Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 471 : การเตรียมตัวของไคลน์

ราชันเร้นลับ 471 : การเตรียมตัวของไคลน์

ชีค…

เส้นขนจำนวนมากกำลังตั้งชูชันบนผิวหนังชายหนุ่ม มันยังคงมองเข้าไปในดวงตาอันพร่ามัวและเย้ายวนของสตรีเลอโฉมอ่อนวัย

อาการขนลุกในคราวนี้ค่อนข้างรุนแรง มาพร้อมเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นทุกซอกมุมร่างกาย

ไคลน์รู้สึกประหนึ่งย้อนเวลากลับไปอยู่ในห้องรับแขกของบริษัทหนามทมิฬแห่งเมืองทิงเก็นอีกครั้ง ขณะมันเตรียมเปิดเนตรวิญญาณเพื่อส่องทารกในครรภ์เมกูส ความหวาดกลัวจากก้นบึ้งได้กระตุ้นให้สัญชาตญาณเกิดความตึงเครียดฉับพลัน คล้ายกับมีมือของใครบางคนกำลังบีบกำหัวใจแน่น

ชายหนุ่มเข้าใจทันทีว่า ต้นตอของความล้มเหลวหนแล้วหนเล่าขณะใช้พลังทำนายบนมิติสายหมอกเกิดจากสิ่งใด

ไม่ใช่สมบัติวิเศษระดับ 0 แต่เป็นบางสิ่งในร่างกายทริสซีซึ่งมีระดับตัวตนสูงกว่านั้นหลายเท่า!

สัญลักษณ์แห่งหายนะ แม่มดบรรพกาล!

ไม่สิ เธอยังมิได้เป็นแม่มดบรรพกาลเต็มตัว ไม่อย่างนั้น เราคงเกิดอาการคลุ้มคลั่งทันทีเพียงได้เข้าใกล้ จากนั้นก็กลายเป็นเศษเนื้อสีแดงยุบพองน่าสะอิดสะเอียน

เธอกำลังอยู่ในภาวะประหลาด…

ทันใดนั้น คิ้วของทริสซีเริ่มคลายออก หญิงสาวได้รับประกายแววตากลับคืนมาอีกครั้ง

ขณะเธอกำลังจ้องไคลน์ ทริสซีเริ่มเลื่อนฝ่ามืออันขาวเนียน ลูบไล้ไปตามด้านข้างลำตัวอย่างเย้ายวน ปลายนิ้วเน้นหนักรอบวัตถุทรงกลมบริเวณทรวงอก กิริยาท่าทางเปี่ยมด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งเย้ายวน เศร้าโศก และแฝงความคิดร้าย

พลางกล่าวกับไคลน์

“หากคุณสามารถแจ้งเหยี่ยวราตรี จิตแห่งจักรกล หรือทูตพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องของฉันสำเร็จ และถ้าเรามีโอกาสได้พบกันอีกครั้งก่อนฉันถูกจับขัง ขอรับปากว่าจะมอบความสุขสมอันยากจะลืมเลือนไปชั่วชีวิตให้ได้ลิ้มรส”

สายตาไคลน์ยังคงจ้องมองการขยับมือของทริสซี่โดยไม่รู้ตัว ภาพลามกอนาจารพลันพรั่งพรูเข้ามาในสมองอย่างมิอาจยับยั้ง

…ถึงจะไม่ใหญ่ แต่ก็กระชับพอดีมือ…

เชี่ย! เราคิดอะไรอยู่! กำลังมองไปทางไหน!

นี่คือพลังยั่วยวนของแม่มดสุขสม? อันตรายฉิบหาย… ต่อให้เธอไม่เคยเป็นชายมาก่อน จนทำให้จินตนาการของเราหดลงหลายระดับ หรือต่อให้เธอไม่เคยฆ่าคนบริสุทธิ์ในเมืองทิงเก็นเลยสักครั้ง แต่ลำพังการมีออร่าของแม่มดบรรพกาลอยู่ในร่าง ก็มากพอจะทำให้เราเผ่นหนีอย่างไม่คิดชีวิต…

หากแม่มดบรรพกาลตื่นขึ้นมา เกรงว่า แม้แต่เดอะฟูลก็คงรับมือไม่ไหว…

ไคลน์ถอนหายใจเงียบงัน ก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปบนเพดานห้องโดยสาร

“คุณคิดว่าตัวผม ผู้วิเศษลำดับกลางหรือไม่ก็ลำดับต่ำ จะมีน้ำยาหนีรอดจากเงื้อมมือของราชวงศ์เชียวหรือ พวกเขาทราบแล้วผมเข้ามาพัวพันกับคุณ คงไม่มีทางปล่อยให้มีชีวิตรอดกลับไปแน่…”

คล้ายกับทริสซีพึงพอใจเมื่อไคลน์ไม่กล้าสบตาเธอโดยตรง

หญิงสาวหัวเราะคิกคัก

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพยายามดึงแกนหลักของหน่วยพิเศษเอาไว้ให้เอง ถึงแม้อีกฝ่ายจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ถ้าเป็นการหนีให้รอดก็ยังพอมีโอกาส ฉันเชื่อว่าคุณคงต่อสู้อย่างสุดฝีมือ นั่นก็เพื่อความอยู่รอดของตัวคุณเอง…”

เมื่อสิ้นเสียง ร่างของทริสซีเลือนหายไปจากห้องโดยสาร ลักษณะคล้ายกับการใช้ผ้าขี้ริ้วลบชอล์กบนกระดานดำ

แตกแต่างจากมาดามชารอนในร่างวิญญาณอาฆาตมาก นี่คงเป็นเทคนิคการหายตัวอันสมบูรณ์แบบของนักลอบสังหาร…

ตึง!

ประตูห้องโดยสารรถม้าเปิดแง้มและปิดสนิทอีกครั้งด้วยเสียงอื้ออึง

กลิ่นหอมหวานของสตรียังคงติดอยู่ปลายจมูกเจือจาง ไคลน์เบือนหน้ากลับมาอีกครั้งพลางครุ่นคิดอย่างตึงเครียด

จวบจนตอนนี้ สองมือของชายหนุ่มก็ยังสั่นเทาโดยไม่มีทีท่าจะหยุด ประหนึ่งกำลังป่วยเป็นโรคเฉพาะทางบางอย่าง

ดูเหมือนทริสซีจะยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายตัวเอง และยังไม่ทราบถึงน้ำหนักของชื่อ ‘ชีค’ …

ไคลน์พยายามสงบสติ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง คำนวณระยะทางและเวลาหลังจากแล่นออกห่างคฤหาสน์กุหลาบแดง

สัมผัสวิญญาณและประสบการณ์รนหาความตายอันช่ำชองได้บอกกับมันว่า ในเวลาเช่นนี้ การดิ้นรนเอาชีวิตรอด ย่อมดีกว่าการไม่ลงมือทำอะไรเลย!

ฉะนั้น ในเมื่อตนกำลังจะถูกปิดปากด้วยฝีมือในสักคน อย่างน้อยก็ขอตะเกียกตะกายให้สุดฝีมือเสียก่อน!

สาม. สอง. หนึ่ง…

ไคลน์ลืมตาขึ้นพร้อมกับดีดนิ้ว

ณ มุมถนนใกล้เคียง เปลวเพลิงสีแดงส้มพลันลุกไหม้กิ่งไม้แห้งบนซากต้นไม้ ยอดเปลวเพลิงพุ่งสูงขึ้นไปยังบนท้องฟ้า

พร้อมกันนั้น ก้านไม้ขีดไฟซึ่งไคลน์กระจายไว้ตามช่องกระเป๋าลับ เกิดลุกไหม้และครอกร่างบุรุษสวมเสื้อโค้ทสีดำ

บุคคลในรถม้าเลือนหายไป ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งริมถนนในละแวกใกล้เคียง

เป๊าะ! เป๊าะ! เป๊าะ!

ชายหนุ่มรัวดีดมือซ้ายไม่หยุดพัก ส่งตัวเองทะลุเข้าไปในแนวป่าซึ่งมีแต่ซากต้นไม้แห้งสุดลูกหูลูกตา ไคลน์ ‘โดยสาร’ เปลวเพลิงหลายระลอกและส่งตัวเองเข้าไปในป่าลึก จนกระทั่งแทบมองไม่เห็นจากริมถนน

ทันใดนั้น มันรีบหยุดทุกการกระทำและล้วงหยิบเครื่องประดับออกจากลำคอ

แน่นอน ไคลน์อยู่ก่อนแล้วว่า การเข้ามาพัวพันกับ 0-08 ย่อมเต็มไปด้วยอันตรายเสมอ ดังนั้น มันจึงเตรียมพร้อมค่อนข้างดีก่อนจะเดินทางมายังคฤหาสน์กุหลาบแดง

สิ่งนี้คือกฎเหล็กของนักมายากล ห้ามขึ้นแสดงโดยไม่เตรียมความพร้อมล่วงหน้า

สมบัติวิเศษถูกพกติดตัวมาบางส่วน ก้านไม้ขีดไฟถูกแบ่งเก็บไว้ในกระเป๋าลับรอบโค้ท

จากบรรดาสมบัติวิเศษทั้งหมดในปัจจุบันของชายหนุ่ม ขวดพิษชีวภาพและเข็มกลัดสุริยันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคาพิน ไคลน์จึงนำพวกมันเก็บไว้ในมิติเหนือสายหมอกโดยไม่มัวคิดให้เสียเวลา ในกรณีดวงตาดำล้วนของนักเชิดหุ่น โรซาโก้ สิ่งนี้คงไม่ผ่านด่านตรวจของทหารองครักษ์เสื้อแดงเช่นกัน จึงถูกโยนไว้บนมิติเหนือสายหมอกในสภาพไม่ต่าง

ลงเอยด้วย นอกจากกระสุนพิเศษทั้งสามชนิดอันประกอบด้วย กระสุนปราบมาร กระสุนปัดเป่า และกระสุนชำระล้าง ไคลน์พกพาสมบัติวิเศษติดตัวเพียงสองชิ้น

ชิ้นแรก มาสเตอร์คีย์ กุญแจซึ่งช่วยให้ทะลุกำแพงบ้านได้ตามใจ ไขกลอนส่งเดชได้ทุกบานประตู และเหนือสิ่งอื่นใด หน้าตาของมันแสนธรรมดาจนยากจะพบความผิดปรกติ

อีกหนึ่งชิ้นคือ อุปกรณ์หลักสำหรับเตรียมตัวเผชิญหายนะ ‘นกหวีดทองแดงอะซิก’

สรุปโดยสั้น หากเลี่ยงเผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งไม่ได้ ทางเลือกฉลาดคือการขอความช่วยเหลือจากบุคคลแข็งแกร่งกว่า!

…เมื่อเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ ไม่สนว่าเราจะรู้จักทริสซี่มาก่อนหรือไม่ แต่ตอนนี้คงตกอยู่ในรายชื่อจับตายของ 0-08 เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น การขอให้มิสเตอร์อะซิกช่วยจึงไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลง… แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า เวทีปัจจุบันกำลังถูกกำกับโดย 0-08…

ไคลน์หยิบนกหวีดโบราณเย็นเฉียบขึ้นมาใส่ปากและเป่าสุดแรง

ไม่มีสุ้มเสียงใดเกิดขึ้น แต่เนตรวิญญาณชายหนุ่มเริ่มมองเห็นกองกระดูกสีขาวกำลังปะทุออกมาจากพื้นในลักษณะคล้ายน้ำพุ ผู้ส่งสารก้มมองไคลน์ด้วยเบ้าตาไฟทมิฬลุกโชน

ร่างกายอันใหญ่โตของอีกฝ่ายทำให้ไคลน์ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มรีบหยิบปากกาและกระดาษซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้า เขียนข้อความลงไปว่า :

“ช่วยด้วย!”

ถัดมา มันรีบพับและยัดใส่มือของผู้ส่งสาร

หลังจากผู้ส่งสารหายไป ไคลน์รีบเก็บนกหวีดทองแดง และเปลี่ยนไปทำท่าสวดวิงวอนพลางเอ่ยนามเต็มของเดอะฟูล

ต่อด้วย

“….ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ การสืบสวนของผมได้ผลลัพธ์แล้ว หญิงสาวสามัญชนซึ่งองค์ชายเอ็ดซัคตกหลุมรัก ความจริงแล้วคือแม่มดทริสซีแห่งนิกายแม่มด เธออยู่ในลำดับแม่มดสุขสม ขณะเดียวกันก็ยังถูกเรียกขานจากอาวุโสของนิกายว่า… ทริสซี่·ชีค”

หลังจาก ‘รายงาน’ เสร็จ ไคลน์ไม่มัวเสียเวลาปกปิดตัวตนหรือฉากรอบตัว เพียงเดินถอยหลังทวนเข็มสี่ก้าว ส่งตัวเองขึ้นไปบนวังคนยักษ์โบราณ

มันทำการโยนคำวิงวอนของตัวเองเข้าไปในดาวแดงตัวแทนจัสติส และเสริมถ้อยคำเหยียดหยันตามประสาเดอะฟูล

“ชีคหรือ… หึหึ… นั่นคือนามจริงของแม่มดบรรพกาล”

เมื่อจัดการเสร็จ ไคลน์รีบกลับโลกจริงและเตรียมเผ่นหนีสุดชีวิต

แต่ผ่านไปได้สองก้าว ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าแหงนมองขึ้นไปมองบนท้องฟ้าตามสัญชาตญาณ

มันได้พบกับห่าฝนอุกกาบาตหลายสิบลูก แต่ละลูกมีเปลวเพลิงร้อนแรงลุกท่วม กำลังพุ่งแหวกผ่านชั้นบรรยากาศลงมายังผืนป่าแห้งเบื้องล่าง!

เชี่ย…!

ในวินาทีนี้ แสงสีแดงอมส้มอันเจิดจ้ากำลังฉายให้เห็นเต็มสองตาชายหนุ่ม พวกมันมอบความรู้สึกสิ้นหวังเหนือพรรณนา

ไคลน์ไม่เคยคิดมาก่อนว่า อีกฝ่ายจะส่งอุกกาบาตจากนอกโลกลงมาปิดปากตน!

บนหน้ากระดาษของสมุดสีเหลือง ปากกาขนนกแสนธรรมดากำลังขีดเขียน :

“ด้วยเหตุผลบางประการซึ่งมิอาจหาคำอธิบายได้ กลุ่มฝนอุกกาบาตดัลลัสก์ได้ตกใส่โลกเร็วกว่ากำหนดการถึงสองวัน ฝนอุกกาบาตบางส่วนบังเอิญตกใส่ผืนป่าซึ่งนักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้กำลังหลบซ่อนอยู่ ใช่แล้ว… บังเอิญ!”

บ่ายวันอังคาร ห้องอ่านหนังสือออเดรย์

เด็กสาวน่ารักน่าชัง ผู้ใกล้จะกลายเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่วัน กำลังตั้งใจฟังคำบรรยายจากมาดามเอสลันด์แห่งสมาคมแปรจิต หัวข้อการศึกษาเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโอสถผู้ชมและนักอ่านใจ ข้างปลายเท้าออเดรย์มีซูซี่กำลังหมอบฟังอย่างตั้งใจ

ทันใดนั้น วิวทิวทัศน์รอบตัวเด็กสาวพลันแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งหมอกสีเทา ตามด้วยฉากการสวดวิงวอนของชายคนหนึ่งภายในป่าแห้ง

เสียงของรายละเอียดดังตามหลังมาติดๆ

องค์ชายเอ็ดซัค… นิกายแม่มด… แม่มดทริสซี… แม่มดสุขสม… ทริสซี่·ชีค…

ออเดรย์กรองเฉพาะคำสำคัญและจับประเด็นของสาร

อย่างนี้นี่เอง! องค์ชายเอ็ดซัคตกหลุมรักแม่มด… ถ้าเราจำไม่ผิด แม่มดส่วนใหญ่เคยเป็นชายมาก่อน…

ออเดรย์ นี่ไม่ใช่เวลามัวยืนขำ! หายนะร้ายแรงของกรุงเบ็คลันด์กำลังจะเกิดขึ้นโดยมีเรื่องนี้เป็นจุดศูนย์กลาง? ไม่ได้การ เราต้องรีบแจ้งให้ท่านพ่อทราบ…

แต่จะอ้างเหตุผลใด…

เด็กสาวพยายามปั้นหน้าเรียบเฉยขณะรับฟังการแจ้งข่าว

ทันใดนั้น มิสเตอร์ฟูลบนเก้าอี้มุมโต๊ะทองแดงยาว พลันกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเจือความดูแคลน

“ชีคหรือ… หึหึ… นั่นคือนามจริงของแม่มดบรรพกาล…”

นามจริงของแม่มดบรรพกาล…

แม่มดบรรพกาล!

สมองเด็กสาวเกิดปั่นป่วนกะทันหัน เธอมิอาจสวมสีหน้าเรียบเฉยได้อีกต่อไป

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ” ในฐานะนักอ่านใจอาวุโส เอสลันด์ตรวจพบความผิดปรกติทางภาษากายของออเดรย์ในทันที

เด็กสาวแสร้งครุ่นคิดด้วยสีหน้ากังวลอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะสร้างข้ออ้างแก้ต่าง

“มิสเอสลันด์ ดิฉันเพิ่งนึกเรื่องด่วนขึ้นได้ เคยคิดจะแจ้งให้ท่านพอทราบมาสักระยะแล้ว แต่ก็ลืมตลอด เรื่องนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงตามมาเป็นวงกว้าง”

ตัวอย่างเช่น กรุงเบ็คลันด์จะถูกทำลายจนเสียหายสถานหนัก บรรดาขุนนาง ชนชั้นกลาง หรือชนชั้นล่าง จะมีผู้รอดชีวิตรวมกันเพียงหยิบมือเดียว…

ออเดรย์เสริมในใจพลางเม้มปาก ความกังวลของเธอมิอาจถูกเก็บซ่อนภายใต้ดวงตาสีเขียวมรกตระยิบระยับ

เอสลันด์ขมวดคิ้ว

“แจ้งตอนนี้ยังทันไหมคะ”

“ค่ะ! ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย คุณช่วยรอตรงนี้สักพัก… ไม่สิ คงต้องรบกวนให้คุณกลับไปก่อนค่ะ มิสเอสลันด์”

ออเดรย์เข้าสู่ภาวะผู้ชมและเริ่มตัดสินใจอย่างเยือกเย็น

เด็กสาวลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องอ่านหนังสือ

ท่านพ่อไปสภาขุนนาง… มีเพียงท่านแม่ยังอยู่บ้าน… แต่เราจะเกริ่นอย่างไร…

ออเดรย์ขมวดคิ้ว ฝีเท้ามิได้เบาลงหรือเร่งให้เร็วขึ้น ข้างกายยังมีสาวใช้ส่วนตัวและสุนัขขนทองตัวใหญ่เดินตามไม่ห่าง

เพียงไม่นาน เด็กสาวนึกถึงวิธีน่าสนใจได้ จึงตัดรีบตัดสินใจอย่างฉับไว

ออเดรย์สูดลมหายใจยาว บ่าสองข้างเริ่มหนักอึ้งคล้ายกับถูกบางสิ่งกดลง

เธอเดินเข้าไปเคาะประตูโดยไม่ลังเล

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset