ทางด้าน ‘เฮอร์มิท’ เองก็เชื่อมโยง ‘เดอะเวิร์ล’ เข้ากับพลังพิเศษที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดเวทมนตร์เลมาโน่เช่นกัน คิดย้อนไปถึงคทาเทพสมุทรที่มีต้นกำเนิดจากคาเวทูว่าในมือมิสเตอร์ฟูล
ไม่แน่ใจว่าจะจ่ายไหวไหม แต่เราอยากให้มิสเตอร์ฟูลช่วยบันทึกพลังในขอบเขตพายุและขอบเขตของตัวท่านเองลงไป… หากท่านยินยอม วิธีนี้จะดีกว่าการไปขอร้องจากนิกายมอสส์ เพราะอีกฝ่ายจะทราบว่าเรา ‘มี’ บันทึกการเดินทางของเลมาโน่… อา คงต้องเขียนไปแจ้งให้ราชินีทราบก่อน… บางที ท่านอาจช่วยมาแสดงพลังบนอนาคตกาล… ยิ่งครุ่นคิด แคทลียาก็ยิ่งพบว่าหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าเกินกว่าระดับของมัน น่าเสียดายมากที่มิสเมจิกเชี่ยนแค่ให้เช่า ไม่ได้ขาย
หลังจากได้ยินรายละเอียด ‘เดอะมูน’ เอ็มลินแอบโล่งใจ เนื่องจากพลังพิเศษในขอบเขตของสายฟ้า ถือเป็นของแสลงสำหรับพวกแวมไพร์เทียม
แน่นอน เป็นของแสลงของญาติพี่น้องมันด้วย
เยี่ยมมาก… เราเคยกังวลว่าอาจต้องขอความช่วยเหลือจาก ‘เดอะซัน’ … ส่งบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ไปให้เขา ขอร้องให้ช่วยบันทึกพลังประเภท ‘ชำระล้าง’ ลงไป… เอ็มลินคลายความกังวลลงหลายส่วน ถอนสายตาจาก ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคด้านข้าง หันไปกล่าวกับ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส
“ตกลง”
เงินสี่ร้อยปอนด์ผนวกกับการต้องบันทึกพลังพิเศษลงไปสองสามชนิด เทียบไม่ได้เลยกับภารกิจที่ตนต้องทำให้เสร็จ
ได้เงินเร็วมาก แถมยังได้พลังพิเศษเพิ่ม… ฟอร์สเริ่มพบว่าอนาคตของเธอค่อนข้างสดใส รีบเผยรอยยิ้มและตอบ
“ตกลง ไว้จบชุมนุมเมื่อไร ฉันจะขอให้มิสเตอร์ฟูลส่งไปหาคุณ”
ถัดมา หญิงสาวหันหน้าไปทาง ‘เฮอร์มิท’ แคทลียา
“มาดาม ทายาทสายตรงของตระกูลอับราฮัมมอบคำตอบกลับมาแล้ว คุณต้องการสนทนาส่วนตัว หรือให้ดิฉันพูดออกมาเลย”
แคทลียาครุ่นคิดสักพัก
“สนทนาส่วนตัว”
เพียงไม่นาน ประสาทสัมผัสของทุกคนถูกผนึก ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สถ่ายทอดคำพูดของอาจารย์
“พวกเขาเองก็ไม่ทราบข้อมูลของมิสเตอร์ประตูมากนัก ทราบเพียงสองสิ่ง ไม่สิ สามสิ่ง… ข้อแรก หนึ่งในบรรพบุรุษของตระกูล มีคนที่เรียกตัวเองว่ามิสเตอร์ประตูอยู่ด้วย… ข้อสอง บรรพบุรุษรายนี้หายตัวไปในสงครามสี่จักรพรรดิ คนของตระกูลพยายามอย่างหนักในการสืบหาเบาะแส แต่ก็คว้าน้ำเหลว… ข้อสาม ขณะเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวงและจันทราโลหิต พวกเขาจะได้ยินเสียงเพรียกที่สามารถทำให้คลุ้มคลั่ง… นอกจากนั้น พวกเขายังไม่สะดวกที่จะติดต่อเป็นการส่วนตัว”
สำหรับข้อที่สาม ฟอร์สเพิ่มเข้าไปเอง ขณะเดียวกันหวังว่ามาดามเฮอร์มิทและราชินีเงื่อนงำที่อยู่เบื้องหลัง จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ถึงปัญหาของมิสเตอร์ประตู ช่วยให้ตระกูลอับราฮัมรอดพ้นจากคำสาป
มิสเตอร์ประตูคือบรรพบุรุษของตระกูลอับราฮัม… หายตัวไปในสงครามสี่จักรพรรดิ… และพวกเขาจะได้ยินเสียงเพรียกทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์จันทร์เต็มดวง? อา… มิสเตอร์ฟูลช่วยยืนยันข้อสุดท้ายให้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเคลือบแคลง… กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่ามิสเตอร์ประตูจะหายตัวไป แต่ก็ยังอาศัยเสียงเพรียกในคืนจันทร์เต็มดวงเพื่อสร้างอิทธิพลกับผู้วิเศษในเส้นทางเดียวกัน รวมไปถึงทุกสิ่งมีชีวิตที่ใช้สมบัติวิเศษของเส้นทางดังกล่าว หมายความว่า ตัวเขายังไม่ตัดขาดจากโลกความจริงไปโดยสิ้นเชิง… นั่นคือเหตุผลที่จักรพรรดิโรซายล์สามารถต่อติดเขาได้? ราชินีเคยเล่าว่า คนของตระกูลอับราฮัมบางรายเคยรับใช้จักรพรรดิ… แคทลียาลองคาดเดา พยักหน้าเล็กน้อย
“ถ้ามีคำถามเพิ่มเติม ดิฉันจะถามคุณใหม่… วันนี้จะจ่ายที่เหลืออีกหกร้อยห้าสิบปอนด์ให้”
หกร้อยห้าสิบปอนด์ รวมกับสี่ร้อยปอนด์จากมิสเตอร์มูล เฉพาะวันนี้วันเดียว เราทำเงินได้มากถึง 1,050 ปอนด์ รวมกับเงินเก็บอีกเจ็ดร้อยสามสิบปอนด์ และราวหนึ่งพันปอนด์ที่จะได้จากการขายที่ดินสองแปลงและแบ่งเงินกับมิสเตอร์เวิร์ล เมื่อผนวกเข้าด้วยกัน เงินออมของเรากำลังจะมีมากถึงสามพันปอนด์! หมายความว่า ปัจจุบันเรามีเงินเพียงพอที่จะซื้อวัตถุดิบหลักของ ‘นักบันทึก’ แล้ว แถมยังเหลืออีกพอสมควร… ฟอร์สพบว่าตัวเองเริ่มร่ำรวย
รวยจนเริ่มลังเลว่า ตนควรช่วยซิลซื้อตะกอนพลัง ‘นักสอบสวน’ ให้ก่อนหรือไม่ เป็นการชดเชยความเสี่ยงที่เพื่อนสนิทคนนี้ต้องเผชิญในแผนลอบสังหารมิสเตอร์ X
รอจนกระทั่งทุกคนได้รับประสาทสัมผัสกลับคืน ฟอร์สได้ยินเกอร์มัน·สแปร์โรว์ชิงพูดก่อนที่ตนจะได้เอ่ยปาก
“ผมต้องการสมบัติวิเศษเส้นทาง ‘นักจารกรรม’ จะลำดับ 9 หรือ 8 ก็ได้”
‘เฮอร์มิท’ แคทลียาใช้ความสักพักก่อนจะตอบ
“ดิฉันช่วยคุณถามให้ได้ แต่ว่า สมบัติวิเศษเส้นทางนักจารกรรมมีจำนวนไม่มาก ราคาอาจสูงกว่าปรกติ”
“ไม่มีปัญหา” ไคลน์ตอบกลับด้วยเดอะเวิร์ล
จากนั้น ชายหนุ่มบังคับให้หุ่นเชิดมองไปทางเศรษฐีใหม่ มิสเมจิกเชี่ยน
“ผมต้องการขายตะกอนพลังนักสอบสวนหนึ่งก้อน ราคาเพียงหนึ่งพันปอนด์”
ตามปรกติแล้ว ตะกอนพลังลำดับ 7 ที่ใช้แทนวัตถุดิบหลักได้โดยตรง จะมีราคาประมาณหนึ่งพันสองร้อยปอนด์ แต่เนื่องจากในปัจจุบัน ไคลน์ครอบครองถึงสองก้อน และพิจารณาว่าตนใช้รูปลักษณ์ของซิลในการเข้าร่วมชุมนุมลับมิสเตอร์ X พฤติกรรมทำดังกล่าวอาจนำพาอันตรายมาให้เธอ จึงยินดีลดราคาให้เล็กน้อย
แค่หนึ่งพันปอนด์… ยังกับราคาเซลล์ในห้าง! แต่ทำไมมิสเตอร์เวิร์ลถึงรู้ว่าเราต้องการ? จริงสิ เขาเป็นข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล… เมื่อเรามีเงินมากพอจะซื้อ ตัวเขาที่มีตะกอนพลังอยู่แล้วจึงเสนอขาย… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สงุนงงสองสามวินาที เกือบลืมตอบสนอง
ระหว่างนั้น ‘จัสติส’ ออเดรย์ยอมตัดใจไม่ซื้อ เพราะเธอทราบดีว่าซิลต้องการสิ่งนี้
หนึ่งพันปอนด์? ตะกอนพลังนักสอบสวนเนี่ยนะ? ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาอดคิดไม่ได้ว่า มิสเตอร์เวิร์ลมีจุดประสงค์แอบแฝงหรือไม่ ก่อนจะได้ยินเสียงพูดของ ‘เมจิกเชี่ยน’
“ตกลง!”
เรายังไม่ทันจะเสนอราคา… แคทลียารำพัน แต่ภายนอกยังคงเงียบงัน
เธอตระหนักได้อย่างเลือนรางว่า มิสเตอร์เวิร์ลและมิสเมจิกเชี่ยนรู้กันในเรื่องนี้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปแทรก
ในทำนองเดียวกัน เธอเองก็สัมผัสได้ว่า มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับมิสเตอร์แฮงแมน ในการชุมนุมสัปดาห์นี้ ตัวตนของอีกฝ่ายถูกยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน แถมบรรยากาศรอบๆ ตัวยังเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
ก่อนหน้านี้ เขาเคยไล่ล่าสูตรโอสถและวัตถุดิบหลักของ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ … แถมยังมาถามเราว่า สัตว์ทะเลอ็อบนิสที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของโบสถ์วายุสลาตัน อาศัยอยู่ในแถบใดบ้าง… คงเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม… เขาเลื่อนลำดับแล้ว? ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาเริ่มตระหนักถึงวิกฤติ
ในฐานะ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ ผู้โด่งดังแห่งห้าห้วงสมุทร เธอมักรู้สึกเหนือกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ของชุมนุมทาโรต์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์แสดงให้เห็นถึงพลังที่สามารถเด็ดหัวพลเรือเอกโจรสลัด และถัดมา ‘แฮงแมน’ ก็กลายเป็นลำดับ 5 ไปอีกคน แถมยังเป็นลำดับ 5 ที่เก่งกาจในยุทธการทางทะเล ส่งผลให้เธอตระหนักว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ดูแคลนอีกฝ่าย ความรู้สึกตื่นตัวที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ยามนี้กำลังพลุ่งพล่านภายในใจ
ทว่า ก้าวถัดไปของเราคือลำดับ 4 เป็นขอบเขตที่พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แถมยังได้ครอบครองเศษเสี้ยวพลังเทพ จะไปเลื่อนลำดับง่ายๆ ได้ยังไงกัน… เราเตรียมการมาหลายปีแล้ว แต่กลับยังมองไม่เห็นความหวัง… แคทลียาถอนหายใจเงียบ จ้องไปทาง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ เป็นฝ่ายเปิดปากถาม
“มีข่าวคราวของหยดเลือดสัตว์ในตำนานบ้างไหม?”
กำลังรอให้ถามอยู่พอดี! ‘เดอะฟูล’ ไคลน์ฉีกยิ้มเมื่อได้ยิน บังคับให้เดอะเวิร์ลตอบเสียงแหบพร่า
“เทวทูตตนดังกล่าวให้ผมมาถามคุณว่า คิดจะใช้สิ่งใดแลกเปลี่ยนกับเลือดหนึ่งหยด… เขาเน้นย้ำว่า สิ่งตอบแสนต้องสมน้ำสมเนื้อและทำให้เขาพึงพอใจ”
เทวทูต? มิสเตอร์เวิร์ลมีช่องทางติดต่อกับเทวทูตโดยตรง? แถมยังมีสิทธิ์ขอเลือดหนึ่งหยดจากอีกฝ่าย! ‘จัสติส’ ออเดรย์ประหลาดใจในตอนต้น ตามด้วยครุ่นคิด มองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว
เธอสงสัยว่าเดอะเวิร์ล ผู้เป็นข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล กำลังติดต่อกับเทวทูตที่คอยรับใช้มิสเตอร์ฟูล!
ในตอนแรก เธอและเมจิกเชี่ยนเคยคิดว่า เดอะเวิร์ลคงทราบตำแหน่งคร่าวๆ ของเทวทูตเร่ร่อนสักตน แต่ใครจะไปคิด อีกฝ่ายกลับสามารถติดต่อกับเทวทูตได้ตามใจชอบ!
ต้องไม่ลืมว่า เทวทูตเดินดินนั้นมีสถานะเทียบเท่ากับผู้นำศาสนาคนปัจจุบันของบรรดาเจ็ดโบสถ์หลัก!
กะแล้วเชียว… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ถอนหายใจเงียบ เชื่อว่าสมมติฐานของตนในอดีตได้รับการยืนยัน
สมกับเป็นข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล… ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาข่มอารมณ์ประหลาดใจและยินดี ครุ่นคิดสักพักก่อนจะถาม
“ขอถามได้ไหมว่าเป็นเทวทูตจากเส้นทางใด”
หุ่นเชิดเดอะเวิร์ลมองไปรอบๆ พลางตอบ
“สัตว์ประหลาด”
สัตว์ประหลาด… หมายความว่าเป็นเทวทูตจากเส้นทาง ‘ชะตา’ ? เข้าใจแล้วว่าทำไมพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของมิสเตอร์ฟูลถึงมีคำว่า ‘ราชันเหลืองดำผู้ครองพลังโชคลาภ’ ระบุไว้… ‘จัสติส’ ออเดรย์ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคและคนที่เหลือต่างพากันประหลาดใจ เริ่มรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดปะติดปะต่อกันอย่างมีเหตุมีผล
ไคลน์พึงพอใจกับสายตาและท่าทีตอบสนองของสมาชิก แต่จากนั้นก็เริ่มพบปัญหา : ในพระนามเต็มที่ตนกุขึ้นส่งเดช ประโยคซึ่งเอ่ยถึงการครองพลังโชคลาภ คือสิ่งที่ช่วยระบุตำแหน่งมายังมิติสายหมอกแห่งนี้!
หมายความว่า สาเหตุที่คนของเส้นทาง ‘ชะตา’ มักมองเห็นความพิเศษในตัวเรา มีต้นตอมาจากสิ่งนี้? และการที่ ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสตินเป็นฝ่ายเริ่มแสดงไมตรีและติดต่อเข้ามาเอง ก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยเช่นกัน? จากสามส่วนของพระนามเต็มของเรา ท่อนแรกระบุถึงแก่นสารและตัวตน ท่อนที่สองระบุถึงขอบเขตของเทพ มีเพียงท่อนที่สามที่ระบุถึง ‘อำนาจ’ … ผู้ครองพลังโชคลาภ… แน่นอน คำว่า ‘เดอะฟูล’ ก็อาจแฝงอำนาจไว้บางส่วน… ไคลน์เริ่มพบว่า ตนควรรีบติดต่อกับทารกที่ยังไม่คลอดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นกกระเรียนกระดาษพร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ ลำพังการลบข้อความเดิมออกก็นับว่าอันตรายมากแล้ว
ทันใดนั้น ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาพูดขึ้น
“ขอบคุณที่ช่วยเป็นธุระให้ ดิฉันจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังและเร่งหาคำตอบโดยเร็ว”
เธอจะใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นข้ออ้างในการติดต่อกับราชินีเงื่อนงำ ช่วยกันขบคิดว่าเทวทูตเส้นทาง ‘ชะตา’ ชื่นชอบสิ่งใด
เมื่อบทสนทนาระหว่างเฮอร์มิทและเดอะเวิร์ลจบลง ช่วงเวลาค้าขายก็สิ้นสุดลงเช่นกัน สมาชิกของชุมนุมทาโรต์เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ
‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สครุ่นคิดสักพัก มองไปทาง ‘เดอะมูน’ เอ็มลิน
“ฉันขอเตือนสองเรื่อง ข้อแรก จดจำให้ดีว่าพลังประเภทใดถูกบันทึกไว้ในหน้าไหน เพราะหากคุณเปิดผิดขณะต่อสู้ ใช้พลังออกไปผิดประเภท นั่นอาจก่อให้เกิดอันตราย”
เอ็มลินพ่นลมหายใจเหยียดหยัน
“ข้าเชื่อมั่นในสติปัญญาของตัวเอง”
‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สไม่กล่าวคำใดต่อ เพียงหันไปบอกกับทุกคน
“เกิดเหตุร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับพลังพิเศษขึ้นในเขตตะวันออก รอบๆ จุดเกิดเหตุกลายเป็นเขตเฝ้าระวังทันที หากใครในพวกคุณคิดจะเดินทางไปที่นั่น อย่าลืมเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าปรกติ”
เอ็มลินสนใจกับข้อมูลนี้ จึงหันไปถาม
“คุณพอจะทราบไหม เหตุร้ายที่ว่านั่นเกี่ยวกับอะไร?”
…………………………………………….