เมื่อได้เห็นร่างกายสีขาวขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวและ ‘ดอกไม้’ เมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนเจือความเขินอาย และเมื่อได้เห็นใบหน้าลังเลของซินเธีย ไคลน์พลันสั่นสะท้านไปทุกส่วนของร่างกาย เส้นขนทั่วร่างลุกโชนตั้งชัน
ฉากตรงหน้าคือความสยดสยองที่มันไม่เคยจินตนาการถึงมาก่อน ไม่แม้กระทั่งในความฝัน!
ย้อนกลับไปขณะเมื่อครั้งได้เผชิญหน้าเมกูสในเมืองทิงเก็น ไคลน์ถูกภาพอันน่าสยดสยองข่มขวัญจนก้าวขาไม่ออก แต่ปัจจุบัน หลังจากผ่านประสบการณ์นับไม่ถ้วน และกล้าเรียกตัวเองว่ารุ่นพี่ในวงการศาสตร์เร้นลับ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของซินเธีย ถุงมือในมือซ้ายพลันเปลี่ยนสีทันที
สีของถุงมือเข้มขึ้น แผ่ความน่าเกรงขามและกลิ่นอายชั่วร้ายเต็มเปี่ยม สิ่งนี้หมายถึง ไคลน์สลับยุบพองหิวโหยไปเป็นวิญญาณของมีซอร์ ‘บารอนแห่งการเน่าเปื่อย’
ในทันทีทันใด ชายหนุ่ม ‘ดัดแปลง’ ความคิดของซินเธียที่ระบุว่า ‘ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน’ ให้กลายเป็น ‘ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่านเพียงคนเดียว’
ไคลน์ทำแบบนี้เพราะเชื่อว่า บรรดาบอดี้การ์ดของนายพลและคนรับใช้ชายรอบต้นไม้จะถูกซินเธียที่ความปรารถนาถูก ‘บิดเบือน’ ผลักจนกระเด็น เป็นโอกาสให้ได้พักหายใจ
ส่วนเรื่องที่ว่า การตัดสินใจเช่นนี้จะทำให้ตัวจริงของนายพลอมิรุสถูกเปิดโปง ชายหนุ่มมิได้ใส่ใจมากนัก เพราะหากใครตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้แล้วยังห่วงการปลอมตัว มันผู้นั้นคงเป็นโรคบ้าความสมบูรณ์แบบจนเกินเหตุ และไคลน์มิใช่คนแบบนั้น
เหนือสิ่งอื่นใด ความกระหายทุกรูปแบบได้ถูก ‘ขยาย’ ให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ไคลน์เชื่อว่าทุกคนในเหตุการณ์จะจมอยู่กับความปรารถนาของตัวเอง ไม่มีเวลามาสนใจการต่อสู้ของนายพลอมิรุสแน่นอน
พลัง ‘บิดเบือน’ ของบารอนแห่งการเน่าเปื่อยถูกสำแดงสำเร็จอย่างเงียบงัน แต่ไคลน์กลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า กลุ่มบุรุษรอบตัวซินเธียมิได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
พวกมันยังไม่ถูก ‘ต้นไม้’ ดีดออกมา!
เราบิดเบือนสำเร็จแล้วอย่างแน่นอน…
หมายความว่าซินเธียต้านทานมันได้…
รูม่านตาไคลน์พลันหดลีบ ทิ้งตัวกระโดดไปด้านข้างสองก้าว
ทันใดนั้น ในจุดที่เคยยืน กิ่งไม้สีน้ำตาลพุ่งพรวดขึ้นจากพื้นห้อง สุดปลายกิ่งเป็นดอกไม้ที่มาพร้อมเมือกเหนียวข้น
ขนาดของดอกค่อนข้างใหญ่ พิจารณาจากในสภาพอ้ากว้างที่สุด ไคลน์เชื่อว่าสิ่งนี้สามารถกลืนมนุษย์ทั้งคนเข้าไปได้
แม้ชายหนุ่มจะไม่เคยเห็นดอกไม้กินคนอันโด่งดังในป่าดงดิบของทวีปใต้ แต่มันก็เชื่อว่า ดอกไม้ตรงหน้าก็น่าสะพรึงไม่แพ้กัน
พรวด! พรวด! พรวด!
ไม่ว่าจะกำแพง พื้นห้อง หรือผนัง กิ่งไม้แบบเดิมกระหน่ำพุ่งออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ปลายสุดของทุกกิ่งล้วนมีดอกไม้เปียกชุ่ม พยายามไล่ล่าไคลน์จากทุกทิศทาง
ระหว่างนั้น ดอกไม้ลึกลับได้งับหัวลัวอาน เลขานุการผมทอง รวมถึงพันธนาการบอดี้การ์ดและสาวใช้ที่กำลังร่วมรักอยู่บนพื้นห้องโดยรอบ
เมื่อประเมินว่าพลัง ‘บิดเบือน’ ถูกต้านทานโดยสมบูรณ์ ไคลน์ชักมือขวาออกมาโดยไม่ลังเล
แสงจากยันต์สีทองเข้มส่องออกจากร่องฝ่ามือ
“กฎหมายที่เก้า!”
ใจจริง มันไม่อยากงัดยันต์ออกมาใช้เร็วนัก ไม่ใช่เพราะเสียดาย แต่เพราะต้องการให้ศึกยืดเยื้อออกไปจนกระทั่งตนพบจุดอ่อนของซินเธียเสียก่อน จากนั้นค่อยทำให้อ่อนแอลง เนื่องจากยันต์กฎหมายที่เก้ามิได้ครอบจักรวาลถึงขั้นสามารถห้ามการใช้พลังพิเศษทุกรูปแบบ ต้องระบุรายละเอียดของกฎหมายที่จะบัญญัติลงไปให้ชัดเจน และเนื่องจากใช้ได้เพียงหนเดียว ความผิดพลาดจะไม่ได้รับการอภัย ต้องเก็บข้อมูลจนแน่ใจเสียก่อน
แต่สถานการณ์อันคับขันได้บีบคั้นให้ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก ต้องเผยไพ่ตายตั้งแต่เริ่มศึก ไม่อย่างนั้น ดอกไม้กินคนน่าขยะแขยงคงเล่นงานตนในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
หากแม้แต่ยันต์กฎหมายที่เก้าก็ยังมิอาจสยบสัตว์ประหลาดซินเธียได้ เราคงต้องหนีออกจากคฤหาสน์ ล่อเธอออกไปข้างนอก หาโอกาสหลบมุมและสวดวิงวอนถึงตัวเอง เข้าสู่มิติหมอกเพื่อใช้พลังคทาเทพสมุทรสร้างฟ้าผ่าโจมตี!
ท่ามกลางความคิด ไคลน์ ผู้เอาแต่กระโดดหลบไปมาระหว่างกิ่งไม้และดอกไม้ เปล่งเสียงคาถาด้วยภาษาเฮอร์มิสโบราณ :
“กฎหมาย!”
หลังจากเสียงเริ่มกังวาน แผ่นยันต์สีทองเข้มในมือพลันเย็นเฉียบ เปลี่ยนให้อารมณ์ของผู้คนเยือกเย็นตามไปด้วย
ในวินาทีนี้ สติของชายหนุ่มกำลังสุขุมจนผิดธรรมชาติ มือขวาขว้างยันต์กฎหมายที่เก้าออกไปพลางครุ่นคิดหากฎหมายที่ตนต้อง ‘บัญญัติ’
ความคิดแรกในหัวไคลน์คือ ‘ที่นี่ห้ามมีแรงกระหายทุกชนิด’ แต่ด้วยความกังวลว่านั่นอาจกว้างเกินไปจนไม่ได้ผล จึงต้องการเปลี่ยนให้เป็น ‘ที่นี่ห้ามร่วมเพศ’ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ความปรารถนาเดียวของซินเธียคือ ต้องการมีทายาทกับนายพลอมิรุส ความฉิบหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนมีต้นตอมาจากสิ่งนี้!
ขณะยันต์กำลังลอยไปในอากาศ และเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีทองเข้มเจิดจ้า ไคลน์พลันผุดคำถามหนึ่งในหัว :
จะว่าไป ซินเธียเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่หรือ…
นี่คือข้อเท็จจริง!
ตลอดสามวันที่ผ่านมา ไคลน์หมั่นใช้เนตรวิญญาณและการทำนายบนมิติหมอกเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่า ซินเธียไม่ใช่ผู้วิเศษ
เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ต้องนึกสงสัยให้วุ่นวาย หากเธอเป็นผู้วิเศษจริง นักสานกฎหมายอมิรุส ผู้เชี่ยวชาญการระบุตัวตนผู้วิเศษ ย่อมต้องทราบเรื่องนี้นานแล้ว เพราะเขากับซินเธียคบกันมาหลายปี…
ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ผู้วิเศษที่ดื่มโอสถเข้าไป หล่อนก็ไม่น่าจะมีเหตุให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้เลย
นี่คือความผิดปรกติที่ต้องรีบหาคำตอบ!
เหมือนกับเมกูส? เธอตั้งครรภ์ทายาทของเทพมารผ่านพิธีกรรมบางอย่าง? ไม่สิ ถ้ามีพิธีกรรมแบบนั้นจริง สัมผัสวิญญาณนักทำนายของเราก็ต้องแจ้งเตือน ว่าห้ามใช้เนตรวิญญาณส่องครรภ์ของซินเธีย… แปลว่าต้องมีวัตถุบางอย่างในตัวเธอที่เป็นภาชนะรับพลังจากภายนอก อาจสั่งสมพลังมาแล้วสองคืน จึงค่อยแสดงผลอย่างฉับพลันในคืนนี้… แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน ความน่าพรั่นพรึงที่เกิดกับซินเธียต้องเป็นผลจากอิทธิพลของโลกภายนอกแน่นอน ไม่ใช่พลังของเธอ…
ไคลน์ครุ่นคิดและได้ข้อสรุปภายในสองวินาที จึงประกาศกฎหมายโดยปราศจากความลังเล :
“ที่นี่ไม่อนุญาตให้พลังจากโลกภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว!”
ทันใดนั้น อักษรภาษาเฮอร์มิสโบราณที่แฝงไปด้วยความหมายพลันลอยเต็มอากาศ แสงสีทองเข้มเริ่มถักสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นอักขระเวทมนตร์แห่งประมวลกฎหมาย ก่อนจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า
ฮึ่ม!
มันได้ยินเสียงฉุนเฉียวของใครบางคนดังแว่ว ขณะเดียวกัน คล้ายกับแสงล่องหนที่เต็มไปด้วยกามราคะถูกกีดกันออกไปจากห้องนอน
ในวินาทีดังกล่าว ภาพของดวงดาวมายาพลันปรากฏขึ้นในทัศนียภาพไคลน์ โดยมีดาวดวงหนึ่งกำลังส่องสว่างเด่นชัด
พรวด! พรวด! ดวงตาไคลน์ระเบิดทั้งสองข้างอย่างเหี้ยมโหด ของเหลวผสมกับเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้นในลักษณะสยดสยอง
แม้จะมียันต์กฎหมายที่เก้าช่วยคุ้มครองการแทรกแซงจากโลกภายนอก แต่เนื่องจากอีกฝ่ายทรงพลังเกินไป ถึงจะหลุดรอดเข้ามาในปริมาณน้อย ก็มากพอจะสร้างความเสียหายหนักหน่วงแก่สังขารมนุษย์
ดวงตาทั้งสองข้างระเบิดฉับพลัน!
ความเสียหายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไคลน์หมดโอกาสใช้งาน ‘กระดาษคนตัวแทน’ โดยสิ้นเชิง เหมือนกับกรณีที่นักเชิดหุ่นโรซาโก้ถูกยันต์ ‘ถ้อยคำกัดกร่อน’ เล่นงานทีเผลอ
หากไม่เพราะมียันต์กฎหมายที่เก้าช่วยปกป้องร่างกาย เกรงว่ามันคงไม่จบแค่ดวงตาระเบิด แต่ไคลน์อาจกลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกับซินเธีย!
ขณะเดียวกัน ต้นไม้ซินเธียที่เคยปักหลักบนเตียงนอนใจกลางห้อง พลันสูญเสียส่วนลำตัวทั้งหมดในพริบตา กลายเป็นกองเลือดเนื้อที่มีตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวปกคลุม ในเวลาเดียวกัน เหล่าบอดี้การ์ดและคนรับใช้รอบตัวหล่อน ต่างร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นและขอบเตียงจนหมดสติ
ศีรษะซินเธียถูกฝังอยู่บนกองเลือดเนื้อ ปากขยับพึมพำกับตัวเอง
“ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน…”
…
หล่อนพยายามควบคุมกิ่งก้านที่ยังหลงเหลือบนกำแพงและเพดาน รัดพันไคลน์ ผู้กำลังยืนตะลึงเนื่องจากดวงตาระเบิด
ชายหนุ่มได้สติกลับมาเล็กน้อย พยายามขัดขืนให้หลุดจากบ่วงไม้ แต่ไม่ว่าจะเป็นการดีดนิ้วจุดไฟหรือใช้พลังของยุบพองหิวโหย ทั้งหมดล้วนล้มเหลว เนื่องจากร่างกายถูกตรึงแน่นจนมิอาจกระดุกกระดิก
ภายในการมองเห็น กองตุ่มสีน้ำตาลอมเขียวขยับใกล้ไคลน์ทุกขณะ มันไม่มีทางเลือกนอกจากแปลงโฉมกลับไปเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์
เกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่เบ้าตาเต็มไปด้วยเลือด!
ทันใดนั้น กิ่งไม้หยุดการรัดพันทันที คลายออกพร้อมกับโยกเอนอย่างอ่อนโยน คล้ายกับพยายามจับคว้าบางสิ่งที่มองไม่เห็น
ซินเธียเผยสีหน้าสับสนปนทันที เปล่งเสียงพึมพำอย่างเหม่อลอย
“ท่านนายพล ท่านอยู่ที่ไหน ท่านนายพล ท่านอยู่ที่ไหน…”
เมื่อไม่มีพลังจากโลกภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว หญิงสาวถูกผลของพลัง ‘บิดเบือน’ จากจังหวะก่อนหน้าเล่นงาน ความปรารถนาจึงเปลี่ยนไปเป็น ‘ต้องการมีทายาทกับนายพลอมิรุสเพียงคนเดียว’ ส่งผลให้ไคลน์ถูกปล่อยตัว
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน รีบเลื่อนมือขวาขึ้นมายังปิดดวงตา จากนั้นก็ตวัดลงมาไว้ตรงหัวไหล่ซ้าย เป็นพลังโยกย้ายบาดแผล
ขณะหัวไหล่เริ่มมีสภาพยับเยิน ยุบพองหิวโหยพลันแปรเป็นเปลี่ยนสีทองสว่าง
ไคลน์ยืนจ้องศีรษะซินเธียบนกองเนื้อด้วยสายตาสงสาร ก่อนจะกางแขนสองข้างออกกว้าง
ลำแสงถูกฉายลงจากเบื้องบน เกิดเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมซากศพอันน่าเวทนาของสัตว์ประหลาด
……………………