Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 441 : ขยาย “ช่องทาง”

ราชันเร้นลับ 441 : ขยาย “ช่องทาง”

ชีค…? แม้แต่แม่มดบรรพกาลก็เคยเป็นผู้ชายมาก่อน?

ไคลน์เกือบลืมตัวและยกมือขึ้นมาเท้าคาง

มันเคยตั้งสมมติฐานไว้ว่า การเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงในลำดับ 7 ของเส้นทางนักลอบสังหาร อาจได้รับอิทธิพลมาจากแม่มดบรรพกาลโดยตรง จึงค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้ทราบจากไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ว่า แม้แต่แม่มดบรรพกาลเองก็เคยเป็นเพศชายมาก่อน

ความจริงข้อนี้ทำให้ไคลน์เห็นภาพชัดเจนในสองประเด็น หนึ่ง แม่มดบรรพกาลมิได้เกิดเป็นเทพเลยในตอนแรก แต่ใช้วิธีดื่มโอสถและไต่ลำดับพลังจนกระทั่งได้เป็นลำดับ 0 สอง การเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงเกิดจากอิทธิพลของตะกอนพลังเพียงอย่างเดียว

และเมื่อนำกฎความถาวรของพลังพิเศษมาวิเคราะห์ โรซายล์เคยสันนิษฐานไว้ในไดอารีว่า ตะกอนพลังทั้งหมดบนโลกเกิดจากการแบ่งภาคของพระผู้สร้างต้นกำเนิด ส่งผลให้ไม่มีทางเพิ่มจำนวนได้ด้วยประการทั้งปวง และจะไม่มีวันสลายไปเช่นกัน… สมมติว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง สิ่งนี้จะหมายความว่า พระผู้สร้างต้นกำเนิดได้รวมทุกเพศไว้ในร่างเดียว ไม่ว่าจะชาย หญิง หรือไร้เพศ…

และตะกอนพลังของเส้นทางแม่มดแบ่งภาคมาจากส่วนของเพศหญิง? แต่ยังไม่ควรด่วนสรุป หนังสือโบราณอาจเป็นของปลอมได้เช่นกัน…

ข้อมูลไดอารีคราวนี้มีมูลค่ามากทีเดียว…

ไคลน์เสกแผ่นกระดาษให้หายไปจากฝ่ามือพลางวิเคราะห์ข้อมูลในสมอง

“เชิญ” ชายหนุ่มยิ้มและไล่จ้องหน้าทีละคนตั้งแต่จัสติส เดอะซัน แฮงแมน เดอะเวิร์ล และเมจิกเชี่ยน

อัลเจอร์รีบหันขวับไปหาเดอะเวิร์ล

“ตะกอนพลังมนุษย์หมาป่าถูกขายให้กับช่างทำสมบัติวิเศษด้วยราคาหนึ่งพันสองร้อยปอนด์ จากข้อตกลงของพวกเรา ผมจะได้ส่วนแบ่งสองร้อยปอนด์ แล้วก็ ผมหาเส้นผมของนากาทะเลลึกให้คุณได้แล้ว เส้นละหนึ่งร้อยปอนด์ มีเพียงพอจำนวนห้าเส้นตามความต้องการของคุณแน่นอน หากพึงพอใจกับข้อเสนอ ผมจะรีบส่งของให้โดยเร็ว”

ไคลน์ยินดีเสนอส่วนแบ่งการขายสูงถึงสองร้อยปอนด์ให้แฮงแมนเพราะทราบดีว่า เขาต้องเผชิญอันตรายพอสมควรในการหาลูกค้า คงผ่านร้อนผ่านหนาวในเหตุการณ์ยากลำบากยิ่งกว่าแวมไพร์เอ็มลินหลายเท่า

เมื่อฟังจบถึงจุดนี้ ชายหนุ่มหันไปบังคับเดอะเวิร์ลพูด

“ไม่มีปัญหา ขอเพียงคุณรีบส่งเส้นผมนากาทะเลลึกห้าเส้นและเงินอีกห้าร้อยปอนด์มาหาผมโดยเร็ว”

ปัจจุบัน เราขาดเพียงตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์ โดยยังมีเงินสดติดตัวอีกราว 1,235 ปอนด์ แน่นอน เท่านี้ไม่เพียงพอจะหาซื้อวัตถุดิบหลักของผู้วิเศษลำดับ 6 ได้อยู่ดี…

หมายความว่า ถ้าเราอดทนรอให้จิตแห่งจักรกลสำรวจสุสานของอามุนด์ไม่ได้ ก็คงต้องหาเงินเพิ่มอีกราวห้าร้อยถึงหนึ่งพันปอนด์ จึงจะเพียงพอสำหรับหาซื้อวัตถุดิบหลักราคาแสนแพง…

ไคลน์ไตร่ตรองว่าตนสามารถนำวัตถุหรือความรู้ประเภทใดมาทำเงินได้บ้าง

แน่นอน ต้องขายให้ลูกค้าผู้มีกำลังซื้อมากพอและเป็นเงินสดเท่านั้น

หลังจากได้ยินทั้งสองเสร็จสิ้นการค้าขาย ออเดรย์ยกมือขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวโดยไม่ปิดบัง

“ดิฉันต้องการซื้อวัตถุดิบจำนวนสามชนิด ประกอบด้วยดวงตามังกรกระจกหนึ่งคู่ เลือดของมันจำนวนห้าสิบมิลลิลิตร และผลของต้นคนชรา”

มิสจัสติสพบสูตรโอสถนักจิตบำบัดแล้ว… ไคลน์คาดเดาได้ทันที และทางด้านแฮงแมนก็มีความคิดแบบเดียวกัน

“…ดิฉันจะช่วยถามอาจารย์ให้”

ฟอร์สมอบคำตอบ

เดอร์ริคพยักหน้ารับ

“ผมเองก็จะช่วยหาอีกแรง มังกรกระจกกัดกร่อนถูกพบตัวได้ไม่ยากนัก เช่นเดียวกันกับต้นคนชรา… เอ่อแล้วก็ เมืองเงินพิสุทธิ์มีตะกอนพลังของนักจิตวิเคราะห์ถูกเก็บไว้ในหอคอย แต่การซื้อขายทำได้ค่อนข้างลำบาก ต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนได้รับอนุญาต”

นักจิตวิเคราะห์คือชื่อโบราณของนักจิตบำบัด

เมื่อห้องเริ่มเงียบ ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลเปล่งเสียงแหบพร่าอันเป็นเอกลักษณ์

“ผมจะช่วยมองหาจากชุมนุมอื่น ขณะเดียวกันอย่าลืมช่วยมองมาตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์ให้ผมด้วย”

“ตกลงค่ะ” จากนั้น ออเดรย์หันมาจ้องบุรุษบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้ามั่นใจ

“มิสเตอร์แฮงแมน ดิฉันก็จะช่วยตามหาสูตรโอสถผู้รับใช้วายุให้คุณด้วยเช่นกัน”

ปัจจุบัน เด็กสาวได้กลายเป็นสมาชิกสมาคมแปรจิตเต็มตัว ในฐานะองค์กรลับอายุเก่าแก่ พวกมันย่อมไม่บกพร่องในด้านวัตถุดิบหรือสูตรโอสถลำดับต่ำกว่าครึ่งเทพ ออเดรย์จึงมีสิทธิ์ร้องขอสิ่งเหล่านั้นได้โดยต้องจ่ายในราคาสมน้ำสมเนื้อ

ฟอร์สทวนคำเดิม

“ดิฉันจะช่วยถามอาจารย์ให้”

ไคลน์เกิดความอิ่มเอมใจเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เพราะหลังจากผ่านความทุลักทุเลมานานหลายเดือน ชุมนุมทาโรต์ก็เริ่มกลายเป็นองค์กรรากฐานมั่นคงสักที มีช่องทางรวบรวมข้อมูลและสิ่งของสำคัญจากสองแหล่ง หนึ่งคือสมาคมแปรจิต และอีกหนึ่งคือตระกูลอับราฮัม การพัฒนาในอนาคตจะต้องก้าวกระโดดอย่างมากแน่

เดอะเวิร์ลหัวเราะ

“คำตอบของคุณทำให้ผมมีความหวัง แต่อย่าได้ลืมความปลอดภัยของตัวเองเด็ดขาด พยายามทำตัวไม่เป็นจุดเด่นเข้าไว้ จะได้ไม่ถูกผู้ใดสงสัยเคลือบแคลง”

“มิสเตอร์เวิร์ล กำลังอารมณ์ดีหรือ ถึงได้พูดเยอะเป็นพิเศษ” ออเดรย์ยิ้ม

…เราตื่นเต้นมากไป จนลืมว่าเดอะเวิร์ลมีอุปนิสัยเย็นชา… ไคลน์หวังแก้สถานการณ์โดยการบังคับให้เดอะเวิร์ลยิ้มแห้ง

“ชีวิตของทุกคนประเมินค่าเป็นราคามิได้ ผมต้องการให้ชุมนุมแห่งนี้เป็นจุดแลกเปลี่ยนและค้าขายไปอีกแสนนาน ไม่ใช่จากไปทีละคนสองคน และนั่นคือสาเหตุของคำเตือน”

“ขอบคุณค่ะ” ออเดรย์กล่าวจากใจจริง

เดอร์ริคลังเลสักพัก

“ผมเองก็จะช่วยหาด้วย แต่ในช่วงหลัง ผมถูกจัดสรรให้ทำภารกิจลาดตระเวนทั่วไป จึงไม่ค่อยได้พบสิ่งน่าสนใจมากนัก”

ไม่เลว… ไคลน์รำพันพร้อมกับปิดปากเดอะเวิร์ลสนิท

เมื่อบรรยากาศเริ่มกลับมาเงียบ อัลเจอร์มองตรงไปข้างหน้าและซักถามกับจัสติส

“ผมต้องการทราบรายละเอียดของคดีลอบสังหารดยุคนีแกน คุณต้องการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งใด?”

แล้วทำไมถึงมาถามฉัน? ในฐานะคนของโบสถ์วายุสลาตัน แค่ไปดูรายงานการสืบสวนก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?

ออเดรย์ทำหน้าประหลาดใจในตอนแรก ก่อนจะเริ่มเข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย

เขาคงอยากถามว่าองค์กรลับใดอยู่เบื้องหลังผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย แต่การถามมิสเตอร์ฟูลโดยตรงนั้นเป็นเรื่องเสียมารยาท จึงชิงเปิดประเด็นกับเราด้วยคำถามหยั่งเชิง จากนั้นค่อยเบี่ยงเบนคำถามไปยังเป้าหมายในตอนแรก… ทุกคนทราบดีว่าเราคือบุตรสาวของตระกูลขุนนางใหญ่ ย่อมต้องมีข้อมูลตื้นลึกหนาบางของคดีอยู่บ้างแน่… มิสเตอร์แฮงแมนเจ้าเล่ห์จนน่ากลัว…

ออเดรย์กล่าวด้วยมุมปากยกโค้ง

“ไม่จำเป็นต้องตอบแทน นี่เป็นจุดประสงค์ของชุมนุมทาโรต์อยู่แล้วไม่ใช่หรือ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสำคัญจากถิ่นอาศัยของแต่ละคนโดยไม่คิดเงิน”

ถ้าทำแบบนั้น ชุมนุมทาโรต์ของเราจะยิ่งพัฒนาไปได้ไว!

“ถ้อยคำของคุณทำให้ผมละอายใจ” อัลเจอร์ชะงักเล็กน้อยก่อนจะนำฝ่ามือวางลงบนหน้าอกและคำนับพอเป็นพิธี

“…”

ไคลน์ เดอะฟูลผู้ถูกม่านหมอกหนาทึบปกคลุมจนแทบมองไม่เห็น เพียงส่งรอยยิ้มให้ทุกคนอย่างเงียบงันเช่นกัน

ออเดรย์เม้มปากและเรียบเรียงคำพูดในสมอง ก่อนจะเริ่มเล่ารายละเอียดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

“ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายใช้วิธีการพิเศษลอบสังหารดยุคนีแกนจนสำเร็จ หลังจากนั้นยังหนีรอดออกจากจุดเกิดเหตุได้ด้วยพลังกระตุ้นอารมณ์ แต่ต้องแลกมากับอาการบาดเจ็บสาหัส จึงหลบหลบเลี่ยงการจับกุมอย่างชำนาญและหนีลงไปในทางระบายน้ำ เมื่อเหยี่ยวราตรีตามไปพบ ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายก็เสียชีวิตอยู่ก่อนแล้ว มีรายงานว่าจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดกำลังยืนอยู่ข้างศพคนร้ายในเวลาดังกล่าว แต่เป้าหมายของเขามิใช่การฆ่าปิดปาก หากแต่เป็นการสืบหาเบาะแสของผู้บงการตัวจริงเบื้องหลังผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย”

แล้วสรุปว่าเป็นองค์กรใด?

ขณะแฮงแมนทวีความอยากรู้อยากเห็นจนยากจะห้ามใจ ไคลน์ ผู้กำลังชมเชยในความยอดเยี่ยมของจัสติส พลันหันไปมองเด็กสาวและกล่าวตักเตือนโดยไม่เจาะจง

“ห้ามเอ่ยนามหรือเขียนชื่อขององค์กรดังกล่าวบนโลกความจริงโดยเด็ดขาด”

“ทำไมหรือคะ?” ออเดรย์โพล่งถาม

ไคลน์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้และตอบกลับด้วยเสียงนุ่มละมุน

“การระบุถึงอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเขียนหรือพูด ล้วนทำให้พวกเขาตระหนักถึง”

การระบุถึงอีกฝ่าย ล้วนทำให้พวกเขาตระหนักถึง…! ออเดรย์เงยหน้ามองเดอะฟูลโดยไม่รู้ตัว เธอสัมผัสได้ว่าสุภาพบุรุษหลังม่านหมอกพยายามย้ำเตือนตนด้วยความหวังดี

มิสเตอร์ฟูลกำลังจะสื่อว่า หากไม่ใช่อาณาจักรของท่าน หรือไม่ใช่การสนทนาผ่านวิธีพิเศษของท่าน อีกฝ่ายจะทราบทันทีว่ามีการเอ่ยชื่อของสภานักสิทธิ์สนธยาบนโลกความจริง…? อาจเป็นได้ทั้งพลังพิเศษของใครบางคน หรือไม่ก็พลังจากสมบัติปิดผนึก…

ช่างเป็นองค์กรลึกลับอะไรเช่นนี้! หากมองผิวเผินจะน่ากลัวยิ่งกว่าบรรดาเจ็ดโบสถ์หลักเสียอีก… และท่านเดอะฟูลแห่งชุมนุมทาโรต์ของเราก็กำลังไล่ล่าพวกมัน!

ออเดรย์พลันรู้สึกกระจ่างในหลายด้าน เธอเอนหลังตั้งตรงและขานรับอย่างขึงขัง

“ทราบแล้วค่ะ”

ทุกการระบุถึงจะทำให้อีกฝ่ายตระหนักได้… องค์กรลับอันไม่มีวันถูกเอ่ยชื่อถึงบนโลกภายนอก? แถมเรายังไม่รู้จัก? พวกมันคอยสนับสนุนผู้ปลดปล่อยแรงกระหายมาตั้งแต่แรก? หรือเป็นแค่ภารกิจจ้างฆ่าจากบุคคลภายนอก? โลกของผู้วิเศษระดับสูงช่างเต็มไปด้วยปริศนาและความซับซ้อนมากมาย…

อัลเจอร์พยักหน้ารับเล็กน้อยพลางเกิดความกระสับกระส่าย

ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งอยากรู้จักชื่อขององค์กรดังกล่าว! ต่อให้ต้องจ่ายเงินแลกเปลี่ยนก็ยอม!

ทว่า หลังจากทบทวนตัวเองอย่างระมัดระวัง อัลเจอร์เริ่มมองว่าตนยังไม่จำเป็นต้องทราบข้อมูลดังกล่าวในตอนนี้ จริงอยู่ การมีข้อมูลไว้ย่อมดีกว่าไม่มี และอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวสร้างคุณประโยชน์ให้กับตนอย่างใหญ่หลวงในอนาคต แต่ตัวมันผู้ยังเป็นเพียงกัปตันเรือระดับกลางถึงล่างของโบสถ์วายุสลาตัน ย่อมไม่มีแหล่งข่าวมากพอจะสืบสวนหาเบาะแสเพิ่มเติมขององค์กรนั้น

อัลเจอร์ไม่มีทางเลือกนอกจากเพ่งสมาธิอยู่กับการตามหาสูตรโอสถผู้รับใช้วายุไปพร้อมกับเตรียมวัตถุดิบ

ไว้เลื่อนลำดับสำเร็จ เราค่อยหาโอกาสซักถามมิสเตอร์ฟูลในภายหลัง… อัลเจอร์พึมพำ

ฟอร์สเริ่มสับสนหลังจากได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ปลดปล่อยแรงกระหายหรือองค์กรลับซึ่งห้ามระบุชื่อ ข้อมูลทั้งหมดล้วนแตกต่างจากข่าวในหนังสือพิมพ์โดยสิ้นเชิง

นึกแล้วเชียว คดีลอบสังหารท่านดยุคเต็มไปด้วยปริศนาระดับสูง… น่าเสียดายว่าองค์กรลับดังกล่าวมิอาจถูกเอ่ยนามหรือเขียนถึงได้ ไม่อย่างนั้น เราคงนำไปแต่งเป็นผู้ร้ายในนิยายเรื่องใหม่แน่ แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว…

เฮ่อ แต่ในปัจจุบัน เรายังติดค้างไดอารีจักรพรรดิโรซายล์กับท่านจำนวนสิบหน้า แถมยังไม่ได้ซื้อถุงกระเพาะอาหารของผู้กลืนวิญญาณ จึงไม่ควรใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยแม้แต่เพนนีเดียว… ยิ่งไปกว่านั้น ลำพังความรู้ทั่วไปจากชุมนุมทาโรต์ก็มีมูลค่ามหาศาลกว่าชุมนุมลับของมิสเตอร์ A ราวสิบเท่าเห็นจะได้ ไม่สิ อาจมากกว่านั้นอีก!

ฟอร์สพยายามระงับนิสัยเสียของตน

ในส่วนของเดอร์ริค มันย่อมไม่ทราบอยู่แล้วว่าดยุคนีแกนเป็นใคร จึงไม่คิดแยแสคดีลอบสังหารแม้แต่น้อย

เด็กหนุ่มนั่งฟังทุกคนอย่างตั้งใจจนคล้ายกับเป็นนักเรียนประถมในคาบเรียนของเด็กมัธยมปลาย

เมื่อเรื่องราวเกี่ยวกับสภานักสิทธิ์สนธยาจบลง ฟอร์สมองไปรอบตัวและถามหยั่งเชิง

“มีใครในบรรดาพวกคุณรู้วิธีขจัดตะกอนพลังส่วนเกินออกจากร่างกายไหม?”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset