Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 791 : รูปแบบใหม่

ราชันเร้นลับ 791 : รูปแบบใหม่

ในฐานะคนหนุ่มจากโลกเก่าที่ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเครือข่ายข้อมูล ไคลน์ทราบทันทีว่ามิสเมจิกเชี่ยนคิดจะทำอะไร วางแผนอย่างไร และใช้สิ่งใดสำหรับสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ

นี่มัน… เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน… สำหรับชุมนุมทาโรต์ที่มีเดอะฟูล ปัญหาเชิงเทคนิคจะไม่ใช่อุปสรรค… มิสเมจิกเชี่ยนมักทำตัวขี้เกียจและจืดจางเสมอ คิดไม่ถึงว่าจะกระตือรือร้นในเรื่องแบบนี้… อา ส่วนหนึ่งคงฉุกคิดได้จากการที่เราขอยืมสมุดเวทมนตร์มาใช้งาน… แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ถือว่าเธอนำไอเดียไปปรับปรุงได้เร็ว เกิดเป็นโมเดลทางธุรกิจที่น่าสนใจ… ไคลน์จงใจบังคับให้ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ครุ่นคิดสองสามวินาทีก่อนจะกล่าว

“สุดสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า… ผมอาจต้องใช้มัน”

ชายหนุ่มกะเกณฑ์เวลาที่มิสเตอร์แฮงแมนจะเดินทางจาก ‘วังวนนรก’ มาถึงเขตรอบนอกของหมู่เกาะรอสต์ ขณะเดียวกันจะทิ้งช่วงให้อีกฝ่ายมีเวลาปรับพลังวิญญาณให้มั่นคง รวมถึงการเติมเสบียง

เมื่อได้เวลา พวกมันจะร่วมมือกันสำรวจเกาะโบราณที่ยังไม่มีใครยึดครอง – เกาะที่เต็มไปด้วยสัตว์วิเศษ

‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สรีบพยักหน้าหลังจากได้ยิน

“ตกลง ฉันจะได้จัดสรรเวลาถูก ไม่ให้ใครเช่าในช่วงที่คุณต้องการใช้”

หญิงสาวแอบโล่งใจ ขณะเดียวกันก็ขอร้องให้มิสเตอร์ฟูลเป็นสักขีพยานในสัญญาปากเปล่า หลังจากอีกฝ่ายอนุญาต เธอส่งสัญญาณให้สิ้นสุดการสนทนาส่วนตัว

จากนั้น หญิงสาวนำบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ออกมาแสดงต่อหน้าทุกคน มองไปรอบๆ

“ทุกคน ดิฉันมีสมบัติวิเศษ… มีทั้งหมดสามสิบแปดหน้า ทุกหน้าสามารถบันทึกพลังพิเศษลงไปได้ ขอเพียงได้เห็นกับตาตัวเอง โดยจะหายไปทันทีหลังจากใช้งาน แล้วก็ ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าพลังต้นแบบ… แต่ละหน้าสามารถบันทึกพลังที่แตกต่างกัน… จากบรรดาหน้ากระดาษเหล่าทั้งหมด มีสามหน้าที่สามารถบันทึกพลังของครึ่งเทพลงไป แต่โอกาสสำเร็จต่ำมาก สิบครั้งอาจจะไม่สำเร็จเลย”

ขณะฟอร์สอธิบายการใช้งานและผลข้างเคียงของสมุดเวทมนตร์ ดวงตา ‘จัสติส’ ออเดรย์และคนที่เหลือสว่างขึ้นเล็กน้อย

กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่เด็กใหม่ในโลกศาสตร์เร้นลับ เพียงได้ยินข้อมูล ก็สามารถประเมินค่าของสมุดเวทมนตร์ในมือมิสเมจิกเชี่ยนได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องปรึกษาหารือ ทุกคนคิดในใจตรงกันว่า สมบัติวิเศษชิ้นนี้มีระดับทัดเทียมครึ่งเทพ

มีส่วนคล้ายกับคนเลี้ยงแกะ มีส่วนคล้ายกับยุบพองหิวโหย เป็นการรวบรวมพลังพิเศษหลากหลายชนิดไว้ใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่าง แต่ผลข้างเคียงต่ำมาก แถมยังสามารถบันทึกพลังของครึ่งเทพลงไป… ป้ายเลือดของตัวเอง… ขณะ ‘จัสติส’ ออเดรย์ครุ่นคิด ฝ่ามือของเธอสั่นระริกแผ่วเบาด้วยความกลัว

ในฐานะบุตรสาวของขุนนางใหญ่ ตั้งแต่เด็กจนโต เธอแทบไม่เคยมีแผล ดังนั้น ความเจ็บปวดที่ตัวเองไม่รู้จัก ย่อมเป็นบ่อเกิดของความหวาดกลัว

อาศัยจังหวะที่ฟอร์สเว้นวรรค ออเดรย์ยกมือขึ้น

“มิสเมจิกเชี่ยน คุณต้องการขายเท่าไร?”

ออเดรย์เชื่อว่า บิดาของตน เอิร์ลฮอลล์ ย่อมต้องมองเห็นคุณค่าของ ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ เล่มนี้แน่ เธอสามารถซื้อไปและเบิกเงินคืนได้เต็มจำนวน ดังนั้น ไม่ว่าฟอร์สจะเสนอราคาเท่าไร ออเดรย์ก็ยินดีจะทุ่มจ่าย

ได้ยินมาว่า ในระยะหลัง ฟอร์สกำลังถังแตก ไม่อย่างนั้น คงไม่คิดขายสมบัติวิเศษแสนสำคัญและมีประโยชน์ขนาดนี้… ออเดรย์ครุ่นคิดพลางเห็นใจ เริ่มลังเลว่าตนควรเป็นฝ่ายเสนอราคาไปก่อนดีไหม

บ้าจริง! ทำไมไม่รอให้เรากลับจากเกาะโบราณนั่นก่อนค่อยขาย… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เองก็สนใจในบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ แต่ ณ ขณะนี้ มันมีเงินสดไม่พอที่จะซื้อสมบัติวิเศษ

หนึ่งพันสามร้อยปอนด์สำหรับคนธรรมดา คือเงินก้อนโตที่ต้องใช้เวลารวบรวมนานนับสิบหรือยี่สิบปี แต่นั่นกลับยังห่างไกลจากราคาที่แท้จริงของบันทึกการเดินทางของเลมาโน่อย่างมาก ห่างไกลจนเกินเอื้อม!

มูลค่าต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์แน่… ถ้าผู้วิเศษที่มีองค์กรใหญ่หนุนหลังรู้เข้า มีโอกาสที่จะขายได้มากถึงสามหมื่นปอนด์… อัลเจอร์ชำเลืองไปทางมิสจัสติส รวมถึงคนที่กำลังขยับแว่นลงอย่าง ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาซึ่งคิดจะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน มันทำได้เพียงถอนหายใจอย่างหดหู่ อัลเจอร์เชื่อว่า การค้าขายในคราวนี้คงลงเอยด้วยความสำเร็จ ซึ่งมันไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ในใจลึกๆ กำลังหวังให้การค้าขายยืดออกไปจนกระทั่งมันกลับจากเกาะโบราณ

มิสจัสติสร่ำรวยมาก มาดามเฮอร์มิทก็มีราชินีเงื่อนงำและนิกายมอสส์คอยหนุนหลัง ไม่มีทางขาดแคลนเงินทุนและทรัพยากร เฮ่อ… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เปลี่ยนท่านั่ง มองอย่างใจเย็นไปที่ฝั่งตรงข้าม

‘เดอะมูน’ เอ็มลินและ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคต่างก็สนใจบันทึกการเดินทางของเลมาโน่เช่นกัน แต่ก็ทำได้แค่สนใจ เพราะพวกมันทราบดี ตนไม่มีทางเป็นผู้ชนะในการเสนอราคา

ได้ยินคำถามจากมิสจัสติส ฟอร์สเพิ่งตระหนักว่าตนลืมเล่าส่วนสำคัญที่สุดไป จึงรีบเสริมอย่างรวดเร็ว

“ผิดแล้ว มันไม่ได้มีไว้ขาย แต่ให้เช่า… หากคุณต้องการ สามารถเช่าได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยมีมิสเตอร์ฟูลเป็นสักขีพยาน”

เช่า? ทำได้ด้วยหรือ? ทันใดนั้น นอกจาก ‘เดอะฟูล’ ไคลน์และ ‘เดอะซัน’ เดอร์ริค ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาและคนที่เหลือต่างพากันตกตะลึง

แน่นอน พวกมันทุกคนทราบว่าการเช่าคืออะไร แต่ไม่คิดว่าจะใช้ได้กับสินค้าประเภทสมบัติวิเศษ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชุมนุมทาโรต์!

ฟังดูเป็นไปได้ แถมยังราบรื่นกว่าที่คิด… หากเป็นเช่นนี้ สมาชิกทุกคนในชุมนุมทาโรต์จะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า และค่าใช้จ่ายก็จะไม่สูงเกินไป อยู่ในอันตรายที่รับได้ แน่นอน คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือมิสเมจิกเชี่ยน สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่สิ สิ่งที่มีประโยชน์กว่านั้นก็คือ ในยามที่พลังพิเศษมากมายถูกบันทึกลงไป เธอสามารถรวบรวมพลังพิเศษที่แตกต่างกันจากหลากหลายเส้นทาง ถึงจะไม่รู้ว่ามากกว่ากี่เท่า แต่ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าการบันทึกด้วยตัวเองคนเดียวแน่นอน! ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ตระหนักถึงแก่นสำคัญของการเปิดให้เช่าบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ มันถามออกไปขณะหัวใจกำลังอิ่มเอม

“คิดค่าเช่ายังไง?”

บันทึกการเดินทางของเลมาโน่คือสมบัติวิเศษในลำดับ 6 ตามปรกติ ราคาซื้อขาดจะอยู่ที่ห้าพันปอนด์ ทว่า ด้วยความยอดเยี่ยมของตัวหนังสือ มูลค่าจึงไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สที่สั่งสมประสบการณ์ในชุมนุมทาโรต์มาไม่น้อย ขบคิดเกี่ยวกับราคา

“ทุกการเช่า ราคาพื้นฐานคือสามร้อยปอนด์ เพิ่มห้าสิบปอนด์ต่อหนึ่งวัน และในตอนที่ส่งคืน หน้ากระดาษภายในหนังสือต้องมากกว่าตอนที่ยืมไป อย่างน้อยสองหน้า… ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีหน้าว่างหนึ่งแผนในตอนก่อนยืม เมื่อส่งคืนต้องไม่มีหน้าว่างเหลืออยู่เลย ต้องเติมเต็มสมุดให้เรียบร้อย”

เพิ่มขึ้นสองหน้า ไม่ได้หมายถึงการบันทึกพลังพิเศษลงไปสองครั้ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้เช่าสามารถใช้พลังที่บันทึกลงในสมุดเวทมนตร์ได้ตามสบาย เพียงแต่ต้องชดเชยคืนที่ใช้ไปด้วย และเพิ่มเข้ามาใหม่ด้วยอีกสองหน้า ไม่จำเป็นต้องเป็นพลังชนิดเดิมเสมอไป สนใจเพียงจำนวนหน้ากระดาษ

ห้าสิบปอนด์ต่อวัน หนึ่งพันห้าร้อยปอนด์ต่อเดือน… หากเธออนุญาต เราสามารถเช่าลากยาวได้ถาวร… ‘จัสติส’ ออเดรย์คำนวณค่าใช้จ่ายอย่างคร่าว

แฮงแมนเองก็กำลังตื่นเต้นไม่แพ้กัน ภายนอกกล่าวอย่างสุขุม

“ผมขอเช่าสองวัน แต่ราคาที่แน่นอนต้องตกลงกันอีกที ขึ้นอยู่กับพลังพิเศษที่บันทึกไว้แล้วด้านใน”

ความมั่นใจที่จะสำรวจเกาะโบราณของมัน ตอนนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่า!

“จะเช่าเมื่อไร?” เมื่อพบว่าธุรกิจใหม่ของเธอมีลูกค้ามาใช้บริการทันที ฟอร์สถามอย่างตื่นเต้น

“เช่าสองวัน ระหว่างสุดสัปดาห์นี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า เวลายังไม่ตายตัว” อัลเจอร์ตอบโดยไม่ลังเล

‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สขมวดคิ้ว ก้มหน้าเล็กน้อยและกล่าว

“ช่วงเวลาดังกล่าว มิสเตอร์เวิร์ลจองไว้แล้ว”

มิสเตอร์เวิร์ลจองไว้แล้ว? ตั้งแต่ตอนไหน? ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์มองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวอีกฝั่งด้วยสีหน้าประหลาดใจ

มันเพิ่งตระหนักว่า คงเป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นในการสนทนาส่วนตัวเมื่อครู่

ทำไมถึงทำข้อตกลงดังกล่าวลับๆ? ไม่มีความจำเป็นที่มิสเมจิกเชี่ยนต้องให้เดอะเวิร์ลเช่าสมบัติวิเศษก่อนใคร… พวกเขาขอพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว แปลว่ามีการค้าขายอื่นนอกเหนือจากนี้? เงื่อนไขแบบไหนกัน… จริงสิ ภารกิจเดิมของมิสเมจิกเชี่ยนคือการลอบสังหาร ‘ผู้ส่งสาร’ ของชุมนุมแสงเหนือ และมิสเตอร์เวิร์ลก็ตอบรับงานนี้… ผู้ส่งสารคนดังกล่าวสามารถการบันทึกและใช้งานพลังของคนอื่นได้หนึ่งครั้ง… หึหึ สอดคล้องกับคุณสมบัติขอบันทึกการเดินทางของเลมาโน่… หมายความว่า เดอะเวิร์ลจัดการได้แล้ว? มิสเมจิกเชี่ยนจึงติดหนี้เขาจำนวนหนึ่ง โดยหนี้ยังถูกสะสางไม่ครบ จึงเกิดเป็นการชำระหนี้ในรูปแบบใหม่นี้? อัลเจอร์ตัดความเป็นไปได้ออกไปทีละอย่าง จนกระทั่ง มันรู้สึกคล้ายกับตนค้นพบความจริง

ในขณะที่ทุกคนไม่รู้เรื่องราว เกอร์มัน·สแปร์โรว์ลงมือเชือดผู้ส่งสารของชุมนุมแสงเหนืออย่างง่ายดาย ผู้ส่งสารที่ว่ากันว่ามีลำดับ 5!

ข้อสันนิษฐานดังกล่าวทำให้ ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ถึงกับสั่นกลัว เพราะมันต้องทำงานกับเดอะเวิร์ลเป็นคนถัดไป

โชคยังดี มิสเตอร์ฟูลคอยเป็นสักขีพยาน… ในฐานะข้ารับใช้ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่มีทางละเมิดข้อตกลงต่อหน้าเทพ… อัลเจอร์ปลอบใจตัวเอง ถอนสายตากลับจากเดอะเวิร์ล

ขณะเดียวกัน ‘จัสติส’ ออเดรย์และ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาเองก็เริ่มฉุกคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างมิสเมจิกเชี่ยนและเดอะเวิร์ล ย้อนนึกไปถึงผู้ส่งสารของชุมนุมแสงเหนือ และนึกขึ้นได้ว่า อีกฝ่ายมีพลังพิเศษคล้ายกับบันทึกการเดินทางของเลมาโน่มาก พวกเธอจึงเดาว่าเดอะเวิร์ลทำงานเสร็จแล้ว การเช่าสมุดเวทมนตร์เล่มนี้คือส่วนหนึ่งของค่าจ้าง

‘เดอะมูน’ เอ็มลินไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้เลย ในใจเพียงท่องว่า สุดสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้ายังเช่าไม่ได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สองสามวันที่ยังเหลือของสัปดาห์นี้ เราเช่าได้ใช่ไหม? ถ้าหากมีความช่วยเหลือจากสมุดเวทมนตร์เล่มนี้ล่ะก็ สาวกดวงจันทร์บรรพกาลทั้งสองคงมิอาจทำอันตรายเราได้… เอ็มลินมองไปรอบตัว ลึกๆ แล้วค่อนข้างกังวล แต่ภายนอก มันกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“ข้าขอเช่าวันนี้และพรุ่งนี้… ได้ไหม?”

“สี่ร้อยปอนด์ บวกกับพลังพิเศษเพิ่มสองหน้า” ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สระบุราคาทันที

‘เดอะมูน’ เอ็มลินพยักหน้าแผ่วเบา

“เจ้าเริ่มแนะนำพลังพิเศษที่ถูกบันทึกไว้ได้เลย ถ้าพวกมันไม่สอดคล้องกับพลังของข้า หวังว่าราคาจะถูกลงจากเดิม เพราะข้าเองก็ต้องเสียเวลาบันทึกลงไปใหม่”

‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สพลิกหน้าบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ เริ่มแนะนำคร่าวๆ

“เปิดประตู” … “ตุกติก” … “เทคนิคการล้ม” … “เทเลพอร์ต” … “อสนีบาต” … “ลอย” … “ร่อน” … “ลมเฉือน” … อะไรกัน? ทำไมถึงมีพลังของขอบเขตพายุเต็มไปหมด? เป็นผลมาจากการที่มิสเตอร์เวิร์ลยืมไปใช้? มิสเตอร์ฟูลช่วยบันทึกพลังพิเศษของ ‘เทพสมุทร’ ลงไป? ไว้กลับถึงวิหารเมื่อไร เราค่อยสืบสวนหาเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในกรุงเบ็คลันด์ ผู้ส่งสารคนนั้นไม่มีทางตายไปเงียบๆ แน่… ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ที่นั่งฟังคำบรรยาย เริ่มอยากจะสืบสวนหาความจริง

……………………………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset