Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 516 : การคาดเดาของแฮงแมน

ราชันเร้นลับ 516 : การคาดเดาของแฮงแมน

ท่ามกลางความตกตะลึง แฮงแมน·อัลเจอร์ผุดอีกหนึ่งข้อสงสัยในใจ

จริงอยู่ มิสเตอร์ฟูลอาจทำนายเหตุการณ์ความวุ่นวายบนเกาะแบนชีได้ล่วงหน้า แต่ทำไมท่านถึงเจาะจงบอกให้พวกเราทราบว่า เมืองท่าดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับกุหลาบไถ่บาปและราชาเทวทูตเมดีซี?

สิ่งมีความสำคัญอย่างไร?

หรือต้องการส่งต่อข้อมูลผ่านพวกเรา?

ส่งให้ใคร? และเป้าหมายคือสิ่งใด?

หรือท่านกำลังหวังขัดขวางแผนการของราชาเทวทูต? ไม่สิ อาจเป็นแผนการพระผู้สร้างแท้จริงมากกว่า!

มิสเตอร์ฟูลเคยทำลายแผนการของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ มาแล้วหลายหน และคราวนี้ก็คงไม่มีข้อยกเว้น… ถ้อยคำ ‘กุหลาบไถ่บาป’ ได้ปรากฏบนจิตรกรรมฝาผนังของวิหารพระผู้สร้างแท้จริง โดยองค์กรดังกล่าวถูกก่อตั้งด้วยฝีมือราชาเทวทูต เมดีซีและโอโรเลอุส…

จะเห็นได้ชัดว่า ข้อมูลทั้งหมดพุ่งเป้าไปยังพระผู้สร้างแท้จริงอีกครั้ง…

ขณะเดียวกัน ในเมืองท่าแบนชีมีวิหารเพียงแห่งเดียว นั่นคือวิหารวายุสลาตัน หมายความว่า มิสเตอร์ฟูลต้องการกระจายข่าวผ่านตัวเรา?

แฮงแมน·อัลเจอร์ เริ่มเข้าใจอย่างเลือนราง

ทันใดนั้น มันพบอีกหนึ่งปัญหา

ในคราวก่อน เดอะเวิร์ลเคยเล่าว่า จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นภายในเมืองหลวง โดยข้อมูลดังกล่าวก็ได้รับการยืนยันจากมิสเตอร์ฟูลทันที และต่อมาไม่นาน เหตุการณ์ใหญ่ได้เกิดขึ้นในกรุงเบ็คลันด์จริง เป็นความพยายามคืนชีพของแม่มดบรรพกาล และความพยายามลงมาจุติของพระผู้สร้างแท้จริง…

มาถึงครั้งนี้ ข้อมูลใหม่จากเดอะเวิร์ลได้รับการยืนยันโดยมิสเตอร์ฟูลอีกครั้ง ท่านยอมเปิดเผยความลับของเมืองบินซี่โบราณ ว่ามีความเกี่ยวพันกับทายาทของกุหลาบไล่บาป และราชาเทวทูต·เมดีซี ต่อหน้าสมาชิกชุมนุมทาโรต์ทุกคน…

เป็นแค่เหตุบังเอิญจริงหรือ?

แต่ไหนแต่ไร ข้อมูลของเดอะเวิร์ลจะกำจัดวงแคบอยู่ภายในกรุงเบ็คลันด์เท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกในการพูดถึงเบาะแสทางทะเล…

ขณะเดียวกัน มิสเตอร์ฟูลเคยกล่าวไว้ในสัปดาห์ก่อนว่า ข้ารับใช้ของท่านต้องเดินทางออกจากเบ็คลันด์เป็นการชั่วคราว…

หมายความว่า เดอะเวิร์ลคือข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล?

ไม่สิ เขาอาจเป็นแค่ ‘ตัวแทน’ ของข้ารับใช้หลายๆ คนในการปกครองของมิสเตอร์ฟูล โดยจะคอยรับส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าภายในชุมนุมทาโรต์แทนข้ารับใช้คนอื่น…

เพราะถึงจะเป็นข้ารับใช้มิสเตอร์ฟูล แต่ก็ยังต้องเลื่อนลำดับและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อยกเว้น สิ่งนี้คงถือเป็นบททดสอบจากมิสเตอร์ฟูลไปในตัว…

เมื่อลองไตร่ตรองดูให้ดี เรื่องนี้มีโอกาสเป็นความจริงค่อนข้างมาก เพราะเหนือสิ่งอื่นใด เดอะเวิร์ลไม่เคยรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์เพื่อแลกเปลี่ยนกับมิสเตอร์ฟูลเลยสักครั้ง!

ในฐานะข้ารับใช้ เขาคงทำมันอย่างลับๆ โดยไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว…

จากข้อสรุปดังกล่าว ความผิดปรกติต่างๆ เกี่ยวกับเดอะเวิร์ลก่อนหน้านี้ รวมถึงการแสร้งปรึกษามิสเตอร์ฟูลส่วนตัว ทั้งหมดทำไปเพื่อปกปิดตัวตนการเป็นข้ารับใช้ ทฤษฎีนี้นับว่าสอดคล้องกับความรอบรู้และประสบการณ์อันซับซ้อนของเดอะเวิร์ล…

มิสเตอร์ฟูลจัดตั้งชุมนุมทาโรต์ขึ้นเพื่อฟื้นฟูพลังจากผนึกอย่างลับๆ โดยหวังให้พวกเราช่วยแทรกแซงโลกจริงในบางเรื่อง ดังนั้น กลุ่มสมาชิกแต่ละคนจึงประกอบขึ้นจากบุคคลหลากหลายประเภท เช่นขุนนางใหญ่ ผู้วิเศษระดับบิชอปของโบสถ์ ผู้รอดชีวิตจากดินแดนเทพทอดทิ้ง ศิษย์ของตระกูลอับราฮัม และแวมไพร์โตเต็มวัย โดยทุกคนจะเป็นตัวแทนของขั้วอำนาจใหญ่บนโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แฮงแมน·อัลเจอร์กำลังครุ่นคิดในหลายสิ่ง นอกจากมันจะไม่หดหู่กับข้อสันนิษฐานของตัวเองแล้ว ตรงกันข้าม มันกำลังตื่นเต้น เพราะแต่ไหนแต่ไร เนื่องจากยังไม่ทราบเจตนาของเดอะฟูลอย่างแน่ชัด ภายในใจจึงยังมีความหวาดกลัวเจืออยู่บางส่วน แต่เมื่อเริ่มตระหนักถึงจุดประสงค์ของอีกฝ่าย มันก็สามารถหลบเลี่ยงอันตราย ไปพร้อมการกับผลักดันตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

และทุกครั้งเมื่อมิสเตอร์ฟูลต้องการให้พวกเรากระทำบางสิ่ง ท่านจะตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อเสมอ… เรากำลังต้องการแบบนั้นพอดี ไม่อย่างนั้น บิชอปต่ำต้อยของโบสถ์คงไม่มีโอกาสฝันถึงครึ่งเทพแน่นอน…

หึหึ! เดอะเวิร์ลเอ๋ย นายต้องคาดไม่ถึงแน่ ว่าฉันค้นพบความลับเข้าแล้ว!

ความตึงเครียดของอัลเจอร์เริ่มคลี่คลาย สมาธิกลับมาจดจ่ออยู่กับเบาะแสของเมืองท่าแบนชีอีกครั้ง

มันไม่สามารถรายงานเบื้องบนลอยๆ ได้ทันที เพราะนั่นจะทำให้ถูกสงสัย อัลเจอร์ต้องอดทนรอโอกาสอย่างใจเย็น เพื่อให้ตนได้รับรางวัลใหญ่และความชื่นชอบจากเบื้องบนอย่างล้นหลามในคราวเดียว โดยไม่ถูกตามตรวจสอบในเชิงลึกภายหลัง

จัสติส·ออเดรย์มองออก แฮงแมนกำลังใช้การสมองอย่างหนัก แต่เธอก็มิอาจทราบได้ว่า อีกฝ่ายไตร่ตรองเรื่องราวจำนวนมากได้ในช่วงเวลาแสนสั้น

จากบอกเล่าของเดอะฟูล ออเดรย์ตื่นเต้นหลังจากได้ทราบว่า องค์กรกุหลาบไถ่บาปถูกก่อตั้งโดยฝีมือราชาเทวทูต และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระผู้สร้างแท้จริง

ขณะเดียวกัน หญิงสาวเริ่มสังเกตเห็นถึงความไม่ปรกติของเดอะเวิร์ล เธอพบว่าสมาชิกชุมนุมผู้อ่านความรู้สึกได้ยากคนนี้ มักเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ใหญ่อยู่เสมอ และมีข้อมูลสำคัญในมือเป็นจำนวนมาก รวมถึงสูตรโอสถและตะกอนพลังอีกหลายชนิด ราวกับว่า สามารถไล่เชือดผู้วิเศษได้สัปดาห์คนละสองคนตามใจชอบ!

เขาไปจากกรุงเบ็คลันด์และเริ่มออกทะเลแล้วหรือ? เราควรแจ้งเบาะแสดังกล่าวให้โบสถ์รัตติกาลทราบดีไหม?

น่าเสียดาย มิสเตอร์แฮงแมนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโบสถ์วายุสลาตัน เรื่องนี้จึงควรปล่อยให้เขาจัดการมากกว่า…

หญิงสาวบรรเทาความกดดันพร้อมกับซักถามอย่างใครรู้

“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ราชาเทวทูตเมดีซีมีสมญานามเป็นเช่นไร เอ่อ หรือดิฉันควรซักถามว่า เมดีซีอยู่บนเส้นทางใด?”

ไคลน์เอนหลังพลางเผยรอยยิ้ม

“นักบวชสีชาด”

นักบวชสีชาด? เส้นทางไหนกัน? ฟังดูคล้ายกับชื่อของ ‘จักรพรรดิมืด’ …

นั่นคือชื่อของลำดับ 0 หรือ?

ออเดรย์ครุ่นคิดตื่นเต้นกึ่งมีความสุข

นักบวชสีชาด… เดอะซัน·เดอร์ริค ทวนคำอย่างเงียบงันและพบว่า ตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์ไม่มีชื่อดังกล่าวบันทึกไว้

อาจเป็นเพราะเรายังศึกษาข้อมูลของเมืองไม่มากพอ และเหนือสิ่งอื่นใด ความรู้ของเราเป็นแค่เรื่องพื้นฐานของเมืองเงินพิสุทธิ์ เกือบทั้งหมดล้วนมีสอนในคาบเรียน…

เด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างนึกเสียดาย

เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส และเดอะมูน·เอ็มลินต่างกำลังคิดแบบเดียวกัน พวกมันรู้สึกราวกับมีใครบางคนนั่งเล่านิทานอันน่าอัศจรรย์ให้ฟัง

ช่างน่าเสียดายนัก เรามิอาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช่แต่งนิยายเรื่องใหม่ไม่ได้!

ฟอร์สกัดฟันกรอด

ได้แต่หวังว่ามิสเตอร์แฮงแมนจะรีบรายงานให้โบสถ์วายุสลาตันทราบโดยไม่ทิ้งช่วงนานเกินไปนัก… ด้วยความเยือกเย็นและสติปัญญาของเขา ตอนนี้คงพบความสัมพันธ์ระหว่างเดอะฟูลกับเดอะเวิร์ลแล้ว แต่ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล เพราะเราได้เตรียมการให้เชอร์ล็อก·โมเรียตี้รับบทบาทของเดอะเวิร์ลมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าแฮงแมนจะหลักแหลมสักเพียงใด ก็ไม่มีทางจินตนาการออกว่า ความจริงแล้วเดอะเวิร์ลเป็นเพียง ‘หุ่นเชิด’ …

เดอะฟูล·ไคลน์ ยกมือสัมผัสคางพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เชิญต่อ”

เมื่อเห็นว่าเดอะฟูลไม่มีเจตนาพูดถึงประเด็นเดิม เดอะมูน·เอ็มลิน ผู้ปล่อยวางจากตะกอนพลังบารอนผีดูดเลือดมาได้สักระยะ เริ่มกลับมาตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในปัจจุบันของตนอีกครั้ง

มันไม่มีเงิน!

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอ็มลินจะไม่ขายตุ๊กตาเหล่านั้นทิ้งโดยเด็ดขาด แต่จะคอยตักเตือนตัวเองว่า หลังจากนี้จะใช้เงินอย่างประหยัด เงินค่าแต่งตัวให้ตุ๊กตาจะถูกแบ่งมาออมเงินเป็นเวลาครึ่งปีหรือหนึ่งปีเต็ม

ยังมีอีกหนึ่งวิธีในการทำเงิน นั่นคือการขายยาวิเศษสรรพคุณยอดเยี่ยมบางชนิดออกไปสู่คนภายนอก แต่นั่นจะทำให้ตระกูลผีดูดเลือดทั้งหมดในเบ็คลันด์เกิดอันตราย

ว่ากันตามตรง ในเมื่อเรากำลังทำภารกิจให้ท่านบรรพชนต้นกำเนิด อย่างน้อยจึงควรได้รับความช่วยเหลือจากลอร์ดนีบาสอย่างลับๆ แต่เป็นเพราะท่านเดอะฟูลบอกให้เราเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอด ผู้กอบกู้ตระกูลอย่างเราจึงห้ามเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด…

ผ่านนาทีแล้วนาทีเล่า เอ็มลินตัดสินใจโพล่งถามอย่างกระสับกระส่าย

“ทุกคน ข้ามีคำถาม สมมติว่า ตัวตนระดับสูงคนหนึ่งไหว้วานให้พวกเจ้าตรวจสอบบางเรื่อง และผลลัพธ์ออกมาว่า เจ้าตรวจสอบสำเร็จจนทราบความจริงทั้งหมด แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเจ้ากลับยังไม่สามารถบอกความจริงกับตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวได้ทันที ต้องรอให้เรื่องราวดำเนินไปถึงจุดหนึ่งเสียก่อน คำถามคือ ต้องทำอย่างไรจึงจะได้รับการสนับสนุนจากตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวจนกว่าเรื่องราวจบลง?”

เมื่อกล่าวจบ เอ็มลินทำสีหน้าละอาย

พฤติกรรมของเราเหมือนกับคนทรยศตระกูลไม่มีผิด… ไม่สิ ข้าทำเพื่อปกป้องสายเลือดต่างหาก! เพื่อจะรับบทเช่นนั้น เราต้องยอมเสื่อมเสียเกียรติยศ แบกรับคำนินทาจากทุกคนไว้ตามลำพัง รอจนกระทั่งเรื่องราวทั้งหมดจบลงและความจริงถูกเปิดเผย…

เดอะมูน·เอ็มลิน เริ่มผ่อนคลาย

ทันใดนั้น จัสติส·ออเดรย์ เมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส และเดอะซัน·เดอร์ริค ต่างมองไปทางแฮงแมน·อัลเจอร์เป็นตาเดียว เป็นเพราะอีกฝ่ายช่ำชองในเรื่องประเภทนี้มาก จึงไม่มีใครให้คำปรึกษาได้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว

แม้แต่เดอะฟูล·ไคลน์ ก็ยังคิดแบบเดียวกัน

แฮงแมน·อัลเจอร์มองไปทางเดอะมูนและกล่าวเสียงขรึม

“ง่ายมาก แค่คุณต้องแบกรับความเสี่ยง”

เอ็มลินรีบปฏิเสธจากจิตใต้สำนึก

“ไม่ใช่ข้าสักหน่อย!”

แฮงแมนหัวเราะ

“สมมติว่าเป็นคุณก็แล้วกัน”

ตามด้วยการอธิบาย

“เพียงแค่คุณจงใจเผยความผิดปรกติบางอย่างในตัวเองทีละนิด จนกระทั่งตัวตนระดับสูงคนดังกล่าวเริ่มสังเกตเห็นปัญหา อีกฝ่ายจะมีตัวเลือกแค่สองทาง หนึ่ง ทรมานคุณโดยตรงเพื่อสอบสวน แต่วิธีนี้จะทำให้เบาะแสถูกลบเลือนได้ง่าย สอง แอบให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ห่างๆ พร้อมกับส่งคนมาคอยจับตามองโดยอ้างเรื่องความปลอดภัย ผมคิดว่าอย่างหลังมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่า และความเสี่ยงของคุณคือ จะต้องคอยปิดบังความลับแท้จริงจากอีกฝ่ายให้มิดชิดมากกว่าเดิม”

แบบนี้นี่เอง…

แต่ถ้าเราไม่พูด เรื่องชุมนุมทาโรต์ก็ไม่มีวันล่วงรู้ถึงหูลอร์ดนีบาสแน่นอน เพราะช่วงเวลาขณะเข้าร่วมแต่ละครั้ง—วันจันทร์บ่ายสามโมงตรง—เราจะแอบงีบในวิหารฤดูเก็บเกี่ยว…

ในกรณีของพิธีกรรมสังเวยและรับมอบ เราจะใช้สิ่งนี้เพื่อล่อลอร์ดนีบาสให้ติดกับ ท่านจะได้เข้าใจว่า พิธีกรรมสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลมีบางอย่างเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก…

ดีล่ะ พรุ่งนี้เราจะถามบารอนเวย์แมนดี้ถึงข้อมูลของเมืองเงินพิสุทธิ์ขณะศึกษาประวัติศาสตร์!

ดวงตาของเดอะมูน·เอ็มลินสว่างขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับผุดแผนการได้มากมาย

ก่อนจะฉุกคิดบางสิ่งได้ จึงรีบหันไปพูดกับแฮงแมนด้านข้าง

“เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณเคยถามเอาไว้ใช่ไหม ว่ามีวิธีการใดทำให้คนบนเรือหลับสนิทพร้อมกันได้บ้าง เรื่องไม่นั้นยาก ข้าสามารถจัดหาแก๊สสลบซึ่งมีพลังในการแผ่ขยายตัวเองโดยปราศจากกลิ่นให้สัมผัสถึง เพียงสูดดมเข้าไปเล็กน้อย ก็มากพอจะทำให้เหยื่อหมดสติได้ในพริบตา อย่างไรก็ตาม ต้องเลือกลงมือในจุดปลอดลม และเป้าหมายต้องไม่มีทักษะหยั่งถึงอันตราย รวมถึงมีสมรรถภาพร่างกายไม่แข็งแกร่งไปกว่าลำดับ 9 บนเส้นทางเกี่ยวกับพละกำลัง เหยื่อจะหลับลึกนานสามชั่วโมง โดยหลังจากนั้น ประสิทธิภาพจะเสื่อมถอยตามเวลา กระป๋องละหนึ่งร้อยปอนด์ และต้องแบ่งให้ข้าอีกสามสิบปอนด์”

แฮงแมนครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์บนเรือผีสิงของตนสักพัก ก่อนจะตกปากรับคำโดยไม่ต่อราคา

“ตกลง”

มันสร้างภาพการ ‘ไม่ต่อรอง’ ให้เดอะมูนเห็นเป็นแบบอย่าง อีกฝ่ายจะได้ไม่กล้าต่อรองในการค้าขายใหญ่ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต

เดิมที อัลเจอร์เคยคิดจะใช้ยันต์หลับใหลใส่ลูกเรือทั้งหมด แต่กังวลว่าเสียงท่องคาถาจะทำให้ใครบางคนพบความผิดปรกติ

เมื่อช่วงเวลาแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระจบลง ไคลน์เคาะผิวโต๊ะทองแดงลายโบราณด้วยมือ

พลางหัวเราะในลำคอ

“หึหึ สำหรับสัปดาห์หน้า เรามองเห็นว่าพวกเจ้าทุกคนจะปรากฏตัวโดยมีพัฒนาการขึ้นจากเดิมอย่างมาก วันนี้พอเท่านี้ก่อน”

“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ!”

จัสติส·ออเดรย์ลุกขึ้นยืนพลางทำท่าอำลา

ถ้อยคำของเดอะฟูลช่วยให้หญิงสาวมีความมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อยในการดื่มโอสถนักจิตบำบัด

หลังจากเมจิกเชี่ยนและคนอื่นกล่าวในสิ่งเดียวกันจนครบ วังสายหมอกสีเทาได้กลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้ง

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset