Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 478 : สมบัติปิดผนึกระดับ 0 ออกปฏิบัติการ

ราชันเร้นลับ 478 : สมบัติปิดผนึกระดับ 0 ออกปฏิบัติการ

ในวินาทีเหลือบเห็นบุคคลแปลกหน้าบนเบาะฝั่งตรงข้าม ท่านหญิงสิ้นหวังพลันเสกหอกผลึกคริสตัลปลายแหลม พร้อมกับขว้างใส่อีกฝ่ายด้วยพละกำลังทั้งหมด

อาศัยแรงถีบ เธอเตรียมทำลายห้องโดยสารรถม้าเพื่อหนีไปยังทางถนนด้านหลัง

ด้วยความผันผวนของสถานการณ์ ท่านหญิงสิ้นหวังย่อมประหลาดใจว่าทำไมถึงมีศัตรูมาโผล่ตรงหน้าได้ เพราะในทางทฤษฎี เธอเตรียมตัวมาอย่างรัดกุม ไม่น่าจะถูกใครพบตัวได้รวดเร็วเช่นนี้ การหาตนให้พบมีระดับความยากไม่ต่างจากการทำลายเมืองใหญ่สักแห่ง หรือไม่ก็การเคลื่อนย้ายมิติจากเบ็คลันด์ไปยังทวีปใต้ในพริบตา

แต่ในฐานะลำดับ 4 ‘แม่มดสิ้นหวัง’ เธอขัดเกลาความชำนาญมาตั้งแต่ยังเป็นนักลอบสังหาร จึงทราบดีว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตนไม่ควรเสียเวลาโพล่งคำถามไร้สาระหรือไขว้เขวไปกับเรื่องอื่นจนเสียสมาธิ ไว้ค่อยกลับไปคิดหาคำตอบหลังจากปลอดภัยก็ยังไม่สาย

ดังนั้น การชิงโจมตีใส่อีกฝ่ายในพริบตาโดยไม่ให้ตั้งตัวคือทางเลือกถูกต้อง สิ่งนี้จะช่วยเปิดช่องให้ตัวเองได้หลบหนี

ท่านหญิงสิ้นหวังสามารถจินตนาการภาพสตรีปริศนาเจ้าของดวงตาและเส้นผมสีดำแวววาว ถูกแช่แข็งด้วยละอองความเย็นรอบหอกน้ำแข็ง การจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการคงต้องใช้เวลาสักพัก

กว่าอีกฝ่ายจะเริ่มเคลื่อนไหว เธอก็คงปะปนไปกับฝูงชนมหาศาลภายในเบ็คลันด์เรียบร้อยแล้ว

แต่ฉากดังกล่าวกลับไม่เกิดขึ้น ในวินาทีหอกน้ำแข็งแหวกอากาศพุ่งเข้าหาสตรีปริศนา ปลายแหลมของมันค่อย ๆ เลือนหายไปในความว่างเปล่าทีละนิด

เทวทูต…!

แม่มดสิ้นหวังหรี่ตาลง ตามด้วยการระเบิดเปลวเพลิงสีดำออกจากทุกส่วนของร่างกายอย่างพร้อมเพรียง เตรียมแผดเผาทุกสรรพสิ่งในบริเวณใกล้เคียง พร้อมกับการแพร่กระจายโรคภัยใส่ทุกคนในรัศมีรอบตัว

ทันใดนั้น ร่างกายหญิงสาวพลันสั่นเทาอย่างมิอาจหักห้าม แขนขาเกร็งทื่อประหนึ่งรูปปั้นหินอ่อน

สาเหตุมาจาก มือซ้ายของเธอเริ่มเลือนหายไปทีละหนึ่งเซนติเมตร ความสับสนและไม่เข้าใจกำลังพรั่งพรูท่วมท้นหัวสมอง

ยิ่งเวลาผ่านไป ร่างกายก็ยิ่งถูกกลืนกินอย่างเงียบงันมากขึ้นทุกขณะ

ภายในดวงตาของเธอ สตรีเลอโฉมฝั่งตรงข้ามแผ่กลิ่นอายมืดมิดและปลอดโปร่ง ราวกับผนึกความมืดอันบริสุทธิ์ไว้ในร่างกาย

“ไม่จริงน่า… เธอคือ…!”

เสียงของแม่มดสิ้นหวังขาดห้วงกลางคัน ร่างกายเลือนหายไปในลักษณะของภาพเขียนถูกยางลบปาดออก ไม่หลงเหลือไว้แม้แต่ร่องรอยให้ตามสืบหา

แววตาสุดท้ายเปี่ยมด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวังเหนือพรรณนา เบาะซึ่งเธอเคยเอนกายพิง ยามนี้ว่างเปล่าราวกับไม่เคยทิ้งก้นลงไปนั่ง

สตรีเลอโฉมใบหน้าไร้อารมณ์ ดึงผ้าคลุมหัวขึ้นมาปกปิดมิดชิด ริมฝีปากขยับแผ่วเบาพร้อมกับเลือนหายไปจากห้องโดยสาร

รอบนอกเขตราชินี บนรถม้าไร้ราง

ทริสซีนั่งเงียบภายในห้องโดยสาร เหนือศีรษะสวมหมวกตาข่ายปกปิดตามปรกติ

เธอมิได้หลบหนีออกจากเบ็คลันด์ด้วยเส้นทางแม่น้ำทัสซอค และมิได้หลบหนีผ่านสถานีรถไฟในหัวเมืองใกล้เคียงตามความคาดหมายของทุกฝ่าย

ตัวเลือกของเธอคือ ลอบเดินทางกลับเข้ามายังกรุงเบ็คลันด์หลังจากแยกกับไคลน์

มีเพียงเมืองใหญ่ประชากรกว่าห้าล้านคนและเต็มไปด้วยองค์กรลับมากมายเท่านั้น จึงจะช่วยมอบความปลอดภัยจากการไล่ล่าของนิกายแม่มดให้เธอได้

ในวินาทีนี้ หญิงสาวกำลังหวาดระแวงการไล่ล่าจากพ่อบ้านชรา ฟังเกล ทุกลมหายใจ

ทันใดนั้น สมองของเธอเริ่มปั่นป่วน

แต่เมื่อภาพการมองเห็นกลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง ทริสซีกลับพบว่าตนถูกย้ายตำแหน่งออกจากรถม้าอย่างปริศนา โดยปัจจุบันกำลังยืนริมถนนเปียกโคลนข้างทาง

รูม่านตาทริสซีพลันหดเกร็ง สายตารีบกวาดมองรอบตัวตามสัญชาตญาณ

ทันใดนั้น เธอเหลือบเห็นสตรีสวมชุดคลุมสีดำยาวทรงโบราณ ศีรษะถูกปกคลุมเกือบมิดชิดด้วยผ้าคลุมของชุด เผยออกมาเพียงดวงตาสีดำสนิทลอดผ่าน

ด้วยเหตุผลบางประการ ทริสซีรู้สึกคล้ายกับตนกลับไปเป็นทารกอีกครั้ง อ่อนแอถึงขั้นปราศจากเรี่ยวแรงต่อต้านด้วยประการทั้งปวง

เหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นบนหน้าผาก แข้งขาสั่นระริกโดยมิอาจหักห้าม ไม่สามารถก้าวเดินได้แม้แต่ครึ่งจังหวะ

เราไม่เคยพบใครมีกลิ่นอายน่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ไม่แม้แต่สมาชิกระดับสูงของนิกายแม่มด…!

เรากำลังจะตาย… ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเพิ่งมาเกิดขึ้น หลังจากเราพยายามหลบหนีอย่างล้มลุกคลุกคลานจนกระทั่งสำเร็จ… ทำไมไม่รีบเกิดตั้งแต่แรกให้มันจบ ๆ ไปเสียเลย…

ความสิ้นหวังและโศกเศร้าเหนือพรรณนากำลังครอบงำจิตใจทริสซี ราวกับถูกกระชากลงไปในฝันร้ายชั้นลึกสุดของจิตใต้สำนึก

ทันใดนั้น วิวทิวทัศน์รอบตัวหญิงสาวพลันถูกแสงสีฟ้าหม่นปกคลุมอย่างกะทันหัน แสงดังกล่าวช่วยขจัด ‘คำสาป’ มิอาจขยับเขยื้อนร่างกายของเธอออกไป

ทริสซีรีบมองตรงไปข้างหน้า แต่ก็ไม่พบร่องรอยของบุคคลน่าหวาดกลัวคนดังกล่าวอีกเลย ทุกสิ่งกลับเป็นปรกติราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่คือภาพมายาสุดสมจริง

แต่เมื่อก้มหน้าลง หญิงสาวต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า แหวนพลอยสีฟ้าบนนิ้วก้อยข้างซ้ายได้แตกกระจายเป็นเศษอัญมณี สูญเสียความแวววาวเดิมไปจนหมดสิ้น

แกร่ก. แกร่ก.

เศษพลอยร่วงกราวจากฐานแหวน หล่นลงบนพื้นทีละชิ้นสองชิ้น

ไคลน์กระโจนม้วนตัวอ้อมเสาหินและมิสเตอร์ A ผู้กำลังบาดเจ็บหนัก ก่อนจะสับเท้าวิ่งไปยังทางออกฝั่งตรงข้ามโดยไม่คิดชีวิต

สำหรับตะกอนพลังซึ่งกำลังรวมตัวหลังจากมาสเตอร์คีย์สลายไป ชายหนุ่มหาได้แยแสแม้แต่ปลายหางตา ด้วยเพราะความกลัวว่ามิสเตอร์ A จะมีเวลาไล่ตามมาทัน

ไคลน์มั่นใจ แม้ว่าตนจะเตรียมตัวมาพร้อมและมีสมบัติวิเศษอย่างครบถ้วน แต่ก็ยังไม่เพียงพอหากต้องเผชิญหน้ากับคนเลี้ยงแกะมากประสบการณ์ จึงไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมันมีเพียงนกหวีดทองแดงของมิสเตอร์อะซิกและกระสุนพิเศษสามชนิด ไม่เหลือแม้แต่ก้านไม้ขีดไฟ

จริงอยู่ มิสเตอร์ A อาจบาดเจ็บสาหัส แต่ไคลน์ยังเชื่อในสัญชาตญาณว่าตนไม่ควรเสี่ยงกับอีกฝ่าย แถมยังเคยได้ยินมาว่า ‘นักบวชกุหลาบ’ โอสถลำดับก่อนหน้าคนเลี้ยงแกะ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์เกี่ยวกับเลือดเนื้อ

ตามหลักการ พลังฟื้นฟูร่างกายของมิสเตอร์ A จึงไม่น่าจะด้อยไปกว่า ‘เคลื่อนย้ายความเสียหาย’ ของตนมากนัก

แอ๊ด~

มันดึงประตูบานใหญ่เข้าหาลำตัว

แสงธรรมชาติด้านนอกพลันสาดส่องปะทะใบหน้า กลุ่มเมฆบนท้องฟ้ามีสีเหลืองหม่น แสงอาทิตย์ซีดจางไร้ชีวิตชีวา

ไคลน์รีบวิ่งออกมาและพบว่าตนกำลังอยู่ใจกลางหุบเขา ทุกทิศรายล้อมด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน ส่งผลให้อาคารหลังนี้กลายเป็นสุดยอดแหล่งกบดานอย่างไร้ข้อกังขา

กึก. กึก. กึก.

ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจทางเดินปรกติสำหรับขึ้นลงเขา ด้วยทักษะอันช่ำชองของตัวตลก มันเลือกวิ่งไต่หน้าผาสูงชันลงไปแทน

ซ่า!

ไคลน์เริ่มได้ยินเสียงสายน้ำกัดเซาะโขดหิน ดังห่างไม่ไกล ต้นเสียงดังมาจากทิศทางเบื้องหน้าเยื้องลงไปด้านล่างเล็กน้อย

แต่ขณะเดียวกัน สัมผัสวิญญาณพลันตระหนักถึงมวลสายลมปริศนาซึ่งกำลังพุ่งตรงมาจากด้านหลัง

โดยไม่มัวรีรอ ชายหนุ่มย่อเข่าลงพร้อมกับกลิ้งหลบไปด้านข้าง

ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ!

ในจุดเดิมซึ่งเคยยืน รวมถึงจุดด้านหน้าถัดไปอีกสองสามก้าว พื้นดินได้ถูกใบมีดสายลมคว้านจนเกิดเป็นร่องลึก

มิสเตอร์ A ร่อนลงมายังด้านล่างโดยมีสายลมคอยพยุง ร่างกายของมันยังคงถูกปกคลุมด้วยก้อนเลือดเนื้อสีแดงชุ่มฉ่ำ

เมื่อปลายนิ้วถูกชี้มาทางไคลน์ ก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นพุ่งออกจากมือมิสเตอร์ A ลอยแหวกอากาศตรงเข้าหาชายหนุ่มอย่างแม่นยำ

บึ้มมมมม!

ก้อนเนื้อระเบิดกระจัดกระจาย หยดเลือดและเศษเนื้อสาดกระเซ็นไปทุกทิศ ไคลน์รีบตีลังกาด้วยมือสองข้างเพื่อส่งตัวเองไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่

เศษเลือดเนื้อซึ่งเป็นราวกับสะเก็ดระเบิด ได้สร้างรูโหว่ขนาดใหญ่ไว้บนต้นไม้และธรรมชาติรอบบริเวณแทบทุกจุด

ย้อนกลับไปขณะไคลน์เริ่มวิ่งหนี มันบรรจุกระสุนกลับไปจนเต็มรังเพลิงอีกครั้ง

ขณะชักปืนออกมาเล็งศีรษะมิสเตอร์ A สายตาชายหนุ่มพลันเหลือบเห็นความมืดมิดอันเข้มข้นภายในดวงตาอีกฝ่าย

ทันใดนั้น แม้เหตุการณ์รอบตัวจะยังคงเดิมทุกประการ แต่ไคลน์ก็ได้ทราบทันที ว่าตนถูกดึงเข้าไปในภวังค์ความฝันเรียบร้อยแล้ว

มันเคยฆ่าฝันร้าย… อย่างต่ำฝันร้าย…

ขณะยังคงรักษาสติได้อย่างครบถ้วน ไคลน์มองเห็นมิสเตอร์ A หายตัวมาโผล่ด้านข้างตนในลักษณะขัดแย้งกับกฎของพลังพิเศษ ตามด้วยการเปลี่ยนร่างเป็นผ้าม่านโลหิตชุ่มฉ่ำผืนใหญ่ แผ่กลิ่นอายสยดสยองอย่างเต็มเปี่ยม หวังกลืนกินตนเข้าไปทั้งตัวโดยไม่เปิดโอกาสให้หลบหนี

คิดจะใช้พลังฝันร้ายทำให้เราหัวใจวายตายไปเองหรือไง… ไคลน์รำพันติดตลกพร้อมกับตอบสนอง

ในเมื่อนี่คือความฝันของตน บุคคลสติกระจ่างชัดย่อมสามารถสร้างอะไรก็ได้!

โดยไม่รีรอ พระอาทิตย์สีทองอร่ามเจิดจรัสปรากฏตัวกึ่งกลางท้องฟ้าทันที แสงแดงแผดเผาทุกสรรพสิ่งภายในความฝันจนมอดไหม้

ไคลน์เลียนแบบภาพนิมิตขณะตนเผลอจ้องมองเทพสุริยันเจิดจรัสโดยตรง!

แทบจะในเวลาเดียวกัน มันหลบหนีออกจากฝันตัวเองพร้อมกับได้ยินเสียงครวญครางของใครบางคนดังแว่ว

มิสเตอร์ A เสียหลักเซถอยหลัง โลหิตแดงฉานไหลซึมออกจากดวงตาทั้งสองเบ้า

ผ้าคลุมเลือดของมันเริ่มละลายทีละนิดในลักษณะคล้ายของเหลว

เปาะ!

ไคลน์ดีดนิ้วเพื่อจุดไฟบนต้นไม้ห่างออกไปราวสามสิบถึงสี่สิบเมตร

ใต้ฝ่าเท้า มันเผาไหม้วัชพืชแห้งและปล่อยให้เปลวเพลิงร้อนระอุลุกท่วมร่างกาย

ใบหน้าคล้ายสตรีของมิสเตอร์ A พลันแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าซึ่งใกล้เคียงกับหญิงสาวยิ่งกว่าเก่า ตามด้วยการเสกหอกน้ำแข็งเล่มยาวขึ้นบนฝ่ามือ และขว้างไปยังต้นไม้ติดไฟซึ่งห่างออกไปหลายสิบเมตรด้านหน้าอย่างสุดแรง

เมื่อไคลน์ย่างกรายออกจากกองเพลิงบนต้นไม้ปลายทาง คมหอกสีใสได้พุ่งมาจดจ่ออยู่หน้าจมูกเรียบร้อย

ขนาดของปลายหอกใหญ่ขึ้นทีละนิด จนกระทั่งบดบังทัศนวิสัยไคลน์เกือบสมบูรณ์

ชายหนุ่มรีบกระโดดหลบไปด้านข้างได้ทันท่วงที แต่ร่างกายกลับยังไม่รอดพ้นไอความเย็นซึ่งกำลังจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง

หอกน้ำแข็งไฟดับไฟบนต้นไม้จนมอดสนิท พื้นดินใต้ฝ่าเท้าชายหนุ่มถูกเปลี่ยนให้เป็นลานน้ำแข็งรัศมีหลายเมตรในพริบตา

ในสภาพลอยตัวเคว้งกลางอากาศ ไคลน์ม้วนร่างกายพร้อมกับทิ้งศีรษะลงด้านล่าง

มือซ้ายถูกเหยียดออกมายันพื้นน้ำแข็งเพื่อส่งร่างกายให้ดีดตัวกลับขึ้นไปใหม่ ทว่า เนื่องจากฝ่ามือสัมผัสเข้ากับน้ำแข็งโดยตรง ผิวหนังในบริเวณดังกล่าวจึงเกิดการฉีกขาดพร้อมกับเสียง ‘ปึด’

หลังจากรอดพ้นระยะพื้นน้ำแข็ง ไคลน์กลิ้งตัวไปบนพื้นพร้อมกับควักยันต์หลับใหลทำเองออกมาเตรียมขว้าง

แต่ขณะกำลังจะท่องคาถา จมูกเกิดอาการคันยุบยิบพร้อมกับจามสุดแรง

ฮัดเช่ย! ฮัดเช่ย! ฮัดเช่ย!

ศีรษะเริ่มร้อนรุ่ม มันตะเบ็งจามไม่หยุดพัก เรี่ยวแรงในการต่อสู้เริ่มลดลงชัดเจน

เราป่วย? ถูกเล่นงานด้วยพลังพิเศษเกี่ยวกับโรคภัย?

ขณะกำลังวิเคราะห์อย่างใจเย็น ไคลน์เพิ่งตระหนักว่าตนถูกเส้นด้ายจำนวนมาก ยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่า รัดพันจากทุกทิศทางพร้อมกันจนมีสภาพคล้ายมัมมี่

ในอดีต ไคลน์เคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาก่อน จึงทราบทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังใช้พลังของแม่มดสุขสม

ย้อนกลับไปในตอนนั้น มันเอาตัวรอดได้โดยการใช้ยันต์หลับใหลเสกหลับใส่ทั้งตนและเชอรอน จากนั้นจึงอาศัยความพิเศษของตัวเองเพื่อลืมตาก่อนอีกฝ่าย

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน มิสเตอร์ A ยืนห่างออกไปราวยี่สิบเมตรเห็นจะได้ ไม่มีทางขว้างยันต์โลหะไปถึงด้วยสภาพกึ่งอัมพาตเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ไคลน์เองก็ไม่ใช่ตัวตลกอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนเช่นกัน ปลายนิ้วบรรจงถูไถจนเกิดเสียง เกิดเป็นเปลวเพลิงสีแดงส้มลุกท่วมร่างกาย

เพียงพริบตา ‘ใยแมงมุม’ ลุกไหม้อย่างง่ายดายจนไคลน์ดูเหมือนคบเพลิงอันใหญ่

ชายหนุ่มกระโดดออกจากกองเพลิงพร้อมกับเริ่มจามอย่างหนักอีกครั้ง ตามด้วยการไอกระแอมอย่างรุนแรงอีกสองสามระลอก ส่งผลให้เวทมนตร์หลายชนิดของตนกลายเป็นหมันเพราะมิอาจเปล่งคาถา

ทันใดนั้น ใบหน้าคล้ายสตรีของมิสเตอร์ A เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกหน คราวนี้เจือความโอหังและทระนงตนไว้อย่างชัดเจน

คนเลี้ยงแกะเหยียดแขนขวาออกมาพร้อมกับกระตุกกำหมัดแน่น ไคลน์สัมผัสได้ทันทีว่า หากตนวิ่งหนีไปทั้งอย่างนี้ คงไม่แคล้วได้วนกลับมายังจุดเดิม

มิสเตอร์ A ในชุดคลุมยาวสีแดงสด เริ่มเผยรอยยิ้มชั่วร้ายเจือความอำมหิต ตามด้วยการเสกหนังสือมายาปกโบราณลอยออกมาตรงหน้า

เสียงโทนแหลมดังแว่วอย่างล่องลอย :

“ข้าบรรลุ ข้าประจักษ์ ข้าบันทึก”

ฮัดเช่ย! แค่ก! แค่ก!

ไคลน์ต้องการหลบหลังต้นไม้ แต่ทำไม่ได้เพราะมิได้กระฉับกระเฉงเหมือนในยามปรกติ

ในวินาทีนี้ มันกำลังลิ้มรสความสุดยอดของคนเลี้ยงแกะอย่างไม่เต็มใจนัก ไม่เกินจริงเลยสักนิดเมื่อมีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าไม่นับตัวตนระดับครึ่งเทพ จะไม่มีโอสถใดถือครองพลังรอบด้าน ครอบคลุม และไร้จุดอ่อนได้เท่ากับคนเลี้ยงแกะอีกแล้ว

จริงอยู่ มันอาจไม่ได้เตรียมตัว และไม่ได้พกพาสมบัติวิเศษมาทำศึกมากนัก แต่การไล่ต้อนลำดับ 6 อย่างตนให้จนตรอกชนิดมิอาจโต้กลับได้เลยแม้แต่หนึ่งหน

แค่ ‘เก่ง’ อย่างเดียวคงอธิบายได้ไม่ชัดเจน

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset