Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 387 : ความพิเศษของโลกวิญญาณ

ราชันเร้นลับ 387 : ความพิเศษของโลกวิญญาณ

อลันแสดงสีหน้าโล่งใจเมื่อได้ยินคำอธิบายจากปากนักสืบเชอร์ล็อก ขณะเดียวกันก็รอดูสถานการณ์ไปอีกสองสามวัน ว่าตนจะฝันร้ายแบบเดิมอีกหรือไม่

หน้าประตูบ้าน หลังจากส่งศัลยแพทย์อลันกลับไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าไคลน์พลันอึมครึมราวกับกำลังครุ่นคิดในบางเรื่อง

การแปลความฝันไม่มีส่วนใดผิดพลาด ภาพของยอดหอคอยสีดำสนิท กำแพงชั้นแล้วชั้นเล่า บานประตูกีดขวางเส้นทาง และอสรพิษสีเงินตัวใหญ่ ทั้งหมดสื่อความหมายตรงกันว่าเด็กชายวิล·อัสตินกำลักถูกคุกคามโดยบางสิ่ง อยู่ในอารมณ์หวาดระแวง และพยายามสร้างเกราะกำบังให้ตัวเองหลายชั้น

แต่ปัญหาคือ ดอกเตอร์อลันไม่ควรฝันเรื่องราวเช่นนี้ได้ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็ต้องฝันมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งฝันหลังจากได้พบนกกระเรียนกระดาษ

ตามหลักของศาสตร์เร้นลับ หากอลันจะฝันถึงปัญหาของวิล·อัสติน ก็ต้องฝันตั้งแต่เด็กคนนั้นเริ่มพบว่าตัวเอกถูกใครบางคนคุกคาม หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เป็นช่วงเวลาขณะเด็กชายยังไม่ออกจากโรงพยาบาล

ดังนั้น ไคลน์จึงสงสัยว่าความฝันพิสดารของหมออลันเกิดขึ้นเพราะมีบางสิ่งเป็นสื่อกลาง และสิ่งนั้นก็คือนกกระเรียนกระดาษ

ไคลน์ได้ใช้เนตรวิญญาณตรวจสอบนกกระดาษและไม่พบแสงละอองวิญญาณ แต่สัมผัสวิญญาณกลับร้องบอกว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับออริกามิตัวนี้

ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันยากจะตีความ พลังซึ่งควรค่าแค่การเคารพและหวั่นเกรง :

พลังแห่งโชคชะตา

เด็กชายวิล·อัสตินคนนั้นไม่ธรรมดา… บางที ความพิศวงอาจไม่ได้มีต้นตอมาจากไพ่ทาโรต์ แต่เป็นตัวเด็กคนนั้นเอง…

อสรพิษยักษ์สีเงินคือสัญลักษณ์แทนอันตรายไม่ผิดแน่ และความฝันในคราวนี้มีก็ความเกี่ยวพันกับโชคลางเป็นส่วนใหญ่…

หรือว่างูยักษ์สีเงินจะหมายถึง ‘อสรพิษปรอท’ ลำดับ 1 แห่งเส้นทางสัตว์ประหลาด?

ไคลน์ปล่อยความคิดล่องลอยเรื่อยเปื่อย แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปให้ตัวเอง

ถัดมา ชายหนุ่มลองเปลี่ยนคำถาม

เหตุใดศัลยแพทย์อลันถึงฝันแบบนี้ได้?

จากระดับความรู้ด้านศาสตร์เร้นลับในปัจจุบันของไคลน์ เรื่องนี้สามารถสันนิษฐานออกมาได้ไม่ยาก มันกลั่นกรองข้อมูลและแจกแจงความเป็นไปได้ทีละจุด

กรณีแรก อลันถูกวิญญาณอาฆาตหรือวิญญาณมารสิงสู่ และโน้มน้าวให้เกิดเป็นความฝันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะทำให้สีออร่าของนายแพทย์อลันกลายเป็นเขียวเข้ม แต่ไคลน์ก็ไม่พบความผิดปรกติดังกล่าว จึงตัดทิ้งไปได้เลย

กรณีถัดมาคือเทคนิคระดับสูง เป็นการโน้มน้าวให้เหยื่อฝันในลักษณะเจาะจงแบบไม่เกิดความผิดปรกติต่อร่างกายภายนอก หนึ่งในวิธียอมนิยมคือการใช้พลังของลำดับ 7 ฝันร้าย แห่งเส้นทางผู้ไร้หลับ หลักการแบบเดียวกันกับดันน์·สมิท ฝันร้ายต้องบุกรุกความฝันเหยื่อและชักนำให้ไปยังทิศทางต้องการ แต่ฝันดังกล่าวต้องไม่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ลงมือ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทิ้งร่องรอย

ส่วนอีกหนึ่งวิธีค่อนข้างซับซ้อนและถือเป็นเทคนิคระดับสูงของโลกผู้วิเศษ

ในทางทฤษฎี หลักในการเกิดความฝันก็คือ วิญญาณดาราของมนุษย์จะท่องเที่ยวไปในโลกวิญญาณอย่างอิสระและไม่มีสติ ในระหว่างนั้น ข้อมูลจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้าสู่วิญญาณดาราในลักษณะยากจะตีความ จึงต้องแปลงข้อมูลให้เป็นสัญลักษณ์เสียก่อน

แต่หากมีระดับตัวตนหรือระดับพลังวิญญาณสูงมากพอ วิญญาณดาราก็จะเข้าใจข้อมูลดังกล่าวได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลงเป็นสัญลักษณ์ จากนั้น ข้อมูลก็จะถูกส่งต่อมายังกายอากาศและกายจิตบนโลกปรกติ แต่เนื่องจากเจ้าของร่างกำลังหลับอยู่ ข้อมูลจึงมาในรูปแบบความฝัน

สิ่งนี้หมายความว่า ดอกเตอร์อลันอาจถูกชักนำความฝันผ่านโลกวิญญาณ

เทคนิคดังกล่าวสามารถกระทำได้โดย ประการแรก ต้องสร้างความฝันเทียมขึ้นมาด้วยวิธีการทางเวทมนตร์ จากนั้นก็ถ่ายเทความฝันเทียมลงในวิญญาณดาราของเป้าหมายอย่างเป็นธรรมชาติขณะอีกฝ่ายกำลังเตร็ดเตร่ท่ามกลางโลกวิญญาณ วิธีนี้จะทำให้เหยื่อฝันตรงตามความต้องการและไม่ทิ้งร่องรอยน่าสงสัยไว้

ในปัจจุบัน แม้แต่ตัวเราบนมิติสายหมอกก็ยังใช้เทคนิคไม่ได้ ถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงและจำเป็นต้องมีระดับพลังวิญญาณสูงมาก…

ไคลน์เว้นวรรคการวิเคราะห์พลางสอดแทรกความเป็นไปได้ทางอื่น

หรือว่า… นกกระเรียนกระดาษตัวนั้นจะฝังการชี้นำทางจิตใจไว้ และเมื่อดอกเตอร์อลันพกติดตัว เขาจึงเกิดความฝันตามการชี้นำทางใจอย่างมิอาจเลี่ยง…

เรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก ขอเพียงเราใช้พิธีกรรมสื่อวิญญาณกับเขาก็จะพบร่องรอยความผิดปรกติทันที… แต่พิธีกรรมสื่อวิญญาณออกจะไม่เป็นมิตรไปสักหน่อยไหม…

หรือเราควรยืมเทียนไขจิตฝันร้ายมาจากหลวงพ่อยูรอฟสกี้? ไม่ได้… หลวงพ่อยังไม่รู้จักตัวจริงของเรา ภายในวิหารฤดูเก็บเกี่ยว นอกจากแวมไพร์คลั่งฟิกเกอร์ เอ็มลิน·ไวท์ ก็ไม่มีใครรู้จักตัวจริงของเราแล้ว…

ไคลน์พยายามไตร่ตรองถึงผลกระทบจากพฤติกรรมของตน

จนกระทั่งชายหนุ่มได้ข้อสรุป มันต้องขึ้นไปทำนายยืนยันบนมิติสายหมอกเสียก่อน ว่าแผนการบุกรุกบ้านดอกเตอร์อลันยามวิกาลมีอันตรายหรือไม่ หากยังอยู่ในขอบเขตรับได้ ไคลน์ก็จะใช้ยันต์ห้วงความฝันบุกรุกเข้าไปขณะอลันกำลังหลับใหล และค้นหาว่าความฝันของอีกฝ่ายเกิดจากสิ่งใดกันแน่ เป็นการโน้มน้าวโดยตรง หรือเป็นการสร้างฝันเทียมและบรรจุเข้ามาในวิญญาณดารา

อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินจากพลังในปัจจุบันของไคลน์ การตรวจสอบอย่างหลังคงทำได้ลำบาก ไม่การันตีว่าจะประสบความสำเร็จ

ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่า การนั่งใกล้กันบนโลกจริงจะทำให้วิญญาณดาราของไคลน์ไปโผล่ในมิติเดียวกันกับวิญญาณดาราอลัน หากต้องการทำให้สำเร็จ จำเป็นต้องใช้เทคนิคการล็อกตำแหน่งระดับสูงควบคู่ไปด้วย

จากคำอธิบายในหนังสือแห่งความลับ โลกวิญญาณคือดินแดนแสนพิเศษและยากจะอธิบายให้เห็นภาพชัด โลกดังกล่าวซ้อนทับกับโลกความเป็นจริงโดยสมบูรณ์ หมายความว่ามนุษย์ทุกคนสามารถได้รับข้อมูลทางวิญญาณดาราตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม โลกวิญญาณมิได้แบ่งแยกทิศทาง ซ้ายขวาหน้าหลัง เหนือใต้ออกตก หรืออดีตปัจจุบันอนาคต คล้ายกับท้องทะเลอันกว้างใหญ่ซึ่งบีบอัดข้อมูลปริมาณมหาศาลไว้ด้านในอย่างส่งเดชและไม่มีหลักการ ไม่สามารถใช้สามัญสำนึกของโลกปรกติทำความเข้าใจได้

ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตซึ่งมีระดับตัวตนต่ำจะไม่สามารถรับข้อมูลโดยตรงได้เลย จำเป็นต้องกลั่นกรองในลักษณะสัญลักษณ์แทน

และด้วยเหตุนี้ พิกัดทางโลกวิญญาณของแต่ละคนจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับพิกัดทางกายภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสภาพจิตใจและสภาพร่างกายในปัจจุบันด้วย ฉะนั้น หากไม่ได้ใช้เทคนิคการล็อกเป้าขั้นสูง คนสองคนก็ยากจะพบกันบนโลกวิญญาณ ถึงแม้จะนั่งใกล้กันบนโลกความจริงก็ตาม

และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมวิญญาณดาราของแต่ละคนจึงไม่ควรสำรวจลึกเข้าไปในโลกวิญญาณไกลนัก เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุจนกลับมายังร่างหลักไม่ได้ เจ้าของร่างก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อน หรือในกรณีเลวร้ายจะเป็นอัมพาตร่วมด้วย

ขณะเดียวกัน การใช้โลกวิญญาณเป็นถนนสำหรับเดินทางก็นับว่าอันตรายเกินไป หากไม่ระวังตัวให้มาก ก็อาจหลงทางและกลับมายังร่างจริงไม่ได้อีกเลย ต้องปล่อยให้เน่าเปื่อยเช่นนั้นไปจนตาย

ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจยาว พลางเก็บคำถามดังกล่าวไว้ในใจก่อน

ชายหนุ่มหยิบนาฬิกาพกออกมาตรวจสอบและพบว่าเวลาผ่านไปนานพอสมควร อาหารเช้าของตนเย็นชืดโดยสมบูรณ์

ขณะเดียวกัน ในเมื่อนักข่าวไมค์·โยเซฟยังไม่แวะมาหา ก็หมายความว่าภารกิจคงถูกเลื่อนออกไปอีกวัน

ด้วยจิตวิญญาณของนักเสียดาย ไคลน์จัดการสวาปามอาหารเช้าเย็นชืดจนเกลี้ยง ตามด้วยการส่งตัวเองเข้ามิติเหนือสายหมอกเพื่อทำนายถามว่า การบุกรุกบ้านอลันในคืนนี้มีอันตรายหรือไม่

คำตอบออกมาผิดคาด ผลทำนายทั้งหมดระบุตรงกันว่าไม่มีอันตรายใดเลย

เมื่อจัดการทุกสิ่งเสร็จ ไคลน์มั่นใจว่าเวลานัดหมายของตนและไมค์ล่วงเลยไปแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่รีรอ รีบสวมแจ็กเกตหนาและหมวกแก๊ป ตรวจสอบสมุดศัพท์ของเดซี่ และเดินออกจากอาคารหมายเลข 15 ถนนมินส์ทันที

แผนของเดิมของมันคือการไปเยือนเขตตะวันออกพร้อมกับไมค์ จากนั้นก็หาโอกาสบอกใบ้เฒ่าโคห์เลอร์ ว่าห้ามพูดเรื่องตนเคยอาสาช่วยครอบครัวไลฟ์ตามหาเดซี่เด็ดขาด

ส่วนทางฝั่งของครอบครัวไลฟ์ ไคลน์ก็จะฝากเฒ่าโคห์เลอร์ไปเตือนอีกที

แต่ในเมื่อนักข่าวไมค์เลื่อนการสัมภาษณ์ออกไปหนึ่งวัน ความกังวลดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้น ไคลน์สามารถผ่อนคลายตัวเองโดยไม่ต้องกังวลว่าความจะแตก

อาศัยข้อมูลจุดนัดพบของโคห์เลอร์และการนำของแท่งวิญญาณ ไคลน์นำพาตัวเองเข้าไปยังส่วนลึกของเขตตะวันออก สองข้างทางเต็มไปด้วยสายตาเหม่อลอย หิวโหย ละโมบ และหวาดระแวง ของคนเร่ร่อน

จนกระทั่งชายหนุ่มเดินเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งและขึ้นไปบนชั้นสาม

เบื้องหน้ามีเตียงสองชั้นวางเรียงราย บนพื้นเต็มไปด้วยฟูกนอนเก่าโทรมและสิ่งของวางระเกะระกะ

ไคลน์มองเข้าไปยังชั้นล่างของเตียงในสุดและส่งเสียงเรียก

“เฒ่าโคห์เลอร์”

พรึบ. เฒ่าโคห์เลอร์รีบลุกขึ้นยืนและมองมาทางประตูด้วยสีหน้าประหลาดใจแกมยินดี

“คุณมาจริงด้วย! หลังจากผมส่งจดหมายให้คุณเมื่อวาน ก็คิดไว้ว่าคุณต้องแวะมาหาในวันนี้แน่ จึงไม่ได้ออกไปทำงานท่าเรือ ผมนอนรอคุณมาตลอดทั้งวัน”

เยี่ยมไปเลย… เราไม่ต้องเสียเวลาคิดคำโกหกถึงเหตุผลในการมาหาหมอนี่…

ไคลน์จ้องมองตรงและกล่าว

“เฒ่าโคห์เลอร์ ด้วยรายได้ในปัจจุบัน คุณสามารถย้ายไปพักในหอพักคุณภาพสูงกว่านี้ได้ไม่ใช่หรือ? ไม่เห็นต้องนอนเตียงสองชั้นเบียดเสียดกับผู้อื่นเลยสักนิด”

“รายได้ส่วนใหญ่ของผมมาจากการหาข่าวให้คุณ” โคห์เลอร์ยิ้ม “ผมไม่ได้หนุ่มแน่นเหมือนเดิมแล้ว ไม่มีทางรู้ว่าจะป่วยไข้ตอนไหน จำเป็นต้องออมเงินไว้สำหรับอนาคต”

ไคลน์เงียบงัน ก่อนจะเสนอแนะ

“คุณควรคิดเรื่องการซื้อประกันชีวิตไว้บ้าง ตัวอย่างเช่น ‘ประกันชีวิตม่ายคนชรา’ ในยามแก่เฒ่าจนทำงานไม่ไหว พวกเขาจะมอบเงินสำหรับค่าอาหารเพียงพอให้อิ่มท้องและห้องพักสำหรับซุกหัวนอนในแต่ละสัปดาห์”

สำหรับโลกปัจจุบัน ธุรกิจประกันภัยถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคสมัย 4 เพียงแต่ผู้คนมักไม่ค่อยเห็นความสำคัญ แต่หลังจากได้จักรพรรดิโรซายช่วยกระตุ้น ธุรกิจด้านประกันภัยก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเล็กน้อย แถมยังแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยทางทะเล ประกันอัคคีภัย ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยชราภาพโดยมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นกลางและสูง

“ผมทราบดี สมัยยังเป็นคนงาน ผมเคยส่งเบี้ยประกันสัปดาห์ละสามเพนนี แต่หลังจากตกงานคราวนั้น…” โคห์เลอร์ถอนหายใจยาว

ปัญหาใหญ่ของมันคือความไม่แน่นอนทางรายได้ และไม่มีทางทราบเลยว่านักสืบเชอร์ล็อกจะเลิกจ้างให้เป็นสายข่าวตอนไหน

ไคลน์เองก็รับปากอะไรไม่ได้เช่นกัน เพียงชี้นิ้วไปนอกห้องและพูด

“ไปบ้านไลฟ์กันเถอะ ผมจะนำสมุดศัพท์ไปคืนให้สาวน้อย”

ขณะเดินออกจากห้อง ไคลน์กล่าวติดตลก

“ช่างน่าขัน เมื่อผมคิดจะทำความดีอย่างการเป็นอาสาสมัครช่วยตามหาเดซี่ แต่เธอดันถูกตำรวจส่งกลับบ้านในอีกหนึ่งวันถัดมา ได้โปรดอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครเชียว ผมไม่อยากถูกหัวเราะเยาะ”

“ตกลง” เฒ่าโคห์เลอร์พยักหน้า “แต่ไม่มีใครหัวเราะเยาะความใจดีของคุณแน่”

หลังจากเดินผ่านถนนสกปรกและมาถึงบ้านของไลฟ์ ไคลน์มองเห็นเด็กสาวตัวเล็กกำลังตั้งใจรีดผ้าเช่นเคย ด้านหลังยังคงมีราวแขวนเสื้อผ้าเรียงราย เสื้อผ้าทุกตัวเปียกน้ำและหยดลงพื้นเป็นระยะ ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไปจากคราวก่อน ภาพดังกล่าวทำให้ชายหนุ่มหมดคำพูดไปชั่วขณะ

“เดซี่” หลังจากยืนเหม่อสักพัก ไคลน์ตัดสินใจส่งเสียงเรียก “สมุดศัพท์ของเธอ”

ดวงตาเดซี่พลันเปล่งปลั่ง แต่เธอมิอาจปลีกตัวจากงานตรงหน้าได้ทันที ต้องเร่งมือจัดการให้เสร็จถึงจำนวนหนึ่ง จึงสามารถหยุดพักและเดินเข้ามาขอบคุณนักสืบหนุ่มอย่างสุภาพ

จากนั้นไม่นาน ทั้งไลฟ์และเฟรย่าต่างก็ทิ้งงานและเดินเข้ามาแสดงความขอบคุณด้วยท่าทีนอบน้อม ไคลน์ถือโอกาสกำชับติดตลกแบบเดียวกับโคห์เลอร์เมื่อครู่

หลังจากพิธีการขอบคุณเสร็จ ชายหนุ่มล้วงหยิบเศษเหรียญจำนวนสองปอนด์ออกมามอบให้ไลฟ์

“วันพรุ่งนี้จะมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์เดซี่ นี่ถือเป็นเงินค่าจ้างล่วงหน้า แต่อย่าเอ่ยถึงเรื่องนี้ต่อหน้าเขาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก บางที วันพรุ่งนี้เขาอาจมอบเงินให้พวกคุณเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่คงไม่มากเท่าไรนัก”

“ฉ…ฉันยินดีเปิดโปงความชั่วของชายคนนั้นโดยไม่รับเงินแม้แต่เพนนีเดียว!” เดซี่ส่ายศีรษะหนักแน่น

ไคลน์ฉีกยิ้มกว้าง

“นี่เป็นกฎ… เธอห้ามแหกกฎ เข้าใจไหม”

ชายหนุ่มมองไปทางไลฟ์และกล่าวต่อ

“รับไว้เถอะนะ คุณเลี้ยงลูกมาถูกทางแล้ว ถ้าเดซี่กับเฟรย่าอ่านออกเขียนได้มากกว่านี้อีกสักนิด ผมกล้ารับประกันว่าพวกคุณจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ปัจจุบันได้แน่”

ขณะไคลน์กำลังจะแนะนำให้ไลฟ์พาบุตรสาวทั้งสองคนย้ายไปอยู่รอบเขตตะวันออก เพราะย่านดังกล่าวย่อมมีลูกค้าซักรีดมากกว่าในเขตตะวันออก มันพลันชะงักและกลืนถ้อยคำดังกล่าวลงคอ

จนแล้วจนรอด ไคลน์ก็ไม่ได้พูดออกไป

ชายหนุ่มระงับตัวเองไม่ให้ยื่นมือช่วยพวกเขาไปมากกว่านี้

ในเขตตะวันออกมีคนแบบไลฟ์นับพัน นับหมื่น นับแสน หรือนับล้าน ต่อให้เป็นพ่อค้าแสนร่ำรวยก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคนอย่างเท่าเทียม และกลุ่มคนยากจนไม่ได้มีเฉพาะในกรุงเบ็คลันด์ แต่ยังรวมถึงอาณาจักรโลเอ็นทั้งหมด

“…ขอบคุณมาก ฝากขอบคุณนักข่าวคนนั้นด้วย” ไลฟ์รับเงินด้วยสีหน้าซาบซึ้ง

ไคลน์ไม่เสียเวลาปักหลักอยู่นาน มันเร่งฝีเท้าราวกับกำลังถูกภูตผีไล่กัดกินวิญญาณ

เมื่อเดินออกมาข้างนอกพร้อมโคห์เลอร์ ชายหนุ่มหันกลับไปมองพลางรำพันเสียงค่อย

“ไม่ว่าจะโลกไหน พระเจ้าก็ไม่มีอยู่จริง…”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset