Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1103 : คำใบ้

ไคลน์จำไม่ได้ว่าตนเคยคุยกับแฮงแมนเรื่องที่เส้นทางสุริยัน วายุ นักอ่าน ผู้ชม และคนเลี้ยงแกะสามารถสลับเปลี่ยนกันได้ไปหรือยัง หากต้องการจะนึกให้ออก เห็นทีต้องพึ่งพาการทำนายความฝันเพียงอย่างเดียว

แต่ในเมื่อแฮงแมนสงสัยในการวางตัวของโบสถ์วายุสลาตัน แปลว่ามีโอกาสสูงที่จะไม่เคยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมาก่อน หรือเคยแล้วแต่อีกฝ่ายเชื่อมโยงข้อมูลไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ชายหนุ่มมองว่าตนควรประกาศจุดยืนของบรรดาโบสถ์หลักให้สมาชิกชุมนุมทาโรต์ทราบโดยทั่วกัน จะได้หลีกเลี่ยงอันตรายในอนาคต

หลังจากถูกแฮงแมนจ้องมอง ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ล เกอร์มัน สแปร์โรว์กล่าวเสียงต่ำเจือความไม่มั่นใจ

“วายุ สุริยัน นักอ่าน ผู้ชม และผู้วิงวอนความลับคือเส้นทางกลุ่มเดียวกัน… เช่นเดียวกันกับรัตติกาล เทพสงคราม มรณา… เส้นทางในกลุ่มเดียวกันมักจะไม่ลงรอยกัน แต่แน่นอน เรื่องนั้นไม่เสมอไป เพราะอย่างน้อยเจ็ดเทพจารีตก็จับมือเป็นพันธมิตรกัน”

เมื่อได้ยินคำตอบจากเดอะเวิร์ล แฮงแมน อัลเจอร์นึกถึงแผนการของอาดัมเป็นสิ่งแรก จากนั้นก็นึกทบทวนทัศนคติของโบสถ์วายุสลาตันและเริ่มกระจ่าง

ข้อมูลดังกล่าวทำให้มันมีความสุขและเกิดความรู้สึกเหนือกว่า ราวกับได้เห็นภาพรวมของสงครามก่อนใคร เป็นสิ่งที่แม้แต่สมาชิกเบื้องบนบางคนของโบสถ์ก็ยังไม่ทราบ

จัสติส ออเดรย์เริ่มเข้าใจความเงียบอันผิดธรรมชาติของอินทิส และยิ่งทวีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของลุนเบิร์ก มาซิล และเซกัล

นอกจากนั้นเธอยังได้ทราบว่า ตนสามารถย้ายไปดื่มโอสถ ผู้เจิดจรัส ผู้สังเวยภัยพิบัติ และลำดับสี่ ของเส้นทางนักอ่านได้

สำหรับลำดับสี่ของเส้นทางผู้วิงวอนความลับ หญิงสาวไม่เก็บมาคิดแม้แต่น้อย

แต่แน่นอน อันดับหนึ่งในใจยังคงเป็นจอมบงการ ออเดรย์ชื่นชอบธรรมชาติของเส้นทางผู้ชม แต่ขณะเดียวกันก็กังวลที่จะพัฒนาไปเป็นครึ่งเทพในเส้นทางดังกล่าว พฤติกรรมของเฮอร์วิน แรมบิสทำให้เธอเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี และคุณสมบัติทุกการเอ่ยถึงจะถูกล่วงรู้ของอาดัมได้สร้างความหวาดระแวงให้เธอไม่น้อย จำเป็นต้องบำบัดจิตตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษา

เฮอร์มิท แคทลียาทราบข้อมูลเหล่านี้ดีอยู่แล้ว และยังรู้มากกว่าที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์เปิดเผย นั่นก็คือ เส้นทางผู้ส่องความลับกับนักปราชญ์อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่นเดียวกันกับเส้นทางผู้ตัดสินและนักกฎหมาย นักโทษและอาชญากร นักล่าและนักลอบสังหาร นักเพาะปลูกและนักปรุงยา

ขณะที่สมาชิกชุมนุมทาโรต์ขยายกรอบความคิด แฮงแมนกล่าวกับเดอะเวิร์ล

“ขอบคุณสำหรับคำตอบ”

มันไม่ได้เล่าในสิ่งที่ตัวเองกระจ่าง

อันที่จริง มีช่วงเวลาหนึ่งที่อัลเจอร์อยากจะออกจากโบสถ์วายุสลาตันและเปลี่ยนเส้นทาง เพราะนั่นคงอนาคตมากกว่าการรอโอกาสจากโบสถ์วายุสลาตันด้วยความหวังอันริบหรี่ แต่ในท้ายที่สุด มันปัดตกความคิดดังกล่าว เพราะหนึ่งในความฝันของมันคือการได้เป็นคาร์ดินัลแห่งโบสถ์วายุสลาตัน จากนั้นก็ไต่เต้าไปเป็นคาร์ดินัลอันดับหนึ่ง เป็นเทวทูตผู้กุมอำนาจสูงสุดในฝ่ายทูตพิพากษาหรือไม่ก็ฝ่ายนักบวช

สำหรับตำแหน่งสันตะปาปา อัลเจอร์มิได้ปรารถนาแม้แต่น้อย เพราะนั่นจะเป็นการเข้าใกล้วายุสลาตันมากเกินไป

หากในท้ายที่สุด มันได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปาจริง อัลเจอร์สงสัยว่าตนคงถูกฟ้าผ่าจนกลายเป็นเนื้อบดทันทีที่นำมงกุฎมาสัมผัสศีรษะ

เมื่อพบว่าบทสนทนาของเดอะเวิร์ลและแฮงแมนจบลง เดอะมูน เอ็มลินถามด้วยความสงสัย

“เส้นทางนักปรุงยาใกล้เคียงกับเส้นทางใด?”

ด้วยความหยิ่งทะนงของเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด ย่อมไม่มีใครในตระกูลที่ต้องการเปลี่ยนเส้นทาง เพราะนั่นจะหมายถึงการสูญเสียตัวตนไปอย่างถาวร เอ็มลินจึงไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน

“เส้นทางนักเพาะปลูกของโบสถ์พระแม่ธรณี” เฮอร์มิท แคทลียาตอบอย่างเป็นกันเอง

เส้นทางนักเพาะปลูก… ของโบสถ์พระแม่ธรณี… เดอะมูน เอ็มลินขมวดคิ้วคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่ง

คราวนี้เป็นจัดจ์เมนต์ ซิลที่ถาม

“เส้นทางผู้ตัดสินใกล้เคียงเส้นทางใด”

“นักกฎหมาย” แคทลียาตอบห้วน

นักกฎหมาย… เส้นทางจักรพรรดิมืด… ถ้าอย่างนั้น หลังจากลำดับห้า เราสามารถสับเปลี่ยนไปยังลำดับ 4 ของเส้นทางจักรพรรดิมืดได้ ฟอร์สเคยเล่าว่ามิสเตอร์ฟูลมีไพ่เย้ยเทพของเส้นทางจักรพรรดิมืดซึ่งบรรจุความลับทั้งหมดของเส้นทางเอาไว้… ซิลเริ่มมองเห็นแสงแห่งความหวัง

ต้องไม่ลืมว่า เส้นทางผู้ตัดสินถูกผูกขาดจากถึงสองตระกูลราชวงศ์อย่างเข้มงวด แม้แต่กองทัพก็ยังมีสูตรโอสถแค่ลำดับล่างถึงกลาง หากต้องการเลื่อนลำดับให้สูงกว่าห้า จะต้องได้รับการอนุมัติจากราชวงศ์เท่านั้น เฉกเช่นที่ตำแหน่งนายพลของกองทัพต้องถูกแต่งตั้งโดยกษัตริย์หรือพระราชินี ในระหว่างพิธี สิ่งที่พวกมันจะได้รับคือโอสถและการอำนวยความสะดวก

สำหรับซิล นั่นหมายความว่าแทบจะหมดสิทธิ์ในการครอบครองสูตรโอสถหรือตะกอนพลังลำดับสี่ แห่งเส้นทางผู้ตัดสิน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแนวป้องกันจะรัดกุมสักเพียงใด แต่ก็ต้องมีช่องโหว่เผยให้เห็น ครึ่งเทพของกองทัพล้วนทราบพิธีกรรม เพราะพวกมันเคยผ่านมาแล้ว และเนื่องจากเคยออกล่าสัตว์วิเศษกับราชวงศ์บ่อยครั้ง จึงพอจะตีกรอบวัตถุดิบหลักของโอสถให้แคบลงได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นการลองผิดลองถูกอยู่ดี และครึ่งเทพของกองทัพไม่มีทางเชี่ยวชาญวัตถุดิบ หากต้องการเลื่อนลำดับผ่านพวกมัน อันดับแรกที่ต้องทำคือสวดมนต์

แต่ในปัจจุบัน ซิลมองเห็นโอกาสใหม่ที่สดใส

ขณะเดียวกัน ออเดรย์เริ่มสรุปข้อมูลเส้นทางที่มิสเตอร์เวิร์ลและมาดามเฮอร์มิทเปิดเผย จากนั้นก็ตั้งคำถาม

“สำหรับเส้นทางนักโทษ อาชญากร นักล่า นักลอบสังหาร ผู้ส่องความลับ นักปราชญ์ และสัตว์ประหลาด เส้นทางใดอยู่กลุ่มเดียวกับใครบ้างหรือคะ?”

เดอะเวิร์ล เกอร์มัน สแปร์โรว์ชำเลืองไปทางเฮอร์มิทและตอบเสียงแหบพร่า

“นักโทษกับอาชญากร นักล่ากับนักลอบสังหาร นักปราชญ์และผู้ส่องความลับ”

ทั้งหมดคือข้อมูลที่ไคลน์สืบหามาได้ เส้นทางนักโทษและอาชญากรได้ยินมาจากบทสนทนาระหว่างวิญญาณมารเทวทูตสีชาดกับชารอน เส้นทางนักปราชญ์กับผู้ส่องความลับได้จากโรซายล์ และนักล่ากับนักลอบสังหารเกิดจากการรวบรวมข้อมูลในระยะหลังจนมั่นใจ

“แล้วสัตว์ประหลาดล่ะ? เหลือแค่เส้นทางเดียวแล้ว” เมจิกเชี่ยน ฟอร์สซึ่งนั่งฟังมาสักพัก อดไม่ได้ที่จะถาม

เมื่อแคทลียาเห็นว่าเกอร์มัน สแปร์โรว์ปิดปากเงียบ เธอไตร่ตรองสักพักก่อนจะพูด

“เส้นทางสัตว์ประหลาดไม่ถูกจำแนกให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับใคร พวกเขาต้องอยู่ตามลำพังเฉกเช่นชะตากรรม สำหรับเรื่องนี้ ฉันมั่นใจมาก… อย่าลืมว่ารากฐานของพลังพิเศษบนโลกเกิดจากความวุ่นวายและไม่เป็นระเบียบ”

แคทลียากล้ายืนยันเพราะว่า ในพิธีกรรมเลื่อนเป็นครึ่งเทพ เธอทำการวิเคราะห์เลือดของอสรพิษปรอทแห่งเส้นทางสัตว์ประหลาด

“อย่างนั้นหรือ…” ออเดรย์ค่อนข้างคาใจกับความไม่เข้าคู่ของเส้นทาง แต่สุดท้ายก็ปรับอารมณ์กลับมาเป็นปรกติ

หลังจากการแลกเปลี่ยนจบลง สมาชิกทุกคนหันมาทางเดอะซัน เดอร์ริค

เด็กหนุ่มไม่ลังเล รีบกล่าวเข้าประเด็น

“พวกเราออกเดินทางแล้ว ปัจจุบันเหลืออีกไม่ถึงครึ่งวันก็จะถึงหมู่บ้านยามบ่าย จากนั้นก็หยุดพักสักวันสองวันก่อนจะเริ่มสำรวจวังราชาคนยักษ์”

คำพูดของเดอะซันทำให้แฮงแมนและเฮอร์มิทรู้สึกว่าตำนานกำลังจะกลายเป็นจริง เมื่อเทียบกับซากสมรภูมิแห่งเทพแล้ว วังราชาคนยักษ์คือสัญลักษณ์อันโด่งดังที่มีการบันทึกไว้มากมาย

ด้านในจะซ่อนความลับใดไว้ และจะค้นพบสิ่งใดบ้าง!

แม้จะเคยติดตามเกอร์มัน·สแปร์โรว์เข้าไปในเมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิด ซึ่งมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับวังราชาคนยักษ์ แต่เดอะสตาร์กับมิสจัสติสก็ไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวังราชาคนยักษ์ของตน เพราะต้องไม่ลืมว่าการเดินทางของกรอซายที่มังกรจินตนาการขึ้น สูญเสียกระบวนการไปมากหลังจากหนังสือเปลี่ยนมือ นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็แทบไม่เหลือเบาะแสที่มีค่า เว้นเสียแต่ตัวอาคารและสถาปัตยกรรม มีเพียงเสาหินยักษ์ตั้งที่เรียงรายเท่านั้น จึงจะสร้างเสน่ห์ระดับเทวตำนานได้อย่างสมจริง

และเหนือสิ่งอื่นใด เดอะซัน เดอร์ริคเคยเล่าว่า เหล่าราชาเทวทูตต่างสมคบคิดแผนหักหลังภายในวังราชาคนยักษ์!

เดอะฟูล ไคลน์กำลังคิดเรื่องอื่น

เราต้องบอกให้เดอะซันน้อยสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลก่อนออกเดินทาง จากนั้นเราจะอาศัยดาวแดงตัวแทนเขาในการรับชมถ่ายทอดสดด้วยมุมมองที่กว้างไกล…

ด้วยวิธีดังกล่าว หากเกิดปัญหาขึ้นกับพวกเขา เราสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที แต่ปัญหาเดียวกันก็คือ มุมมองที่ได้จากการสวดวิงวอนจะอยู่ได้ไม่นานนัก…

ระยะเวลาของคำสวดวิงวอนไม่เกี่ยวกับปริมาณพลังวิญญาณ แต่เป็นเพราะการเชื่อมต่อนั้นหมดอายุและสลายไป สามารถคงไว้ได้นานที่สุดเพียงสี่สิบห้านาที… หรือควรบอกให้เดอะซันน้อยคอยสวดวิงวอนทุกๆ เวลาที่กำหนด? แต่แน่นอน ต้องไม่ทำในตอนที่กำลังต่อสู้ และห้ามให้คนใกล้ตัวล่วงรู้ความจริง…

ด้วยวิธีดังกล่าว พลังวิญญาณของเราจะทนได้นานสองชั่วโมง แตกต่างจากสมัยยังเป็นลำดับห้าโดยสิ้นเชิง แต่ส่วนหนึ่งคงมาจากการย่อยโอสถจอมเวทพิสดารได้ค่อนข้างคืบหน้า…

หลังจากไตร่ตรองสักพัก ไคลน์เลิกคุยกับตัวเองและบังคับให้เดอะเวิร์ลมอบคำใบ้แก่เดอะซัน

“ก่อนที่จะเริ่มสำรวจวังราชาคนยักษ์ คุณสามารถสวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูลเพื่อขอการอำนวยพร และระหว่างทางก็สวดวิงวอนได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่ต้องการ”

มิสเตอร์เวิร์ลนิสัยดีมาก… หลังจากเดอะซันขอบคุณจากก้นบึ้ง มันรีบหันศีรษะไปทางตำแหน่งประธานโต๊ะทองแดงยาว

ทันใดนั้น มันเห็นมิสเตอร์ฟูลที่รายล้อมด้วยสายหมอก พยักหน้ารับแผ่วเบา

………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset