Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 762 : สมาคมฟื้นฟูชาติ

ราชันเร้นลับ 762 : สมาคมฟื้นฟูชาติ
โดย
Ink Stone_Fantasy
เดินมาถึงประตูรั้ว วอลเตอร์อาศัยแสงจากโคมไฟถนน มองผ่านช่องว่างรั้วเหล็ก พบว่าด้านนอกไม่มีใคร ถนนเงียบสงัดเป็นปรกติ

ผ่านไปสักพัก วอลเตอร์สงสัยว่าตนคงหูฝาด เมื่อสักครู่ไม่มีเสียงกริ่งดัง!

มันข่มสมาธิ เร่งฝีเท้าเดินไปยังห้องคนรับใช้ด้านหลังอาคารหลัก ปลุกบางส่วนให้ตื่น สั่งให้ถือปืนลูกซองแฝด เดินวนไปมารอบบ้านหลัก ป้องกันไม่ให้หัวขโมยหรือโจรแอบเล็ดลอดเข้ามา

วอลเตอร์ไม่ได้โทรแจ้งตำรวจ เพราะยังไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น บางที เสียงกริ่งเมื่อครู่อาจเป็นเพียงความคึกคะนอง

ขณะเดียวกัน ในทางระบายน้ำที่ใกล้ที่สุด ผู้บุกรุกคนเมื่อครู่กำลังใช้สองมือจับแท่งโลหะ ค่อยๆ ปืนลงทีละขั้น จนถึงจุดที่อากาศค่อนข้างเย็น

มันหยุดการเคลื่อนไหว เอนหลังพิงกำแพงที่เต็มไปด้วยตะไคร่สีเขียว ค่อยๆ นั่งลงบนพื้นสกปรก

ดวงตาของมันปิดลงอีกครั้ง กลับไปหมดสติตามเดิม โดยตรงหน้า ชายวัยกลางคนสวมหมวกสามมุมทรงโบราณและแจ็คเก็ตสีแดงเข้มค่อยๆ ปรากฏกาย ไม่ใช่ใครนอกจากหุ่นเชิดของไคลน์ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอล

เซนอลโน้มตัวลง ค้นเจอเหรียญเจ็ดซูล สิบเอ็ดเพนนีจากกระเป๋าเสื้อด้านใน และถุงผ้าขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยผงชนิดต่างๆ

ไคลน์ในห้องนอนกำลังควบคุมหุ่นเชิดที่ห่างออกไปหลายสิบเมตร จำแนกผงลึกลับทีละผง พบว่าเป็นไปตามที่ตนคาด ทั้งหมดคือผงสมุนไพรในขอบเขตของเทพมรณา และมีบางส่วนที่ใช้สำหรับ ‘สื่อวิญญาณ’ !

ผู้วิเศษจากไบลัม… มีความเป็นไปสูงว่าจะอยู่บนเส้นทาง ‘ผู้เก็บซากศพ’ … แม้จะไม่ใช่ลำดับ 7 ‘ผู้สื่อวิญญาณ’ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะพกผงสมุนไพรกับน้ำมันสกัดที่เกี่ยวข้อง เพราะท้ายที่สุดแล้ว วัตถุดิบเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ในพิธีกรรม ‘สื่อวิญญาณ’ เสมอไป

ถัดมา ไคลน์บังคับหุ่นเชิดเซนอล ประกอบพิธีกรรมเรียบง่าย สวดวิงวอนถึงเดอะฟูล

จากนั้น ชายหนุ่มส่งตัวเองเข้าสู่มิติเหนือสายหมอกเพื่อตอบสนอง ช่วยให้อีกฝั่งสามารถดำเนินขั้นตอนถัดไป

จัดการทั้งหมดเสร็จ มันกลับสู่โลกความจริง บังคับ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลให้ประกอบพิธีกรรม ‘สื่อวิญญาณ’

ลอยตัวผ่านพายุแสงระยิบระยับ ไคลน์มองเห็นวิญญาณของผู้บุกรุก อีกฝ่ายกำลังอยู่ในภวังค์สับสน ร่างกายพร่ามัวและไม่คมชัด

“ชื่ออะไร ทำงานให้ใคร” เซนอลถามเสียงต่ำ

ผู้บุกรุกตอบอย่างล่องลอย

“โกดอปุส คนของแก๊งโครงกระดูกดำ”

แก๊งโครงกระดูกดำ… เป็นแก๊งอันธพาลริมเขตตะวันออกและย่านสะพานเบ็คลันด์ ใกล้กับเขตท่าเรือ… ส่วนใหญ่เป็นชาวไบลัม แม้ว่าจะไม่ป่าเถื่อนเท่าแก๊งซีมังเกอร์ แต่ก็มักต่อสู้และฆ่าคนอย่างบ้าบิ่น ก้าวร้าว ถึกทน และไม่กลัวตาย… ไคลน์นึกทบทวนข้อมูลที่เคยรวบรวมมาได้ บังคับให้เซนอลถามต่อ

“เป้าหมายหลักคืออะไร? ทำไมถึงมาหาริชาร์ดสัน?”

โกดอปุสตอบคลุมเครือ

“พวกเรากำลังต่อสู้เพื่อพระองค์… เดิมที พวกเราคือสมาคมฟื้นฟูชาติไบลัมตะวันออก แก๊งโครงกระดูกดำถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลและเงินทุน นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งเป้าหมาย เป็นการรวบรวบรวมสมบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทพมรณา ส่งกลับไปยังทวีปใต้… ในครั้งนี้ พวกเราได้รับเบาะแสที่น่าเชื่อถือว่า ภายในกรุสมบัติของเอิร์ลวูล์ฟมีหน้ากากที่ถูกขโมยมาจากหลุมศพของตระกูลอายเกส ทายาทผู้สืบเชื้อสายเทพโดยตรง… เพื่อที่จะนำหน้ากากกลับคืน เราจำเป็นต้องส่งคนเข้าไปทำงานในบ้านของเอิร์ลวูล์ฟ หรือไม่ก็ปะปนเข้าไปในงานเลี้ยงที่เอิร์ลวูล์ฟจัดขึ้น ด้วยเหตุนี้ ริชาร์ดจึงเป็นตัวเลือกที่ดี เขาไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับองค์กรใด มีประสบการณ์มากมายในฐานะคนรับใช้”

คนรับใช้ในตระกูลขุนนางใหญ่มักสืบทอดกันแบบ ‘รุ่นสู่รุ่น’ ไม่มีทางที่จะแทรกซึมเข้าไปได้ง่ายดายขนาดนั้น… เว้นเสียแต่ เจ้าบ้านต้องการคนเพิ่มเป็นกรณีชั่วคราว ถึงจะหันมาจ้างคนรับใช้ระยะสั้น…

จะว่าไปก็มีเรื่องทำนองนี้อยู่… ในงานเลี้ยงเมื่อคืน ผู้หญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ขุนนางจำนวนไม่น้อยที่ฐานะทางการเงินย่ำแย่ เริ่มทยอยขายที่ดินและคฤหาสน์หลายหลัง ไล่คนรับใช้ออกเกือบหมด เหลือไว้ไม่ถึงสิบคน ใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ แต่เมื่อมีต้องจัดงานเลี้ยงเต้นรำ พวกเขาจะใช้เงินจ้างคนรับใช้ชั่วคราวจากสำนักงานจัดหางานต่างๆ …

สรุปได้ว่า เอิร์ลวูล์ฟกำลังครอบครองหน้ากากของตระกูลทายาทเทพมรณา… เรายังจำได้ มิสเตอร์อะซิกมีนามสกุลว่าอายเกส… น่าเสียดาย เราไม่อยากให้แผนหลักถูกรบกวนจากเหตุไม่คาดฝัน ไม่อย่างนั้นคงหาทางช่วยมิสเตอร์อะซิกชิงหน้ากากกลับคืน… ไคลน์พึมพำเงียบ บังคับให้เซนอลถามต่อ

“รู้จักริชาร์ดสันได้ยังไง”

โกดอปุสตอบห้วน

“พวกเราเคยพบกันในคฤหาสน์ที่ไบลัมตะวันออก สมัยนั้น เราสองคนต่างมีสถานะเป็นทาส… ในหมู่ทาส ใครบางคนแอบเผยแพร่ความชื่อของเทพมรณาอย่างลับๆ เป็นเหตุให้ฉัน ริชาร์ดสัน และมารดาของเขา กลายเป็นผู้ศรัทธาในเทพมรณา แอบเข้าร่วมองค์กรที่มีอิทธิพลอย่างมากในหมู่ทาสด้วยกัน… ในภายหลัง แม่ของริชาร์ดสันล้มป่วยและเสียชีวิต ตัวเขาถูกพามายังเบ็คลันด์ ส่วนฉันต้องอยู่ในไบลัมตะวันออกต่อไป พยายามหาโอกาสหนีออกจากคฤหาสน์… ไม่กี่ปีถัดมา ฉันถูกส่งมาทำงานที่เบ็คลันด์โดยบังเอิญ ทำให้ได้พบกับริชาร์ดสันอีกครั้ง แต่ว่า… เขาหลงลืมความตายของมารดา หลงลืมความทุกข์ยากสมัยที่เคยถูกกลั่นแกล้ง หลงลืมความศรัทธาที่มีต่อพระองค์ ถูกกัดกร่อนด้วยวิถีชีวิตอันแสนสงบสุข! เพื่อหลบหน้าฉัน เขาจงใจก่อความผิดพลาด เปลี่ยนนายจ้างถึงสามคนติดต่อกัน ทว่า เขาคงไม่ทราบ… สหายที่เคยรวมทุกข์ในอดีตไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว!”

ทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง ตราบใดที่ไม่ทำร้ายใคร… แต่ริชาร์ดสันกับเราแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง… ไคลน์ในห้องนอนหลับตาลง บังคับเซนอลถามเสียงทุ้ม

“ชื่อขององค์กรลับที่มีอิทธิพลในหมู่ทาสคืออะไร?”

โกดอปุสลังเลสักพัก

“สมาคมชีวิตนิรันดร์ กลุ่มคนที่ศรัทธาในความตาย หลังจากออกจากโลกแห่งความจริงที่เจ็บปวด เราทุกคนจะได้รับความเป็นอมตะในโลกแห่งความตาย”

สมาคมชีวิตนิรันดร์… เราเคยได้ยินชื่อ สาขาย่อยของนิกายวิญญาณ… ไคลน์ที่เคยเป็นเหยี่ยวราตรี ทราบข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรลับพอสมควร

ชายหนุ่มยังคงบังคับหุ่นเชิดเซนอลเพื่อตั้งคำถามต่อไป ได้รับข้อมูลมากมายที่เกี่ยวข้องกับสมาคมชีวิตนิรันดร์ สมาคมฟื้นฟูชาติไบลัมตะวันออก และแก๊งโครงกระดูกดำ ยืนยันว่าสองมือของโกดอปุสและพรรคพวก ชุ่มไปด้วยเลือดคนบริสุทธิ์

สิ้นสุดการสื่อวิญญาณ จัดการลบร่องรอย รอประมาณครึ่งชั่วโมง ไคลน์บังคับให้ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอล เข้าสิงร่างโกดอปุสอีกครั้ง พาตัวมันออกจากทางระบายน้ำ เข้าไปแอบในเงามืดริมถนน

ถึงตรงนี้ ภายในบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน คนรับใช้ที่ถือปืนลูกซองแฝงเริ่มลดความเข้มงวดในการลาดตระเวน เชื่อว่าอันตรายที่ซ่อนอยู่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ไคลน์แสร้งตีมึน เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องนอนใหญ่ แอบประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตอบสนองเอง นำนกหวีดอะซิก กล่องบุหรี่โลหะ และยุบพองหิวโหยออกจากบ้านในร่างวิญญาณ

ไคลน์ลอยตามหลังโกดอปุส รักษาระยะห่างแปดสิบเมตรไว้เสมอ เพื่อจะจัดการกับ ‘ตัวประกัน’ ที่หุ่นเชิดเซนอลกำลังครอบครอง ชายหนุ่มบังคับให้โกดอปุสเลี้ยวไปยังบล็อกถนนเส้นอื่น ขึ้นรถม้าเช่าตรงสี่แยก

ราวหนึ่งชั่วโมงถัดมา ‘โกดอปุส’ กลับถึงฐานใหญ่ของแก๊งโครงกระดูกดำ เป็นบ้านหลังเล็กๆ ใกล้กับท่าเรือ

ในบ้านเต็มไปด้วยอาวุธ มีสมาชิกหลายคนที่ถูกส่งมาจากสมาคมฟื้นฟูชาติไบลัมตะวันออก พวกมันคือกลุ่มหัวกะทิของแก๊งโครงกระดูกดำ

‘โกดอปุส’ ส่งสัญญาณตามที่นัดแนะกับพวกพ้อง เคาะประตูบ้าน กล่าวกับสมาชิกที่เข้ามาใกล้

“ริชาร์ดสันยอมร่วมมือแล้ว”

“ทำได้ดี” สมาชิกคนดังกล่าวมองหน้าโกดอปุสโดยไม่ได้ใส่ใจนัก หลีกทางให้ ปล่อยให้ผ่านเข้าไป

‘โกดอปุส’ มองไปรอบตัว เห็นวัตถุระเบิดร้ายแรงและปืนไรเฟิลหลายกระบอกกองสุมตรงมุมบ้าน รวมถึงสมาชิกระดับสูงหลายคนของแก๊งโครงกระดูกดำที่กำลังประชุม ไม่ทราบแน่ชัดว่าคุยอะไรกัน

“โกดอปุส สักมวนไหม?” สมาชิกคนเดิมยื่นบุหรี่ให้

นี่คือเครื่องยาสูบของชาวทวีปใต้ เกิดจากการนำสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาห่อรวมกับใบยาสูบแห้ง

โกดอปุสรับไว้ หยิบกล่องไม้ขีดบนโต๊ะ นำไม้ขีดออกมาสองสามก้าน ขูดกับขอบเพื่อจุดไฟ

จากนั้น มันโยนไม้ขีดไฟที่กำลังลุกไหม้ไปตรงมุมห้อง เป้าหมายคือวัตถุระเบิดร้ายแรงที่ติดไฟได้ง่าย

“…” ทุกคนในห้องมองไปทางโกดอปุสด้วยสีหน้าเหม่อลอย ยังตามสถานการณ์ไม่ทันไปชั่วขณะ

บึ้ม!

บนเก้าอี้ม้านั่งที่ห่างออกไปจากตัวบ้านไม่กี่สิบเมตร ร่างวิญญาณของไคลน์กำลังนั่งสบายใจ เฝ้ามองกองไฟและบ้านไม้ที่กำลังลอยขึ้นฟ้า

ไม่กี่วินาทีถัดมา เซนอลในเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงเข้มปรากฏตัวด้านข้าง มีร่องรอยถูกไฟคลอกเล็กน้อย

‘วิญญาณอาฆาต’ ตนดังกล่าวทาบมือลงบนหน้าอก แสดงความเคารพนอบน้อม ก่อนจะกลับเข้าไปในพื้นผิวเหรียญทองในกล่องบุหรี่โลหะ

น่าเสียดาย… เราไม่สามารถหยิบตะกอนพลังติดมือกลับไปได้ ไม่อย่างนั้นจะดูไม่เหมือนอุบัติเหตุ… หากไม่มีผู้วิเศษอยู่เลยในหมู่สมาชิกระดับสูงของแก๊งโครงกระดูกดำ นั่นคงน่าสงสัยเกินไป… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ จัดการลบร่องรอย ตัดขาดการเชื่อมต่อ ส่งตัวเองกลับไปยังห้วงมิติเหนือสายหมอกเทา

เช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มทำตัวตามปรกติ ลุกขึ้นมาอาบน้ำ รอบุรุษรับใช้ส่วนตัวเข้ามาช่วยสวมเสื้อผ้า

ริชาร์ดสันเดินเข้ามาด้วยฝีเท้าเงียบเชียบ จัดการงานของตนอย่างชำนาญ

จากนั้น มันก้าวถอยหลัง ก้มศีรษะลงและกล่าว

“นายท่าน หลังจากจบสัปดาห์นี้ ผมขอลาออก”

มันได้รับเงินค่าแรงประจำสัปดาห์มาจากแม่บ้านทาเนญ่าแล้ว

“เพราะอะไร?” ไคลน์ยืนมองตัวเองในกระจก ซักถามขณะใช้มือจัดระเบียบเสื้อกั๊ก

ในเวลากัน ชายหนุ่มคิดในใจอย่างผ่อนคลาย : ไม่เลว ชิงลาออกด้วยตัวเอง ไม่ทำให้นายจ้างเดือดร้อน…

ริชาร์ดสันคิดคำแก้ตัวไว้แล้ว

“ผมตระหนักถึงความบกพร่องของตัวเอง… ที่งานเลี้ยงเมื่อคืน ผมได้พูดคุยกับบุรุษรับใช้ของแขกท่านอื่น พบว่าตัวเองยังห่างไกลนัก”

ไคลน์ยิ้ม

“ทุกคนย่อมไม่มีประสบการณ์มาก่อน จึงค่อยเติบโตขึ้นในภายหลัง… ลองคิดดูใหม่ พรุ่งนี้ค่อยบอกคำตอบกับผม”

“ครับ นายท่าน” ริชาร์ดสันไม่กล่าวคำใด เป็นฝ่ายเดินออกจากห้อง ลงไปยังชั้นหนึ่งเพื่อหยิบหนังสือพิมพ์ให้เจ้านายในตอนเช้า

ระหว่างนี้ มันมักพลิกอ่านเนื้อหาอยู่เสมอ จะได้วางฉบับที่น่าสนใจที่สุดไว้ด้านบน

กวาดสายตาอ่าน ดวงตาของมันพลันแข็งทื่อ จดจ้องไปยังพาดหัวข่าวหนึ่ง :

“เกิดเหตุระเบิดรุนแรงในบ้านเลขที่ 79 ถนนเดียร์ฮามย่านสะพานเบ็คลันด์ ทางการเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งโครงกระดูกดำ”

“จากรายงานของตำรวจ สมาชิกระดับสูงของแก๊งโครงกระดูกดำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด ประกอบไปด้วยลิม่า โมเรย์ร่า โกดอปุส…”

“นี่มัน…” ริชาร์ดสันส่ายหน้า สงสัยว่าตนกำลังฝันไป

………………………………………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset