Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1038 : รายชื่อ

หลังจากมอบคำตอบ ‘เดอะสตาร์’ เลียวนาร์ดพลันตื่นตัวโดยสมบูรณ์ เริ่มเข้าใจความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำถามของไคลน์:

มันกำลังหมายถึง ตาแก่อาจเคยเห็นสิ่งที่เรียกว่าศิลาเย้ยเทพ?

โดยไม่ปล่อยให้เลียวนาร์ดคิด ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์มองไปรอบๆ และกล่าว:

“โบสถ์รัตติกาลได้รับข้อมูลจากพลตรีโจนาส·โคลเกอร์ รองผอ. แห่ง MI9 และยืนยันว่าพระเจ้าจอร์จที่สามแห่งโลเอ็นซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้… เขาแอบส่งคนไปขุดโบราณสถานของ ‘จักรพรรดิโลหิต’ ด้วยความร่วมมือของนิกายแม่มดและสมาคมแปรจิต”

ไคลน์บังคับหุ่นเชิดเพื่ออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งเคยเล่าให้มิสจัสติสฟังไปแล้ว และปิดท้ายด้วยการเน้นประโยค:

“ดูเหมือนว่าโบสถ์ใหญ่ทั้งสามจะไม่พบหลักฐานที่สามารถมัดตัว ผนวกกับการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของเฮอร์วิน·แรมบิส เรื่องราวจึงยังดูเหมือนจะสงบ… แต่ตอนนี้กำลังสงสัยกันว่า อาจมีเบื้องบนของหนึ่งในโบสถ์หลักเป็นผู้ทรยศ”

กรุงเบ็คลันด์มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่เราไม่อยู่? ดูเหมือนว่าไคลน์จะได้รับข้อมูลจากศาสนจักรโดยตรง… ทำไมเราถึงไม่รู้อะไรเลย… ได้ยินจบประโยค ‘เดอะสตาร์’ เลียวนาร์ดเหลือบมอง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ เจือความเหม่อลอยเล็กน้อย เริ่มไม่แน่ใจว่าใครเป็น ‘ถุงมือแดง’ ของโบสถ์รัตติกาลซึ่งกำลังถูกบ่มเพาะให้เป็นอาวุโสกันแน่

หลังจากนึกทบทวนสักพัก มันเริ่มเข้าใจบางสิ่งอย่างคลุมเครือ แต่มิอาจทำประกายไอเดียเหล่านั้นมาเรียบเรียงเป็นข้อมูลที่เห็นภาพชัดเจน

ซิลซึ่งวางแผนจะแบ่งปันประสบการณ์และคำสารภาพของไวเคานต์สตาร์ฟอร์ดในชุมนุมทาโรต์เพื่อขอคำปรึกษา พลันประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะสิ่งที่มิสเตอร์เวิร์ลกำลังไล่ตาม นับว่าใกล้เคียงกับเป้าหมายในชีวิตของเธอมาก มีหลายจุดที่ซ้อนทับกัน

ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ก่อนไล่ตามไวเคาต์สตาร์ฟอร์ดไปที่โกดังท่าเรือ เราของความช่วยเหลือจากมิสเตอร์เวิร์ลก็คงดี บางทีอาจเอาชนะข้อจำกัดและได้รับเบาะแสเพิ่มเติม… ซิลมองไปรอบๆ เรียบเรียงคำพูดเพื่อเตรียมกล่าว

ทันใดนั้น อัลเจอร์พลันตัวสั่น ย้อนนึกไปถึงเมื่อสามสี่เดือนก่อน สมัยที่เดอะสตาร์และจัดจ์เมนต์ยังไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมชุมนุมทาโรต์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยขอให้สมาชิกชุมนุมทาโรต์สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมของโจนาส·โคลเกอร์ นอกจากนั้น อีกฝ่ายยังระบุว่าเฮอร์วิน·แรมบิสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีฆ่าตัวตายของคารอน

นึกแล้วเชียว… คดีฆ่าตัวตายธรรมดาๆ ของคารอนไม่น่าจะทำให้ ‘เดอะเวิร์ล’ ลงทุนลงแรงมากมายขนาดนี้ คนที่มันไล่ตามมักจะเกี่ยวข้องกับความลับที่ส่งผลต่อสถานการณ์โลก… นอกจากนั้นยังอาจมีผู้ทรยศเป็นเบื้องบนของสามศาสนจักรใหญ่? พระคาร์ดินัลหรืออาวุโสใหญ่คนไหน? อัลเจอร์ตระหนักถึงความปั่นป่วนของคลื่นใต้น้ำ ขณะเดียวกันก็ได้กลิ่นของโอกาส

ว่ากันตามตรง มันเป็นเพียงสมาชิกที่ไม่สลักสำคัญของโบสถ์วายุสลาตัน เป็นผู้วิเศษที่คอยเล่นเป็นโจรสลัดนอกเครื่องแบบ ปลายทางอย่างมากคือการได้เป็นลำดับ 5 ผู้ขับขานสมุทร จากนั้นก็กลับไปประจำการที่วิหารและรับตำแหน่งทูตพิพากษาระดับสูง แทบจะไม่มีโอกาสได้ถือสมบัติปิดผนึกหรือกลายเป็นครึ่งเทพ

ทว่า เรื่องราวจะเปลี่ยนไปหากมีสถานการณ์พิเศษซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก หากมันพึ่งพาความช่วยเหลือจากชุมนุมทาโรต์และแสดงฝีมือได้ดี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก็มีโอกาสที่จะถูกศาสนจักรบ่มเพาะ

ในทำทองเดียวกัน คล้ายกับแคทลียามองเห็นเมฆมืดที่กำลังสั่งสมภายในเบ็คลันด์ มองเห็นสายลมกระโชกที่กำลังเปลี่ยนทิศ และเริ่มเข้าใจอย่างคลุมเครือว่าทำไม ‘ราชินี’ จึงหมกตัวอยู่ที่นั่นในช่วงหกเดือนหลัง ส่วนเอ็มลินทำเพียงขมวดคิ้ว เป็นอีกครั้งที่มันรู้สึกว่า เบ็คลันด์ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับตระกูลผีดูดเลือด

ได้แต่หวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะไม่รบกวนแผนการล่าสมาชิกคนสำคัญโรงเรียนกุหลาบ… นอกจากนั้น คงเป็นการดีที่สุดหากจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราและหลวงพ่อยุ่งวุ่นวาย เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันเมื่อปีที่แล้ว… เมื่อเอ็มลินนึกทบทวนอดีต คิ้วของมันขมวดชนกัน

มันกวาดหางตาไปทางเดอะซันด้านข้าง เมื่อพบว่าเด็กหนุ่มเอาแต่นั่งตัวตรงด้วยสายตาว่างเปล่า เอ็มลินอดไม่ได้ที่จะรำพัน

“ดิฉันจะช่วยตามหาเฮอร์วิน·แรมบิส” ‘จัสติส’ ออเดรย์ทำลายความเงียบด้วยการพูด

‘จัดจ์เมนต์’ ซิลหันไปทาง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์และกล่าว:

“ฉันกำลังตรวจสอบบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความลับของกษัตริย์ หากต้องการความช่วยเหลือ ทางนี้ยินดีเต็มที่”

กล่าวจบ เธอเล่าถึงเรื่องที่มีใครบางคนคอยจับตามองเชอร์มาเน่

“ตกลง” ไคลน์ที่ทราบว่าเป็นแม่มดทริสซี่ บังคับให้หุ่นเชิด ‘เดอะเวิร์ล’ พยักหน้า ตามด้วยหัวเราะแผ่วเบา “ไม่ว่าจะเป็นการสืบหาที่อยู่ของเฮอร์วิน·แรมบิสหรือการสืบสวนความลับของกษัตริย์ พวกคุณทุกคนต้องคอยสังเกตว่าเรื่องราวรอบตัวเต็มไปด้วยความบังเอิญหรือไม่ ถ้าหากมี ต้องแจ้งให้ผมทราบทันที”

มันไม่ได้พูดถึง ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ และอาดัมโดยตรง ด้วยกังวลว่ามิสจัสติสจะคิดหนักจนเกิดความเครียด และนั่นจะมาพร้อมปัญหา มาพร้อมการถูกเฝ้ามองจากอีกฝ่าย

ความบังเอิญที่มากเกินไป… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สและสมาชิกคนอื่นๆ ของชุมนุมทาโรต์เน้นย้ำประโยคดังกล่าวภายในใจ แต่ละคนมีการคาดเดาของตัวเอง

หลังจากเงียบไปสิบวินาที ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคพูด

“หลังจากผ่านช่วงปรับตัวและเตรียมความพร้อม ผมต้องตามทีมสำรวจไปที่ค่ายในหมู่บ้านยามบ่าย เมื่อถึงตอนนั้น ทีมสำรวจอาจจะพยายามเข้าสู่ ‘วังราชาคนยักษ์’ ”

สำหรับออเดรย์และคนอื่นๆ เรื่องนี้มิได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกมันทราบอยู่แล้วว่าหลังจากเดอะซันกลายเป็นลำดับ 5 มีความเป็นไปได้สูงที่เมืองเงินพิสุทธิ์จะเริ่มลงมือ

ดังนั้น พวกมันจึงไม่แปลกใจหรือตกตะลึง ตรงกันข้าม รู้สึกว่าในที่สุดก็ถึงเวลาเสียที ตำนานในยุคสมัยบรรพกาลกำลังจะถูกเปิดเผยอย่างถูกต้องและชัดเจน

‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ครุ่นคิดสักพัก ตักเตือนอย่างคลุมเครือ:

“เมื่อถึงตอนนั้น ทำตามคำสั่งของหัวหน้าของคุณอย่างเคร่งครัด รวมถึงการสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูลให้มากที่สุด และถ้าประสบปัญหา สามารถทำเหมือนมิสเตอร์มูน จัดการชุมนุมย่อยขึ้นเพื่อให้พวกเราช่วยกันระดมความคิด”

“ตกลงครับ มิสเตอร์แฮงแมน” ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะนั่นคือสิ่งที่มันเตรียมจะทำอยู่แล้ว

หลังจากช่วงเวลาแลกเปลี่ยนจบลง ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์หันไปทางโต๊ะทองแดงยาว กล่าวอย่างนอบน้อมและเคารพ:

“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ เรื่องที่ท่านเคยขอให้ผมตรวจสอบ ตอนนี้ได้คำตอบแล้ว”

ท่ามกลางสายตาที่สงสัยและอยากรู้อยากเห็นของสมาชิก มันเล่าต่อ:

“ในยุทธการโคโนโต้ปี 1338 จักรวรรดิฟุซัคมีนาวาเอกเข้าร่วมสงครามทั้งสิ้นห้าคน สองในห้าถูกสังหารในยุทธการทางเรือ หนึ่งคนต้องออกจากราชการทันทีหลังจบศึกเนื่องจากแก่ชรา โดยสองปีต่อมาได้เสียชีวิตจากโรคพิษสุราเรื้อรัง หนึ่งคนได้รับการเลื่อนยศเป็นนาวาเอกพิเศษ ย้ายทำไปงานที่โรงเรียนนายเรือ ดำรงตำแหน่งรองคณบดี หนึ่งคนกลายเป็นพลเรือตรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองเรือจู่โจมที่สองของจักรวรรดิฟุซัค”

ทันทีที่สิ้นเสียง อัลเจอร์ได้รับอนุญาตให้สร้างหน้ากระดาษขาวที่เต็มไปด้วยข้อมูลเพิ่มเติม

‘เดอะฟูล’ ไคลน์เสกมาอยู่บนฝ่ามือตัวเองและอ่านอย่างรวดเร็ว

มันเคยขอให้แฮงแมนสอบสวนนาวาเอกของจักรวรรดิฟุซัคในยุทธการโคโนโต้ในปี 1338 ส่วนหนึ่งเพราะต้องการทราบว่าใครคือเจ้าของเดิมของ ‘ยุบพองหิวโหย’ นายทหารเรือผู้จับกุมแอนดี้·ไฮเดิน ผู้ช่วยกัปตันเรือเอ็นมาร์ตในการยุทธการทางทะเลและ ‘ต้อนแกะ’ เข้าไป และเมื่อพิจารณาว่ามันเป็นฝ่ายชนะ จึงตัดเรื่องการตายในสงครามไปได้เลย

และสาเหตุที่แฮงแมนค้นพบเกาะโบราณ ไคลน์สงสัยว่าจะเป็นฝีมือของ ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ ผู้มอบถุงมือให้คีลิงเกอร์

ไม่ว่านาวาเอกคนนั้นจะเป็นสมาชิกวงนอกหรือเต็มตัว มันไม่น่าจะตายง่ายขนาดนั้น ไม่น่าจะเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง… แน่นอน ไม่ความเป็นไปได้ที่มันอาจถูกปิดปาก… ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์เขียนชื่อทั้งสามลงในสมุดปกขาว:

“บอริส… ตายในปี 1347 สาเหตุการตาย: โรคพิษสุราเรื้อรัง”

“ซุสดาล… อายุสี่สิบแปด ยศนาวาเอกพิเศษ รองคณบดีโรงเรียนนายเรือฟุซัค”

“ดิมีทรีฟ… อายุสี่สิบห้า นาวาตรี ผู้บัญชาการกองเรือจู่โจมที่สองของฟุซัค”

ถอนสายตาออกจากกระดาษ ‘เดอะฟูล’ ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวกับแฮงแมน

“ดำเนินการสืบสวนสามคนหลังโดยละเอียดต่อไป ค้นหาเหตุการณ์สำคัญในชีวิตพวกเขา”

“ขอรับ มิสเตอร์ฟูล” ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์เห็นขานรับโดยไม่ลังเล

สำหรับมัน สิ่งนี้ถือเป็นโอกาส ไว้เสร็จงานเมื่อไร มันอาจได้ยืมไม้กางเขนฟรี

หลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูลกันสักพักแล้ว ชุมนุมทาโรต์ประจำสัปดาห์ก็ยุติลงอย่างเป็นทางการ ‘เดอะสตาร์’ เลียวนาร์ดกลับสู่โลกความจริง

ในท่านั่งบนโซฟา หลังจากลังเลสักพัก มันพาดขาลงบนโต๊ะกาแฟ ลดเสียงลงและถาม:

“ตาแก่… คุณเคยเห็นศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สองไหม”

ภายในใจ เสียงค่อนข้างชราของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ดังขึ้น:

“ไม่… เป็นปู่ทวดของข้าที่ได้เห็นศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สอง… หึหึ… ใครเป็นผู้ถามเรื่องนี้?”

เลียวนาร์ดไม่ตอบทันที ยังคงนำคำตอบของพาลีส·โซโรอาสเตอร์ไปขบคิด

ศิลาเย้ยเทพมีอยู่จริง!

ปู่ทวดของตาแก่ได้เห็นศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สอง!

เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงกลายเป็นเทวทูต!

ผ่านไปสองสามวินาที เลียวนาร์ดถามด้วยความอยากรู้เจือคาดหวัง:

“ตาแก่… คุณรู้สูตรโอสถของ ‘ผู้พิทักษ์ราตรี’ ไหม?”

พาลีส·โซโรอาสเตอร์หัวเราะเยาะทันที

“ไร้เดียงสา! จากคำบอกเล่าของท่านปู่ทวด สถานการณ์ในตอนนั้นเร่งด่วนมาก โอกาสมีเพียงน้อยนิด ศิลาเย้ยเทพอาจหายไปตอนไหนก็ได้ คนฉลาดทุกคนย่อมทราบว่า เป็นการดีที่สุดที่จะใส่ใจกับเส้นทางผู้วิเศษที่สมบูรณ์ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นค่อยไปดูเส้นทางอื่นๆ … นอกจากนั้น ความรู้บนศิลาเย้ยเทพยังนำเสนอในรูปแบบของแก่นแท้มากกว่าถ้อยคำ ผู้พบเห็นทุกคนต้องใช้เวลาตีความ… ในตอนที่ศิลาเย้ยเทพถูกนำกลับไป ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจดจำเส้นทางผู้วิเศษของตนได้ครบถ้วน จึงไม่ต้องพูดถึงเส้นทางอื่น… จริงอยู่ ข้าเองก็มีสูตรโอสถเส้นทางอื่นเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งหมดล้วนมาจากการรวบรวมของตระกูลตลอดหลายปี ในหมู่พวกมันจึงไม่ค่อยมีลำดับสูง”

“เข้าใจแล้ว…” เลียวนาร์ดยิ้มแห้ง ก่อนจะถามต่อ “แล้วใครเป็นคนนำศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สองกลับไป?”

พาลีส·โซโรอาสเตอร์เงียบงันสักพัก

“ถ้าปู่ทวดของข้าเล่าไม่ผิด… คนผู้นั้นคือ ‘ราชาเทวทูต’ อาดัม”

“สำหรับเจ็ดเทพ… ไม่สิ ตอนนั้นคงเป็นหกเทพ… ไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์นี้?” เลียวนาร์ดถามด้วยความประหลาดใจ

พาลีส·โซโรอาสเตอร์หัวเราะอย่างมีเลศนัย

“อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย”

…………………..

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset