Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 495 : ตำนานสมบัติลับ

ราชันเร้นลับ 495 : ตำนานสมบัติลับ

ณ ดาดฟ้าเรือ แผ่นใยหินถูกวางรองใต้เตาตะแกรงถ่านสำหรับย่าง เพื่อป้องกันมิให้ประกายไฟปลิวลงไปสัมผัสกับพื้นไม้

พ่อครัวร่างท้วมสวมหมวกเชฟสีขาวซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของโรซายล์ กำลังใช้แปรงคุณภาพสูงบรรจงทาเครื่องเทศสูตรพิเศษลงบนเนื้อปลาสีขาวชิ้นยาวหั่นบาง ส่วนผสมประกอบด้วยโหระพา ยี่หร่า เกลือทะเล พริกไทย และน้ำมะนาว เนื้อปลาถูกพลิกเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าทั้งสองด้านสุกเท่ากัน

เนื้อท้องของเมอร์ล็อกค่อนข้างมัน ไขมันหยดลงบนถ่านฟืนในเตาย่างจนเกิดเสียงซู่ซ่าไม่ขาดสาย

กลิ่นหอมฟุ้งลอยคละคลุ้งเต็มอากาศ ไคลน์สูดดมเข้าไปอย่างมีความสุขหนแล้วหนเล่า

เบื้องหน้าชายหนุ่มคือโต๊ะและเก้าอี้ทรงกลม บนโต๊ะมีขวดไวน์ลวดลายพิเศษวางอยู่ ของเหลวด้านในมีสีแดงอมทอง ลักษณะค่อนข้างหนืดโดยสังเกตจากขณะเรือโคลง

“ไวน์เลือดโซเนียถูกหมักจากยางไม้น้ำตาลซึ่งพบได้มากในเขตรอบนอกน้ำพุสีทอง รสชาติคล้ายน้ำผึ้งผสมเลือด ค่อนไปทางหวานละมุนลิ้น มึนเมาได้ง่ายมาก หากถูกใจหญิงสาวคนใด ให้มอมเธอด้วยไวน์ชนิดนี้ รับประกันว่าจะกินเพลินจนไม่รู้ตัว… ฮะฮะ! แต่คุณต้องคอแข็งกว่าเธอนะ”

เมื่อเห็นไคลน์เพ่งมองขวดไวน์ กัปตันไอร์แลนด์·คักส์กล่าวแนะนำเชิงติดตลก

สมกับเป็นอดีตสรั่งเรือ เชี่ยวชาญการทำให้บรรยากาศในวงสนทนาไหลลื่น…

ไคลน์นั่งลงพลางซักถามด้วยสีหน้าเย็นชาไม่แปรเปลี่ยน

“นักผจญภัยมืออาชีพจะไม่ดื่มเหล้า”

คลีฟส์ด้านข้างพยักหน้าเห็นด้วย

“นักผจญภัยจะให้รางวัลตัวเองก็ต่อเมื่อกลับถึงบ้านแล้วเท่านั้น”

“น่าเสียดาย”

ไอร์แลนด์หันไปมองดอนน่าและแดนตัน เด็กทั้งสองต่างก็กำลังจ้องขวดไวน์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

“เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะห้ามดื่ม”

“หนูเคยดื่มแล้ว มันอร่อยมาก!” ดอนน่าโต้แย้งทันควัน “เพียงแต่… หนูหลับไปโดยไม่รู้ตัวและตื่นขึ้นมาตอนบ่ายของอีกวัน…”

“ผมจำได้ว่าพี่กินไปตั้งสองแก้ว!” สุภาพบุรุษรุ่นเล็ก แดนตัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความอิจฉา

ไอร์แลนด์ไม่คิดเติมเต็มความใคร่รู้ของเด็กทั้งสอง เพียงสั่งให้ลูกเรือนำชาเย็นมาบริการพร้อมกับกล่าวต่อ

“เรือลำนี้มีชาวทวีปใต้โดยสารมาด้วยหลายคน ก็เลยต้องมีชาเย็นไว้บริการ”

แดนตันเบือนสายตาไปทางอื่นด้วยสีหน้าผิดหวัง ก่อนจะหันไปเห็นศพเมอร์ล็อกซึ่งถูกนำเนื้อส่วนดีออกไปหมดแล้ว

“มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนภายนอก… แค่ตัวใหญ่กว่าปลาปรกติ มีแขนขาสี่ข้าง และหน้าตาอัปลักษณ์เท่านั้นเอง!”

ดอนน่าหันไปมองน้องชาย

“ดีใจด้วย นายเข้าถึงสัจธรรมแล้ว”

จากนั้น เด็กหญิงหันไปมองคลีฟส์และไอร์แลนด์ด้วยดวงตาเปล่งปลั่ง

“คุณลุงทั้งสอง ในทะเลมีสัตว์ประหลาดแบบนี้เยอะไหมคะ”

พลังพิเศษของเมอร์ล็อกมิได้พิสดารจนอยู่เหนือจินตนาการมนุษย์ เป็นเพียงสัตว์ป่าดุร้ายผิวแข็งและมากพละกำลัง ไม่ต่างอะไรกับสิ่งมีชีวิตในตำนานทางทะเลประเภทหนึ่ง

ไอร์แลนด์หัวเราะ

“ไม่เลย อย่างน้อยก็พบได้น้อยในเส้นทางเดือนเรือหลัก พวกมันถูกกวาดล้างจนแทบไม่เหลือแหล่งอาศัยในละแวกนี้ การได้พบเมอร์ล็อกตัวนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างมาก ลองนึกดูให้ดี ถ้าฉันมีโอกาสล่าสัตว์ประหลาดมูลค่า 200 ปอนด์ทุกวัน ป่านนี้คงไม่เสียเวลาเป็นกัปตันเรือเดินสมุทรแน่นอน คงทุ่มเทเวลาให้กับการออกล่าก้อนทองว่ายน้ำได้ด้วยเรือล่าสัตว์ทั้งวันทั้งคืน!”

สมเหตุสมผล… ไคลน์พยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากนั่งชำเลืองสักพัก ชายหนุ่มทราบว่าวัตถุดิบวิเศษจากเมอร์ล็อกเกิดมาจากส่วนถุงลม โดยตะกอนพลังจะแผ่แสงวารีสีฟ้าอ่อนออกมาตลอดเวลาจนดูคล้ายอัญมณี

คลีฟส์ยกแก้วชาดำซึ่งลูกเรือเพิ่งยกมาบริการขึ้นจ่อจมูก มันสูดดมหนึ่งครั้งพร้อมกับจิบเข้าไปอย่างละเมียดละไม

“มีเพียงการแล่นเรือออกจากเส้นทางหลักเข้าไปในท้องทะเลลึกเท่านั้น จึงจะได้พบกับสัตว์ทะเลดุร้าย โดยส่วนมาก บริเวณดังกล่าวมักเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบหรือไม่ก็พายุสายฟ้า แฝงไว้ด้วยภัยอันตรายเหนือจินตนาการ นอกจากตัวเมอร์ล็อกน่ากลัวซึ่งสามารถปืนขึ้นเรือ ยังมีอีกหลายตำนานกล่าวถึงนากาทะเลลึก ลำตัวส่วนบนของพวกมันจะเหมือนกับมนุษย์ แต่ส่วนล่างเป็นงูทะเล มีหกแขนและคล่องแคล่วว่องไว”

ไอร์แลนด์เสริม

“ยังมีหมึกยักษ์ซึ่งสามารถพ่นของเหลวกัดกร่อนใส่มนุษย์หลายคนในคราวเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสัตว์ประหลาดบางชนิดสามารถพลิกเรือได้ด้วยการออกแรงเพียงเล็กน้อย มีนางเงือกคอยร้องเพลงสะกดให้เหยื่อเกิดความหลงใหล มีมังกรครามมาพร้อมพลังสายฟ้ารุนแรง และมีนกตัวใหญ่ซึ่งการกระพือปีกเพียงหนึ่งหนสามารถสร้างลมพายุกระโชก… หึหึ… ฉันเองก็ไม่เคยเห็นพวกมันตัวเป็นๆ มาก่อนเหมือนกัน ทั้งหมดเป็นเพียงตำนานแห่งท้องทะเล ไม่มีใครยืนยันได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความจริงหรือนิทานหลอกเด็ก”

นางเงือก…

ไคลน์ครุ่นคิดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“สุดยอด!” ดอนน่าอุทานพลางจินตนาการภาพตามคำบอกเล่าของผู้ใหญ่

แดนตันมองไปรอบวงสนทนา เมื่อสังเกตเห็นว่าไคลน์เอาแต่นั่งเงียบ จึงซักถามด้วยความสงสัย

“คุณลุงก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกันสินะครับ เคยพบเจอสัตว์ประหลาดบ้างไหม”

ไคลน์ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้ม

“เคยครั้งหนึ่ง พวกเราห้าคนเผชิญหน้ากับเมอร์ล็อกเข้าโดยบังเอิญ หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดจบลง เมอร์ล็อกตัวดังกล่าวก็ถูกกำจัด”

นี่คือประสบการณ์จริงสมัยเป็นเหยี่ยวราตรีเมืองทิงเก็น และยังเป็นประสบการณ์เผชิญหน้ากับผู้คลุ้มคลั่งหนแรกของไคลน์

ในขณะนั้น ตนและลุงนีลล์ได้รับการขอร้องจากสเวย์น บอสใหญ่แห่งผับมังกรชั่ว ให้ช่วยจัดการกับ ‘ลูกเรือ’ กลายพันธุ์คนหนึ่ง

คิดถึงตรงนี้ ไคลน์รู้สึกโหยหาวันเวลาสมัยอดีตขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าแสนเย็นชาเริ่มเผยความอ่อนโยนเจือจาง

“ห้าคน?” ขณะอุทาน ดอนน่าแอบนับจำนวนบุคลากรในการล่าเมอร์ล็อกเมื่อครู่

หนึ่ง สอง สาม…

เธอพบว่า ลำพังนักผจญภัยแค่สามคนก็สามารถฆ่าเมอร์ล็อกได้ง่ายดายแล้ว

ไอร์แลนด์ชิงถามขัดจังหวะ

“พบโดยบังเอิญ?”

“ถูกต้อง” ไคลน์ตอบเสียงเรียบ

“สูญเสียใครไปไหม?” ไอร์แลนด์ซักไซ้

ไคลน์ส่ายหน้า

“ทุกคนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย”

“พบเมอร์ล็อกโดยบังเอิญและสามารถจัดการได้ด้วยห้าคน… พวกคุณแข็งแกร่งกันมาก” คลีฟส์กล่าวยกย่อง

พวกพ้องของมัน เซซิล พยักหน้าเห็นด้วย

จริงอยู่ การล่าเมื่อครู่อาจจบลงอย่างรวดเร็ว และตัวเมอร์ล็อกก็เหมือนจะมิได้เก่งกาจสักเท่าไร แต่ในความเป็นจริง ทั้งเธอและคลิฟส์ต่างทราบดีว่า ผลลัพธ์เกิดจากการเตรียมตัวล่วงหน้าและกุมจุดอ่อนเหยื่อไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมอร์ล็อกเห็นภาพหลอนจากพริกไทยเม็ด จากนั้นก็อ่อนแรงลงเมื่อได้สติกลับมา แถมยังถูกเล่นงานโดยของแสลงอย่างครีมสะระแหน่ เมื่อผนวกเข้ากับไรเฟิลสองกระบอก ทุกสิ่งก็ง่ายขึ้นมาก

“เห็นด้วย… แข็งแกร่งมาก” ไอร์แลนด์เริ่มจ้องไคลน์ด้วยสีหน้าหวาดระแวง

ก็เก่งกว่าคนธรรมดาพอสมควร เป็นถึงหน่วยพิเศษลำดับ 9 และ 8 ล่ะนะ…

ไคลน์กล่าวพลางยิ้มชืด

“ตอนนั้นผมยังหนุ่มและไม่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้แม้แต่น้อย จึงรับบทบาทคอยสนับสนุนจากด้านหลังเพียงอย่างเดียว”

“คุณลุง แต่ตอนนี้คุณก็ยังหนุ่มนะคะ!” ดอนน่าพยักหน้าหงึกหงัก

พูดได้ดี สาวน้อย…

ขณะเดียวกัน ไคลน์สัมผัสว่ากัปตันไอร์แลนด์เริ่มผ่อนคลายลงหลังจากตนกล่าวประโยคเมื่อครู่จบ

ทันใดนั้น ลูกเรือหลายคนเริ่มเดินเข้ามาพร้อมกับถือถาดเซรามิกใบใหญ่ ด้านบนมีเนื้อปลาทอดจนกลายเป็นสีเหลืองทอง โรยด้วยใบโหระพาเพิ่มสีสัน

กลิ่นอันเข้มข้นและหอมกรุ่นจากการทอดกำลังบุกรุกเข้าไปในต่อมความอยากอาหารของทุกคนโดยไม่ปรานี

ไอร์แลนด์ยกแก้วไวน์เลือดโซเนียของตนพร้อมกับน้ำดื่มอวยพร

“แด่ค่ำคืนอันงดงาม ขอให้พายุสถิตกับทุกท่าน!”

“แด่ค่ำคืนอันงดงาม!” ดอนน่าและแดนตันส่งเสียงขานรับพลางกระดกชาเย็น

ไคลน์ชนแก้วชาดำของตนกับคนใกล้ตัว

จากนั้น ชายหนุ่มใช้ส้อมจิ้มเนื้อเมอร์ล็อกทอดใส่ปากเคี้ยว และพบว่าตัวเนื้อซี่โครงไม่มีมันแทรกเลยสักนิด เป็นสัมผัสแน่นกระชับเหมาะสำหรับคนต้องการขยับปากเคี้ยว

ยิ่งเมื่อนำไปทอดให้อมน้ำมันผัก ข้อเสียด้านความแห้งได้ถูกกลบจนมิดชิด ยิ่งเคี้ยวนานเท่าไร ก็ยิ่งสนุกปากและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์มากเท่านั้น

ยังด้อยกว่าเนื้อแก้ม แต่ก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว เราไม่เคยกินปลาทอดชนิดใดอร่อยเท่านี้มาก่อน ไม่ว่าจะในเบ็คลันด์หรือเมืองท่าพริสต์… ไคลน์สรรเสริญอาหารจานตรงหน้า

ไอร์แลนด์วางมีดส้อมลง จิบไวน์เลือดโซเนียและเริ่มวกกลับเข้าประเด็น

“อันตรายอันดับหนึ่งบนท้องทะเลหาใช่สัตว์ประหลาด แต่เป็นโจรสลัด พวกมันรักอิสระ บังคับเรือแล่นไปตามใจนึกคิด ไม่มีใครคาดเดาการกระทำหรือเตรียมตัวรับมือล่วงหน้าได้เลย”

“คุณลุงกัปตัน พวกเราจะได้เจอโจรสลัดไหมครับ” ขณะเคี้ยวปลาทอด แดนตันซักถามด้วยสีหน้าเจือความกังวล

ไอร์แลนด์ยิ้ม

“เส้นทางเดินเรือไปยังหมู่เกาะรอสต์นับว่าปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งของโลก ระหว่างทางมีเกาะอาณานิคมให้พักเติมเสบียงทุกสองถึงสามวันเสมอ อีกทั้ง ตลอดเส้นทางยังมีเรือลาดตระเวนของกองทัพเรือและโบสถ์วายุสลาตันไม่ขาดสาย หรือต่อให้มีโจรสลัดแล่นเรือเข้ามาในแถบนี้ พวกมันก็จะไม่ลงมืออย่างเอิกเกริก หรือถ้าได้เห็นปืนใหญ่หลายกระบอกรอบเรือของเรา ก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าส่งเสียงข่มขู่รีดไถจากระยะไกล”

เมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนเริ่มโล่งใจ ไอร์แลนด์เล่าเสริม

“แต่ถ้าเป็นเส้นทางถัดจากหมู่เกาะรอสต์ลงไปทางใต้ หรือไม่ก็ทางทิศตะวันออก การเดินทางแต่ละครั้งจะต้องสวดภาวนาต่อพระองค์วายุสลาตันสักหน่อย ในละแวกดังกล่าว เรือโจรสลัดจำนวนมากมักเล่นซ่อนแอบกับเรือหลวงของรัฐบาลและของโบสถ์ หากพวกเรามีโชค ก็จะไม่พบพวกมันเข้าระหว่างทาง แต่ถ้าโชคร้าย ก็อาจได้พบโจรสลัดแข็งแกร่งบางฝ่าย เช่นเหล่าเจ็ดพลเรือโจรสลัด รวมถึงไปสี่ราชาโจรสลัด อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าไม่ต้องกังวลเกินไป นับตั้งแต่นาสต์ได้กลายเป็นราชาแห่งห้าห้วงสมุทร เขาทำการตั้งกฎเหล็กสากลให้โจรสลัดทุกฝ่ายปฏิบัติตาม โจรสลัดส่วนใหญ่จึงทำเพียงปล้นทรัพย์สินจนเกลี้ยง โดยไม่ล่วงเกินผู้โดยสารไปมากกว่านั้น ถ้าเป็นในละแวกนี้ กลุ่มโจรสลัดน่ากลัวอันดับหนึ่งคือกัปตันแห่งทิวลิปดำ พลเรือเอกขุมนรก ลูเธอร์ไวล์ มักมักสั่งให้ลูกน้องฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งหมดเพื่อส่งลงไปอยู่ในนรกบ่อยครั้ง บุคคลน่าหวาดกลัวลำดับถัดมาคือ พลเรือเอกโลหิต เซนอล มันชื่อชอบการหลั่งเลือดเป็นอย่างมาก และมักให้ปล่อยลูกน้องกระทำในสิ่งต่ำทรามเหนือพรรณนา หญิงสาวส่วนใหญ่จะถูกขืนใจก่อนจับส่งขายเป็นทาสบนเกาะ…”

ได้ยืนเช่นนั้น ร่างกายดอนน่าพลันสั่นเทา

เด็กหญิงรีบเปลี่ยนประเด็น

“หนูเคยได้ยินว่ามีสมบัติในทะเลด้วย!”

“มีตำนานเกี่ยวกับสมบัติในทะเลมากมาย แค่เกือบทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง” ไอร์แลนด์ชำเลืองไปทางคลีฟส์พลางเล่าต่อ “จากบรรดาตำนานสมบัติลับทั้งหมด มีหกเรื่องโด่งดังมากเป็นพิเศษ

“อันดับหนึ่งก็คือ ‘กุญแจเทพมรณา’ มีข่าวลือเล่าต่อกันมาอย่างยาวนานว่า ในช่วงปลายยุคสมัยที่สี่ หลังจากเทพมรณาสร้างหายนะไร้ชีวิตชีวาขึ้น ท่านถูกรุมโจมตีจากเจ็ดเทพจารีตจนมีสภาพจวนเจียนสิ้นลม จึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายพยายามหนีกลับไปยังทวีปใต้ โดยระหว่างทางได้สร้างพายุและคลื่นทะเลเกรี้ยวกราดกีดขวางทวีปเหนือและใต้เอาไว้ นั่นคือตำนานต้นกำเนิด ‘ทะเลคลั่ง’ แต่จนแล้วจนรอด ท่านก็เดินทางไปไม่ถึงทวีปใต้ มีข่าวลือว่าเทพมรณาหายตัวไปในทะเลระหว่างทางอย่างเป็นปริศนา”

กล่าวถึงตรงนี้ ไอร์แลนด์ถอนหายใจยาว

“ใครบางคนเคยกล่าวไว้ สักแห่งภายในทะเลคลั่งนั้นมีสมบัติของเทพมรณาซ่อนอยู่ โดยต้องใช้กุญแจชนิดพิเศษในการเปิด แต่ไม่มีใครทราบว่ากุญแจดังกล่าวมีหน้าตาเป็นเช่นไร อันดับถัดมาคือ ‘น้ำพุไม่แก่เฒ่า’ กล่าวกันว่าอยู่ลึกเข้าไปในทะเลโซเนียอันกว้างใหญ่ไพศาล โดยหนึ่งในสี่ราชาโจรสลัด ราชาอมตะ อาการิธ เคยดื่มน้ำจากบ่อน้ำพุดังกล่าวเข้าไป”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset