Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 545 : คาเวทูว่าเกรี้ยวกราด

ราชันเร้นลับ 545 : คาเวทูว่าเกรี้ยวกราด

เดนิสสะอึกจนพูดไม่ออก มันขยับตัวมาด้านข้างอย่างกล้าๆ กลัวๆ สายตาจ้องมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์กำลังจุดเทียนไข เผาผงสมุนไพรหอมหลายชนิด และหยดน้ำค้างบริสุทธิ์ลงในหม้อต้ม

เมื่อกลิ่นหอมหวนเริ่มฟุ้ง เดนิสตัดสินใจซักถามให้หายสงสัย

“น…นายใช้วัตถุดิบผิดประเภทรึเปล่า?”

มันยังจำได้แม่น สมาชิกกลุ่มต่อต้านมิได้ประกอบพิธีกรรมสังเวยให้เทพสมุทรด้วย น้ำมันสกัดจันทร์เต็มดวง ผงบุปผาหลับใหล คาร์โมไมล์ หรือสิ่งของในทำนองเดียวกัน

นี่ไม่ใช่พิธีกรรมถึงเทพธิดาสักหน่อย!

ไคลน์ชำเลืองด้วยหางตา ก่อนจะมองกลับไปยังแทนบูชาและมอบคำตอบ :

“ไม่ใช่ปัญหา”

ในฐานะมืออาชีพผู้เคยสังเวยและรับมอบมาแล้วบ่อยครั้ง ชายหนุ่มทราบเป็นอย่างดี จุดประสงค์ของการเผ่าเครื่องหอมและน้ำมันสกัดมีเพียงสองข้อ หนึ่ง ช่วยให้ผู้ประกอบพิธีกรรมมีสภาพจิตใจและพลังวิญญาณเหมาะสม พร้อมรับผลจากพิธีกรรม

สอง เพื่อให้พิธีกรรมมีกลิ่นที่เทพปลายทางชื่นชอบ ช่วยเพิ่มโอกาสตอบสนอง โดยเทพแต่ละตนจะมีความชอบแตกต่างกันไป

สำหรับพิธีกรรมปัจจุบัน กุญแจสำคัญมีแค่ ‘คาเวทูว่ากำลังอยู่ในร่างเสียสติ’ และ ‘ความสนใจอย่างรุนแรงต่อออร่าสายหมอก’ ขอเพียงมีองค์ประกอบครบทั้งสองข้อ เรื่องอื่นจะเป็นเพียงประเด็นรอง

หากสัมผัสถึงออร่าสายหมอก คาเวทูว่าคงไม่สนใจว่าเป็นกลิ่นที่มันชอบหรือไม่ เครื่องหอมจึงไม่ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จ รวมถึงไม่เพิ่มโอกาสล้มเหลว สามารถเผากลิ่นส่งเดชเพียงเพื่อให้ครบขั้นตอน

หากคาเวทูว่ายังสติดีอยู่ นายคิดว่าเจ้านั่นจะยอมตอบสนองพิธีกรรมเพียงเพราะฉันใช้ผงสมุนไพรถูกชนิดรึไง…

ไคลน์เหน็บแนมพลางถอยหลังหนึ่งก้าว เตรียมลงมือกระทำขั้นตอนสำคัญของพิธี

ชายหนุ่มยืนครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะกล่าวโดยไม่หันหน้าไปมอง

“อยู่ห่างเข้าไว้”

ฉันหรือ? นอกจากเดนิสจะไม่โกรธ มันยังออกท่าทางยินดีปรีดา และรีบพยักหน้ารับ

“ต…ตกลง!”

มันไม่มัวลีลา รีบวิ่งไปหยุดยืนหน้าประตูโกดังเก็บสินค้า หากมีอันตรายเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ตนจะได้เปิดประตูหนีออกไปทันที

ไคลน์หรี่ตาลง จินตนาการภาพของบอลแสงซ้อนทับหลายชั้นจนเป็นก้อน และส่งตัวเองเข้าฌานอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มเปล่งภาษาเอลฟ์เสียงต่ำ :

“ข้ารับใช้แห่งท้องทะเลและโลกวิญญาณ ผู้พิทักษ์แห่งหมู่เกาะรอสต์ ผู้ปกครองมวลหมู่สัตว์ทะเล เจ้าแห่งสึนามิและลมพายุ คาเวทูว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับฟังคำขอร้อง ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับเครื่องเซ่นสังเวย ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านเปิดประตูสู่อาณาจักร”

หลังจากบทสวดสุดกระอักกระอ่วนจบลง สายลมเริ่มหมุนวนภายในกำแพงวิญญาณ ก่อนจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ราวกับจะพลิกทุกสิ่งให้ล้มระเนระนาด

ไคลน์ยืนขึ้นท่ามกลางลมพายุ หยิบขวดโลหะใบเล็กที่เตรียมไว้ออกมาเปิดฝา โปรยของเหลวในขวดออกไปประมาณห้ามิลลิลิตร สิ่งนี้คือโลหิตของนักล่าพันหน้าที่ยังเหลือจากการปรุงโอสถผู้ไร้หน้า โดยไคลน์นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างอุโมงค์วิญญาณ

ทันใดนั้น สายลมรอบตัวดูดซึมหยดเลือดจนเหือดแห้ง ตามด้วยการบีบตัวลงและหมุนวนเหนือเทียนไขตัวแทนคาเวทูว่า แปรสภาพกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทพสมุทร

ท่ามกลางความเงียบ เปลวเพลิงเทียนไขเริ่มขยายขนาดกลายเป็นบานประตูมายา พื้นผิวเต็มไปด้วยอักขระเวทมนตร์และสัญลักษณ์แปลกตาจำนวนมาก พร้อมกันกับเสียงคลื่นทะเลซัดสาดเป็นระลอกแผ่วเบาจากด้านใน

ทันใดนั้น ทุกสุ้มเสียงพลันเงียบเชียบ เหลือเพียงเสียงหายใจกระแทกกระทั้นดังลอดผ่านบานประตูมายา ลักษณะคล้ายกับสัตว์ป่าขนาดใหญ่ด้านหลังประตูพยายามระงับความหิวโหย

แฮ่ก. แฮ่ก. แฮ่ก…

เสียงหายใจดังคมชัดและถี่ขึ้นทุกขณะ จนเดนิสที่ยืนหน้าประตูเกิดอาการขนลุกขนพองไปทั้งร่าง

ตึง!

บานประตูมายาเปิดออกอย่างเกรี้ยวกราด ลมพายุก่อตัวขึ้นจนมองเห็นด้วยตาเปล่า

ท่ามกลางเสียงสายลมหวีดร้อง เดนิสเพิ่งรู้ตัวเมื่อสายว่า กำแพงวิญญาณล่องหนรอบแท่นบูชาถูกทำลายพังพินาศ พายุเฮอริเคนเริ่มกระจายตัวเป็นวงกว้าง ส่งร่างเดนิสลอยกระแทกบานประตูโกดังสินค้าด้วยแผ่นหลังอย่างหนักหน่วง

เดนิสลอยกระเด็นออกจากโกดัง กลางหลังเต็มไปด้วยบาดแผลขีดข่วนเป็นเส้นยาว

บอลไฟเริ่มก่อตัวบนฝ่ามือขวาตามสัญชาตญาณ แต่ท่ามกลางลมพายุกระโชก เปลวเพลิงย่อมดับมอดในพริบตา ราวกับเทียนไขแสนอ่อนไหวท่ามกลางสายฝน

ขณะร่างยังคงลอยกลางอากาศ เดนิสมองเข้าไปยังแท่นบูชาและเห็นภาพของปากงูทะเลขนาดยักษ์ ตามร่องฟันขาวมีคราบเลือดสีแดงเกรอะกรัง เขี้ยวยาวและโค้งงอเล็กน้อย โดยอีกฝ่ายกำลังใช้ปากกระแทกประตูมายาประหนึ่งหวังปรากฏตัวบนโลกแห่งความจริง เสียงคำรามอันบ้าคลั่งของสัตว์ป่าทำให้เดนิสเกิดเลือดกำเดาแตกฉับพลัน

ทางด้านไคลน์ก็หนีไม่พ้นอิทธิพลของพายุเฮอริเคน ลิ้นสองแฉกใหญ่ยักษ์กำลังยืดยาวจนเต็มทัศนวิสัย กลางลิ้นผุดสายฟ้าพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มกะทันหัน

ร่างกายไคลน์ไหม้เกรียมทันที ลิ้นยาวของอสรพิษพุ่งทะลวงร่างจนขาดครึ่ง ก่อนที่เหยื่อจะลุกไหม้กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ

ไคลน์ปรากฏตัวจากอีกมุมหนึ่ง หมวกปลิวหายไปไหนไม่มีใครทราบ เสื้อผ้าสกปรกยับเยิน สภาพดูไม่จืดเลยสักนิด

แต่โชคยังดี มันทำใจไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น สติตั้งอยู่บนความไม่ประมาทแม้แต่วินาทีเดียว จึงใช้กระดาษคนตัวแทนได้ทันท่วงที

ถัดมาไม่นาน ณ ด้านหลังบานประตูมายาที่ไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย เมื่อคาเวทูว่าเห็นว่าการโจมตีของตนเปล่าประโยชน์ มันตัดสินใจชะงักกลางคัน

หลังจากสูดลมหายใจหนึ่งครั้ง เทพสมุทรเริ่มพ่นน้ำทะเลสีฟ้าครามออกจากความว่างเปล่าบริเวณลำคอ คลื่นทะเลสุดทรงพลังกำลังหมุนวนเป็นวงกลมจนเต็มโกดังสินค้า ปากของคาเวทูว่าเริ่มอ้ากว้างพร้อมกับสร้างวังวนพายุเพื่อดูดน้ำทะเลและทุกสรรพสิ่งเข้าไป เป็นพลังที่รุนแรงจนสามารถกลืนกินได้แม้กระทั่งเรือสินค้าลำใหญ่!

กล่องบุหรี่โลหะใจกลางแท่นบูชา ถูกคลื่นทะเลซัดโถมหายเข้าไปในวังวน

หม้อต้มที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าสมุนไพรเองก็มีสภาพไม่ต่าง ถูกสายน้ำพัดพาเข้าไปในวังวนขนาดมหึมา

สิ่งของต่างๆ ภายในโกดังสินค้า รวมถึงเศษดินโคลนสกปรกบนพื้น ทั้งหมดถูกพัดพาเข้าไปในวังวนกระแสน้ำถ้วยหน้า

ไคลน์เองก็หนีไม่พ้นชะตากรรมที่ต้องถูกดูดเข้าไปในวังวน

ชายหนุ่มพยายามดีดนิ้วเพื่อจุดก้านไม้ขีดไฟในเสื้อ หวังส่งตัวเองให้หลุดพ้นจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากรอบตัว แต่เพลิงยังไม่ทันลุกท่วมร่างกาย แรงดูดมหาศาลจากปากคาเวทูว่าได้ทำให้ไฟทุกชนิดดับมอดในพริบตา

ร่างไคลน์แบนราบอีกครั้ง กลายเป็นเพียงแผ่นกระดาษรูปร่างคล้ายมนุษย์

ขณะกระดาษคนตัวแทนเริ่มจมลงไปในกระแสน้ำ ไคลน์โผล่ออกมาอีกครั้งในจุดอื่น

แต่ก็ยังหนีไม่พ้นจากแรงดูดมหาศาล!

ในเสี้ยววินาทีความเป็นความตาย ชายหนุ่มปราศจากความลังเล ตัดสินใจเปลี่ยนให้ ‘ถุงมือดำ’ ข้างซ้ายซีดลง เจือสีเขียวเลือนราง

มันเปิดใช้งาน ‘ยุบพองหิวโหย’ และเลือกวิญญาณของ ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้!

เมื่อสัมผัสว่ามวลน้ำหนักร่างกายเพิ่มขึ้น ไคลน์เหยียดฝ่ามือซ้ายออกไปด้านหน้า

กำแพงน้ำแข็งหนาพอประมาณถูกสร้างขึ้นบดบังทัศนวิสัย ช่วยกีดกันตัวเองออกจากวังวนคลื่นของเทพสมุทรได้ชั่วคราว

ฉวยโอกาสดังกล่าว ไคลน์ย้ำเท้าลงไปบนพื้นจนจมลึก

เปรี้ยะ!

ผ่านไปเพียงหนึ่งวินาที กำแพงน้ำแข็งมิอาจคงสภาพเอาไว้ได้ ถูกบดละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยแรงดูดมหาศาลจากปากของเทพสมุทร·คาเวทูว่า

อาศัยพลังซอมบี้ ไคลน์เกร็งขาทั้งสองข้างที่กำลังจมดินเล็กน้อย ปลายเท้าปักหลักเหนียวแน่นโดยไม่ถูกกระแสน้ำพัดพาจนลอยตัว อย่างไรก็ตาม แรงดูดจากปากคาเวทูว่านั้นทรงพลังเกินกว่าจะต่อต้าน ร่างไคลน์ถูกดันเข้าใกล้บานประตูมายาทีละนิดในสภาพสองเท้าจมดิน ลากเป็นทางยาวจนเกิดหลุมลึกสองเส้นตรง

เดนิสด้านนอกโกดังสินค้าไม่ได้รับอิทธิพลจากแรงดูดมากนัก จึงพยายามสร้างบอลไฟขึ้นบนฝ่ามือขวา เจตนาเพื่อให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์กระโดดออกมา แต่ลมพายุโดยรอบกลับคอยยับยั้งความตั้งใจของมัน

ไคลน์ถูกดูดเข้าใกล้บานประตูมายาทุกขณะ กลิ่นคาวเลือดและเหม็นสะอิดสะเอียนของซากศพลอยสัมผัสปลายจมูก เบื้องหน้ามองเห็นเพียงเขี้ยวยาวสีขาวโค้งและมีคราบสีแดงแห้งกรัง

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว และเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างแน่นอน

ขั้นตอนดังกล่าวไม่ซับซ้อน ก็แค่โยน ‘ดวงตาดำล้วน’ ของนักเชิดหุ่นโรซาโก้เข้าไป!

ในเมื่อคาเวทูว่าต้องการดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปในปาก ถ้าอย่างนั้น เราก็จะให้มันได้กินโอสถเพิ่มอีกหนึ่งขวดโดยปราศจากวัตถุดิบเสริม และยังแถมด้วยจิตกัดกร่อนตกค้างจากพระผู้สร้างแท้จริง!

ฉันไม่ชื่อว่าแกในสภาพนี้จะทนไหว!

ไคลน์กัดฟันกรอด มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าเสื้อในช่องลับที่เตรียมไว้

บางที อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณของมันสัมผัสถึงอันตราย หรืออาจเป็นเพราะคาเวทูว่าในร่างเสียสติมีความอดทนต่ำ เพราะในอีกไม่กี่อึดใจถัดมา เทพสมุทรตัดสินใจเงยศีรษะขึ้นพร้อมกับคำราม กระแสน้ำที่ถูกพ่นออกจากความว่างเปล่าบริเวณลำคอเริ่มชะงัก บางส่วนสาดกระเซ็นไปรอบบานประตูมายา

ครืนนน! เปรี้ยงงง!

บนเพดานโกดังเกิดเมฆฝนฟ้าคะนอง

คาเวทูว่าอ้าปากอีกครั้ง คราวนี้ บริเวณลำคอของมันมีประกายแสงสีเงินส่องสว่าง ตามด้วยการก่อตัวเป็นบอลสายฟ้าจำนวนมาก และมีเส้นสายฟ้ากะพริบวิบวับพันรอบ

จากนั้น มันพ่นบอลสายฟ้าขึ้นฟ้า

ท่ามกลางพายุฝน เมื่อบอลสายฟ้าลอยขึ้นสูงสัมผัสเมฆ บรรยากาศได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพายุสายฟ้าทันที!

เมฆดำเริ่มขยายตัวกว้างจนเต็มโกดัง แท่นบูชาถูกทำลายจนราบคาบ

เปรี้ยง! เปรี้ยง! ทะเลพายุสายฟ้าเริ่มโหมกระหน่ำลงมายังภาคพื้นด้านล่าง ไคลน์โยกตัวหลบด้วยทักษะอันคล่องแคล่วโดยมีพลังวิเศษหลายชนิดช่วยสนับสนุน แต่ในคราวนี้ เดนิสด้านนอกโกดังก็หนีไม่พ้นรัศมีทำลายล้างของพายุสายฟ้า ทำได้เพียงยืนสั่นเทาอย่างมิอาจหักห้ามหลังจากถูกฟ้าผ่ากลางลำตัว

ไคลน์ผลาญ ‘กระดาษคน’ อย่างต่อเนื่อง จนใกล้ถึงขีดจำกัด แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มเริ่มตระหนักว่าสายฟ้าด้านบนเบาบางลงจากเดิม

เมื่อแท่นบูชาพังยับเยิน บานประตูมายาจึงถูกทำลายและปิดตัวเองลงจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

โครม!

เทพสมุทร·คาเวทูว่าถูกตัดขาดความโลกความจริงอย่างไม่เต็มใจ เสียงลมหายใจเจือความหงุดหงิดเด็ดเล็ดลอดออกมาอย่างคมชัด

ในวินาทีนี้ ประตูมายาได้เลือนลับไปจากสายตาไคลน์และเดนิส ท่ามกลางความวุ่นวายภายในโกดังร้าง เหลือเพียงเทียนไขและเปลวเพลิงอ่อนระทวยที่ยังไหววูบอย่างเด่นสง่า

กึก! เดนิสเอนหลังพิงกำแพงด้านในโกดัง ฝืนพยุงตัวยืนอย่างยากลำบาก

มันต้องการกล่าวบางสิ่ง แต่ร่างกายเอาแต่สั่นเทาต่อเนื่อง ทำได้เพียงใช้สายตาอธิบายความรู้สึกในปัจจุบัน :

เกอร์มัน·สแปร์โรว์แม่งบ้าฉิบหาย!

เหตุการณ์สุดสยองขวัญในท่าเรือแบนชี เรายังเก็บมาฝันร้ายจนถึงทุกวันนี้… เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากสัมผัสดาบสั้นของกลุ่มต่อต้าน เจ้านั่นต้องคำสาปจนเกิดความผิดปรกติหลายอย่าง เราหวาดกลัวจนอยากจะหนีไปกลางคัน…และคราวนี้ พิธีกรรมสังเวยบ้าบอคอแตกของมัน เกือบอัญเชิญคาเวทูว่าลงมายังโลกมนุษย์! อันตรายฉิบหาย! ทำไมหมอนี่ถึงชอบใช้ชีวิตสุดโต่งนัก ชอบความตื่นเต้นมากรึไง? ทุกลมหายใจเอาแต่ก่อเรื่องที่อาจทำให้ชีวิตไม่มีวันพรุ่งนี้! ถ้าไม่เรียกว่าเสียสติ แล้วยังจะให้เรียกอะไรได้อีก!

…เทพสมุทร·คาเวทูว่าทรงพลังอย่างมาก ทั้งที่อยู่ในสภาพเจียนตาย ทั้งที่มีประตูแห่งการสังเวยคอยกีดขวาง แต่พลังบางส่วนของมันก็มากพอจะจัดการเราในพริบตา…สมแล้วที่เป็นครึ่งเทพผู้สามารถต่อกรกับ ‘เจ้าสมุทร’ ได้อย่างสูสี…

ไคลน์ดึงเท้าทั้งสองข้างขึ้นจากพื้น ก้มหน้าสำรวจความเสียหาย และพบว่ารองเท้าของตนมีสภาพพังยับเยิน

ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มพบว่าตนค่อนข้างโชคดี หรือไม่ก็เป็นเพราะชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ท้ายที่สุด เทพสมุทร·คาเวทูว่าก็ ‘รับ’ เครื่องสังเวยของตนเข้าไปอยู่ในอาณาจักร สิ่งนี้เป็นผลจากวังวนคลื่นที่ดูดกลืนทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่กล่องบุหรี่โลหะซึ่งมีออร่าสายหมอกเจือปน

หมายความว่า เราสามารถทำนายหารังของมันบนโลกวิญญาณได้แล้ว แต่ต้องรอให้คาเวทูว่าถูกจัดการเสียก่อน ผลการทำนายจะได้ไม่ถูกรบกวนหรือบิดเบือน…แต่การทำนายคราวนี้ต้องทำไปเรื่อย ๆ ระหว่างการค้นหาบนโลกวิญญาณ มิอาจพึ่งพาพลังของห้วงมิติเหนือสายหมอกได้…

ไคลน์ถอนหายใจยาว ก่อนจะพบว่าถุงมือข้างซ้ายกำลังเปี่ยมด้วยความบ้าคลั่งและหิวกระหายอันยากจะอธิบาย คล้ายกับอดใจรอกินเหยื่อไม่ไหว เตรียมกลืนกินวิญญาณของผู้สวมใส่แทน

แถวนี้ไม่มีอาชญากร…ไคลน์มองไปรอบตัวและพบเดนิสข้างประตูโกดัง

จิตของเพลิงพิโรธพลันหดเกร็ง มันรู้สึกราวกับถูกจ้องมองโดยสัตว์ประหลาดดุร้าย และกำลังจะกลายเป็นอาหารอันโอชะ

ความกระหายวิญญาณของอีกฝ่ายทำให้ร่างกายเดนิสยังสั่นเทาหนักหน่วง ไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะหันหลังวิ่งหนี

ทันใดนั้น มันได้ยินสุ้มเสียงอันเย็นชาของเกอร์มัน·สแปร์โรว์

“ปิดประตูแล้วออกไปข้างนอก”

“ด…ได้!” เดนิสต่อสู้กับความปวดแปลบอันเกิดจากอาการช็อกไฟฟ้า และรีบปิดประตูที่เปิดอ้าเพราะความโกลาหล

ไคลน์ไม่มัวรีรอ รีบประกอบพิธีกรรมสวดวิงวอนถึงตัวเอง ส่งจิตขึ้นไปตอบสนองเอง และโยน ‘ยุบพองหิวโหย’ ที่เริ่มคุมไม่อยู่เข้าไปในมิติสายหมอก

สุดยอดสมบัติวิเศษที่ทำให้เดนิสกลายเป็นเพียงเด็กทารก ยามนี้กลับสงบนิ่ง อ่อนโยน และว่านอนสอนง่ายทันที

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset