Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 424 : เปลี่ยนคำถาม

ราชันเร้นลับ 424 : เปลี่ยนคำถาม

ภายในห้องโดยสารรถม้า ริมถนนด้านนอกสโมสรครักซ์

“ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายอาจไม่ใช่คนเดียวกับเจสัน·บีเลียล? คุณเชื่อว่าพวกเรากำลังถูกคนร้ายชักนำให้หลงทาง?” ไอคานส์ไม่แสดงพฤติกรรมเหยียดหยัน ขุ่นเคือง หรือไม่แยแสคำแนะนำไคลน์ ตรงกันข้าม มันเริ่มนำประเด็นดังกล่าวมาถกเถียงจริงจัง

อาวุโสคนนี้ไม่เลว…แต่บางที นิสัยใจเย็นของเขาอาจเกิดจากกระจกชื่ออาโรเดสนั่นก็ได้ เพราะไม่ว่าคนเราจะมีอารมณ์ร้อนสักเพียงใด แต่ถ้าอยู่กับกระจกบานนั้นได้นาน ความหุนหันก็คงหายไปเองในภายหลัง…ชายหนุ่มครุ่นคิดพลางพยักหน้ารับ

“นี่เป็นเพียงความเห็นของผม…ความเห็นจากนักสืบผู้หวาดระแวงและรอบคอบโดยธรรมชาติ วิธีพิสูจน์ทฤษฎีนั้นง่ายนิดเดียว เพียงคุณถามกระจกอีกครั้ง ถึงตำแหน่งปัจจุบันของผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย มิใช่เจสัน·บีเลียลเหมือนคราวก่อน”

ไอคานส์ใช้มือข้างหนึ่งกดหมวก

“สมเหตุสมผล”

ขณะไอคานส์ก้มมองกระจกเงิน สีหน้าแววตาพลันกลับมาอึมครึม

“รอก่อน…อาวุโสไอคานส์ หากคุณถามถึงเบาะแสของปีศาจในตอนนี้ มันจะสัมผัสถึงอันตรายและทราบตำแหน่งปัจจุบันของเรา” ไคลน์กล่าวเตือน

“นั่นก็จริง” ไอคานส์หันไปมองสมาชิกทีมอีกสองคน “ฝากพวกคุณช่วยคุ้มกันนักสืบโมเรียตี้ในทางลับ หากโชคร้ายถูกผู้ปลดปล่อยแรงกระหายโจมตี พวกคุณสามคนคงพอจะถ่วงเวลาได้บ้าง นอกจากนั้นยังมีคนของกองทัพช่วยเฝ้าระวังไม่ห่าง”

“รับทราบ!” จิตแห่งจักรกลทั้งสองขานรับอย่างแข็งขันโดยปราศจากความลังเล

ไอคานส์แยกตัวไปจากทุกคน รีบมุ่งหน้าไปยังจุดระดมพลปัจจุบันของเหยี่ยวราตรี—บ้านของไอเซนการ์ด·สแตนธอน

เมื่อลองพิจารณาอย่างละเอียด… หากนำความโกลาหลซึ่งเกิดจากการออกโรงด้วยตัวเองของผู้ขับขานแห่งเทพ ไปรวมกับการเคลื่อนย้ายสมบัติวิเศษสุดทรงพลังของเหยี่ยวราตรี1-42 อย่างเอิกเกริก…ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายจะชิงลงมือทำตามเป้าหมายหลักของตนภายในช่วงบ่ายของวันนี้…หวังว่ากระจกวิเศษอาโรเดสจะช่วยแจ้งเบาะแสพวกเขาได้ทันเวลา…

แต่หากทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น เราคงไม่มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์แม้แต่น้อย ไม่มีโอกาสได้แก้แค้นไอ้ปีศาจบัดซบนั่น และไม่มีโอกาสได้จับต้องกระเป๋าเดินทางซึ่งบรรจุทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่าห้าหมื่นปอนด์…

ไคลน์จ้องมองแผ่นหลังของไอคานส์ซึ่งกำลังลับสายตา ด้วยท่าทีผิดหวังเล็กน้อย

แต่อีกใจหนึ่ง มันก็นึกโล่งอก

แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน… อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัว สามารถกลับไปใช้ชีวิตปรกติได้โดยไม่ต้องลงทุน…

ยิ่งไปกว่านั้น จิตแห่งจักรกลคงไม่ใจแคบกับเรานัก หากปฏิบัติการในคราวนี้สำเร็จลุล่วง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากคำวิเคราะห์ของเรา ยิ่งผนวกกับการเป็นสาวกโบสถ์จักรกลไอน้ำของเราด้วยแล้ว อย่างน้อยก็ต้องได้ส่วนแบ่งกลับมาบ้าง…

โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางใบนั้น ถ้ามันมีมูลค่าสูงถึงห้าหมื่นปอนด์จริง…

ไคลน์ครุ่นคิดอย่างเสียดาย

แต่ก็เมื่อเทียบกับการต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย มันขอเลือกเส้นทางปลอดภัยดีกว่า

นักมายากลห้ามแสดงกลโดยไม่เตรียมตัว!

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีเวลาให้เราได้วางแผนหรือจัดหาอุปกรณ์แก้ทางปีศาจ…

ไคลน์พยักหน้าส่งสัญญาณกับจิตแห่งจักรกลทั้งสองเป็นเชิงขอตัว เดินลงจากรถม้า และกลับไปยังสโมสรครักซ์ตามเดิม เตรียมบอกให้บริกรช่วยจองห้องพักสำหรับงีบในยามบ่าย

เขตฮิลสตัน ณ ห้องรับแขกบ้านไอเซนการ์ด·สแตนธอน

เลียวนาร์ด·มิเชลกำลังใช้มือสางเส้นผมสีดำกระเซิงเล็กน้อยของตน ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าโซสต์ และด้วยความช่วยเหลือจากเหยี่ยวราตรีคนอื่น การสวมใส่ชุดเกราะสีเงินเต็มอัตราศึกจึงเป็นไปอย่างราบรื่น

บริเวณหัวไหล่ซ้ายของเกราะลงมาถึงช่องท้องยังคงเปรอะเปื้อนคราบเลือดเช่นเคย

เลียวนาร์ดดึงกะบังหน้าลงมาปิด เก็บซ่อนดวงตาสีเขียวมรกตไว้ด้านในหมวกเหล็ก ตามด้วยการยกแขนซ้ายซึ่งสวมถุงมือเหล็กขึ้นเล็กน้อย บนฝ่ามือกำลังถือกระจกเงินลวดลายประหลาดซึ่งยืมมาจากไอคานส์·เบอร์นาร์ด

โบสถ์เทพจักรกลไอน้ำจะเรียกสมบัติปิดผนึกชิ้นนี้ว่า :

2-111

“ระดับสองเองหรือ?” โซสต์ซักถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

ไอคานส์พยักหน้ารับ

“อา… มันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น”

ขณะกล่าว เสียงของไอคานส์คล้ายกับกำลังพูดไปพร้อมกันฟัน

“ดูเหมือนคุณกำลังบอกเป็นนัยว่า ในบางสถานการณ์มันก็ ‘อันตรายขนาดนั้น’ ?”

โซสต์ซักถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ก็แค่บางสถานการณ์”

ไอคานส์ตอบเลี่ยง เจตนาไม่ต้องการเปิดเผยความลับของสมบัติปิดผนึกประจำโบสถ์ไปมากกว่านี้

ขณะเลียวนาร์ดเริ่มใช้ฝ่ามือขวาลูบไล้ไปบนผิวกระจกเงินอย่างทะนุถนอม บรรยากาศภายในห้องรับแขกพลันเงียบสงัด

เมื่อถูจนครบสามครั้ง มันกล่าวเสียงต่ำ

แสงรอบตัวทุกคนเริ่มสลัว คล้ายกับมีเมฆดำก้อนใหญ่เคลื่อนผ่านบนท้องฟ้า

ผิวกระจกเริ่มปรากฏแสงมายาของคลื่นน้ำ ส่องกระเพื่อมไปรอบทิศทาง ฉากอันพร่ามัวเริ่มรวมตัวกันจนกลายเป็นคมชัด :

บ้านพักหรูหราซึ่งมีสวนเขียวขจีอยู่ด้านหน้าทางเข้า ใจกลางสวนเป็นเรือนกระจกซึ่งด้านในเต็มไปด้วยกุหลาบสีแดงฉาน

เหนือเรือนกระจก ท้องฟ้าด้านบนมีลักษณะหม่นหมองคล้ายกับกำลังถูกหมอกหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์

“ในเบ็คลันด์…!” ไอเซนการ์ดคาดเดาพิกัดของบ้านจากตำแหน่งดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าและอีกหลายปัจจัยประกอบ

“ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างจากการทำนายด้วยชื่อเจสัน·บีเลียลโดยสิ้นเชิง พวกเราถูกมันหลอกเข้าอย่างจัง!” ไอคานส์กล่าวเสียงขรึม

ผู้ปลอบวิญญาณ โซสต์ ถอนหายใจ

“แล้วผู้ขับขานแห่งเทพกำลังไล่ตามใคร? ไม่ใช่เจสัน·บีเลียลหรอกหรือ… เฮ่อ เรื่องนั้นช่างมันก่อน พวกเราต้องรีบตีกรอบตำแหน่งของผู้ปลดปล่อยแรงกระหายให้แคบลงโดยอาศัยข้อมูลจากภาพเมื่อครู่ จึงค่อยเริ่มวางแผนลงมือ… ผมสงสัยว่าคนร้ายกำลังเตรียมก่อการอุกอาจครั้งใหญ่!”

ขณะเดียวกัน กระจกวิเศษอาโรเดสได้สลายภาพเหตุการณ์พร้อมกับเผยตัวอักษรชุดหนึ่งขึ้นมาแทน

หมายความว่า ถึงคราวเลียวนาร์ด·มิเชลต้องเป็นฝ่ายตอบคำถาม หากโกหกหรือไม่ยอมตอบ บทลงโทษอันรุนแรงกำลังรออยู่

ด้วยเหตุผลบางประการ เลียวนาร์ดเกิดความตึงเครียดสุดขีด ไม่หลงเหลือสีหน้าไม่เอาจริงเอาจังในยามปรกติ สมาธิมัวเพ่งอยู่กับคำถามซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจ

หลายวินาทีถัดมา ผิวกระจกเริ่มผุดอักษรสีเลือดขึ้นมาทีละตัว :

“ในร่างกายของเจ้ามี…”

ขณะคำถามดำเนินไปครึ่งทาง ตาดำของเลียวนาร์ดพลันหดเกร็ง กล้ามเนื้อทุกมัดเริ่มสั่นกระตุก เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกึ่งกลางหน้าผากอย่างมิอาจยับยั้ง

หากไม่เพราะใบหน้าถูกปกปิดโดยกะบังหมวกเหล็ก คนรอบข้างคงสังเกตเห็นความผิดปรกติได้นานแล้ว

ทันใดนั้น มือซ้ายเลียวนาร์ด—ข้างถือกระจกเงาสีเงิน พลันสั่นกระตุกแผ่วในระดับไม่มีใครนอกจากเลียวนาร์ดตระหนักถึง

กระจกเงินโยกเอนเล็กน้อย ตัวอักษรสีเลือดเริ่มมีสีเขียวแซมในลักษณะยากจะมองออก หากไม่เพ่งให้ละเอียดก็ไม่มีทางพบการเปลี่ยนแปลง

อักษรบนกระจกยังคงเขียนต่อไป :

“ในร่างกายของเจ้ามีแผลเป็นซึ่งไม่สามารถบอกกับผู้อื่นได้ใช่ไหม”

“ใช่ครับ…แผลเป็นดังกล่าวฝังลึกในความทรงจำของผมมาสักพักแล้ว” เลียวนาร์ดตอบเสียงเรียบไร้พิรุธ แต่ร่างกายภายในชุดเกราะสีเงินกำลังผ่อนคลายสุดขีด

กระจกบานนี้อันตรายเกินไป…มันพบความผิดปรกติในตัวเรา! โชคดีว่าตาแก่ฟื้นฟูพลังกลับคืนมาแล้วหลายส่วน…

เลียวนาร์ดรำพันด้วยริมฝีปากแห้งผาก

โซสต์ล้วงนาฬิกาพกออกมาเปิดฝาสำรวจ เงยหน้ามองเลียวนาร์ดผู้กำลังสวมชุดเกราะสีเงินเต็มอัตราศึก

“ยังพอมีเวลาเหลือ… เลียวนาร์ด ปฏิบัติการในคราวนี้ ให้เป็นงานของคุณแล้วก็กัน”

“รับทราบ! หัวหน้าโซสต์!” เลียวนาร์ดตอบแข็งขัน แต่ภายในกำลังถอนหายใจยาวสุดปอด

เขตอู่ต่อเรือ ย่านท่าเรีอ

เจสัน·แพทริค·บีเลียลกำลังเดินเข้าไปในห้องพักของผู้โดยสาร

มันมองออกไปนอกหน้าต่างและให้ความสนใจกับท้องฟ้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในใจกำลังนับถอยหลังอย่างเงียบงัน

ผ่านไปสักพัก มันรีบถอดหมวกและเสื้อผ้าออกจนหมด ตามด้วยการกระตุกข้อมือเพื่อถอดผิวหนังมนุษย์ผืนใหญ่ออกมา!

ใต้หนังมนุษย์ดังกล่าวเผยให้เห็นหญิงสาวผู้มีใบหน้าเลอโฉม อายุราวสามสิบ ดวงตาลุ่มลึกแฝงความนัย

เธอมิใช่บุรุษเจ้าของดวงตาและเส้นผมสีน้ำตาลซึ่งไคลน์เคยเห็นในนิมิตการทำนาย!

สตรีปริศนานำเสื้อผ้าออกมาสวมอย่างคล่องแคล่ว เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหญิงงามผู้มากด้วยเสน่หา

จากนั้น เธอนำรูปปั้นแกะสลักทำจากหิน ขนาดเท่ากำปั้น ออกจากกระเป๋าเดินทางหนังใบใหญ่ นำมันมาห่อด้วยหนังมนุษย์ และมัดแน่นจนกลายเป็นเงื่อนตาย

กว่าจะเตรียมการเสร็จ เรือล่องแม่น้ำได้แล่นออกจากท่าเป็นระยะทางไกลพอสมควร หญิงสาวปริศนาเปิดกระจกพร้อมกับโยนหนังมนุษย์ในคราบเจสัน·แพทริค·บีเลียลออกนอกหน้าต่าง ลงไปในแม่น้ำด้านข้างตัวเรือ

จ๋อม!

หนังมนุษย์ซึ่งถูกถ่วงด้วยวัตถุน้ำหนักมาก เริ่มดำดิ่งสู่ก้นแม่น้ำอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวปิดหน้าต่าง ถือกระเป๋าเดินทางหนังเดินออกจากห้องพัก และเข้าไปในอีกห้องหนึ่งซึ่งจองเตรียมไว้ล่วงหน้า

เธอนั่งริมหน้าต่างด้วยสีหน้าร่าเริง นำศอกมาวางบนกรอบหน้าต่าง และเท้าคางชมวิวอย่างสบายใจ

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ หญิงสาวมองเห็นสายลมกระโชกพัดพาผ่าน รุนแรงจนหมอกหนาทึบบนท้องฟ้าเริ่มเจือจาง

มุมปากแดงฉานยกโค้งอย่างมีเลศนัย

เขตเชอร์วู้ด ภายในบ้านพักหรูหราซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์

พาลัส·นีแกนเจ้าของดวงตาสีฟ้ากลมโต กางมือสวมกอดภรรยาลับสาวสวยวัยย่างยี่สิบอย่างแนบแน่น

เมื่อทราบข่าวการมาเยือน เธอรีบออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าตื่นเต้นแกมไร้เดียงสา

ด้านหลังดยุคนีแกนยังมีบุรุษเดินตามอีกสองคน คนหนึ่งอยู่ในวัยกลางคน สวมสูทหางยาว เส้นผมสีน้ำตาลและดวงตาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าไร้อารมณ์

ไม่ใช่ใครนอกจากบอดี้การ์ดส่วนตัวของพาลัส·นีแกนซึ่งทางโบสถ์วายุสลาตันจัดหามาคอยอารักขา ลำดับ 6 ผู้รับใช้วายุ

ส่วนอีกหนึ่งคนคือเลขาส่วนตัว

มันคือชายหนุ่มผมทอง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอ้านสะอ้าน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ดีมีสกุลคล้ายทายาทตระกูลขุนนางใหญ่ ข้อเสียเพียงจุดเดียวก็คือ หน้าผากซึ่งเริ่มเถิกล้านก่อนวัยอันควร

ในส่วนของคนรับใช้และองครักษ์ส่วนตัว ทั้งหมดถูกวางกำลังไว้รอบบ้านพัก

ณ ชั้นสอง ผู้รับใช้วายุเดินนำเข้าไปสำรวจห้องนอนใหญ่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยให้ดยุคนีแกน ส่วนเลขาคอยสำรวจห้องอื่นในบริเวณใกล้เคียง

เมื่อมั่นใจว่าปลอดอันตราย มันหันมาพยักหน้าให้พาลัส·นีแกนเป็นเชิงเสร็จสิ้น

“กว่าจะเสร็จ ไอ้นั่นของฉันหดหมดแล้ว” นีแกนกล่าวติดตลก

ภรรยาลับกล่าวด้วยสีหน้าร่าเริง

“ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยเล่าประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในทะเลให้ฟังก่อนสิคะ”

“เชื่อฉันเถอะ เธอไม่มีแรงฟังหรอก” ดยุคนีแกนจัดการอุ้มหญิงสาวเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับปิดประตูด้านหลังด้วยส้นเท้า

เลขาส่วนตัวและผู้รับใช้วายุต่างเดินเข้าไปในห้องฝั่งตรงข้าม ไม่มีใครลดระดับการป้องกันลงแม้แต่วินาทีเดียว

ณ ห้องใต้หลังคาของบ้านหลังเดียวกัน

ชายสวมโค้ทตัวใหญ่สีดำสนิทกำลังนั่งบนเก้าอี้สภาพเก่าโทรม ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง ไม่มีใครทราบว่ามันกำลังตั้งใจฟังสิ่งใด

พฤติกรรมทั้งหมดมีเพียงการอมยิ้มและส่ายศีรษะเป็นระยะ

เส้นผมหยักศกเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลแผ่กลิ่นอายความเย็นชา ไม่ใช่ใครนอกจากบุรุษในนิมิตทำนายของไคลน์

จุดต่างแตกก็คือ ข้างฝ่าเท้าของมันเหลือกระเป๋าเดินทางหนังเพียงหนึ่งใบ

“หิวกระหายอะไรเช่นนี้ นับเป็นแรงปรารถนาอันน่าทึ่ง…ผิดคาดไปเยอะทีเดียว หืม คงเพราะกินยาบางชนิดช่วยกระตุ้นสินะ…แบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางเรา…หึหึ! คงไม่มีใครคาดคิดแน่ ว่าแท้จริงแล้ว เจสัน·แพทริค·บีเลียลจะหมายถึงสองบุคคล…” ชายปริศนาเอียงคอพลางทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม

“ใกล้แล้ว…ตอนนี้แหละ!”

หมับ! มันกำมือขวาฉับพลัน ราวกับกำลังบีบหัวใจใครบางคนให้แหลกละเอียด

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset