ในฐานะกัปตันของอนาคตกาล แคทลียาตระหนักถึงภัยอันตรายจากแฟรงค์·ลีได้มากกว่าใคร เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ารองกัปตันของเธอมีพัฒนาการที่น่ากลัวในบางครั้ง หากไม่เพราะว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ของเขาถูกจำกัดไว้ด้วยพลัง แคทลียาเชื่อว่าโลกคงมิได้สงบสุขเหมือนในปัจจุบัน
แน่นอน หากวันนั้นมาถึง เธอคือคนแรกที่จะเผชิญหน้ากับแฟรงค์·ลี จับอีกฝ่ายโยนลงทะเลเป็นอาหารปลา!
แต่ถ้ายังไม่มีพลังเทพ แนวคิดพิสดารของเขาอาจไม่ถึงกับสร้างหายนะ… ลำดับ 5 ยังไม่มีการพัฒนาในเชิงคุณภาพ และแฟรงค์ก็ทำตัวสงบเสงี่ยมมาสักพักแล้ว ทุ่มเทอยู่กับการวิจัยพืชที่สามารถเติบโตในความมืดและกินซากศพสัตว์ประหลาด… ท่ามกลางชุดความคิดที่วกวน ในที่สุดแคทลียาก็ได้ข้อสรุป
“ราคาเท่าไร”
เธอสัมผัสได้ ในระยะหลัง เกอร์มัน·สแปร์โรว์กำลังร้อนเงินอย่างผิดปรกติ
“แปดพันปอนด์ หากจ่ายด้วยเหรียญทอง ยิ่งหาได้มากเท่าไรก็ยิ่งถูกลง” ไคลน์ถอนหายใจขณะบังคับหุ่นเชิดตอบ
เมื่อพิจารณาว่าแฟรงค์·ลีจ่ายไหว และชายคนนั้นไม่มีทางปฏิเสธตะกอนพลังดรูอิด แคทลียาไตร่ตรองสักพักก่อนจะพูด
“ตกลง ขอเวลารวบรวมหนึ่งสัปดาห์”
“ไม่มีปัญหา” ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลถอนสายตากลับ
การเดินทางไปยังเกาะโบราณ หากไม่ติดเรื่องที่ตกเป็นเป้าสนใจของตัวตนลึกลับในส่วนลึกของวิหาร ไคลน์จะให้คะแนนเต็มกับตัวเอง เพราะภายในค่ำคืนเดียว มันสามารถเก็บเกี่ยวไพ่เย้ยเทพที่มิอาจประเมินค่า รวมถึงตะกอนพลังอีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์ ซึ่งถ้าขายออกหมดจะได้เงินหนึ่งหมื่นหกพันปอนด์ แถมยังไม่ต้องจ่ายภาษี ทำเงินได้เร็วกว่าการปล้นธนาคารเสียอีก!
น่าเสียดายที่เกาะโบราณนั่นหายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงแวะกลับไปหาเงินเรื่อยๆ … ขณะใคร่ครวญหลายสิ่ง ไคลน์เห็นมิสจัสติสกำลังมองหน้ามิสเตอร์แฮงแมน ซักถามอย่างคาดหวัง
“คุณได้ผลของต้นกระดิ่งลมหลอนประสาทมาหรือยัง?”
ออเดรย์ค่อนข้างคาดหวัง เนื่องจากเห็นมิสเตอร์เวิร์ลกอบโกยได้มากมายภายในหนึ่งสัปดาห์ มิสเตอร์แฮงแมนที่ต้องสงสัยว่าจะทำงานด้วยกัน ก็ควรมีติดไม้ติดมือมาบ้าง
เหนือสิ่งอื่นใด มิสเตอร์แฮงแมนกำลังเยือกเย็นและมั่นใจ… ‘จัสติส’ ออเดรย์เริ่มเชื่อมั่นในพลังพิเศษของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
‘แฮงแมน’ อัลเจอร์หัวเราะในลำคอ
“กำลังจะบอกอยู่พอดี… ผมได้มาแล้ว”
เยี่ยม! ออเดรย์สงวนกิริยา ไม่ทำตัวแตกตื่นเกินงาม
สำหรับปัจจุบัน เธอรวบรวมวัตถุดิบสำหรับปรุงโอสถ ‘นักสะกดจิต’ ครบแล้ว เหลือแค่รอให้โอสถ ‘นักจิตบำบัด’ ย่อยอย่างสมบูรณ์ก็จะเลื่อนลำดับได้ทันที
และนั่นเหลือเวลาอีกไม่นาน! ออเดรย์ที่กลายเป็น ‘หมอหัวใจ’ ซึ่งคอยรับฟังและแก้ปัญหาให้ชนชั้นสูงในแคว้นเชสเตอร์ตะวันออกมาสักพัก ครุ่นคิดอย่างมั่นใจ
ด้วยความสัตย์จริง หากไม่จงใจชักนำบทสนทนา ออเดรย์ไม่อยากจะเชื่อว่า ขุนนางที่ยิ้มแย้มตลอดเวลาเหล่านั้นจะมีปัญหาทางจิตใจรุนแรง หลายคนเครียดกับกระแสของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กังวลว่าตระกูลของตนอาจปรับตัวตามไม่ทันและล่มสลายไปตามกาลเวลา แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ต่ำ ความมั่งคั่งไม่มากพอจะช่วยให้ผ่านมรสุม
การวางตัวในลักษณะดังกล่าวช่วยให้ออเดรย์เข้าใจแนวคิดของ ‘หน้ากากทางสังคม’ โดยเมื่อเผชิญหน้ากับคู่สนทนาที่แตกต่างกัน พวกเขาจะสวมหน้ากากเป็นคนละคน
หลังจากได้ข้อสรุปดังกล่าว โอสถนักจิตบำบัดของเธอถูกย่อยอย่างรวดเร็ว มีความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
อาจจะสองสัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น… สรุปโดยสั้น เราจะกลายเป็นนักสะกดจิตได้ก่อนกลับเบ็คลันด์… ‘จัสติส’ ออเดรย์มองแฮงแมนด้วยดวงตาสดใส
“ต้องการแลกเปลี่ยนกับสิ่งใด”
ในฐานะที่เพิ่งเลื่อนเป็นลำดับ 5 และมี ‘กุญแจ’ นำไปสู่ครึ่งเทพในมือ รวมถึงกำลังจะได้ครอบครองสมบัติวิเศษที่แข็งแกร่ง สิ่งที่อัลเจอร์กำลังขาดจึงเป็นเงินสด
“สองพันปอนด์”
“ตกลง” ออเดรย์ตอบเสียงเรียบ
เงินก้อนนี้ไม่จำเป็นต้องเบิก เธอสามารถจ่ายได้ทันที
หลังจากบรรลุข้อตกลง ออเดรย์ถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย พบว่าตัวเองไม่ถูกทิ้งไว้ด้านหลังคนเดียว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอได้เห็นฟอร์สกลายเป็นลำดับ 7 ได้เห็นแฮงแมนเข้าใกล้ความเป็นเทพ ได้เห็นเดอะเวิร์ลฆ่าผู้วิเศษลำดับ 5 รายแล้วรายเล่า นำตะกอนพลังมาขายจนร่ำรวย แต่ตัวเองกลับค้างเติ่งอยู่ที่ลำดับ 7 นักจิตบำบัดเป็นเวลานาน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความกดดันทางจิตใจ ร้อนรน กระสับกระส่าย โชคดีที่มีซูซี่คอยปลอบขวัญและกระตุ้นให้พัฒนาตัวเอง จึงสามารถหลีกเลี่ยงความผิดปรกติทางอารมณ์ จนกระทั่งปัจจุบัน ในที่สุดเธอก็ได้ก้าวไปอีกหนึ่งขั้น กำลังจะกลายเป็นลำดับ 6!
ออเดรย์ที่กำลังมีความสุข ได้ยินเฮอร์มิทกล่าวกับเดอะเวิร์ล
“ดิฉันเตรียมคำตอบเกี่ยวกับเลือดของสัตว์ในตำนานหนึ่งหยดไว้แล้ว”
“ต้องการสนทนาส่วนตัวไหม?” ‘เดอะฟูล’ ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลถาม
หากเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ เรามีแต่ได้กับได้! ชายหนุ่มคาดหวังในใจ
แคทลียามองไปรอบๆ ใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่จำเป็น… ดิฉันสามารถแลกเปลี่ยนได้สองรูปแบบ ตัวเลือกแรกคือการให้ดูไพ่ ‘กงล้อโชคชะตา’ หนึ่งครั้ง คุณน่าจะเข้าใจมูลค่าไพ่เย้ยเทพของจักรพรรดิโรซายล์ดี และตัวเลือกที่สอง ทางนี้จะบอกวิธีฟื้นฟูความแข็งแกร่งชั่วคราวขณะอยู่ในสภาพอ่อนแอ… รบกวนนำไปถามกับเทวทูตตนดังกล่าว ว่าท่านพึงพอใจกับตัวเลือกใด”
วิธีฟื้นฟูความแข็งแกร่งชั่วคราวในสภาพอ่อนแอ? ราชินีเงื่อนงำเดาว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอสรพิษปรอท? ไม่สมเหตุสมผล… ทำไมเธอถึงเดาว่าเป็นลำดับ 1 ไม่ใช่ลำดับ 2 อย่างเทพพยากรณ์? หรือว่า ‘เดอะฟูล’ ไม่มีสิทธิ์มีเทวทูตบนเส้นทางโชคชะตาคอยรับใช้?
เรายังไม่แน่ใจว่าวิล·อัสตินรู้วิธีเลื่อนเป็นลำดับ 0 หรือยัง ถ้ายัง การได้ดูไพ่ ‘กงล้อโชคชะตา’ หนึ่งครั้งถือเป็นรางวัลที่น่าดึงดูด… แต่อสรพิษปรอทตนนี้มีชีวิตอยู่มานาน เกิดใหม่ก็หลายครั้ง ถ้ายังไม่มีวิธีเลื่อนเป็นลำดับ 0 ก็ดูจะอ่อนหัดเกินไปหน่อย…
หึหึ ชักอยากรู้แล้ว บนหน้าไพ่กงล้อโชคชะตา โรซายล์จะทำหน้าตาแบบไหน… เป็นงูและสรรพสัตว์ที่สวมใบหน้าของเขาลงไป? ไคลน์ใช้ความคิดอย่างผ่อนคลาย บังคับให้เดอะเวิร์ลตอบ
“ตกลง… ถ้าการแลกเปลี่ยนบรรลุผล คุณต้องจ่ายค่านายหน้าให้ผม”
“ด้วยสิ่งใด?” แคทลียาถามหลังจากใคร่ครวญ
‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์กล่าวพลางยิ้ม
“ผมอยากพบราชินีเงื่อนงำ… ไม่ต้องกังวล นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่มีงานเล็กๆ ให้เธอช่วย”
แคทลียาเงียบงันสักพัก
“จะพยายามพูดให้ แต่ไม่รับประกัน”
ได้ยินบทสนทนาดังกล่าว ‘จัสติส’ ออเดรย์รู้สึกราวกับกำลังฝันไป
ชุมนุมทาโรต์เติบโตถึงระดับนี้แล้วหรือ?
หากไม่นับมิสเตอร์ฟูล จุดเริ่มต้นของชุมนุมทาโรต์คือการซื้อขายความรู้พื้นฐานและสูตรโอสถลำดับ 9… ค่อยๆ พัฒนาจนกระทั่งมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไพ่เย้ยเทพและเลือดของสัตว์ในตำนาน!
โดยที่อายุยังไม่ครบหนึ่งปี!
ยังกับฝันไป… เราโตขึ้นมาก… ขณะออเดรย์ถอนหายใจ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาหันไปมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์
“ดิฉันมีความคืบหน้าเกี่ยวกับสมบัติวิเศษเส้นทางนักจารกรรม”
ขณะกล่าว หญิงสาวหันไปทางมิสเตอร์ฟูล ขออนุญาตอีกฝ่ายเสกวัตถุที่คล้ายแหนบ
‘แหนบ’ มีสีขาวนวล คล้ายกับสร้างจากกระดูกนิ้วสองชิ้น แต่นอกจากนี้ก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษ
แคทลียาแนะนำ
“ชื่อของมันคือ ‘นิ้วขาด’ สามารถยกระดับความยืดหยุ่นของข้อมือและข้อต่อนิ้ว ช่วยให้ขโมยของในกระเป๋าเหยื่อได้ง่ายและแนบเนียนขึ้น ผลข้างเคียงก็คือ จะเกิดความอยากขโมยทุกครั้งที่พกพา… ราคาห้าร้อยปอนด์”
ลำดับ 9 นักจารกรรม? อา… เธอเพิ่มค่านายหน้าเล็กน้อย… ไคลน์หยุดคิดสักพัก
“ตกลง รีบส่งมาให้ผม”
ด้วยสิ่งนี้ มันสามารถสำรวจจุดที่เฮเซลพยายามขุดในท่อระบายน้ำ ขจัดภัยอันตรายซ่อนเร้น
รอจนกระทั่งบทสนทนาจบลง ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สที่ต้องการซื้อของเตรียมไว้ล่วงหน้า เอ่ยปากถามทุกคน
“ดิฉันอยากได้วัตถุต้องสาปจากวิญญาณอาฆาตโบราณที่ยังเหลือพลังวิญญาณ รบกวนช่วยมองหาให้ด้วย”
หลังจากสมาชิกทุกคนมอบคำตอบในเชิงบวก ‘เดอะมูน’ เอ็มลินเหลียวซ้ายแลขวา เอนหลังกล่าวกับเดอะซัน
“เมืองเงินพิสุทธิ์ของเจ้ามีตะกอนพลังลำดับ 5 แวมไพร์เทียมหรือไม่?”
มันไม่ต้องการเรียกสิ่งมีชีวิตที่ปกคลุมด้วยหนองเขียวตามคำอธิบายของเดอะซันว่า ‘ผีดูดเลือด’ จึงเปลี่ยนไปใช้คำอื่น
ตามความคิดของมัน แวมไพร์กลายพันธุ์เหล่านั้นคงมีมากมายในความมืดรอบๆ เมืองเงินพิสุทธิ์ ตะกอนพลังจึงน่าจะหาได้ง่าย
นอกจากนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่มีสูตรโอสถของเส้นทางแวมไพร์ แถมยังขาด ‘ช่างฝีมือ’ ทำได้เพียงพึ่งพาโชค รอให้ตะกอนพลังกัดกร่อนสภาพแวดล้อมจนกลายเป็นสมบัติปิดผนึก… ‘เดอะมูน’ เอ็มลินปลอบใจตัวเองว่าตนกำลังช่วยเมืองเงินพิสุทธิ์ แทนที่จะเป็นการขอความช่วยเหลือจาก ‘เดอะซัน’
เดอร์ริคสะดุ้ง ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“มีครับ… แต่มิสเตอร์มูน คุณต้องการปกคลุมด้วยหนองพุพองหรือ?”
หา? เอ็มลินตอบสนองไม่ถูกไปชั่วขณะ ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายกำลังล้อเลียนหรือตักเตือน
เห็นดังนั้น ‘เดอะซัน’ เดอร์ริครีบเสริม
“ทุกก้อนล้วนปนเปื้อนจิตตกค้างรุนแรง และเนื่องจากพวกเราไม่มีสูตรผลิตโอสถ จึงไม่มีใครเสียเวลาขจัดมัน”
อย่างนี้นี่เอง… นั่นคงเป็นปัญหาแน่… เอ็มลินพยักหน้ารับ
“เข้าใจแล้ว”
มันมิได้สานต่อธุรกิจ เตรียมกลับไปปรึกษาเบื้องบนก่อน ดูว่าทางนั้นมีวิธีขจัดการปนเปื้อนทางจิตหรือไม่
ช่วงเวลาค้าขายจบลง สมาชิกชุมนุมทาโรต์เข้าสู่ช่วงเวลาสนทนาอิสระ
‘จัสติส’ ออเดรย์มองหน้าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ กล่าวด้วยท่าทีลังเล
“ขอถามได้ไหมคะ… ตะกอนพลัง ‘ผู้ชี้นำความสับสน’ ของคุณได้มาจากไหน? ถ้าเป็นความลับ ไม่ต้องตอบก็ได้”
เธอคิดจะโน้มน้าวให้เอิร์ลฮอลล์ซื้อไว้ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ออเดรย์ไม่อยากได้ตะกอนพลังของเส้นทางจักรพรรดิมืดที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือกองทัพ
ไคลน์หัวเราะในลำคอ
“ได้จากลิงบาบูนขนหยิก”
………………………………………………………