เดนิสสะอึกจนพูดไม่ออก มันขยับตัวมาด้านข้างอย่างกล้าๆ กลัวๆ สายตาจ้องมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์กำลังจุดเทียนไข เผาผงสมุนไพรหอมหลายชนิด และหยดน้ำค้างบริสุทธิ์ลงในหม้อต้ม
เมื่อกลิ่นหอมหวนเริ่มฟุ้ง เดนิสตัดสินใจซักถามให้หายสงสัย
“น…นายใช้วัตถุดิบผิดประเภทรึเปล่า?”
มันยังจำได้แม่น สมาชิกกลุ่มต่อต้านมิได้ประกอบพิธีกรรมสังเวยให้เทพสมุทรด้วย น้ำมันสกัดจันทร์เต็มดวง ผงบุปผาหลับใหล คาร์โมไมล์ หรือสิ่งของในทำนองเดียวกัน
นี่ไม่ใช่พิธีกรรมถึงเทพธิดาสักหน่อย!
ไคลน์ชำเลืองด้วยหางตา ก่อนจะมองกลับไปยังแทนบูชาและมอบคำตอบ :
“ไม่ใช่ปัญหา”
ในฐานะมืออาชีพผู้เคยสังเวยและรับมอบมาแล้วบ่อยครั้ง ชายหนุ่มทราบเป็นอย่างดี จุดประสงค์ของการเผ่าเครื่องหอมและน้ำมันสกัดมีเพียงสองข้อ หนึ่ง ช่วยให้ผู้ประกอบพิธีกรรมมีสภาพจิตใจและพลังวิญญาณเหมาะสม พร้อมรับผลจากพิธีกรรม
สอง เพื่อให้พิธีกรรมมีกลิ่นที่เทพปลายทางชื่นชอบ ช่วยเพิ่มโอกาสตอบสนอง โดยเทพแต่ละตนจะมีความชอบแตกต่างกันไป
สำหรับพิธีกรรมปัจจุบัน กุญแจสำคัญมีแค่ ‘คาเวทูว่ากำลังอยู่ในร่างเสียสติ’ และ ‘ความสนใจอย่างรุนแรงต่อออร่าสายหมอก’ ขอเพียงมีองค์ประกอบครบทั้งสองข้อ เรื่องอื่นจะเป็นเพียงประเด็นรอง
หากสัมผัสถึงออร่าสายหมอก คาเวทูว่าคงไม่สนใจว่าเป็นกลิ่นที่มันชอบหรือไม่ เครื่องหอมจึงไม่ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จ รวมถึงไม่เพิ่มโอกาสล้มเหลว สามารถเผากลิ่นส่งเดชเพียงเพื่อให้ครบขั้นตอน
หากคาเวทูว่ายังสติดีอยู่ นายคิดว่าเจ้านั่นจะยอมตอบสนองพิธีกรรมเพียงเพราะฉันใช้ผงสมุนไพรถูกชนิดรึไง…
ไคลน์เหน็บแนมพลางถอยหลังหนึ่งก้าว เตรียมลงมือกระทำขั้นตอนสำคัญของพิธี
ชายหนุ่มยืนครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะกล่าวโดยไม่หันหน้าไปมอง
“อยู่ห่างเข้าไว้”
ฉันหรือ? นอกจากเดนิสจะไม่โกรธ มันยังออกท่าทางยินดีปรีดา และรีบพยักหน้ารับ
“ต…ตกลง!”
มันไม่มัวลีลา รีบวิ่งไปหยุดยืนหน้าประตูโกดังเก็บสินค้า หากมีอันตรายเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ตนจะได้เปิดประตูหนีออกไปทันที
ไคลน์หรี่ตาลง จินตนาการภาพของบอลแสงซ้อนทับหลายชั้นจนเป็นก้อน และส่งตัวเองเข้าฌานอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเปล่งภาษาเอลฟ์เสียงต่ำ :
“ข้ารับใช้แห่งท้องทะเลและโลกวิญญาณ ผู้พิทักษ์แห่งหมู่เกาะรอสต์ ผู้ปกครองมวลหมู่สัตว์ทะเล เจ้าแห่งสึนามิและลมพายุ คาเวทูว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับฟังคำขอร้อง ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับเครื่องเซ่นสังเวย ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านเปิดประตูสู่อาณาจักร”
หลังจากบทสวดสุดกระอักกระอ่วนจบลง สายลมเริ่มหมุนวนภายในกำแพงวิญญาณ ก่อนจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ราวกับจะพลิกทุกสิ่งให้ล้มระเนระนาด
ไคลน์ยืนขึ้นท่ามกลางลมพายุ หยิบขวดโลหะใบเล็กที่เตรียมไว้ออกมาเปิดฝา โปรยของเหลวในขวดออกไปประมาณห้ามิลลิลิตร สิ่งนี้คือโลหิตของนักล่าพันหน้าที่ยังเหลือจากการปรุงโอสถผู้ไร้หน้า โดยไคลน์นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างอุโมงค์วิญญาณ
ทันใดนั้น สายลมรอบตัวดูดซึมหยดเลือดจนเหือดแห้ง ตามด้วยการบีบตัวลงและหมุนวนเหนือเทียนไขตัวแทนคาเวทูว่า แปรสภาพกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทพสมุทร
ท่ามกลางความเงียบ เปลวเพลิงเทียนไขเริ่มขยายขนาดกลายเป็นบานประตูมายา พื้นผิวเต็มไปด้วยอักขระเวทมนตร์และสัญลักษณ์แปลกตาจำนวนมาก พร้อมกันกับเสียงคลื่นทะเลซัดสาดเป็นระลอกแผ่วเบาจากด้านใน
ทันใดนั้น ทุกสุ้มเสียงพลันเงียบเชียบ เหลือเพียงเสียงหายใจกระแทกกระทั้นดังลอดผ่านบานประตูมายา ลักษณะคล้ายกับสัตว์ป่าขนาดใหญ่ด้านหลังประตูพยายามระงับความหิวโหย
แฮ่ก. แฮ่ก. แฮ่ก…
เสียงหายใจดังคมชัดและถี่ขึ้นทุกขณะ จนเดนิสที่ยืนหน้าประตูเกิดอาการขนลุกขนพองไปทั้งร่าง
ตึง!
บานประตูมายาเปิดออกอย่างเกรี้ยวกราด ลมพายุก่อตัวขึ้นจนมองเห็นด้วยตาเปล่า
ท่ามกลางเสียงสายลมหวีดร้อง เดนิสเพิ่งรู้ตัวเมื่อสายว่า กำแพงวิญญาณล่องหนรอบแท่นบูชาถูกทำลายพังพินาศ พายุเฮอริเคนเริ่มกระจายตัวเป็นวงกว้าง ส่งร่างเดนิสลอยกระแทกบานประตูโกดังสินค้าด้วยแผ่นหลังอย่างหนักหน่วง
เดนิสลอยกระเด็นออกจากโกดัง กลางหลังเต็มไปด้วยบาดแผลขีดข่วนเป็นเส้นยาว
บอลไฟเริ่มก่อตัวบนฝ่ามือขวาตามสัญชาตญาณ แต่ท่ามกลางลมพายุกระโชก เปลวเพลิงย่อมดับมอดในพริบตา ราวกับเทียนไขแสนอ่อนไหวท่ามกลางสายฝน
ขณะร่างยังคงลอยกลางอากาศ เดนิสมองเข้าไปยังแท่นบูชาและเห็นภาพของปากงูทะเลขนาดยักษ์ ตามร่องฟันขาวมีคราบเลือดสีแดงเกรอะกรัง เขี้ยวยาวและโค้งงอเล็กน้อย โดยอีกฝ่ายกำลังใช้ปากกระแทกประตูมายาประหนึ่งหวังปรากฏตัวบนโลกแห่งความจริง เสียงคำรามอันบ้าคลั่งของสัตว์ป่าทำให้เดนิสเกิดเลือดกำเดาแตกฉับพลัน
ทางด้านไคลน์ก็หนีไม่พ้นอิทธิพลของพายุเฮอริเคน ลิ้นสองแฉกใหญ่ยักษ์กำลังยืดยาวจนเต็มทัศนวิสัย กลางลิ้นผุดสายฟ้าพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มกะทันหัน
ร่างกายไคลน์ไหม้เกรียมทันที ลิ้นยาวของอสรพิษพุ่งทะลวงร่างจนขาดครึ่ง ก่อนที่เหยื่อจะลุกไหม้กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ
ไคลน์ปรากฏตัวจากอีกมุมหนึ่ง หมวกปลิวหายไปไหนไม่มีใครทราบ เสื้อผ้าสกปรกยับเยิน สภาพดูไม่จืดเลยสักนิด
แต่โชคยังดี มันทำใจไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น สติตั้งอยู่บนความไม่ประมาทแม้แต่วินาทีเดียว จึงใช้กระดาษคนตัวแทนได้ทันท่วงที
ถัดมาไม่นาน ณ ด้านหลังบานประตูมายาที่ไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย เมื่อคาเวทูว่าเห็นว่าการโจมตีของตนเปล่าประโยชน์ มันตัดสินใจชะงักกลางคัน
หลังจากสูดลมหายใจหนึ่งครั้ง เทพสมุทรเริ่มพ่นน้ำทะเลสีฟ้าครามออกจากความว่างเปล่าบริเวณลำคอ คลื่นทะเลสุดทรงพลังกำลังหมุนวนเป็นวงกลมจนเต็มโกดังสินค้า ปากของคาเวทูว่าเริ่มอ้ากว้างพร้อมกับสร้างวังวนพายุเพื่อดูดน้ำทะเลและทุกสรรพสิ่งเข้าไป เป็นพลังที่รุนแรงจนสามารถกลืนกินได้แม้กระทั่งเรือสินค้าลำใหญ่!
กล่องบุหรี่โลหะใจกลางแท่นบูชา ถูกคลื่นทะเลซัดโถมหายเข้าไปในวังวน
หม้อต้มที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าสมุนไพรเองก็มีสภาพไม่ต่าง ถูกสายน้ำพัดพาเข้าไปในวังวนขนาดมหึมา
สิ่งของต่างๆ ภายในโกดังสินค้า รวมถึงเศษดินโคลนสกปรกบนพื้น ทั้งหมดถูกพัดพาเข้าไปในวังวนกระแสน้ำถ้วยหน้า
ไคลน์เองก็หนีไม่พ้นชะตากรรมที่ต้องถูกดูดเข้าไปในวังวน
ชายหนุ่มพยายามดีดนิ้วเพื่อจุดก้านไม้ขีดไฟในเสื้อ หวังส่งตัวเองให้หลุดพ้นจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากรอบตัว แต่เพลิงยังไม่ทันลุกท่วมร่างกาย แรงดูดมหาศาลจากปากคาเวทูว่าได้ทำให้ไฟทุกชนิดดับมอดในพริบตา
ร่างไคลน์แบนราบอีกครั้ง กลายเป็นเพียงแผ่นกระดาษรูปร่างคล้ายมนุษย์
ขณะกระดาษคนตัวแทนเริ่มจมลงไปในกระแสน้ำ ไคลน์โผล่ออกมาอีกครั้งในจุดอื่น
แต่ก็ยังหนีไม่พ้นจากแรงดูดมหาศาล!
ในเสี้ยววินาทีความเป็นความตาย ชายหนุ่มปราศจากความลังเล ตัดสินใจเปลี่ยนให้ ‘ถุงมือดำ’ ข้างซ้ายซีดลง เจือสีเขียวเลือนราง
มันเปิดใช้งาน ‘ยุบพองหิวโหย’ และเลือกวิญญาณของ ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้!
เมื่อสัมผัสว่ามวลน้ำหนักร่างกายเพิ่มขึ้น ไคลน์เหยียดฝ่ามือซ้ายออกไปด้านหน้า
กำแพงน้ำแข็งหนาพอประมาณถูกสร้างขึ้นบดบังทัศนวิสัย ช่วยกีดกันตัวเองออกจากวังวนคลื่นของเทพสมุทรได้ชั่วคราว
ฉวยโอกาสดังกล่าว ไคลน์ย้ำเท้าลงไปบนพื้นจนจมลึก
เปรี้ยะ!
ผ่านไปเพียงหนึ่งวินาที กำแพงน้ำแข็งมิอาจคงสภาพเอาไว้ได้ ถูกบดละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยแรงดูดมหาศาลจากปากของเทพสมุทร·คาเวทูว่า
อาศัยพลังซอมบี้ ไคลน์เกร็งขาทั้งสองข้างที่กำลังจมดินเล็กน้อย ปลายเท้าปักหลักเหนียวแน่นโดยไม่ถูกกระแสน้ำพัดพาจนลอยตัว อย่างไรก็ตาม แรงดูดจากปากคาเวทูว่านั้นทรงพลังเกินกว่าจะต่อต้าน ร่างไคลน์ถูกดันเข้าใกล้บานประตูมายาทีละนิดในสภาพสองเท้าจมดิน ลากเป็นทางยาวจนเกิดหลุมลึกสองเส้นตรง
เดนิสด้านนอกโกดังสินค้าไม่ได้รับอิทธิพลจากแรงดูดมากนัก จึงพยายามสร้างบอลไฟขึ้นบนฝ่ามือขวา เจตนาเพื่อให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์กระโดดออกมา แต่ลมพายุโดยรอบกลับคอยยับยั้งความตั้งใจของมัน
ไคลน์ถูกดูดเข้าใกล้บานประตูมายาทุกขณะ กลิ่นคาวเลือดและเหม็นสะอิดสะเอียนของซากศพลอยสัมผัสปลายจมูก เบื้องหน้ามองเห็นเพียงเขี้ยวยาวสีขาวโค้งและมีคราบสีแดงแห้งกรัง
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว และเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างแน่นอน
ขั้นตอนดังกล่าวไม่ซับซ้อน ก็แค่โยน ‘ดวงตาดำล้วน’ ของนักเชิดหุ่นโรซาโก้เข้าไป!
ในเมื่อคาเวทูว่าต้องการดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปในปาก ถ้าอย่างนั้น เราก็จะให้มันได้กินโอสถเพิ่มอีกหนึ่งขวดโดยปราศจากวัตถุดิบเสริม และยังแถมด้วยจิตกัดกร่อนตกค้างจากพระผู้สร้างแท้จริง!
ฉันไม่ชื่อว่าแกในสภาพนี้จะทนไหว!
ไคลน์กัดฟันกรอด มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าเสื้อในช่องลับที่เตรียมไว้
บางที อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณของมันสัมผัสถึงอันตราย หรืออาจเป็นเพราะคาเวทูว่าในร่างเสียสติมีความอดทนต่ำ เพราะในอีกไม่กี่อึดใจถัดมา เทพสมุทรตัดสินใจเงยศีรษะขึ้นพร้อมกับคำราม กระแสน้ำที่ถูกพ่นออกจากความว่างเปล่าบริเวณลำคอเริ่มชะงัก บางส่วนสาดกระเซ็นไปรอบบานประตูมายา
ครืนนน! เปรี้ยงงง!
บนเพดานโกดังเกิดเมฆฝนฟ้าคะนอง
คาเวทูว่าอ้าปากอีกครั้ง คราวนี้ บริเวณลำคอของมันมีประกายแสงสีเงินส่องสว่าง ตามด้วยการก่อตัวเป็นบอลสายฟ้าจำนวนมาก และมีเส้นสายฟ้ากะพริบวิบวับพันรอบ
จากนั้น มันพ่นบอลสายฟ้าขึ้นฟ้า
ท่ามกลางพายุฝน เมื่อบอลสายฟ้าลอยขึ้นสูงสัมผัสเมฆ บรรยากาศได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพายุสายฟ้าทันที!
เมฆดำเริ่มขยายตัวกว้างจนเต็มโกดัง แท่นบูชาถูกทำลายจนราบคาบ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! ทะเลพายุสายฟ้าเริ่มโหมกระหน่ำลงมายังภาคพื้นด้านล่าง ไคลน์โยกตัวหลบด้วยทักษะอันคล่องแคล่วโดยมีพลังวิเศษหลายชนิดช่วยสนับสนุน แต่ในคราวนี้ เดนิสด้านนอกโกดังก็หนีไม่พ้นรัศมีทำลายล้างของพายุสายฟ้า ทำได้เพียงยืนสั่นเทาอย่างมิอาจหักห้ามหลังจากถูกฟ้าผ่ากลางลำตัว
ไคลน์ผลาญ ‘กระดาษคน’ อย่างต่อเนื่อง จนใกล้ถึงขีดจำกัด แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มเริ่มตระหนักว่าสายฟ้าด้านบนเบาบางลงจากเดิม
เมื่อแท่นบูชาพังยับเยิน บานประตูมายาจึงถูกทำลายและปิดตัวเองลงจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
โครม!
เทพสมุทร·คาเวทูว่าถูกตัดขาดความโลกความจริงอย่างไม่เต็มใจ เสียงลมหายใจเจือความหงุดหงิดเด็ดเล็ดลอดออกมาอย่างคมชัด
ในวินาทีนี้ ประตูมายาได้เลือนลับไปจากสายตาไคลน์และเดนิส ท่ามกลางความวุ่นวายภายในโกดังร้าง เหลือเพียงเทียนไขและเปลวเพลิงอ่อนระทวยที่ยังไหววูบอย่างเด่นสง่า
กึก! เดนิสเอนหลังพิงกำแพงด้านในโกดัง ฝืนพยุงตัวยืนอย่างยากลำบาก
มันต้องการกล่าวบางสิ่ง แต่ร่างกายเอาแต่สั่นเทาต่อเนื่อง ทำได้เพียงใช้สายตาอธิบายความรู้สึกในปัจจุบัน :
เกอร์มัน·สแปร์โรว์แม่งบ้าฉิบหาย!
เหตุการณ์สุดสยองขวัญในท่าเรือแบนชี เรายังเก็บมาฝันร้ายจนถึงทุกวันนี้… เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากสัมผัสดาบสั้นของกลุ่มต่อต้าน เจ้านั่นต้องคำสาปจนเกิดความผิดปรกติหลายอย่าง เราหวาดกลัวจนอยากจะหนีไปกลางคัน…และคราวนี้ พิธีกรรมสังเวยบ้าบอคอแตกของมัน เกือบอัญเชิญคาเวทูว่าลงมายังโลกมนุษย์! อันตรายฉิบหาย! ทำไมหมอนี่ถึงชอบใช้ชีวิตสุดโต่งนัก ชอบความตื่นเต้นมากรึไง? ทุกลมหายใจเอาแต่ก่อเรื่องที่อาจทำให้ชีวิตไม่มีวันพรุ่งนี้! ถ้าไม่เรียกว่าเสียสติ แล้วยังจะให้เรียกอะไรได้อีก!
…เทพสมุทร·คาเวทูว่าทรงพลังอย่างมาก ทั้งที่อยู่ในสภาพเจียนตาย ทั้งที่มีประตูแห่งการสังเวยคอยกีดขวาง แต่พลังบางส่วนของมันก็มากพอจะจัดการเราในพริบตา…สมแล้วที่เป็นครึ่งเทพผู้สามารถต่อกรกับ ‘เจ้าสมุทร’ ได้อย่างสูสี…
ไคลน์ดึงเท้าทั้งสองข้างขึ้นจากพื้น ก้มหน้าสำรวจความเสียหาย และพบว่ารองเท้าของตนมีสภาพพังยับเยิน
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มพบว่าตนค่อนข้างโชคดี หรือไม่ก็เป็นเพราะชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ท้ายที่สุด เทพสมุทร·คาเวทูว่าก็ ‘รับ’ เครื่องสังเวยของตนเข้าไปอยู่ในอาณาจักร สิ่งนี้เป็นผลจากวังวนคลื่นที่ดูดกลืนทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่กล่องบุหรี่โลหะซึ่งมีออร่าสายหมอกเจือปน
หมายความว่า เราสามารถทำนายหารังของมันบนโลกวิญญาณได้แล้ว แต่ต้องรอให้คาเวทูว่าถูกจัดการเสียก่อน ผลการทำนายจะได้ไม่ถูกรบกวนหรือบิดเบือน…แต่การทำนายคราวนี้ต้องทำไปเรื่อย ๆ ระหว่างการค้นหาบนโลกวิญญาณ มิอาจพึ่งพาพลังของห้วงมิติเหนือสายหมอกได้…
ไคลน์ถอนหายใจยาว ก่อนจะพบว่าถุงมือข้างซ้ายกำลังเปี่ยมด้วยความบ้าคลั่งและหิวกระหายอันยากจะอธิบาย คล้ายกับอดใจรอกินเหยื่อไม่ไหว เตรียมกลืนกินวิญญาณของผู้สวมใส่แทน
แถวนี้ไม่มีอาชญากร…ไคลน์มองไปรอบตัวและพบเดนิสข้างประตูโกดัง
จิตของเพลิงพิโรธพลันหดเกร็ง มันรู้สึกราวกับถูกจ้องมองโดยสัตว์ประหลาดดุร้าย และกำลังจะกลายเป็นอาหารอันโอชะ
ความกระหายวิญญาณของอีกฝ่ายทำให้ร่างกายเดนิสยังสั่นเทาหนักหน่วง ไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะหันหลังวิ่งหนี
ทันใดนั้น มันได้ยินสุ้มเสียงอันเย็นชาของเกอร์มัน·สแปร์โรว์
“ปิดประตูแล้วออกไปข้างนอก”
“ด…ได้!” เดนิสต่อสู้กับความปวดแปลบอันเกิดจากอาการช็อกไฟฟ้า และรีบปิดประตูที่เปิดอ้าเพราะความโกลาหล
ไคลน์ไม่มัวรีรอ รีบประกอบพิธีกรรมสวดวิงวอนถึงตัวเอง ส่งจิตขึ้นไปตอบสนองเอง และโยน ‘ยุบพองหิวโหย’ ที่เริ่มคุมไม่อยู่เข้าไปในมิติสายหมอก
สุดยอดสมบัติวิเศษที่ทำให้เดนิสกลายเป็นเพียงเด็กทารก ยามนี้กลับสงบนิ่ง อ่อนโยน และว่านอนสอนง่ายทันที
……………………