเป็นมนต์ดำ รวมถึงเวทมนตร์ในพิธีกรรมที่สวดวิงวอนถึงตัวตนลึกลับนิรนาม

แต่ในความหมายทั่วไป มนต์ดำหมายถึงคาถาพิสดารที่ใช้เลือดเนื้อ หรือเส้นผม หรือสิ่งของแปลกๆ ทุกชนิด หมายถึงพลังที่เกี่ยวข้องกับเทพมาร หมายถึงพลังพิเศษในบางเส้นทาง หมายถึงวัตถุวิญญาณที่เฉพาะเจาะจง หมายถึงสัญลักษณ์และอักขระเวทมนตร์ต้องห้าม

ซิลพยักหน้าหนักแน่น

“ถูกต้อง มันมาจากชั้นแรก เธออยู่ที่นี่ คอยปกป้องมิสเตอร์ดันเตส”

ฟอร์สเงียบงันสองสามวินาที ตามด้วยพยักหน้า

“ตกลง”

รอจนกระทั่งซิลออกจากห้องกึ่งเปิดโล่งลงไปทางระเบียงใหญ่ หญิงสาวล้วงหยิบ ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ออกจากช่องกระเป๋าลับ เตรียมใช้งานทันทีที่พบความผิดปรกติ

ในตำแหน่งอื่นของบ้าน ซิลลงมาถึงชั้นล่างอย่างคล่องแคล่ว อาศัยสัมผัสวิญญาณนำทางมายังด้านนอกห้องหนึ่ง

หลังจากยืนยันว่าเป้าหมายอยู่ข้างใน ซิลผงะเล็กน้อย สีหน้าทวีความดำมืด

หากจำไม่ผิด ห้องนี้เป็นของพ่อบ้านวอลเตอร์ผู้ว่าจ้างเธอ!

ขณะเผชิญความสับสนงุนงง สิ่งของหรือแหล่งกำเนิดของมนต์ดำพลันอันตรธานหาย ภายในห้องกลับคืนสู่สภาพปรกติราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น

ซิลนำหูแนบประตู หลังจากตั้งใจฟังสักพัก เธอได้ยินเสียงหายใจของมนุษย์

รอต่อไปอีกสักพัก เมื่อยืนยันว่าพ่อบ้านวอลเตอร์มิได้ทำอะไรต่อ ซิลปืนกลับไปยังชั้นสามด้วยสีหน้าฉงน เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสนิทฟัง

“พวกเราควรแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง หรือควรหาวิธีแจ้งให้มิสเตอร์ดันเตสทราบ?”

ฟอร์สครุ่นคิดสักพัก

“บางที มิสเตอร์พ่อบ้านอาจไม่ได้มีเจตนาร้าย… รอดูไปก่อนดีกว่า”

หลังจากแสดงความเห็น ฟอร์สเสริม

“พูดได้เพียงว่า ดอน·ดันเตสช่างเป็นคนที่น่าสงสาร ไม่เพียงจะถูกใช้เป็นหมากเพื่อวางกับดักบารอนซินดราสจนเกือบถูกขังลืมและชื่อเสียงหดหาย แต่พ่อบ้านใกล้ตัวก็ยังแอบศึกษามนต์ดำโดยไม่ทราบจุดประสงค์แน่ชัด… เฮ่อ หวังว่าเขาจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปได้… เป็นคนธรรมดาที่น่าสงสารมาก”

ซิลพยักหน้าเห็นด้วย

“รอสามวัน หากยังไม่สามารถยืนยันเจตนาของพ่อบ้านได้ เราจะทิ้งโน้ตแจ้งเตือนถึงเขา”

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากกินอาหารเช้าและทักทายพ่อบ้านวอลเตอร์ตามปรกติ ไคลน์เดินทางออกจากบ้านไปพร้อมกับบุรุษรับใช้ริชาร์ดสัน จุดหมายคือวิหารนักบุญแซมมวล

หลังจากฟังเทศน์และสวดมนต์ ไคลน์ไม่เดินไปบริจาคเงิน แต่ตรงไปหาบิชอปอีเล็คตร้าทันที

“มีอะไรหรือ?” แม้บิชอปจะเผชิญสถานการณ์ยากลำบากหลังจากประตูยานิสถูกแทรกซึม แต่มันก็ยังต้อนรับผู้เชื่อกระเป๋าหนักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ไคลน์ยิ้มตอบและกล่าวต่อ

“หลังจากเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองชัดเจนขึ้น”

โดยไม่รอให้บิชอปอีเล็คตร้าถาม มันพูดต่อ

“ผมยากตั้งกองทุนการศึกษาเพื่อคนยากไร้ สิ่งนี้ต้องการความช่วยเหลือจากศาสนจักร… ผมอยากทำหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ของบริษัทโคอิมเข้ามาผูกกับกองทัพ เมื่อครบสัญญาเปลี่ยนเป็นเงินสด นั่นคือเงินตั้งต้นของกองทุน”

บิชอปอีเล็คตร้าเผยสีหน้าตกตะลึงอย่างชัดเจน เพราะนั่นไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ

แม้จะไม่มีใครทราบว่าดอน·ดันเตสใช้เงินจำนวนเท่าไรในการซื้อหุ้นสามเปอร์เซ็นต์ แต่จากข่าวลือ ทุกคนมั่นใจตรงกันว่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์ หมายความว่ากองทุนนี้จะมีเงินตั้งต้นมหาศาล!

ย้อนกลับไปในอดีต มาดามแมรี่เคยถูก ‘เศรษฐี’ ที่มีทรัพย์สินเพียงหลักหมื่นปอนด์ตามจีบหลายต่อหลายคน

ดังนั้น การบริจาคเงินรวดเดียวหลักหมื่นปอนด์ของดอน·ดันเตสในคราวนี้นับว่าเป็นตัวเลขมหาศาล จากประวัติศาสตร์ของโบสถ์รัตติกาล หากไม่นับมรดกที่ผู้ตายยกให้โบสถ์ จำนวนครั้งที่มีการบริจาครวดเดียวเกินหนึ่งหมื่นปอนด์สามารถนับได้ด้วยฝ่ามือเดียว!

“เป็นการตัดสินใจที่น่ายกย่องมาก…” บิชอปอีเล็คตร้ากล่าวจากก้นบึ้ง “แต่ผมขอเตือนคุณไว้หนึ่งเรื่อง อย่าทำอะไรเกินตัวเด็ดขาด”

ไคลน์ยิ้มและตอบ

“สำหรับผม ถึงเงินก้อนนี้จะไม่ใช่ตัวเลขที่น้อย แต่ก็ไม่กระทบกับธุรกิจ ยังใช้ชีวิตได้อย่างไม่เดือดร้อน”

รอยยิ้มของอีเล็คตร้าทวีความอ่อนโยน พยักหน้ารับและกล่าว

“เทพธิดาจะเฝ้ามองคุณแน่นอน”

ได้ยินคำอวยพรดังกล่าว มุมปากไคลน์กระตุกทันที

บิชอปอีเล็คตร้าเสริม

“ผมจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าคุณอาร์ชบิชอปทราบ รวมถึงการจัดงานเลี้ยงเนื่องในโอกาสก่อตั้งกองทุนขึ้น เมื่อถึงเวลานั้น ทางโบสถ์จะเชิญสาวกจากแวดวงต่างๆ มาเข้าร่วมงาน แน่นอนว่ามีขุนนางใหญ่และตระกูลชั้นนำของอาณาจักร ดูว่ามีใครสนใจจะสมทบทุนกับคุณบ้างไหม”

อีเล็คตร้าทราบดีว่าดอน·ดันเตสต้องการเข้าสู่แวดวงชนชั้นสูง จึงจงใจเอ่ยถึงการเชื้อเชิญบรรดาขุนนางใหญ่

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset