บุตรแห่งพระผู้สร้าง?
แฮงแมน·อัลเจอร์ค่อนข้างประหลาดใจกับคำนิยามของเฮอร์มิท ถึงกับต้องขมวดคิ้วออกมา
แต่มันตัดสินใจไม่ถามออกไปโดยตรง เพราะกังวลว่านั่นอาจเป็นการเผยความลับตัวเองโดยไม่ตั้งใจ ขณะเดียวกันก็ชื่อว่า คงมีใครสักคนเอ่ยปากถามแทน
“บุตรแห่งพระผู้สร้าง?” เมจิกเชี่ยน·ฟอร์สทวนคำด้วยสีหน้าฉงน
เธอคาดไม่ถึงว่า อามุนด์ที่มีสมญานาม ‘ราชาเทวทูต’ และ ‘ผู้เย้ยเทพ’ จะยังมีอีกหนึ่งตัวตนอันน่าตกตะลึง
เฮอร์มิท·แคทลียา ชำเลืองฟอร์สด้วยหางตา มอบคำตอบสงบนิ่ง
“ตำนานกล่าวไว้ว่า ในการแบ่งร่างครั้งแรกของพระผู้สร้างที่ทำให้เกิดเทพตนอื่นและเผ่าพันธุ์สัตว์วิเศษ มีเด็กทารกสองคนถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกัน หนึ่งในนั้นคือ ‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์”
หืม… แต่จิตรกรรมฝาผนังภายในสุสานตระกูลอามุนด์ขัดแย้งกับคำอธิบายของเธอ…
ในวินาทีที่อาดัมและอามุนด์ลืมตาดูโลก นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่พระผู้สร้างตื่นขึ้น และทำการทวงคืนอำนาจจากบรรดาเทพบรรพกาล
ในยามนั้น ท่านนั่งอย่างสง่างามบนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ รายล้อมกองทัพเทวทูตจำนวนมาก ปราศจากกลิ่นอายของความตายหรือการ ‘แบ่งร่าง’ อย่างที่เข้าใจ…
จิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวสอดคล้องกับบันทึกตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์… บางที พระผู้สร้างอาจลืมตาตื่นขึ้นมาสองครั้ง หรือบางที พระผู้สร้างตามตำนานเมืองเงินพิสุทธิ์ อาจเป็นคนละคนกับพระผู้สร้างที่ให้กำเนิดอาดัมและอามุนด์ โดยมีคนหนึ่งสืบทอดพลังของอีกคนหนึ่ง…
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของเฮอร์มิท ไคลน์สร้างสมมติฐานขึ้นในใจ
อามุนด์คือบุตรแห่งพระผู้สร้าง… ตัวตนระดับดังกล่าวไม่ด้อยไปกว่าเทพแท้จริงเลยสักนิด!
แต่มิสเตอร์ฟูลพร้อมด้วยชุมนุมทาโรต์ของเรา กลับสามารถขจัด ‘ร่างแบ่งภาค’ ของอามุนด์ได้อย่างง่ายดาย!
จัสติส·ออเดรย์นึกทบทวนทุกเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ทันใดนั้น เธอตระหนักได้ทันทีว่าตนเหนือกว่าผู้วิเศษทั่วไปมากเพียงใด ระดับของชุมนุมทาโรต์กับชุมนุมลับปรกติ ช่างแตกต่างกันนับร้อยเท่า!
หญิงสาวซักถามต่อ
“มาดามเฮอร์มิท แล้วคุณทราบหรือไม่ว่า บุตรอีกคนของพระผู้สร้างมีนามว่าอะไร?”
“อาดัม” เฮอร์มิท·แคทลียา พ่นคำสั้น
จัสติส·ออเดรย์ผงะเล็กน้อย เพราะคำถามของเธอปรารถนาเพียงคำตอบ ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่’ ส่วนเนื้อหาหลังจากนั้นอาจต้องมีการซื้อขาย ใครจะไปคิดว่าเฮอร์มิท·แคทลียาจะเอ่ยชื่ออาดัมในทันที
เธอมิได้มองว่าข้อมูลนี้สำคัญ…
คงครอบครองข้อมูลไว้มากพอสมควร…
ออเดรย์เริ่มอนุมานจากรายละเอียดเล็กน้อย
จากนั้นก็หันไปจ้อง
“ดิฉันไม่เคยได้ยินชื่อของอาดัมมาก่อน”
“ทางนี้ก็เช่นกัน หากไม่นับเรื่องที่ถูกบันทึกในตำนานว่าเป็นบุตรแห่งพระผู้สร้าง ดิฉันก็ไม่เคยได้ยินชื่อของอาดัมจากที่ไหนอีกเลย ประหนึ่งว่าไม่เคยมีตัวตนในประวัติศาสตร์ของยุคสมัยที่สี่” แคทลียามอบคำตอบสุขุม
อาดัมเต็มไปด้วยความลึกลับ… แม้ว่าเราจะมีข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเทวทูตภายในจักรวรรดิโซโลมอน ทรันซอสต์ และทูดอร์ค่อนข้างครบถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยได้ยินชื่อของอาดัม หากไม่ใช่เพราะอาโรเดสบันทึก ‘วิดีโอ’ การขุดค้นอนุสาวรีย์สุสานตระกูลอามุนด์ของหน่วยจิตแห่งจักรกล เราคงไม่เคยได้ยินชื่ออาดัมเช่นกัน… เป็นเพราะท่านร่วงหล่นไปนานแล้ว หรือเอาแต่เร้นกายซ่อนตัวจากโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ…
ถ้าทำแบบนั้น ท่านมีแผนอะไรในใจ?
ไคลน์รำพันเงียบ
ออเดรย์หันไปมองมิสเตอร์แฮงแมน และพบว่าอีกฝ่ายส่ายหัวตอบอย่างอ่อนโยน
อามุนด์เป็นราชาเทวทูต หากอาดัมไม่ใช่ก็คงจะแปลกเกินไปสักหน่อย เรื่องนี้อาจมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เมืองเงินพิสุทธิ์…
จัสติส·ออเดรย์หันไปทางเดอะซัน·เดอร์ริค
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เดอร์ริคทราบเจตนาของหญิงสาว จึงตอบกลับไปด้วยสีหน้าอึมครึม
“พวกเราไม่รู้จักอาดัม เหมือนกับที่ไม่เคยรู้จักอามุนด์มาก่อน ในตอนนี้ ผมยังหาหนังสือที่บันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของราชาเทวทูตไม่พบ อาจเป็นเพราะลำดับของผมยังต่ำเกินไป ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลดังกล่าว คงต้องพยายามค้นหากันต่อไป”
ราชาเทวทูต…
เฮอร์มิท·แคทลียา ขยับปลายนิ้วเล็กน้อย ปากพึมพำวลีที่ตนเคยได้ยินจากชุมนุมคราวก่อน
เธอทราบดี หากถามออกไปตอนนี้ มิสจัสติสคงยินดีอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด หญิงสาวไม่มัวรอช้า รีบซักถามเข้าประเด็นทันที
“พวกคุณพูดว่า อามุนด์คือราชาเทวทูต?”
“ถูกต้อง” จัสติส·ออเดรย์รู้สึกขอบคุณเฮอร์มิทจากก้นบึ้งหัวใจ จึงยินดีอธิบายโดยไม่ขัดข้อง “ตามบันทึกของเมืองเงินพิสุทธิ์ พระผู้สร้างจะรายล้อมด้วยเทวทูตจำนวนมาก โดยจะมีหัวหน้าของเหล่าเทวทูตที่ถูกเรียกว่า ‘ราชาเทวทูต’
“หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ แปดราชาเทวทูตเป็นตัวตนที่ใกล้ชิดกับพระผู้สร้างมากที่สุด ตอนนี้พวกเรายังมีข้อมูลของราชาเทวทูตไม่มากนัก หนึ่งในนั้นคือโอโรเลอุส ‘เทวทูตโชคชะตา’ หากอ้างอิงจากบันทึกของเมืองเงินพิสุทธิ์ ท่านจะมีอีกสมญานามว่า ‘ผู้กลืนหาง’ ถัดมาเป็นตนที่มิสเตอร์ฟูลเคยกล่าวถึง ‘เทวทูตสีชาด’ เมดีซี มีอีกสมญานามหนึ่งว่า ‘เทวทูตสงคราม’ หลังจากนี้เป็นเพียงการคาดคะเน พวกเราสงสัยว่า อามุนด์คือ ‘เทวทูตกาลเวลา’ แห่งแปดราชาเทวทูต และในเมื่ออามุนด์เป็นราชาเทวทูต ก็มีโอกาสมากที่อาดัมซึ่งเป็นบุตรแห่งพระผู้สร้าง จะเป็นหนึ่งในราชาเทวทูตเช่นกัน”
แบบนี้เรียกว่ามีข้อมูลไม่มาก…?
เรายังไม่เคยได้ยินคำว่าราชาเทวทูตด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับสามารถระบุตัวตนได้กว่าครึ่ง เพียงเท่านี้ยังไม่มากอีกหรือ? ทั้งที่ไม่มีใครในหมู่พวกเขามีลำดับสูงกว่าเรา…
เฮอร์มิทหมดคำจะกล่าว
จากคำอธิบายข้างต้น ทางเดอะมูนเองก็เพิ่งเข้าใจความหมายที่แท้จริงของราชาเทวทูต มันเริ่มวางเป้าหมายใหม่ทันที หากกลับไปยังโลกความจริงเมื่อใด จะเริ่มค้นคว้าข้อมูลจากคำว่า ‘ราชาเทวทูต’ เป็นหลัก เผื่ออาจได้พบเบาะแสของราชาเทวทูตตนที่เหลือ ถูกบันทึกไว้ในตำนานของผีดูดเลือด
หลังจากนั่งนิ่งนานหลายวินาที แคทลียายังคงมีคำถาม
“มิสเตอร์ซันเคยถูกอามุนด์สิงร่าง?”
“ถูกต้อง ระบุให้ชัดคือ ถูกร่างแบ่งภาคของอามุนด์สิง” เดอะซัน·เดอร์ริคตอบอย่างซื่อตรง “แต่ได้มิสเตอร์ฟูลช่วยชำระล้างทันเวลา ผมจึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก”
มิสเตอร์ฟูลช่วยชำระล้าง…
เฮอร์มิท·แคทลียาพยายามระงับตัวเอง ไม่ให้มองไปทางเก้าอี้สุดปลายโต๊ะทองแดงยาว
เธอเคยคิดว่า ตนเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของมิสเตอร์ฟูลอย่างถ่องแท้ นั่นคือ อีกฝ่ายยังอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูพลัง ไม่สามารถใช้พลังได้มากนัก เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องช่วงชิงตัวตนและคทาจากเทพสมุทร
แต่ยิ่งได้ฟังข้อมูล สมมติฐานดังกล่าวก็ยิ่งถูกสั่นคลอน แคทลียาเริ่มมองมิสเตอร์ฟูลเหมือนกับก้อนภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นผิวน้ำเพียงน้อยนิด ยังเหลือส่วนที่จมอยู่ใต้ทะเลอีกมากจนยากหยั่งถึง
ท่านทำลายแผนการของอามุนด์ได้อย่างง่ายดาย… หรือความจริงแล้ว หากเป็นกรณีฉุกเฉิน มิสเตอร์ฟูลสามารถปลดพันธนาการและสำแดงอิทธิฤทธิ์ของเทพได้ชั่วคราว?
หัวใจแคทลียาเริ่มหนักอึ้ง ตัดสินใจไม่ซักถามสิ่งใดต่อ ปิดปากสนิทอย่างระมัดระวัง
ถึงตรงนี้ จัสติส·ออเดรย์ผุดข้อสงสัยใหม่
“มาดามเฮอร์มิท หลังจากอามุนด์ถูกมิสเตอร์ฟูลชำระล้าง หนอนแมลงที่มีวงแหวนมายาสิบสองส่วนได้ปรากฏขึ้นในจุดเกิดเหตุ มันถูกเรียกว่า ‘หนอนกาลเวลา’ ข้อมูลนี้ถูกต้องหรือไม่คะ?”
“ถูกต้อง” แคทลียายืนยันหลังจากนึกทบทวนความทรงจำสักพัก
“สิ่งนั้นเป็นของเส้นทางใดหรือ? ดิฉันหมายถึง เส้นทางของ ‘ผู้เย้ยเทพ’ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าอะไร” ออเดรย์ถามด้วยดวงตาเปล่งประกาย
แคทลียาตอบโดยไม่ต้องคิด
“นักจารกรรม กล่าวกันว่า ในลำดับนักบุญหรือเทวทูต พวกท่านสามารถหลอกลวงโชคชะตา แหกกฎเกณฑ์ธรรมชาติ และกลายเป็นปรสิตกาลเวลา”
ทรงพลังมาก…
ออเดรย์ยิงคำถามถามหลังจากไตร่ตรอง
“แล้วเราสามารถนำหนอนกาลเวลาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง?”
ถามได้ดี!
ไคลน์·เดอะฟูล โพล่งชื่นชมจัสติสภายในใจ
ชายหนุ่มพลันสดชื่น รอคอยคำตอบจากมาดามเฮอร์มิทด้วยใจจดจ่อ
เพราะตอนนี้มันมีหนอนกาลเวลาอยู่ในกองขยะหนึ่งตัว!
“สิ่งนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ ในเชิงศาสตร์เร้นลับ มันคือวัสดุที่มีประโยชน์ใช้งานหลากหลาย สามารถนำไปประกอบพิธีกรรม หรือสร้างเป็นยันต์ระดับสูง แต่ดิฉันไม่ทราบรายละเอียดและขั้นตอนเชิงลึก”
หลังจากเฮอร์มิทมอบคำตอบ เธอถอนหายใจ
หญิงสาวหวนนึกถึงฝันร้ายที่ต้องถูกไล่ลาโดยมวลความรู้มหาศาล ขณะถูกข้อมูลจำนวนมากถาโถมภายในเวลาอันสั้น สมองเธอจะปวดแปลบคล้ายกับพร้อมระเบิดทุกเมื่อ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอีกหลายสิ่งที่เธอยังไม่รู้
หาก ‘ปราชญ์เร้นลับ’ ไม่ฟั่นเฟือน และมอบความรู้ทีละนิดอย่างอ่อนโยน เราคงยอมติดตามรับใช้ท่านแต่โดยดี…
แคทลียาถอนหายใจยาว
แค่วิธีนำไปใช้ก็เพียงพอแล้ว! ในส่วนของรายละเอียดลึกลงไปกว่านั้น เรามีคนคอยให้คำปรึกษามากมาย…
ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลอย่างมีความสุข หันไปกล่าวกับเอ็มลิน
“มิสเตอร์มูน ผมมีบางสิ่งต้องการคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว”
ช่วงเวลาค้าขายจบแล้วไม่ใช่หรือ?
เดอะมูน·เอ็มลินพยักหน้ารับอย่างฉงน
“ตกลง”
เดอะเวิร์ลขออนุญาตเดอะฟูล ถัดจากนั้น สมาชิกคนที่เหลือล้วนถูกปิดกั้นประสาทสัมผัส
มันกล่าวกับเอ็มลิน·ไวท์
“ผมต้องการเห็นฉากทั้งหมดที่มีเลียวนาร์ด·มิเชลเข้ามาเกี่ยวข้อง”
“เอาไปทำไม?” เดอะมูนเผยสีหน้าสับสน
“ในนั้นมีความลับซ่อนอยู่” ไคลน์ควบคุมเดอะเวิร์ลมอบคำตอบสั้นกระชับ
หมายความว่า… เป้าหมายที่แท้จริงของชายคนนี้ไม่ใช่การซื้อสมบัติวิเศษ แต่เป็นการจับตามองเลียวนาร์ด·มิเชล?
หืม… เหยี่ยวราตรีนั่นไม่ธรรมดาอย่างที่คิด… เช่นเดียวกับเดอะเวิร์ล เพียงเพื่อสืบข้อมูล เขายอมจ่ายมากถึงเจ็ดพันห้าร้อยปอนด์ในคราวเดียว… แต่สมบัติวิเศษชิ้นดังกล่าวก็นับว่าทรงพลัง…
ไม่เพียงเท่านั้น เรายังจำได้ว่า เดอะเวิร์ลมักมองหาวิธีขจัดจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลังอยู่เสมอ… ถุงมือนั่นน่าจะทำได้…
เอ็มพลันหยุดคิดเรื่อยเปื่อย นึกทบทวนความตรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเลียวนาร์ด·มิเชลในมุมมองของตน สร้างเป็นก้อนแสงภาพเคลื่อนไหวโดยอาศัยความช่วยเหลือจากเดอะฟูล และส่งต่อให้เดอะเวิร์ล
เดอะเวิร์ล·ไคลน์สำรวจก้อนแสงอย่างใจเย็น
มันสามารถยืนยันได้ว่า เลียวนาร์ดตระหนักถึงตัวตนของคุณปู่ปรสิตได้ แต่มิอาจยืนยันว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดีหรือร้าย
ไคลน์หยุดคิดเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน เริ่มคืนประสาทสัมผัสให้กับสมาชิกคนอื่น
ถึงตรงนี้ เมื่อได้เห็นเดอะเวิร์ลร้องขอการสนทนาส่วนตัว จัสติส·ออเดรย์หันไปมองฟอร์สสักพักก่อนเปิดปากถาม
“มิสเมจิกเชี่ยน คุณพบความผิดปรกติบนถนนวิลเลียมส์บ้างไหม?”
“คงต้องให้มิสเตอร์เวิร์ลตอบ” ฟอร์สเผยสีหน้าลำบากใจ
โดยไม่รอให้จัสติสถาม ไคลน์ควบคุมเดอะเวิร์ลเปล่งเสียงแหบพร่า
“มีความผิดปรกติ แต่ผมแจ้งข่าวให้โบสถ์รัตติกาลและโบสถ์จักรกลไอน้ำทราบแล้ว หากหลังจากนี้ยังพบปัญหา อาจต้องรบกวนคุณเพิ่มเติมในอนาคต”
“ตกลงค่ะ!” ออเดรย์ จัสติส สูดลมหายใจยาวอย่างผ่อนคลาย
โบสถ์รัตติกาลและโบสถ์จักรกลไอน้ำ?
ทำไมถึง…
เฮอร์มิท·แคทลียา มองว่าประโยคเมื่อครู่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในตัวเอง
ตามความรู้ความเข้าใจของหญิงสาว องค์กรลับอย่างชุมนุมทาโรต์ควรจะเป็นศัตรูกับทางการ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงความขัดแย้งนี้ได้ แต่สำเนียงการพูดและวิธีเลือกใช้คำของเดอะเวิร์ล ประหนึ่งว่าชุมนุมทาโรต์ทำงานร่วมกับทางการ
หลังจากนั้น เธอเฝ้ามองการชุมนุมดำเนินต่อไปโดยมิอาจสลัดความคาใจดังกล่าว จนกระทั่งมิสเตอร์ฟูลส่งสัญญาณสิ้นสุดชุมนุมประจำสัปดาห์ หญิงสาวลุกขึ้นและคำนับ
เพียงไม่นาน ไคลน์อยู่บนมิติหมอกตามลำพัง
……………………