Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 763 : มิสเตอร์ X

ราชันเร้นลับ 763 : มิสเตอร์ X
โดย
Ink Stone_Fantasy
บ้านที่เลข 160 ถนนเบิร์คลุน ภายในห้องรับประทานอาหารบนที่ชั้นสอง

ขณะไคลน์กัดขนมปังที่คนรับใช้เพิ่งทาเนย มันเห็นพ่อบ้านเดินเข้ามา

วอลเตอร์โค้งคำนับอย่างสุภาพ

“นายท่าน เมื่อคืนมีใครบางคนสั่นกริ่งหน้าบ้าน… เนื่องจากดึกแล้ว ผมจึงไม่ได้ปลุกนายท่าน เพียงสั่งให้คนรับใช้หยิบปืนลูกซองแฝด ผลัดกันเฝ้ายามทั้งคืน… หากนายท่านอนุญาต วันนี้ผมจะไปที่สถานีตำรวจในละแวกใกล้เคียง ขอให้พวกเขาช่วยลาดตระเวนละแวกนี้อย่างเข้มงวดในตอนกลางคืน”

พ่อบ้านที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ หากไม่นับเรื่องค่าจ้างที่แพง เรื่องอื่นๆ แทบไม่มีข้อบกพร่อง… ไคลน์พยักหน้ารับ กล่าวหลังจากจิบนมสดที่เพิ่งถูกนำมาวาง

“จัดการได้เลย”

บ้านเลขที่ 39 ถนนเบิร์คลุน คฤหาสน์ของส.ส. มัคท์

เฮเซลเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง เห็นลีอานน่า มารดาของตน กำลังคุยกับแม่บ้าน

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” หญิงสาวรวบปอยผมสีเขียวเข้มทัดหู

ลีอานน่าหัวเราะเล็กๆ

“มีคนกดกริ่งบ้านดันเตสเมื่อคืน”

“พวกก่อกวน?” เฮเซลหาที่นั่ง

“ยังไม่มีใครทราบ แต่นั่นทำให้พ่อบ้านของดันเตส เดินทางไปยังสถานีตำรวจด้วยตัวเองในช่วงเช้า” ลีอานน่าเล่าข่าวที่ได้ยินจากคนรับใช้

เฮเซลพยักหน้าเล็กน้อย

“ดีแล้วที่ให้ตำรวจช่วย”

“แต่คงไม่มีความคืบหน้ามากนัก เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนสั่นกริ่ง ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ไม่มีใครอยู่แถวนั้นแม้แต่คนเดียว” ลีอานน่าส่ายศีรษะพลางยิ้ม

เฮเซลผงะเล็กน้อย โพล่งถามออกไป

“ไม่มีใครเลย?”

“ใช่ พ่อบ้านของดันเตสจึงทำเพียงขอร้องให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนตอนกลางคืน นั่นถือเป็นข่าวดี” ในฐานะภรรยาของสมาชิกสภาสามัญ บุตรสาวของทนายความชื่อดัง ลีอานน่ามีเส้นสายในแวดวงตำรวจพอสมควร

“ไม่มีแม้แต่คนเดียว…” เฮเซลทวนคำเสียงต่ำ ปิดปากเงียบ

จากนั้นสักพัก เธอเดินออกจากห้องนั่งเล่น กลับไปยังชั้นสาม

ระหว่างทาง เฮเซลอดไม่ได้ที่จะกำหมัด ชกลมไปด้านหน้าสองสามครั้ง ทำทางทางคล้ายทดสอบบางสิ่ง เผยความฉงนอย่างชัดเจนระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง

ภายในห้องนอนใหญ่ ไคลน์จ้องเหรียญทองจำนวนมากที่วางกองอยู่ตรงหน้า ดวงตากำลังเปล่งประกาย

กองเหรียญทองมูลค่าสี่พันปอนด์!

หลังจากใช้เวลารวบรวมเงินราวหนึ่งสัปดาห์ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาพร้อมจ่ายเงินซื้อ ‘ตาชั่งโชคชะตา’ โดยนอกจากเหรียญทองมากมายเหล่านี้ ยังมีเงินสดอีกทั้งสิ้นหกพันห้าร้อยปอนด์

ด้วยความสัตย์จริง กองเหรียญทองขนาดมหึมาส่งผลทางจิตใจมากกว่าปึกธนบัตรในมูลค่าเท่ากัน… ไคลน์ถอนหายใจ พลางหยิบเหรียญทองโลเอ็นจำนวนสิบสามเหรียญจากกระเป๋าของ ‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล โยนไปรวมกับเหรียญกองใหญ่

จัดการทั้งหมดเสร็จ ชายหนุ่มหยิบฮาร์โมนิก้านักผจญภัย นำมาจ่อริมฝีปาก เป่าลมเต็มปอด

โดยไม่มีสุ้มเสียงใดดังขึ้น ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ เจ้าของศีรษะที่มีผมสีทองและดวงตาสีแดงจำนวนสี่เศียร ปรากฏตัวจากความว่างเปล่า

“มาดาม นี่คืองวดแรก มูลค่ารวม 4,013 ปอนด์” ไคลน์ถอนสายตาจากกองเหรียญทอง มองไปยังสตรีผู้ส่งสาร

ไคลน์ค่อนข้างคาใจว่า มาดามผู้ส่งสารจะนำเหรียญทองกองโตติดตัวกลับไปด้วยวิธีใด เพราะจำได้ว่าอีกฝ่ายใช้เพียงฟันกัดมาตลอด

“ทำดีมาก…” “ยังเหลืออีก…” “ห้าพัน…” “เก้าร้อย…” แปดสิบ…” “เจ็ด…” แต่ละเศียรของไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์กล่าวเรียงต่อกัน

ไม่เห็นจะต้องย้ำ… ไคลน์ฝืนยิ้มแห้ง

“ผมจะรีบชำระในส่วนที่เหลือโดยเร็ว”

ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ไม่กล่าวคำใด หนึ่งในสี่เศียรเริ่มอ้าปากกว้าง

ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวพลันสลัว แสงสว่างลดลงอย่างชัดเจน เหรียญทองเริ่มถูกดูดเข้าไปในวังวนราวกับสายน้ำเชี่ยว

ภายในไม่กี่วินาที กองเหรียญทองขนาดมหึมาอันตรธานหายไปราวกับเป็นเรื่องโกหก

ไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ผงกศีรษะทั้งสี่พร้อมกัน กลับเข้าไปในโลกวิญญาณ

เรายังเหลือเงินสดอีก 8,156 ปอนด์และเหรียญทองอีกห้าเหรียญ… สามารถเรียกตัวเองว่าเศรษฐีได้อย่างเต็มปาก… ลงทุนเกี่ยวกับอะไรดี? เรามีเงินมากพอจะลงทุนจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เอาแต่บอกคนอื่นว่ายอมแพ้เพราะสู้ราคาไม่ไหว… ด้วยหลักการดังกล่าว เราจะไม่ถูกสงสัยว่าเป็นนักต้มตุ๋นไปอีกสักพัก… หึหึ มองโลกในแง่ดี บางที การลงทุนในอนาคตอาจทำให้เรามีเงินพอจะจ่ายหนี้ทั้งหมด… เงินมักทำงานได้ไวกว่าเจ้าของเสมอ… ไคลน์ถอนหายใจออกแผ่วเบา มองออกไปนอกหน้าต่าง บังคับตัวเองให้ชื่นชมฉากของถนนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา

ยามค่ำคืนของเขตตะวันออก เนื่องจากโคมไฟถนนส่วนใหญ่ถูกทำลาย ความมืดจึงแผ่ปกคลุมหลายจุด มอบความรู้สึกราวกับภายในนั้นมีสัตว์ประหลาดดุร้ายซ่อนตัวอยู่

ซิล·เดียร์ชา ในสภาพสวมผ้าคลุมหัว เลี้ยวเข้าตรอกแคบ เดินมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ภายนอกดูค่อนข้างทรุดโทรม

นี่คือชุมนุมใหม่ในเขตตะวันออกที่เธอเคยเล่าให้ฟอร์สฟัง!

ซิลไม่รีบร้อนเคาะประตูและส่งสัญญาณตามที่นัดแนะ ก้มมองเสื้อผ้าและการแต่งกายของตนก่อน

สิ่งที่แตกต่างจากปรกติก็คือ วันนี้เธอสวมรองเท้าบูต

รองเท้าบูตคู่นี้อาจดูธรรมดา แต่ซิลทราบดีว่า พื้นรองเท้าหนากว่าปรกติหลายเซนติเมตร ภายในนั้นซุกซ่อนไว้หลายสิ่ง และสามารถทำให้คนสูงขึ้นอย่างไร้เหตุผล

สิ่งนี้ช่วยปกปิดเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของซิล!

เมื่อสัมผัสถึงการมีอยู่ของคมมีดสามด้าน ซิลดึงผ้าขึ้นมาคลุมศีรษะ เคาะประตูบ้านเป็นจังหวะ

เพียงไม่นาน เธอถูกนำทางให้เข้าไปในห้องนั่งเล่น เลือกที่นั่งตามใจชอบ

หลังจากผู้ร่วมชุมนุมมาถึงเกือบครบ เจ้าภาพเดินเข้ามาในห้อง

ส่วนสูงปานกลาง ราวๆ 1.75 เมตร สวมเสื้อคลุมสีดำทรงโบราณ สวมหมวกแม่มดโบราณปลายแหลม สวมหน้ากากทองเหลืองบนใบหน้า บรรยากาศรอบตัวเรียบง่ายแต่ลึกลับ

ผิวค่อนข้างเข้ม แต่ไม่ถึงกับสีน้ำตาล ดูคล้ายกับชาวเฟเนพ็อตหรืออ่าวเดซีย์… แต่ไม่ก็แน่ อาจจะแค่คล้ำแดด… ผมสีดำ หยักศกเล็กน้อย ตรงตามการคาดเดาเบื้องต้นของเรา… ซิลเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาของ ‘เจ้าพนักงาน’

ชายสวมหน้ากากทองเหลืองมองไปรอบห้อง ฉีกยิ้มกว้าง

“เรียกฉันว่ามิสเตอร์ X ก็แล้วกัน”

มิสเตอร์ X… มุมปากซิลพลันกระตุก

หลังจากกลายเป็นสายข่าวให้ MI9 เธอมีข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรลับมากขึ้น รวมถึงชุมนุมแสงเหนือ

ดังนั้นเธอจึงทราบดี ‘ผู้ส่งสาร’ ของชุมนุมแสงเหนือจะใช้ตัวอักษรเป็นรหัส และเรียกแทนตัวเองว่ามิสเตอร์หรือมาดาม

ตามความคิดของซิล การอ้างตัวเช่นนี้ต่อหน้าบุคคลภายนอก เป็นการจงใจเปิดเผยตัวบนและปูมหลังเพื่อหวังผลในเชิงรุก เพราะกลุ่มคนที่มาเข้าร่วมชุมนุมลับแบบนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นผู้วิเศษที่มีข้อมูลกว้างขวาง!

ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกรายงานให้ทางการเลยหรือ? เข้าใจแล้วว่าทำไม สุภาพบุรุษจาก MI9 ถึงชอบพูดว่า ชุมนุมแสงเหนือเต็มไปด้วยพวกวิปริต ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยสามัญสำนึกของคนปรกติ… นับตั้งแต่มิสเตอร์ A หายตัวไป เคยมีการสวมรอยเป็นหมอนั่นหลายครั้งเพื่อทำกำไรในชุมนุมลับรอบเบ็คลันด์ แต่ทางการก็ได้รับแจ้งอย่างรวดเร็วเช่นกัน เข้าปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมจนเกลี้ยง… อา… มิสเตอร์ X คนนี้อาจไม่ได้มาจากชุมนุมแสงเหนือ แต่เป็นผู้สวมรอยเหมือนรายก่อนๆ … ซิลถอนสายตากลับ สำรวจชุมนุมลับอย่างเงียบงัน

เธอไม่ค่อยแจ้งข่าวทำนองนี้ให้เบื้องบนทราบมากนัก เพราะตัวเองเคยเป็นผู้วิเศษเถื่อนที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ยากจะหาใครมาเข้าใจ ดังนั้น ตราบใดที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เธอจะไม่ส่งข้อมูลของคนเหล่านี้ให้ MI9

แต่ถ้ายืนยันได้ว่าอีกฝ่ายคือผู้ส่งสารจากชุมนุมแสงเหนือ เราคงต้องรายงานเบื้องบน พวกมันเป็นกลุ่มคนเสียสติ พร้อมนำพาอันตรายมาสู่เมืองทุกเมื่อ… ขณะซิลครุ่นคิด สายตาชำเลืองไปยังการค้าขายของสมาชิกคนอื่น

เธอไม่เอาตัวเข้าไปพัวพันมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีสินค้าหรือข้อมูลที่น่าสนใจ อีกส่วนหนึ่งเพราะเธอเก็บเงินไว้สำหรับโอสถ ‘นักสอบสวน’

จบการชุมนุม กลับถึงบ้านในเขตเชอร์วู้ด ซิลเห็นฟอร์สสวม ‘มาสก์’ ซึ่งกล่าวกันว่าช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้น กำลังนอนอ่านหนังสืออย่างสบายใจ

“เป็นยังไงบ้าง? ชุมนุมลับใหม่” ฟอร์สถามผ่านๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจ

ซิลโยนเสื้อคลุมลงบนโซฟา

“สมาชิกเยอะมาก สินค้าก็หลากหลาย แต่ทั้งหมดมีลำดับต่ำ”

“เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก คงไม่มีใครกล้าเสนอขายของแพงๆ ให้เป็นจุดสนใจ” ฟอร์สวางหนังสือในมือลง

“นั่นก็จริง” ซิลพยักหน้า “เจ้าของชุมนุมเรียกตัวเองว่ามิสเตอร์ X… จะเกี่ยวข้องกับมิสเตอร์ A ไหม? ตอนนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้”

มิสเตอร์ X… ผู้ส่งสารของชุมนุมแสงเหนือ? ลูอิส·เวย์น? ฟอร์สเริ่มตั้งใจฟัง เอนหลังอย่างผ่อนคลายและถาม

“หน้าตาเป็นยังไง?”

“เขาสวมหน้ากาก!” ซิลกลอกตามองบน “เธอคิดว่าฉันสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางได้รึไง?”

“ไม่ไม่ไม่! ฉันหมายถึง… โครงสร้างทางร่างกาย” ฟอร์สเคยเห็นภาพเหมือนเต็มตัวของลูอิส·เวย์นมาแล้วจากโดเรี่ยน·เกรย์ จึงพอจะจดจำลักษณะทางกายภาพได้

ในฐานะ ‘เจ้าพนักงาน’ ซิลฟื้นฟูความทรงจำเกี่ยวกับมิสเตอร์ X อย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยเสียงเจือความสงสัย

“ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับมิสเตอร์ A หรือไม่ แต่ชื่อทำนองนี้ต้องถูกรายงานให้ทางการทราบอยู่แล้ว… เขาไม่กลัวเลยหรือ?”

ฟอร์สฟังคำอธิบายของซิลจบ รวมถึงได้เห็นภาพเหมือนที่ซิลวาดขึ้นด้วยพลังของ ‘เจ้าพนักงาน’ ความยินดีพลันผุดขึ้นในใจหญิงสาว เชื่อว่ามิสเตอร์ X น่าจะเป็นคนที่เคยทรยศตระกูลอับราฮัม : ลูอิส·เวย์น!

ไม่กลัวว่าจะถูกแจ้งจับเพราะตัวเองเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ ? สามารถหลบหนีตอนไหนก็ได้อย่างปลอดภัย? นั่นสินะ หากหน่วยพิเศษของทางการใช้ยุทธวิธีแบบเดียวกับที่ล้อมจับมิสเตอร์ A พวกเขาคงทำอะไรมิสเตอร์ X ไม่ได้… ฟอร์สพึมพำเงียบงัน ไม่ได้สานต่อบทสนทนาเดิม เปลี่ยนไปสนทนาเรื่องอื่นเรื่อยเปื่อย

รอจนซิลไปอาบน้ำ ฟอร์สเริ่มใช้พลัง ‘โหราจารย์’ เพื่อดึงภาพจากความทรงจำตัวเอง นำภาพของลูอิส·เวย์นไปซ้อนทับกับมิสเตอร์ X จนได้คำตอบว่าเป็นคนเดียวกัน!

เป็นมันจริงๆ ด้วย! ฟอร์สลุกขึ้นยืน เดินไปมาอย่างตื่นเต้นภายในห้องนั่งเล่น

ความคิดแรกคือการรายงานให้โบสถ์หลักทราบ และเน้นย้ำว่าเป้าหมายมีพลัง ‘นักท่องเที่ยว’ จากนั้นก็ทบทวนงานจ้างวานฆ่าลูอิส·เวย์นที่เคยเกริ่นไว้กับมิสเตอร์เวิร์ล

ก่อนอื่น เราต้องถามให้แน่ใจว่ามิสเตอร์เวิร์ลว่างรับงานหรือไม่ อยากทำงานนี้ไหม… ไม่ควรรบเร้ามากเกินไป… เมื่อย้อนนึกถึงวีรกรรมมากมายที่มิสเตอร์เวิร์ลเคยก่อ ฟอร์สยืนสั่นระริกอย่างมิอาจหักห้าม

หลังจากตัดสินใจได้ เธอยืนยันจนแน่ใจว่าซิลยังอยู่ในห้องน้ำ และคงไม่ออกมาในเร็วๆ นี้ จึงเริ่มสวดวิงวอนถึงเดอะฟูล

“…ช่วยแจ้งกับมิสเตอร์เวิร์ลว่า ลูอิส·เวย์น ผู้ส่งสารแห่งชุมนุมแสงเหนือปรากฏตัวขึ้นแล้ว… มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ … สมญานามคือมิสเตอร์ X”

…………………………………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset