ราชันเร้นลับ 847 : ชื่อที่ซ่อนอยู่ในเอกสาร
ภายในรถม้าที่แล่นผ่านสี่แยกถนนเบิร์คลุน เลียวนาร์ด·มิเชลกำลังสนทนาในหัวข้อเกี่ยวกับดอน·ดันเตส เป้าหมายการสืบสวนในคราวนี้ ร่วมกับถุงมือแดงอีกสองคน
“ฉันยังไม่เคยปฏิสัมพันธ์กับสุภาพบุรุษรายนี้โดยตรง มีเพียงการสอบปากคำคนรับใช้และเพื่อนบ้าน” ซินดี้ สตรีผมยาวสีไวน์แดงเริ่มเกริ่นเกี่ยวกับผลการสอบสวน “ทางนี้ยืนยันได้เบื้องต้นว่า ดอน·ดันเตสยังคงทำตัวตามปรกติตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนเช้า เขาเข้านอนตอนห้าทุ่มกว่าและตื่นประมาณเจ็ดโมงครึ่ง บุรุษรับใช้ที่เป็นคนเตรียมเสื้อผ้าช่วยยืนยันเรื่องนี้ ไม่มีความผิดใดเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว… แน่นอน ในบางวันอาจมีการตื่นขึ้นมากินมื้อดึกหลังเที่ยงคืน บางวันอาจตื่นก่อนเจ็ดโมงเพื่อไปเดินเล่น แต่นั่นไม่ใช่กิจวัตร”
บ๊อบ ถุงมือแดงอีกหนึ่งคน พยักหน้ารับ
“จากข้อมูลดังกล่าว ดอน·ดันเตสไม่มีปัญหา”
เลียวนาร์ด·มิเชลผู้กำลังนั่งอยู่ในท่าผ่อนคลาย ยิ้มมุมปากและพูด
“อาจจะตรงกันข้ามเลยก็ได้… จากข้อมูลสรุปในปัจจุบัน คนงานที่หายตัวไปถูกสวมรอยระหว่างเวลาห้าทุ่มยี่สิบถึงสามสิบห้าของเมื่อคืน ในเช้าวันถัดมา คนร้ายลอบแทรกซึมเข้าไปในประตูยานิสช่วงหกโมงเช้า ทางวิหารตรวจพบปัญหาตอนเจ็ดโมงยี่สิบ แต่ก็จับมือใครดมไม่ได้… กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุ ดอน·ดันเตสกำลังนอนหลับโดยไม่มีพยานยืนยันตัว”
“สมเหตุสมผล…” ซินดี้มองหน้าเลียวนาร์ดด้วยความประหลาดใจ
ตามภาพจำของเธอ แม้เพื่อนร่วมทีมรายนี้จะมีข้อสันนิษฐานที่แม่นยำและตรงจุดเสมอ แต่ก็ไม่ค่อยอธิบายรายละเอียดเหมือนเมื่อครู่มากนัก ชอบทำตัวเป็นนักกวีเกียจคร้านที่จะกระตือรือร้นเป็นครั้งคราว
บ๊อบผู้มีคางเรียวแหลม ขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า
“ถ้าจะอ้างเหตุผลของคุณ ไม่มีใครในรายชื่อนี้ที่บริสุทธิ์แม้แต่คนเดียว พวกเขาล้วนหลับสนิทโดยไม่มีพยานยืนยัน ต่อให้อาศัยร่วมกับภรรยาหรือสามี แต่ก็คงกำลังหลับอยู่พร้อมกัน… แล้วก็ ผมคิดว่าคนร้ายไม่น่าจะกล้าและบ้าบิ่นขนาดนั้น หลังจากลอบแทรกซึมประตูยานิสและหลบหนีออกมาได้อย่างราบรื่น บรรลุภารกิจที่เป็นราวกับปาฏิหาริย์ เขาจะยังอาศัยอยู่ใกล้ๆ โดยไม่เปลี่ยนตัวตนเลยหรือ? นั่นเสี่ยงเกินไปสำหรับคนร้ายที่รัดกุมและรอบคอบ เว้นเสียแต่ยังมีแผนการบางอย่างในใจ หรือไม่ก็ยังอาลัยอาวรณ์กับบางสิ่งใกล้ๆ … แต่จะมีอะไรเทียบได้กับสิ่งของภายในประตูยานิสอีกหรือ? สิ่งใดเทียบได้กับวัตถุดิบหลัก สูตรโอสถ และสมบัติปิดผนึกภายในนั้น?”
ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรู้ว่าเขาคือตัวปัญหา ก็คงมีความคิดแบบเดียวกันกับนาย… เลียวนาร์ดครุ่นคิดสักพัก ยกเท้าขวาขึ้นมาไขว่ห้างและพูด
“ผมแค่จะบอกว่าพวกเราไม่ควรรีบตัดดอน·ดันเตสออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัย… นอกจากนั้น หัวหน้ายังบอกด้วยว่าคนร้ายอาจเสียชีวิตแล้วภายในประตูยานิส ถึงดอน·ดันเตสจะไม่ใช่คนร้าย แต่เขาก็อาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด… อา คุณไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปหน่อยหรือ? หลังจากเขาย้ายมาได้ไม่ถึงสองเดือน วิหารนักบุญแซมมวลต้องเผชิญกับเหตุร้ายแรงในระดับหลายร้อยปี… ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแวะมาที่วิหารนักบุญแซมมวลบ่อยเกินไป มีโอกาสมากที่จะคอยสอดส่องเวรยาม… เหนือสิ่งอื่นใด ไม่กี่วันที่ผ่านมาเพิ่งเกิดเหตุระเบิดภายในท่อระบายน้ำของถนนเบิร์คลุน”
ซินดี้รวบผมยาวสีไวน์แดง
“เหตุผลของคุณฟังขึ้น ฉันคิดว่าเราควรต้องเน้นสืบสวนเขา”
บ๊อบดึงขอบถุงมือสีแดงข้างซ้ายขึ้นพลางกล่าว
“จริงอยู่ที่มีความบังเอิญเกิดขึ้นมากมาย… แต่ความบังเอิญไม่ได้บ่งชี้ว่าดอน·ดันเตสคือตัวปัญหา การไปวิหารทุกวันของเขาเพื่อฟังบิชอปเทศนา อย่างมากก็ทำให้ทราบโครงสร้างอาคารเพียงผิวเผิน แต่มิอาจเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกอย่างเวลาที่ผู้คุมจะเข้าไปทำงานในประตูยานิส หรือขั้นตอนการดำเนินงานของเหยี่ยวราตรี”
“ถึงบอกไงว่าเขาอาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด” เลียวนาร์ดยักไหล่
มันเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมดอน·ดันเตสถึงรู้กระบวนการภายในของเหยี่ยวราตรีอย่างทะลุปรุโปร่ง
ซินดี้เสริม
“อย่างไรก็ดี พวกเราต้องตรวจสอบเขาในเชิงลึก… รอจนถึงตอนเที่ยงค่อยเข้าไปถามเขาโดยตรงในฝันดีไหม? ได้ยินว่าเขามีนิสัยชอบงีบตอนกลางวัน”
เลียวนาร์ดยกมือขวาขึ้นโบกแผ่วเบา
“ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น… ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยทำการสืบสวนตามธรรมเนียมกับเขา… ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยเข้าฝันเขา เราเคยทำแล้วแต่ไม่พบปัญหา… ถ้าเขาบริสุทธิ์ พวกเราก็จะเสียเวลาเปล่า… แต่ถ้าเขาคือตัวปัญหา พิจารณาจากการที่เคยถูกสอบปากคำมาก่อนและไม่เปิดเผยความผิดปรกติ แปลว่าเขามีวิธีปกปิดความลับในความฝัน และเราก็จะถูกหลอกอีกครั้ง… ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือการคอยจับตามอง สอดส่องว่าเขาติดต่อกับใครบาง ระหว่างนั้นก็รอการสอบสวนของแคว้นเดซีย์เกี่ยวกับตัวจริงของเศรษฐีรายนี้ เมื่อมีเบาะแสเพิ่มเติมค่อยดำเนินการสอบสวนด้วยวิธีการขั้นสูงกว่าเดิม”
ซินดี้ถึงกับอึ้ง อดไม่ได้ที่จะกล่าวติดตลก
“หายากนะเนี่ย… การที่คุณวิเคราะห์คดีแบบเอาจริงเอาจัง”
นอกจากนั้น แนวคิดและกระบวนการก็ยังชัดเจน มีระเบียบแบบแผนมาก!
เลียวนาร์ดเงียบไปสักพัก หัวเราะกับตัวเอง
“อาจเป็นเพราะ… ผมเคยเจออะไรที่คล้ายกันมาก่อน”
ทันใดนั้น ซินดี้สัมผัสได้ว่าดวงตาเลียวนาร์ดหมองลงกะทันหัน
เธอไม่สานต่อประเด็นเก่า
“ถ้าอย่างนั้นมาผลัดกันเฝ้าจับตามองดอน·ดันเตส เริ่มที่ฉัน”
“ตกลง” เลียวนาร์ดพยักหน้าพลางหันไปทางบ๊อบ “คุณไปตรวจสอบเอกคดีระเบิดท่อระบายน้ำเมื่อไม่กี่วันก่อน ยืนยันให้แน่ใจว่าไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม ส่วนผมจะกลับไปอ่านแฟ้มคดีอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง”
หลังจากแบ่งงานเสร็จ ถุงมือแดงทั้งสามแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ในหมู่พวกมัน เลียวนาร์ดกลับไปยังห้องใต้ดินของวิหารนักบุญแซมมวลเพื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับคดีบนถนนเบิร์คลุน รวมถึงแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับชุมนุมแสงเหนือในกรุงเบ็คลันด์ตลอดสามปีหลัง
สำหรับอย่างหลัง เลียวนาร์ดทำการสืบสวนตามคำแนะนำของปรสิตในร่างกาย
นามของเดอะฟูลถูกเผยแพร่ครั้งแรกโดยชุมนุมแสงเหนือ นั่นหมายความว่า ชุมนุมแสงเหนือเกี่ยวข้องกับตัวตนลึกลับนี้ หรือไม่ก็ถูกองค์กรที่มีเดอะฟูลอยู่เบื้องหลังเล่นงานจนเกิดความเสียหาย!
กลับถึงห้องทำงาน เลียวนาร์ดสลัดคราบคนขี้เกียจพร้อมกับอ่านเอกสารปึกใหญ่อย่างตั้งใจ
ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับชุมนุมแสงเหนือ มันคุ้นเคยกับคดีลาเนวุสมากที่สุด เอกสารระบุไว้ว่าในคดีดังกล่าว พระผู้สร้างแท้จริงล้มเหลวในการเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ด้วยเหตุผลที่อธิบายไม่ได้ ผู้ลงมือคือชายลึกลับที่ชอบล่าอาชญากรเป็นงานอดิเรก ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด’ เพราะเหยื่อส่วนใหญ่จะถูกโปรยไพ่ทาโรต์หลังจากฆ่า มีคดีเดียวที่ปราศจากไพ่ทาโรต์คือการสังหาร ‘ผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย’ เจสัน·บีเลียลในท่อระบายน้ำ และนั่นเป็นเพราะเลียวนาร์ดไปถึงจุดเกิดเหตุเร็ว ทำให้ไม่มีเวลาตกแต่งศพ
เป็นอีกครั้งที่เลียวนาร์ดได้เห็นชื่อเชอร์ล็อก·โมเรียตี้เป็นส่วนหนึ่งของคดีแบบห่างๆ
มิสเตอร์ X แห่งชุมนุมแสงเหนือถูกลอบสังหารในชุมนุมลับของตัวเอง… มีพลังครึ่งเทพปรากฏขึ้น… ดอน·ดันเตสอยู่ในกรุงเบ็คลันด์… ทุกอย่างสอดคล้องกันมาก…
มิสเตอร์ A แห่งชุมนุมแสงเหนือและนิกายแม่มดร่วมมือกันสร้างโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ และนักสืบเชอร์ล็อกก็หายตัวไปหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว…
มิสเตอร์ A คือผู้ลอบสังหารราชทูตอินทิส เบเคอร์ลัน·ฌอง·มาติน…
…
เลียวนาร์ดอ่านไล่ไปทีละคดี แต่ก็ไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม
หลังจากลูบหน้าผาก มันตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางการสืบสวน เริ่มตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดแทน
คดีลาเนวุส… คดีแรกที่มีการโปรยไพ่ทาโรต์ประดับศพ… เดอะฟูลคือจุดเริ่มต้นของไพ่ทาโรต์…
คดีคาพิน… พลังที่จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดแสดงให้เห็น ชายคนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเลียนแบบใคร… แต่ก็ยังโปรยไพ่ทาโรต์ลงบนศพ…
คดีผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย เจสัน·บีเลียล… เราได้เห็นจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดกับตา ทำให้เขาไม่มีเวลาโปรยไพ่…
นอกจากเรื่องที่เป็นเหตุการณ์สำคัญและมีเหยื่อเป็นอาชญากร ความเชื่อมโยงระหว่างสามคดีนี้คืออะไร? เลียวนาร์ดเค้นสมองครุ่นคิดและพบเพียงว่า นักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้เกี่ยวข้องกับคดีลาเนวุสกับคาพิน
แล้วคดีของผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย?
เลียวนาร์ดเปิดอ่านเอกสารที่เหลือทีละหน้า จนกระทั่งพบบรรทัดหนึ่งที่ไม่เด่นมาก
“เหยื่อที่ถูกคนร้ายโจมตีประกอบด้วยนักสืบไอเซนการ์ด·สแตนธอน นักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้”
สีหน้าแววตาเลียวนาร์ดเผยความตื่นเต้นทันทีที่พบความคืบหน้า
มันย้อนกลับไปเปิดอ่านคดีที่เกี่ยวข้องกับชุมนุมแสงเหนือใหม่อีกครั้งโดยไม่พลาดรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทุกคน และหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจ มันพบชื่อหนึ่งในทุกๆ คดี
คดีมิสเตอร์ A แห่งชุมนุมแสงเหนือลอบสังหารราชทูตอินทิส… ราชทูตอินทิสเป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองอินทิสในภารกิจแย่งชิงพิมพ์เขียวของเครื่องหาผลต่าง… เบาะแสของพิมพ์เขียวเครื่องหาผลต่างมาจากสายลับคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นนักสืบเอกชน…
มีรายงานว่า นักสืบเอกชนคนอื่นเกือบถูกฆ่าโดยแก๊งอันธพาลที่ได้รับคำสั่งจากราชทูตอินทิสโดยตรง… นักสืบเอกชนอีกแล้ว… เลียวนาร์ดลุกพรวดและเดินออกจากวิหารนักบุญแซมมวล ตรงไปยังสถานีตำรวจที่เคยรับทำคดีดังกล่าว
แม้ว่าเอกสารส่วนใหญ่จะถูก MI9 ลบออกไป แต่เลียวนาร์ดก็ยังพบชื่อของผู้แจ้งความ
“เชอร์ล็อก·โมเรียตี้!”
ตอนนี้เราค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ยอดนักสืบรายนี้ต้องมีส่วนพัวพันกับโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ในฐานะผู้เกี่ยวข้องแบบห่างๆ! เขาและดอน·ดันเตสสังกัดองค์กรลับที่ศรัทธาเดอะฟูล? มุมปากเลียวนาร์ดยกขึ้นเล็กน้อยขณะครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อสันนิษฐาน
…
บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ภายในห้องนอนใหญ่
ไคลน์ที่งีบหลับในช่วงบ่ายมิได้เผชิญการ ‘สอบปากคำ’ ของเหยี่ยวราตรี แต่เป็นการ ‘กลับไป’ ยังหมู่บ้านสายหมอกอีกครั้ง ชายหนุ่มเห็น ‘แม่มดสิ้นหวัง’ พานาเทียที่แสยะยิ้มจนเห็นฟันขาวและคราบเลือดตามซอกฟัน เห็นพานาเทียถูกแขวนกลางอากาศในสภาพดวงตาเหลือกขึ้น สีหน้าสิ้นหวังสุดขีด
ศพที่ถูกแขวนเรียงราย เห็ดยักษ์พิสดารแสนน่ากลัว กลุ่มก้อนหนอนแมลงโปร่งใสยุบพองนับไม่ถ้วน ฉากแล้วฉากเล่าแล่นผ่านสมองจนไคลน์สะดุ้งตื่น
หลังจากลูบขมับ ไคลน์พบว่าสภาพจิตใจของตนเข้าขั้นเลวร้าย นี่ไม่ใช่ปัญหาที่พลังของมิติหมอกจะรักษาได้ตามลำพัง
ครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มตัดสินใจเข้าห้องน้ำและส่งตัวเองเข้าสู่มิติเหนือสายหมอก เสกเกอร์มัน·สแปร์โรว์ขึ้นมาสวดวิงวอน
“ได้โปรดถามมิสจัสติสว่า เธอว่างเร็วที่สุดตอนไหน ผมจำเป็นต้องได้รับการบำบัดอาการทางจิต”