Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1043 : ต่างคนต่างความคิด

ดวงตาของ ‘เดอะมูน’ เอ็มลินส่องประกายขณะเอนหลังพิงเก้าอี้ ยิ้มและตอบคำถามของมิสจัสติสดังจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว

“สิ่งที่ข้าต้องทำนั้นไม่ซับซ้อน นั่นคือการทำให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินแผนการไปอย่างราบรื่น”

ก็แปลว่าไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้? เดิมที ‘จัสติส’ ออเดรย์เตรียมจะถามอีกสักสองสามคำถาม แต่เมื่อสำรวจเดอะมูนหัวจรดเท้า เธอนึกทบทวนคำตอบก่อนจะยิ้มและกล่าว

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องเดียวที่คุณต้องทำก็คือ รักษาตัวเองให้ปลอดภัย”

สมเหตุสมผล เราไม่ควรหาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อน และเดิมที เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว… เราไม่ได้อยู่ในงานที่ต้องแบกรับความเสี่ยง ขอเพียงเช่า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ และขอให้เดอะเวิร์ลบันทึกพลัง ‘เทเลพอร์ต’ ไว้สักสองสามหน้า ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป… ‘เดอะมูน’ เอ็มลินครุ่นคิดสักพัก พยักหน้ารับแผ่วเบาและกล่าว

“เป็นคำแนะนำที่ดี”

และเนื่องจากไม่มีสมาชิกของชุมนุมทาโรต์เข้าร่วมในการปฏิบัติการร่วมระหว่างผีดูดเลือดและผู้หลบหนีของโรงเรียนกุหลาบ สิ่งต่างๆ จึงอยู่นอกเหนือความควบคุมของพวกตน การชุมนุมย่อยจึงยุติลงภายในระยะเวลาอันสั้น สมาชิกถูกส่งกลับสู่โลกความจริงโดยพร้อมเพรียง

ไคลน์ไม่รีบร้อนกลับออกไป หลังจากที่ร่างของเดอะเวิร์ลเลือนหาย บนเก้าอี้ของ ‘เดอะฟูล’ มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มกวักมือเรียกไม้กางเขนเจิดจรัสที่ถูกยึดติดกับสมบัติวิเศษ ‘นิ้วหัก’ แห่งเส้นทางนักจารกรรม

สิ่งที่ไคลน์ได้เห็นก็คือ บนพื้นผิวของ ‘แหนบ’ สีเทาอ่อนซึ่งเกิดจากการขัดของกระดูกนิ้ว มีร่องรอยของเม็ดกรวดสีดำจำนวนมากปรากฏขึ้น สีของมันดำสนิทจนดูเหมือนกับดูดซับแสงรอบตัวทั้งหมดเข้าไป มันกำลังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าในลักษณะรวมตัวกัน คล้ายกับกำลังจัดระเบียบรูปทรงใหม่

สำหรับเนื้อกระดูกที่เป็นวัสดุของแหนบ ‘นิ้วหัก’ สีเทาของมันเริ่มกลายเป็นโปร่งใส ตามพื้นผิวเต็มไปด้วยรูพรุนจำนวนมาก

อย่างที่คิด ไม้กางเขนเจิดจรัสสามารถสกัดตะกอนพลังออกจากสมบัติวิเศษได้… พวกมันจะแตกตัวและค่อยๆ ผสานเข้าด้วยกันใหม่อย่างเชื่องช้า… แน่นอน กุญแจสำคัญก็คือการ ‘มัด’ ด้วยพลังลึกลับเหนือสายหมอกสีเทา ไม่อย่างนั้น ไม้กางเขนคงไม่ ‘เต็ม’ ที่จะสัมผัสกับสมบัติวิเศษอื่น… ไคลน์พยักหน้าพึงพอใจ

ทันใดนั้น ‘นิ้วหัก’ สีเทาอ่อนพลันสั่นระริกกะทันหัน จากนั้นก็ส่งเสียง:

“โอ้! บุตรชายของข้า”

“ข้าขอสรรเสริญ!”

“สรรเสริญดวงสุริยัน!”

“…”

วัตถุลักษณะคล้ายแหนบเริ่มร้องเพลง ภายในเนื้อมีเสียงปริแตกดังเป็นระยะ ประหนึ่งพร้อมจะแหลกละเอียดได้ทุกวินาที

ทว่า นั่นมิได้ส่งผลกระทบกับการสรรเสริญดวงอาทิตย์

“…” ไคลน์เฝ้ามองฉากนี้พร้อมกับอ้าปากค้างเล็กน้อย หมดคำจะกล่าวไปสักพัก

ผ่านไปไม่กี่วินาที มันถอนหายใจยาว จับแยกไม้กางเขนเจิดจรัสกับนิ้วหักออกจากกัน จากนั้นก็ถูกโยนไปทางซากกองขยะและตกในจุดที่แตกต่าง ปิดท้ายด้วยการถูกไคลน์ใช้พลังของมิติหมอกสยบ

ทันทีหลังจากนั้น ชายหนุ่มเตรียมกลับสู่โลกความจริง

แต่ว่า จุดแสงที่ทำเครื่องหมายไว้ จุดแสงซึ่งเป็นตัวแทนสาวกเพียงคนเดียวของเดอะฟูล กำลังยุบพองพร้อมกับส่งเสียงวิงวอน

ไคลน์หยุดความคิดทั้งหมดและถ่ายพลังวิญญาณเข้าไป ทันใดนั้น ฉากตรงหน้าชายหนุ่มกลายเป็นภาพของเดนิสที่กำลังสวดวิงวอนอยู่ในห้องพัก:

“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ สาวกผู้ถ่อมตนของท่าน ขอรบกวนให้ท่านถ่ายทอดข้อความเหล่านี้ไปถึงเกอร์มัน·สแปร์โรว์… ตามคำบอกเล่าของกัปตัน แม้จะมีวัตถุหลายชิ้นในทะเลที่ลือกันว่าเป็นสิ่งของของ ‘พลเรือโทโรคภัย’ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นของปลอมโดยไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่หนึ่ง และเนื่องจากเคยถูกลอบสังหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นายพลโจรสลัดรายนี้จึงปกปิดแผนการเดินทางอย่างรัดกุมมาก ลงมือปล้นน้อยลง ครั้งสุดท้ายที่กองเรือของเธอปรากฏตัวขึ้นคือเมื่อสองเดือนก่อน ใกล้กับเกาะไซรอสทางตะวันตกของทะเลคลั่ง โดยในภายหลัง เรือของเธอแล่นเข้าไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ไม่มีใครทราบว่ามุ่งหน้าไปไหน… วัตถุแปลกปลอมในท้องของแอนเดอร์สันถูกควบคุมเบื้องต้นแล้ว ถูกกีดกันออกจากร่างกายในระดับหนึ่ง มันจะไม่แทรกซึมเข้าไปในเลือดเนื้อของแอนเดอร์สันสักพัก”

“มีสองวิธีที่จะแก้ปัญหาได้ชะงักงัน… หนึ่งคือการขอความช่วยเหลือจากลำดับ 4 ผู้เจิดจรัส แห่งเส้นทางสุริยัน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ตะกอนพลังเดิมจะถูกขจัดออกไปด้วยในปริมาณมาก… วิธีที่สองก็คือ ตามหาสูตรโอสถของลำดับ 4 เส้นทางนักล่า ‘อัศวินเลือดเหล็ก’ จากนั้นก็อาศัยความช่วยเหลือจากพิธีกรรมและวัสดุ ดูดซับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปโดยตรง”

“แอนเดอร์สันชอบตัวเลือกหลังมากกว่า เขายินดีที่จะเสี่ยง”

เห็นได้ชัดว่าเดนิสกำลังท่องคำตอบของพลเรือโทธารน้ำแข็ง เพราะฟังยังไงก็ไม่เหมือนกับสำเนียงการพูดตามปรกติของหมอนั่น… แต่ทำไมถึงยังพูดผิดในบางคำ? เดนิสแอบเปลี่ยนตามที่ตัวเองเข้าใจ? หรือเขากังวลว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะไม่เข้าใจ? ไคลน์เลิกคิ้ว หันเหสมาธิกลับมาสนใจเนื้อหา:

พลเรือโทโรคภัยทำตามคำสั่งของนิกายแม่มด ตัดสินใจซ่อนตัวในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้? หากเป็นเรื่องจริง การจับกุมเธอในระยะสั้นๆ คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และในอีกหนึ่งถึงสองเดือนถัดไป เรื่องราวอาจดำเนินไปถึงบทสรุปจนเราไม่จำเป็นต้องตามหาเธอ…

คงต้องส่งเดนิสไปสืบด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ … อา… ตอนนี้ไม่มีทางเลือก ต้องเบนเป้าไปหาแม่มดทริสซี่ เพราะเรามีวิธีติดต่อกับเธอ… จากนั้นใช้ข้ออ้างว่าจะร่วมมือกันปราบ ‘นักบุญขาว’ คาร์เทอริน่า… เราจะให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์ไปพบกับเธอซึ่งๆ หน้า ดูว่าจะใช้เธอล่อลวงคาร์เทอริน่าออกมาได้ไหม…

สำหรับสองวิธีที่จะช่วยแอนเดอร์สัน เราสามารถทำได้ทั้งคู่… แต่ในเมื่อหมอนั่นชอบความเสี่ยง อยากลองเลื่อนลำดับเพื่อดูดซับสิ่งแปลกปลอม เราก็ไม่ขัดข้อง… ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องวุ่นวายขายสิทธิ์ในการเช่าไม้กางเขนผ่านเดนิส… อา… อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่า ไม้กางเขนที่อาดัมจงใจทิ้งไว้ จะไปทำปฏิกิริยาประหลาดๆ กับวัตถุที่อาดัมใส่ในท้องแอนเดอร์สัน

สำหรับสูตรโอสถ ‘อัศวินเลือดเหล็ก’ ถ้าพิจารณาว่าแอนเดอร์สันมีบทบาทสำคัญในการล่อลวงอินซ์·แซงวีลล์ออกมา ใช่ว่าเราจะยกให้หมอนั่นไม่ได้… หืม… แบบนี้จะเท่ากับว่า สิ่งแปลกปลอมในท้องคือ ‘รางวัล’ จากอาดัมด้วยเช่นกัน? ว่าแต่… แอนเดอร์สันไม่ใช่สาวกของเดอะฟูล เราไม่สามารถ ‘มอบ’ ให้โดยตรง… เกอร์มัน·สแปร์โรว์ก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะยกรางวัลที่มีค่าขนาดนี้ให้…

ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์คิดไวทำไม เสก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์และทำท่าสวดวิงวอน

ทะเลหมอก ภายใน ‘ฝันทองคำ’

โครม!

ประตูไม้ถูกผลักกะทันหัน บานประตูชนกำแพงอย่างแรง

ท่ามกลางเสียงเอะอะ แอนเดอร์สันหยุดใช้นิ้วพลิกหน้าหนังสือ สายตาหันไปมองเดนิสซึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้อง สีหน้าเป็นไปอย่างเหนื่อยหน่าย

“ฉันมีงานดีๆ มาให้นายทำ” เดนิสผู้สวมเสื้อคลุมแต่ไม่สวมถุงมือ เชิดคางขึ้นพลางหัวเราะในลำคอ

แอนเดอร์สันสำรวจโจรสลัดฝั่งตรงข้ามหัวจรดเท้า ส่ายหน้าและเดาะลิ้นเสียงดัง:

“นายดูภูมิใจมากเลยนะ… ภารกิจอะไร?”

เดนิสชำเลืองด้วยหางตา ก่อนจะกล่าว

“ไปเกาะไซรอสกับฉัน ช่วยกันสืบหาเบาะแสของพลเรือโทโรคภัย… นอกจากนั้น ช่วยฉันรวบรวมวัตถุดิบวิเศษสำหรับนักวางแผน… หึหึ… และแน่นอน นายต้องเป็นคนจ่ายเงิน”

แอนเดอร์สันพยักหน้าครุ่นคิด

“แล้วฉันจะได้อะไร?”

เดนิสยิ้มมุมปาก กล่าวด้วยท่าทีของผู้เหนือกว่า

“วัตถุดิบเสริมและพิธีกรรมสำหรับเลื่อนเป็น ‘อัศวินเลือดเหล็ก’ ”

แอนเดอร์สันไม่ตอบในทันที ไม่กล่าวสิ่งใดสักพัก เอาแต่จ้องหน้าเดนิสนานเกือบสิบวินาที

จากนั้น คล้ายกับมันทนไม่ไหวอีกต่อไป ลุกพรวดพร้อมกับโยนหนังสือในมือทิ้ง กล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส

“ออกเดินทางเมื่อไร?”

กรุงเบ็คลันด์ เขตตะวันออก ภายในบ้านเช่าสองห้องนอนที่กำลังขึงผ้าม่านปิดมิดชิด

ทริสซี่ในเดรสสีดำกำลังเก็บสัมภาระ เตรียมย้ายแหล่งกบดาน

ใบหน้ากลมกลึงของเธอซูบลงกว่าเดิมเล็กน้อย นอกจากความอ่อนหวาน ปัจจุบันเปี่ยมไปด้วยความงดงามอันยากจะบรรยาย แม้จะเป็นฝั่งตะวันออกที่สกปรกและวุ่นวาย แต่ดูราวกับส่งสกปรกและมลทินไม่สามารถสัมผัสกับตัวเธอ

ทริสซี่ยังไม่ยกกระเป๋าเดินทางสีดำ หลังจากมองไปรอบตัว เธอเดินไปทางโต๊ะอ่านหนังสือ กางกระดาษจดหมาย หยิบปากกาขึ้นมาเขียน

“มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์… ฉันได้รับข้อมูลสำคัญจากหัวหน้าราชองครักษ์: ชายคนนั้นจงรักภักดีอย่างแท้จริงกับกษัตริย์จอร์จที่สาม… คุณน่าจะเข้าใจความหมายของประโยคนี้เป็นอย่างดี… เป้าหมายถัดไปของฉันคือการสืบหาว่า กษัตริย์กำลังวางแผนทำอะไร และเพื่อการนั้น ฉันเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องต่อสู้กับ ‘นักบุญขาว’ คาร์เทอริน่าแห่งนิกายแม่มด เธอต้องรู้ความลับบางอย่างแน่… เธออยู่ในลำดับ 3 แม่มดยุพนิรันดร์ เป็นเรื่องมากที่จะกำจัด และยากยิ่งกว่าที่จะจับเป็น… ขอสารภาพว่า พลังของฉันคนเดียวไม่เพียงพอที่จะจัดการกับเธอ หากคุณสนใจ และมีความมั่นใจ พวกเราสามารถร่วมมือกันได้… คุณรู้วิธีติดต่อฉันอยู่แล้ว”

“จากทริสซี่”

วางปากกาลง ทริสซี่พับกระดาษจดหมาย ประกอบพิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสารของเกอร์มัน·สแปร์โรว์

เธอไม่เคยเขียนจดหมายถึงนักผจญภัยเสียสติจนกระทั่งตอนนี้ ด้วยกังวลว่าอีกฝ่ายจะใช้ผู้ส่งสารเพื่อ ‘ล็อกเป้า’ ตำแหน่งของเธอ จากนั้นก็เทเลพอร์ตมาจู่โจมฉับพลัน ดังนั้น เธอรอจนกระทั่งใกล้ย้ายแหล่งกบดาน จึงค่อยติดต่อทางจดหมาย

ทริสซี่ไม่แน่ใจว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์มีเจตนาเป็นเช่นไร มิอาจบอกได้ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีเข้ามาแบบกะทันหันหรือไม่ จึงระวังตัวไปตามนิสัย เลือกใช้วิธีที่ตัวเองปลอดภัยที่สุด

หลังจากยื่นจดหมายให้ผู้ส่งสาร เราก็แค่ออกไปจากที่นี่ รอให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์ติดต่อกลับมา และไม่เจอเขาจนกว่าจะได้ร่วมมือกัน… ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าองค์กรใดอยู่เบื้องหลังเขา คงต้องหาโอกาสใช้ประโยชน์จากเรื่องที่มีจุดประสงค์ร่วมกัน แต่ห้ามเชื่อใจมากเกินไป… วุ่นวายชะมัด แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัย… ทริสซี่สลัดความคิดฟุ้งซ่าน ถอยหลังสองก้าว จ้องแสงเทียน ท่องเป็นภาษาเฮอร์มิสโบราณ:

“ตัวข้า…”

“ขออัญเชิญในนามของข้า:”

“ผู้เตร็ดเตร่ในความว่างเปล่า… สิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรและพร้อมรับคำสั่ง… ผู้ส่งสารของเกอร์มัน·สแปร์โรว์แต่เพียงผู้เดียว!”

ทันทีที่กล่าวจบ แสงเทียนไขพลันขยายตัวและกลายสีซีด

ในวินาทีถัดมา ร่างหนึ่งก้าวออกจากแสงเทียน เป็นสตรีสวมเดรสสีดำซับซ้อน สองมือถือสี่หัวที่มีเส้นผมสีทองและดวงตาสีแดง

แปดตาบนสี่หัวหันมามองอย่างพร้อมเพรียง จ้องหน้าทริสซี่ซึ่งอยู่ตรงข้าม

รูม่านตาทริสซี่พลันเบิกกว้าง คล้ายกับกำลังเห็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว

 ………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset