Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 425 : เบื้องล่างกุหลาบ

ราชันเร้นลับ 425 : เบื้องล่างกุหลาบ

ใต้หน้าต่างชั้นสอง เรือนกระจกสีเขียวกำลังส่องสะท้อนแสงแดดอ่อนจากท้องฟ้าด้านบน กุหลาบแดงจึงยิ่งโดดเด่นท่ามกลางบรรยากาศสลัวจากหมอกทึบ

ณ ห้องนอนใหญ่ คล้ายกับดยุคนีแกนหวนระลึกถึงความทรงจำในสมัยเด็ก เมื่อครั้งขณะติดตามบิดาและอาวุโสของตระกูลออกสำรวจดินแดน ฝึกหมาล่าเนื้อ และล่าสัตว์ป่าเป็นกิจกรรมยามว่าง

จนกระทั่งนีแกนถึงจุดสุดยอดในความใคร่ บรรยากาศรอบตัวพลันเงียบสงบจนผิดวิสัย

ทันใดนั้น สมองของมันเริ่มอื้ออึงมึนงง ความรู้สึก ‘สุขสม’ สุดขีดเข้าครอบงำทีละนิดในลักษณะระเบิดต่อกันเป็นทอดๆ อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากขีดจำกัด

สะโพกดยุคนีแกนยังคงขยับซอยไม่พัก ดวงตาเริ่มล่องลอยราวกับสติของมันขาวโพลนไปชั่วขณะ

หัวใจพาลัส·นีแกนกำลังเต้นระรัวอย่างผิดธรรมชาติ ประหนึ่งหม้อต้มน้ำเดือดปะทุจากแรงดันเกินขีดจำกัด พร้อมระเบิดในทุกวินาที

หากมันเป็นเพียงคนธรรมดา หรือผู้วิเศษระดับต่ำซึ่งมีร่างกายอ่อนแอ นีแกนคงประสบอาการหัวใจวายฉับพลัน หรือไม่ก็อาการเส้นเลือดในสมองแตกไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตาม มันสามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างฉิวเฉียด มีเพียงอาการดวงตาเหม่อลอย ฟองน้ำลายผุดจากมุมปาก ก่อนจะล้มเซไปทางร่างภรรยาลับบนเตียง

ทางด้านผู้รับใช้วายุและเลขาส่วนตัวดยุคซึ่งแยกกันเฝ้าห้องติดห้องนอนจากคนละฝั่ง พวกมันต่างสัมผัสถึงความผิดปรกติรอบตัวพาลัส·นีแกนได้ทันที เป็นกลิ่นอายของกระแสพลังวิญญาณอันไม่สอดคล้อง

ฝ่ายแรกห่อหุ้มร่างกายตัวเองด้วยสายลมเกรี้ยวกราด พุ่งทะลุกำแพงห้องนอนหลักจนเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่

ฝ่ายเลขาผมทองรีบมุ่งหน้าไปยังห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นต้นตอของความผิดปรกติทันที

ตลอดทาง มันไม่ต้องออกแรงหลบหลีก แต่สิ่งกิ่งขวางทั้งหมดล้วนเป็นใจ ช่วยขยับหลบให้อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับมีชีวิตชีวา

ขณะฝ่าเท้าเหยียบลงบนขั้นบันไดไม้ แผ่นไม้ช่วยงอตัวเพื่อส่งให้เลขาขึ้นไปถึงข้างบนได้รวดเร็ว

ภายในระยะเวลาแสนสั้นเพียงสามถึงสี่วินาที บุรุษมาดสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา เส้นผมสีทอง แต่หัวเถิกล้าน ได้ส่งตัวเองขึ้นมาถึงห้องใต้หลังคาและเผชิญหน้ากับใครบางคนบนเก้าอี้สภาพเก่าโทรม

ร่างดังกล่าวคล้ายกับถูกปกคลุมด้วยของเหลวเหนียวข้นสีดำสนิท เพียงจ้องมองก็มอบความรู้สึกคล้ายกับมวลอารมณ์ด้านลบทุกชนิดบนโลกกำลังรวมอยู่ในบุคคลเดียว

หากใครจิตใจไม่เข้มแข็ง อาจสติแตกจนถึงขั้นนำเชือกมาแขวนคอตายในทันที

อีกหนึ่งอารมณ์ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันคือความกระหาย กระหายไม่เว้นแม้แต่กับเผ่าพันธุ์หรือเพศเดียวกัน กระหายจะกิน กระหายจะร่วมเพศอย่างปราศจากสุดสิ้นสุด

นี่คืออำนาจอันน่าสะพรึงของปีศาจ!

สีหน้าแววตาของเลขารูปร่างผอมบางยังคงไม่เปลี่ยน ไม่แม้แต่จะโจมตีเข้าไป เพียงใช้มือปิดประตูไม้ด้านหลังอย่างใจเย็น

ตึง!

ประตูไม้ของห้องใต้หลังคาปิดสนิท

ทันใดนั้น บรรยากาศรอบห้องเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คล้ายกับห้วงมิติภายในถูกผนึกโดยสมบูรณ์ และจะไม่มีใครได้ออกไปจนกว่าจะออกแรงทำลายผนึกดังกล่าว

ในวินาทีนี้ การ ‘ปิดประตูเพื่อผนึกห้อง’ ได้เปลี่ยนใหม่กลายเป็นการ ‘ปิดประตูเพื่อตัดขาดมิติด้านในออกจากโลกภายนอก’

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเริ่มเป็นฝ่ายเคลื่อนไหว ร่างกายของมันขยายขนาดพร้อมกับการงอกเงยของปีกค้างคาวสีดำขนาดใหญ่จากแผ่นหลัง เปลวเพลิงสีฟ้าจำนวนมากกำลังลุกโชนจากความว่างเปล่ารอบตัว

เพียงพริบตา เปลวเพลิงวูบวาบพลันควบแน่นกลายเป็นลูกบอลไฟเจือกลิ่นกำมะถันเข้มข้น ต่อด้วยการกระหน่ำยิงใส่เลขามาดสง่างามทีละนัดสองนัด

โดยไม่รีรอ เลขารีบเหยียดมือซ้ายซึ่งสวมถุงมือสีขาวออกไปข้างหน้า กำหมัดแน่น และบิดข้อมือในลักษณะครึ่งวงกลม

บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!

ช่างน่าประหลาด ลูกบอลไฟกลับมิได้พุ่งตรงไปข้างหน้าตามวิถีตามธรรมชาติ พวกมันพุ่งกระจายไปคนละทิศทางอย่างบ้าคลั่งสับสน ลักษณะคล้ายกับทฤษฎีของนักพฤกษศาสตร์ซึ่งกล่าวถึงการวิถีเคลื่อนตัวแบบสุ่มของอนุภาคขนาดเล็ก

ลูกบอลไฟกระจัดกระจายอย่างโกลาหล บางส่วนกระแทกผนัง บางส่วนกระแทกเพดาน บางส่วนตกลงด้านหน้าเลขาท่าทางอ่อนแอ และบางส่วนกระเด็นไปทางตัวผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเสียเอง

ห้องใต้หลังคาพลันตกอยู่ในสภาพพินาศย่อยยับ ร่องรอยความเสียหายและคราบไหม้เกรียมปรากฏทุกซอกมุมโดยไม่เว้น ตัวอาคารบ้านพักโยกคลอนแผ่วเบาสองถึงสามหน

อย่างไรก็ตาม พลังพิเศษซึ่งกำลัง ‘ผนึก’ ห้องใต้หลังคาเอาไว้ หรือพูดให้ถูกคือ ‘กฎ’ ซึ่งบังคับให้เกิดผลในลักษณะดังกล่าว ยังคงไม่ถูกทำลายไป

ผนังรอบห้อง บานประตูไม้เก่าโทรม รวมถึงหลังคาขึ้นสนิม ทั้งหมดปรากฏร่องรอยการ ‘เกือบ’ ถูกทำลายอย่างชัดเจน เพียงแต่สภาพโครงสร้างยังสามารถก่อตัวเป็นรูปทรงเดิมได้อย่างน่าอัศจรรย์

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายมิได้ออกอาการหงุดหงิดเมื่อการโจมตีแรกล้มเหลว รวมถึงไม่ตื่นตระหนกในเรื่อง—ตนไม่สามารถกระตุ้นให้เป้าหมายเกิดความบ้าคลั่งได้

ขณะภาพของเลขาผมทองกำลังสะท้อนบนกระจกตา ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายยังคงแสดงสีหน้าสุขุมเยือกเย็นเช่นเคย ดวงตาสีน้ำตาลของเพียงลุกโชนคล้ายลาวาเดือด

ทันใดนั้น ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายแผดเสียงคำรามเป็นภาษาปีศาจ อัดแน่นด้วยความชั่วร้ายและกัดกร่อนจิตใจรุนแรง :

“ตาย!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน ดวงตาใต้แว่นตากรอบทองของเลขาหนุ่มหล่อเริ่มสั่นเทา มันรีบคลายกำปั้นมือซ้ายพร้อมกับเล็งฝ่ามือไปทางผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย

เพียงพริบตา ร่างของเลขาพลันมีร่างของอีกหนึ่งบุคคลซ้อนทับในลักษณะภาพมายา ราวกับเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นบุคคลสองบุคลิก โดยร่างหนึ่งยังคงเป็นเลขารูปร่างผอมเพรียวมาดสง่างามคนเดิม ส่วนอีกร่างคือของเหลวเหนียวข้นสีดำสนิท

ทั้งสองร่างสลับกันปรากฏตัวเป็นระยะ

“ตาย!” เมื่อร่างของเลขากลายเป็นของเหลวสีดำ มันเปล่งถ้อยคำปีศาจกลับไปในลักษณะเดียวกับอีกฝ่าย ตามด้วยการเสียหลักเซถอยหลังกลับมาเล็กน้อย

เมื่อสิ้นเสียง ร่างแยกสีดำพลันเลือนหาย ใบหน้าของเลขาผมทองเริ่มมีคราบสนิมสีแดงปกคลุมบางส่วน ราวกับมันคือมนุษย์โลหะผู้อาศัยในสภาพแวดล้อมเปียกชื้นเป็นเวลานาน

แค่ก! แค่ก! แค่ก!

เลขาหนุ่มหล่อไอแห้งเสียงดัง ก่อนจะอาเจียนก้อนเลือดข้นสีสนิมออกมาคำใหญ่

เพียงพริบตา คราบสนิมบนใบหน้าเริ่มหลุดลอกออกเป็นแผ่น

แค่ก! แค่ก! แค่ก!

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเริ่มอาเจียนด้วยอาการเดียวกัน และออกมาเป็นก้อนเลือดข้นสีสนิมเหมือนกันทุกประการ ทว่า ของเหลวสีดำแฝงอารมณ์ด้านลบซึ่งปกคลุมรอบตัวมันเริ่มลดจำนวนลง

คล้ายกับภาษากัดกร่อนของปีศาจได้ถูกบรรเทาลงครึ่งหนึ่งและสะท้อนกลับหาตัวผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเสียเอง!

ณ ห้องนอนใหญ่

ผู้รับใช้วายุรีบพุ่งเข้าไปพยุงดยุคนีแกนพร้อมกับใช้เท้าถีบภรรยาลับกระเด็นไปกระแทกผนังห้อง ภายในใจกำลังระแวงว่าเธออาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

เหตุผลให้ผู้รับใช้วายุไม่ขึ้นไปช่วยเลขา เพราะงานหลักของมันคือการดูแลความปลอดภัยของดยุคนีแกน แถมสถานการณ์ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีผู้โจมตีรายอื่นอีกหรือไม่

มาถึงตรงนี้ พาลัส·นีแกนเริ่มได้สติ ด้วยร่างกายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป มันรอดจากแรงกระตุ้นอันเข้มข้นได้อย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม แขนขายังคงปราศจากเรี่ยวแรง สมองขาวโพลน สติเลือนรางและไม่คมชัด ไม่สามารถเค้นพลังพิเศษออกมาใช้งานได้ คงเป็นเช่นนี้ไปอีกหลายนาที

นีแกนทำท่าทางเป็นเชิงบอกให้ผู้รับใช้วายุปลดสร้อยหอยสังข์จากลำคอ พร้อมกับเลื่อนขึ้นมาจ่อริมฝีปากของตน

พาลัส·นีแกนสูดลมหายใจยาว ตามด้วยการออกแรงเป่าสังข์สลักลวดลายพิเศษ

ซ่า!

เสียงของคลื่นทะเลดังขึ้น คล้ายกับมีคลื่นล่องหนพุ่งไปยังทิศทางของมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์

“ด้วยความเร็วของเจ้าคุณท่าน อีกไม่นานก็คงมาถึงแล้ว” ผู้รับใช้วายุรีบกล่าวเพื่อให้พาลัส·นีแกนคลายความกังวล ก่อนจะทำการแบกดยุคคนสำคัญของอาณาจักรขึ้นหลังและกระโดดลงไปยังชั้นล่างผ่านทางหน้าต่าง

ณ ด้านล่าง นีแกนกับผู้รับใช้วายุได้พบกับองครักษ์กลุ่มหนึ่ง พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นผู้วิเศษลำดับต่ำ

พาลัส·นีแกนหายใจหอบ

“ต้องจับมันให้ได้…ต้องจับเป็น! หรืออย่างน้อยก็เหลือร่างวิญญาณไว้…ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร!”

นีแกนเคยถูกลอบสังหารด้วยฝีมือพลเรือโทโจรสลัดคีลิงเกอร์มาแล้วหนหนึ่ง และจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าคนร้ายปริศนาในคราวนี้เป็นถึงผู้วิเศษลำดับ 5

นีแกนค่อนข้างมั่นใจว่าตนไม่เคยสร้างความบาดหมางรุนแรงกับใคร มันจึงเกิดความคับแค้นใจและเต็มไปด้วยคำถาม

มันต้องการทราบให้ได้ว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งจ้างวานฆ่า จากนั้นก็จะใช้พลังอำนาจของดยุคแห่งอาณาจักร สร้างความพินาศย่อยยับให้อีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานี!

แต่การจะทำเช่นนั้นได้ นีแกนต้องจับตัวนักลอบสังหารให้ได้เสียก่อน

ราวเจ็ดแปดวินาทีถัดมา องครักษ์ชั้นล่างทั้งหมดรีบกรูมารวมตัวกัน ณ ลานหญ้าเขียวขจีหน้าทางเข้าบ้านพัก โดยมีผู้รับใช้วายุคอยยืนปกป้องข้างกายนีแกนอย่างใกล้ชิด

“ทุกคนระวังตัวให้ดี ศัตรูอาจโจมตีเข้ามาได้ทุกเมื่อให้ดี” ผู้รับใช้วายุออกคำสั่ง

ภายใต้สถานการณ์ปรกติ งานหลักของมันคือการปกป้องและรีบพาตัวดยุคหนีไปให้ไกลจากนักลอบสังหาร เป้าหมายการหลบหนีคือมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน มันยังไม่มั่นใจว่าด้านนอกปลอดภัยจากการดักซุ่มโจมตี แถมยังจะคลาดกับความช่วยเหลือจากผู้ขับขานแห่งเทพ เอส·สเน็ก อีกด้วย หากเป็นเช่นนั้น สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

หนึ่งวินาที.

สองวินาที.

สามวินาที.

กระแสเวลาไหลผ่านอย่างเงียบงัน ชั้นบนของบ้านเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับเข้าใกล้จุดตัดสินเต็มที

“ทำไมท่านอาร์ชบิชอปถึงยังไม่มาสักที…” ดยุคนีแกนซักถามด้วยลมหายใจกระเส่า สีหน้าแสดงออกชัดเจนว่ากำลังกังวล

ด้วยความเร็วของเอส·สเน็ก ระยะจากมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์มาถึงบ้านพักหลังนี้จะใช้เวลาเพียงหนึ่งอึดใจเท่านั้น แต่บนท้องฟ้ากลับยังไม่มีการกระเพื่อมของหมอกหนาทึบในทิศทางจากมหาวิหาร

ยิ่งเวลาผ่านไป จิตใจมันยิ่งกระสับกระส่าย

ผู้รับใช้วายุกล่าวด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

“หรือว่า… หรือว่าท่านอาร์ชบิชอปจะ…”

มันไม่กล้าพูดออกไปว่า อาร์ชบิชอปอาจไม่ได้อยู่ในมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์ ณ ตอนนี้

ขณะเดียวกัน ภรรยาลับสาวสวยได้โผล่ศีรษะออกจากหน้าต่างห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง แววตาของเธอกำลังล่องลอย มุมปากเผยรอยยิ้มแสนสดใส

ถัดจากนั้น เธอทำการปืนกรอบหน้าต่างและกระโดดลงมาด้านล่างโดยจงใจใช้ศีรษะกระแทกพื้นคอนกรีต

โผละ!

เมื่อสิ้นเสียงน่าหวาดเสียว กะโหลกศีรษะของหญิงสาวแยกออกจากกันจนเกิดแผลเหวอะหวะ ของเหลวน่าสะอิดสะเอียนและเลือดสดเริ่มไหลซึมออกจากส่วนดังกล่าว

หญิงสาวกลิ้งไปบนพื้นราวสองสามตลบ ก่อนจะพยุงตัวยืนในลักษณะโงนเงน

ดวงตาของเธอยังคงปราศจากประกายความแวววาว รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งอันน่าขนลุก

ฉากดังกล่าวส่งผลให้เหล่าองครักษ์ลำดับต่ำของดยุคนีแกนเริ่มหวาดผวา

แม้แต่ตัวนีแกนเอง ในสภาพมิอาจใช้พลังพิเศษได้เช่นนี้ การยังไม่มาถึงของอาร์ชบิชอปสเน็กยิ่งทำให้จิตใจเกิดความหวาดหวั่น

“ท่าไม่ดีแล้ว… รีบหนีกันก่อน!” พาลัส·นีแกนเปล่งเสียงแหบพร่าเจือความหวาดกลัว

ขณะเดียวกัน ผู้รับใช้วายุกำลังภูมิใจในเรื่อง—ตัวมันเด็ดขาดพอจะถีบภรรยาลับให้กระเด็นไปติดผนัง ไม่อย่างนั้น ดยุคนีแกนคงถูกลอบสังหารไปนานแล้ว

ระหว่างกำลังเกิดความคิดข้างต้น คำสั่งเจือความหวาดผวาของพาลัส·นีแกน ได้ทำให้หัวใจผู้รับใช้วายุพลันหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

ภายในห้องใต้หลังคา ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดและใกล้ถึงจุดตัดสินระหว่างผู้ปลดปล่อยแรงกระหายและเลขาผมทอง ฝ่ายแรกเริ่มกลายสภาพเป็นของเหลวสีดำจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทุกซอกมุมห้อง จากนั้นก็กระเด้งตัวไปมาระหว่างผนัง พื้น และเพดานด้วยความเร็วสูง ถือเป็นวิธีหลบหลีกการโจมตีของเลขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จนกระทั่ง ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายเริ่มรวบรวมของเหลวกลับมาไว้ในจุดเดียว พร้อมกับก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์ในบริเวณมุมอับสายตาของเลขาหนุ่มหล่อ

มันจ้องมองเลขาด้วยสายตาเย็นชาพลางยกมือขวาขึ้นอย่างไม่รีบร้อน มุมปากเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย

“อย่า!” เมื่อหันกลับมาเห็น ดวงตาของเลขาพลันแดงก่ำ

โดยไม่รอช้า ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายพลันกำหมัดขวาแน่น ด้วยสีหน้าของผู้มีชัย

ในเวลาเดียวกัน ณ ทางเข้าบ้านพักหรูหรา

อาการหวาดผวาของดยุคนีแกนพลันปะทุอย่างกะทันหัน พลังพิเศษปริศนาเริ่มเล่นงานแกนสมองและเส้นเลือด ส่งผลให้ดวงตาของพาลัส·นีแกนเริ่มแสดงอาการเหม่อลอย

พร้อมกันนั้น มันได้ยินเสียงของบางสิ่งแตกละเอียด ตามด้วยความรู้สึก ‘อุ่น’ บริเวณท้ายทอย

ขณะเดียวกัน องครักษ์ผู้วิเศษลำดับต่ำเริ่มออกอาการสติแตก แต่ละคนชักลูกโม่ดัดแปลงออกมายิงส่งเดชอย่างไร้ทิศทางจนกระทั่งหมดกระสุน

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

ผู้รับใช้วายุซึ่งได้สติก่อนใคร รีบกระโจนคว้าตัวพาลัส·นีแกนและกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบ พร้อมกับเสกกระแสลมเฉือนลักษณะคล้ายคมมีดล่องหน กรีดคอหอยบรรดาองค์รักเสียสติทั้งหมดอย่างเลือดเย็น

ฉูด ฉูด

องครักษ์ลำดับต่ำรีบยกสองมือกุมลำคอ ก่อนจะล้มลงทีละคนสองคนและเกิดเป็นบ่อเลือดสดสีแดงเข้ม

ในวินาทีนี้ ร่างของดยุคนีแกนเกิดการสั่นกระตุกรุนแรงสองสามหน จึงค่อยนอนแผ่แน่นิ่งในสภาพปราศจากลมหายใจ

มันถูกขโมยชีวิตไปด้วยฝีมือของความหวาดกลัวจากตัวมันเอง

หากไม่ใช่เพราะเป็นผู้วิเศษลำดับ 6 ศพของพาลัส·นีแกนคงฉีกขาดกระจัดกระจายในลักษณะสยดสยองมากกว่านี้

แน่นอน ถ้าไม่เพราะร่างกายกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอสุดขีด และถ้าไม่เพราะอารมณ์ของนีแกนกำลังสับสนว้าวุ่น ลำพังการกระตุ้นแรงกระหายย่อมไม่มีทางพรากชีวิตมันไปได้

แต่ไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ ในโลกผู้วิเศษ

พาลัส·นีแกน หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ขุนนางใหญ่ผู้ครองดินแดนมากเป็นอันดับหนึ่งรองจากกษัตริย์แห่งโลเอ็น พี่ชายของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอาณาจักร ผู้วิเศษลำดับ 6 และบุคคลสำคัญอย่างแท้จริงของอาณาจักรโลเอ็น

…ได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

กุหลาบแดงในเรือนกระจกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ กำลังบานสะพรั่งและสะท้อนรับกับแสงแดดอย่างงดงาม

ณ ห้องใต้หลังคา หลังจากเลขาผมทองสัมผัสถึงความผิดปรกติจากด้านล่าง มันมิอาจสะกดให้อารมณ์เยือกเย็นได้อีกต่อไป

เมื่อพบช่องว่าง ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายทำการส่งแรงกระตุ้นจนสมองของเลขาพลันขาวโพลนไปชั่วขณะ ร่างกายอันผอมเพรียวขยับเปิดประตูห้องและวิ่งลงไปข้างล่างตามสัญชาตญาณ ส่งผลให้ ‘ผนึก’ ล่องหนรอบห้องถูกคลายออกในทันที

ผ่านไปราวสองสามวินาที เลขาผมทองได้สติกลับมาพร้อมกับรีบวิ่งกลับมายังห้องใต้หลังคา แต่บุรุษเจ้าของร่างกายสีดำลักษณะคล้ายของเหลวเหนียวข้น ได้อันตรธานหายไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางหนังใบใหญ่เรียบร้อยแล้ว

ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายรีบส่งตัวเองออกจากบ้านพักหรู ตรงไปตามเส้นทางหลบหนีซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้า

แต่ระหว่างทาง ภาพการมองเห็นของมันพลันเต็มไปด้วยทะเลเลือดกว้างใหญ่กะทันหัน

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset