Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 700 : รู้ใจ

ราชันเร้นลับ 700 : รู้ใจ

เสียงโหยหวนของ ‘ราชาแดนเหนือ’ เปลี่ยนเป็นเสียงคำรามอย่างรวดเร็ว พายุหิมะพลันแผ่ปกคลุมด้านนอกถ้ำ ไม่มีใครสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้เกินห้าเมตร

สายลมกระโชกพัดพาเกล็ดหิมะขนาดเท่าขนห่านปกคลุมทุกตารางนิ้ว ขณะเดียวกัน ออร่าสีฟ้าคล้ายน้ำแข็งเริ่มขยายตัวบนพื้นราบ ทุกจุดที่แพร่ผ่านไป หากมีสิ่งใดสัมผัสเข้า หัวจรดเท้าจะถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

ไคลน์ซึ่งทั้งสายตาและโสตประสาทถูกรบกวนโดยพายุหิมะ หลังจากภาพหนึ่งผุดขึ้นในใจ เข่ารีบย่อลงตามสัญชาตญาณ เกร็งข้อเท้าและกระโดดขึ้น ปล่อยให้ออร่าสีฟ้าคล้ายน้ำแข็งแพร่ผ่านไปจากด้านล่าง

แต่ทางด้านโมเบธที่ไม่ชำนาญการต่อสู้ กว่ามันจะตระหนักถึงออร่าน้ำแข็งสีฟ้าก็สายเกินไป มิอาจกระโดดหลบได้ทันเวลา

ทันใดนั้น ไหล่ของโมเบธถูกใครบางคนจับยกขึ้น ใต้ฝ่าเท้าเกิดพายุเฮอร์ริเคนรุนแรง เมื่อผนวกทั้งสองปัจจัยเข้าด้วยกัน มันสามารถกระโดดไปในอากาศได้ฉิวเฉียด หลีกเลี่ยงการถูกแช่แข็งทั้งเป็น

โมเบธหันหน้าไปมอง ไม่ประหลาดใจนักเมื่อได้เห็นเซียธาสผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม ในยามที่ผู้ขับขานแห่งเอลฟ์ถูกห้ามบิน พลังหลักของเธอจึงเหลือเพียงการควบคุมสายลมเพื่อกระโดดและร่อนตัว

แอนเดอร์สัน เอ็ดวิน่า สโนวมัน และรอนเซลต่างตอบสนองในแบบฉบับของตัวเอง กระโดดหลบได้ทันเวลา หลีกเลี่ยงความเสียหายที่ไม่จำเป็น มีเพียงกรอซายคนเดียวที่ยังถือดาบในภาพจมกองหิมะ เท้าสองข้างปะทะกับออร่าน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนอย่างจัง

เกล็ดน้ำแข็งเกาะตามขาไล่ขึ้นไป ร่างกายกรอซายถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ในพริบตา ประหนึ่งศพถูกแช่ในก้อนน้ำแข็งอายุหลักหมื่นปี

ฟ้าว!

พายุหิมะที่เกรี้ยวกราดกำลังบดบังทัศนวิสัยของเหล่าผู้วิเศษ ส่งผลให้ทุกคนคลาดสายตากับมังกรน้ำแข็งยูลิเซี่ยน ทำได้เพียงตั้งรับการโจมตี

ทันใดนั้น นักบวชสโนวมันที่ฝ่าเท้ายังไม่สัมผัสถึกพื้น กางแขนออกกว้างอีกครั้ง เปล่งประโยคภาษาเฮอร์มิสโบราณด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า จงไร้ผล!”

พายุหิมะที่กำลังบ้าคลั่งสงบลงทันที รวมไปถึงพายุเฮอร์ริเคนทรงพลังและเกล็ดน้ำแข็งขนาดเท่าหนข่านรอบตัว ทั้งหมดอ่อนกำลังลงจนเหลือเพียงมวลอากาศบางเบา

เซียธาสเริ่มมองเห็นใบหน้าคล้ายกิ้งก่าขนาดมหึมาอย่างคลุมเครือ ศรยาวของเธอยังคงเสียบกลางหน้าผากในสภาพหักครึ่ง

ฉวยโอกาสดังกล่าว มังกรน้ำแข็งรีบย่นระยะห่างของทั้งสองลง!

เซียธาสมิได้แตกตื่น เพียงเสกสายลมเปลี่ยนทิศทาง ผลักเธอและโมเบธให้ถอยหลัง พร้อมกันนั้น ริมฝีปากที่ซีดเผือดของหญิงสาวขยับอ้าพลางขับขานบทเพลงภาษาเอลฟ์โบราณที่เข้าใจได้ยาก

“ปะการัง ถูกคลื่นสาด จนขาดหัก”

“ต้นไม้หนัก ถูกพายุ พัดหักโค่น”

“ขุนเขาถูก อสนี ป่นเป็นโคลน…”

เนื่องจากทุกคำในภาษาเอลฟ์ล้วนมีความหมายในตัวเอง ประโยคจึงสั้นกระชับ เนื้อเพลงสองสามท่อนไม่ทำให้เซียธาสเสียเวลานานนัก และเหนือสิ่งอื่นใด นับตั้งแต่ที่คำแรกถูกเปล่งอย่างไพเราะและหนักแน่น สายลมท่ามกลางพายุหิมะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง!

พายุเกรี้ยวกราดส่งเสียงหวีดร้องและกระจายออกไปทุกทิศ ร่างกายอันใหญ่โตของ ‘ราชาแดนเหนือ’ ยูลิเซี่ยนปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าไคลน์และทุกคน

ขณะเซียธาสร้องเพลงบทที่สาม ‘อัศวินวินัย’ รอนเซลทำการเหยียดฝ่ามือข้างขวาออก เปล่งเสียงภาษาเฮอร์มิสโบราณอย่างลุ่มลึก

“จองจำ!”

เพียงพริบตา มังกรน้ำแข็งที่กำลังจะพุ่งชนเซียธาสและโมเบธพลันชะงักงัน คล้ายกับถูกตีกรอบด้วยกำแพงล่องหน

และขณะที่รอนเซลกระซิบเสียงแผ่ว ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเอ็ดวิน่าที่เพิ่งตั้งหลักยืนเริ่มกลายเป็นสีดำ ด้านในมีของเหลวเหนียวข้นที่คล้ายกับกำลังอัดแน่นไปด้วยความคิดชั่วร้ายทุกชนิดของสิ่งมีชีวิต

เพียงหญิงสาวบีบมือแผ่วเบา ‘ราชาแดนเหนือ’ ยูลิเซี่ยนมีอันต้องส่งเสียงคำรามพร้อมกับเหยียดคอตั้งตรง อาละวาดจนทำลายกำแพงจองจำรอบตัวทิ้งในพริบตา

ดวงตาสีฟ้าอ่อนของมังกรน้ำแข็งแฝงความเจ็บปวดและสับสน คล้ายกับถูกดึงเข้าสู่ห้วงความคิดอันบ้าคลั่งและไร้ศีลธรรมอย่างกะทันหัน

แม้นจิตใจของมันจะมีสภาวะเช่นนี้เป็นทุนเดิม แต่พลังกระตุ้นอารมณ์กลับยังสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มังกรตัวนี้ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์!

อาศัยจังหวะที่ยูลิเซี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แอนเดอร์สัน·ฮู้ดควบแน่นหอกเพลิงไว้ในมือ โน้มตัวไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะขว้าง

โดยไม่รอผลลัพธ์ นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดเสกเปลวไฟห่อหุ้มฝ่าเท้า ละลายน้ำแข็งจนกลายเป็นของเหลว

ฉึก!

หอกเพลิงที่ลุกโชติช่วงพุ่งใส่ปากที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่งของมังกรน้ำแข็งอย่างแม่นยำ ละลายเกล็ดน้ำแข็งหนาในพริบตา เกิดเป็นช่องว่างบริเวณขากรรไกรด้านบน

ยูลิเซี่ยนแหกปากส่งเสียงร้องอีกครั้ง ขาหลังถีบลงพื้น ส่งร่างกายกระโจนขึ้นไปในอากาศ พุ่งเข้าหาแอนเดอร์สันด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง

สิ่งเดียวที่มันเห็นในตอนนี้ก็คือ หนอนแมลงที่กำลังรนหาความตาย!

ซู่ว!

หิมะตามทางเริ่มละลายกลายเป็นแอ่งน้ำกว้าง ร่องดังกล่าวแผ่ขยายจากจุดที่แอนเดอร์สันกำลังยืน

โครม! มังกรน้ำแข็งที่พุ่งปรี่ด้วยแรงเฉื่อยมหาศาล กระแทกใส่หินยักษ์ที่ปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งหนา กะเทาะเปลือกหินออกพร้อมกับสร้างความเสียหายไปจนถึงด้านใน!

หากแอนเดอร์สันหลบไม่พ้น นักล่าอันดับหนึ่งคงได้กลายเป็นซอสเนื้ออย่างไม่ต้องสงสัย เพียงการเฉี่ยวชนก็มากพอจะทำให้ถึงแก่ความตาย

ทว่า ท่ามกลางร่องหิมะละลายในตำแหน่งที่แอนเดอร์สันเคยยืน จุดดังกล่าวปรากฏปากหลุมลึกในแนวดิ่ง ขนาดหลุมเพียงพอสำหรับให้ผู้ชายหนึ่งคนมุดลงไป

พรวด!

มือข้างหนึ่งโผล่ออกจากปากหลุม เกาะขอบพร้อมกับเกร็งแขนส่งแรง ช่วยให้นักล่าอันดับหนึ่งกระโดดขึ้นมาในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง

หลังจากยิงหอกเพลิง มันมิได้หลบหนีอย่างแตกตื่น แต่เลือกใช้พลังพิเศษที่ตัวเองชำนาญ ละลายหิมะใต้ฝ่าเท้า รวมถึงการเผาดินเจาะด้านล่างลึกลงไป สร้างโพรงขนาดพอเหมาะและเอาตัวเองเข้าไปหลบในสภาพนั่งยอง หลีกเลี่ยงการโจมตีตอบโต้ของราชาแดนเหนือได้อย่างสมบูรณ์แบบ

พร้อมกันนั้น ลำแสงอันเจิดจ้าและบริสุทธิ์ผุดผ่องเริ่มสาดส่องลงจากฟากฟ้า กระทบกับร่างกรอซาย ช่วยละลายน้ำแข็งที่เกาะตามลำตัวในพริบตา

นักบวชสโนวมันเลือกใช้พลังสายโจมตีเพื่อสลายพันธนาการให้คนยักษ์ผู้พิทักษ์!

ท่ามกลางแสงรุ่นอรุณที่ระเบิดปะทุ กรอซายถือดาบใหญ่ย่างสามขุมเข้าหามังกรน้ำแข็ง ฟันสับลงอย่างเกรี้ยวกราด

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!

ความสูงของกรอซายน้อยกว่ายูลิเซี่ยนในท่ายืนสี่ขาอยู่หนึ่งเมตร แต่พละกำลังสูสีจนน่าเหลือเชื่อ ท่ามกลางการฟันปะทะกับอุ้งเท้าหน้าของอีกฝ่าย แม้ร่างกายจะสั่นเทาและเซเสียหลักหลายหน แต่ไม่นานก็กลับมาอยู่ในสภาพสูสี หรือกระทั่งได้เปรียบเล็กน้อย

อาศัยจังหวะที่คนยักษ์ผู้พิทักษ์ประจันหน้า พวกพ้องที่เหลือสามารถตอบสนองได้อย่างใจเย็นมากขึ้น

นักบวชสโนวมันอ้าแขนกว้าง แสงอาทิตย์ทรงกลดแผ่ออกจากร่างกายก่อนจะดับลงอย่างรวดเร็ว มอบความอบอุ่นแก่พวกพ้องถ้วนหน้า นำมาซึ่งความฮึกเหิมและกล้าหาญ ขณะเดียวกันก็บังคับให้ผลของพลังไม่ตกไปถึงราชาแดนเหนือได้อย่างชำนาญ

ไม่ไกลกันนัก เซียธาสกับเส้นผมที่กำลังส่องแสง ดึงสายธนูไปด้านหลังและเริ่มกระหน่ำยิงศรที่สร้างจากลมเฉือนสลับกับสายฟ้า เนื่องจากเป้าหมายมีร่างกายใหญ่โต ศรทุกดอกจึงเข้าเป้าอย่างไม่ยากเย็น โดยที่เกือบทั้งหมดพุ่งไปยังจุดเดียวกัน นั่นคือบริเวณหัวไหล่ของมังกรน้ำแข็ง

โมเบธ·โซโรอาสเตอร์เริ่มออกโรงช่วยเหลือกรอซาย บ้างขโมยความคิดที่จะโจมตีของราชาแดนเหนือ บ้างก็พยายามขโมยพลังต่อสู้ แต่ส่วนใหญ่มักไม่ประสบความสำเร็จ

ในสภาพถือมีดสั้นสีดำสนิท แอนเดอร์สันอ้อมไปด้านข้างอย่างระมัดระวัง คล้ายกับหวังลอบโจมตีใส่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง ส่วน ‘อัศวินวินัย’ รอนเซลถึงดาบเหล็กดำทรงยาวพร้อมกับใช้พลัง ‘กฎ’ และ ‘จองจำ’ พลางช่วยเหลือกรอซายต่อสู้ในระยะประชิดกับมังกรน้ำแข็ง หากไม่ใช่เพราะมัน เกรงว่าแม้แต่คนยักษ์ผู้พิทักษ์ก็คงเสียท่าถูกดีดกระเด็นและถูกกระทืบซ้ำหรือไม่ก็พ่นลมหายใจใส่

ไคลน์ชำเลืองเอ็ดวิน่า ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

“ล่องหน!”

ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายคัดลอกพลังชนิดนี้ไว้บ้างไหม ถ้าหากไม่ ก็คงต้องพิจารณาถึงแผนอื่น

เอ็ดวิน่าไม่ถามถึงเหตุผล ดวงตาสีฟ้าอ่อนและกระจ่างใสพลันสะท้อนภาพของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่สูญเสียความคมชัดและค่อย ๆ จางลง

เพียงไม่นาน ไคลน์อันตรธานหายไปโดยสมบูรณ์

หลังจากยืนยันสถานะตัวเอง ไคลน์รีบวิ่งไปยังจุดที่มังกรและคนยักษ์กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด ม้วนตัวหนึ่งตลบ หยุดลงตรงตำแหน่งขาหลังฝั่งซ้ายของราชาแดนเหนือ

ถัดมา ชายหนุ่มแบ่งสมาธิส่วนใหญ่ไปกับการระวังไม่ให้ถูกยูลิเซี่ยนเหยียบ อาศัยเนตรด้ายวิญญาณที่เปิดมาสักพัก แผ่พลังวิญญาณเข้าควบคุมด้ายวิญญาณมายาของมังกรน้ำแข็ง

หลังจากนั้น บ้างม้วนตัวหลบ บ้างกับกระโดดฉากออกด้านข้าง พยายามมองหาจุดปลอดภัยภายใต้ลำตัวและรอบๆ ตัวยูลิเซี่ยน

ฟุ่บ ฟุ่บ!

ศรสายฟ้าสีเงินและลมเฉือนสีฟ้าครามพุ่งปะทะพื้นผิวเล็กๆ จุดหนึ่งบนร่างกายมังกร ป่นเกล็ดน้ำแข็งจนแหลกละเอียด ทะลวงผ่านผิวหนังที่หนาและเหนียว ส่งผลให้ไหล่ขวาของมังกรน้ำแข็งถูกย้อมด้วยสีฟ้าซีดภายในเวลาอันสั้น อุ้งเท้าหน้าข้างเดียวกันพลันเคลื่อนไหวได้ช้าลง

‘อัศวินวินัย’ รอนเซลที่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หลังจากกระโจนไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกลมหายใจสีฟ้าเย็นเยียบ มันเหยียดแขนไปทางหัวไหล่มังกรพร้อมกับเปล่งคาถาภาษาเฮอร์มิสโบราณด้วยเสียงเคร่งขรึม

“ตาย!”

โผละ! หัวไหล่ขวาที่เต็มไปด้วยเลือดสีฟ้าอ่อนของยูลิเซี่ยนพลันแห้งกรัง บาดแผลเกิดฉีกขาดกะทันหันจนมองเห็นกระดูกสีใสด้านใน

เอ็ดวิน่าหยิบกระจกทองเหลืองขนาดเท่าฝ่ามือออกมา สะท้อนอวัยวะดังกล่าวของยูลิเซี่ยนลงบนผิวกระจก

จากนั้น หญิงสาวก้มมองมือขวา จับผิวกระจกด้วยมือเปล่า บีบภาพด้านในและทำทางกระชากออกมา!

บาดแผลของยูลิเซี่ยนพลันเหวอะหวะจนน่าสะพรึงและเริ่มลุกลามเป็นวงกว้าง คล้ายกับมันกำลังจะเสียอุ้งเท้าไปข้างหนึ่ง

มังกรน้ำแข็งคำรามสนั่น ร่างกายกระตุกในท่ายืนด้วยขาหลัง

แสงสีฟ้าจนเกือบขาวเริ่มแผ่ออกจากร่างกายอันใหญ่โตของมังกร ภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร อุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างฉับพลัน มาพร้อมกับความรู้สึกที่ยากจะต้านทาน

เพียงพริบตา ผู้วิเศษทั้งหมดรู้สึกคล้ายตนถูกแช่แข็งเป็นเวลานาน ร่างกายเย็นจัดจนเกือบแข็ง อดไม่ได้ที่จะสั่นระริก

ไม่ว่าจะเซียธาส โมเบธ เอ็ดวิน่า ไคลน์ กรอซาย แอนเดอร์สัน หรือรอนเซล ทุกคนล้วนเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกัน มีเพียงนักบวชสโนวมันผู้เคยฝึกตนท่ามกลางความหนาวเหน็บอย่างยาวนานที่ยังสามารถขยับตัวได้เล็กน้อย

มันกางแขนออก ปิดตาลงครึ่งหนึ่ง กล่าวเสียงขรึม

“พระผู้เป็นเจ้ารักโลกใบนี้!”

แสงแดดส่องลงมายังใจกลางสายลมและหิมะ มอบความอบอุ่นเป็นล้นพ้นจนความรู้สึกคล้ายกับถูกแช่แข็งเริ่มละลาย

เปรี้ยง!

ยูลิเซี่ยนส่งกรอซายกระเด็นไปในอากาศด้วยอุ้งเท้า สร้างบาดแผลฉกรรจ์บนหน้าอกคนยักษ์ผู้พิทักษ์

โดยไม่สนใจเป้าหมายอื่น ราชาแดนเหนือพุ่งตรงไปหานักบวชสโนวมันด้วยความเร็วสูง!

ไม่มีใครปกป้องสโนวมัน… และยูลิเซี่ยนกำลังจะออกจากรัศมีห้าเมตรของเรา… ไคลน์เฝ้ามองฉากตรงหน้าด้วยร่างกายที่ยังคงประสบอาการชา ในใจนึกอยากหมุนตัววิ่งกลับเข้าไปในถ้ำ สวดภาวนาถึงตัวเอง ส่งจิตเข้ามิติหมอกและใช้คทาเทพสมุทรตอบสนองต่อคำวิงวอน

ทันใดนั้น ลูกไฟสีแดงเข้มพุ่งตรงไปทางมังกรน้ำแข็ง ตกลงในจุดใกล้กับนักบวชก่อนจะระเบิดออก แผ่คลื่นกระแทกออกไปทุกสารทิศจนนักบวชลอยกระเด็นไปในอากาศ

เป็นพลังของแอนเดอร์สัน นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด

ขณะเดียวกัน เอ็ดวิน่าเองก็กำลังรวบรวมลูกไฟไว้บนมือ ขว้างให้ตกในตำแหน่งด้านหลังยูลิเซี่ยนคล้ายกับไม่มีเจตนาสร้างความเสียหาย

เธอกำลังสร้างลัดในการเคลื่อนที่ให้ไคลน์!

หญิงสาวเคยได้ยินจากเดนิสว่า เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีพลังเช่นนี้อยู่!

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset