Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 987 : “ล้างสต๊อก”

ทักทายกันเสร็จ จัสติสออเดรย์เหลือบมองไพ่เย้ยเทพสามใบด้านข้างเดอะฟูล ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า เธอลืมรวบรวมไดอารีโรซายล์จากสมาคมแปรจิต

มัวแต่กังวลเรื่องของเฮอร์วิน·แรมบิส… ออเดรย์ที่เริ่มปรับความคิด กลับมาหดหู่อีกครั้ง

พร้อมกันนั้น ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาชำเลืองไปทางสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว ก้มหน้าลงและกล่าว

“เรียนมิสเตอร์ฟูลที่เคารพ สัปดาห์นี้ก็ยังไม่ได้รับไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์”

ราชินีเงื่อนงำไม่ส่งไดอารีสองสัปดาห์ติดๆ … มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเธอ? ‘เดอะฟูล’ ไคลน์กำลังนั่งผ่อนคลายบนเก้าอี้พนักสูง รู้สึกสับสนเล็กน้อย มิอาจหาข้อมูลมาคาดเดา

แต่เพียงไม่นานก็ปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว เพราะมาดามเฮอร์มิทมิได้แสดงท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย!

พิจารณานิสัย ‘ติดแม่’ ที่พลเรือเอกดวงดาวแสดงให้เห็นในโลกความฝันของซากสมรภูมิเทพ หากราชินีเงื่อนงำไม่ตอบสนองนานถึงสองสัปดาห์ ไม่มีทางที่เธอจะเยือกเย็นได้เช่นนี้ บางทีอาจถึงขั้นขอความช่วยเหลือจากเดอะฟูล… กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอยังสามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ เพียงแต่ไม่มีไดอารีจักรพรรดิโรซายล์… ‘เดอะฟูล’ ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบา ตอบแคทลียาเสียงเย็น

“ไม่เป็นไร”

กล่าวจบ มันขบคิดบางสิ่ง พยายามวิเคราะห์หาจุดประสงค์ของราชินีเงื่อนงำ

อันดับแรก ไคลน์ตัดเรื่องที่ไดอารีในมือแบร์นาแดตหมดแล้วออกไป เพราะถ้าประเมินจากความถี่ในการเขียนไดอารีของจักรพรรดิตั้งแต่แรกจนถึงสุดท้าย น่าจะรวบรวมเป็นหนังสือได้ราวสิบเล่ม และต่อให้แบร์นาแดตมีเพียงหนึ่งในสาม หรือสองสามเล่ม หมายความว่าเธอยังเหลือไดอารีให้ไคลน์อีกหลายหน้า เพราะที่ผ่านๆ มาเป็นเพียงไดอารีส่วนน้อยซึ่งอันแน่นไปด้วยข้อมูลสำคัญ

ประการที่สอง ไคลน์ไม่เชื่อว่าราชินีเงื่อนงำจะตีความคำตอบของตนได้กระจ่างชัด

และสุดท้าย มันมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่สามารถถอดรหัสไดอารีออก เพราะเธอไม่เข้าใจภาษาจีน จักรพรรดิโรซายล์ไม่เคยสอน อาจมีเพียงให้จำแค่ตัวอักษรสองสามตัว

เมื่อนำทั้งสามข้อมารวมกัน มันสงสัยว่าไดอารีชุดถัดไปที่แบร์นาแดตจะนำมาให้จะต้องมีระดับความสำคัญสูงมาก เป็นประเภทที่บ่งชี้ไปยังความลับระดับโลก และคำถามจะต้องเป็นประเภทที่ว่า แม้แต่คนถามก็ยังไม่แน่ใจว่าตนอยากทราบคำตอบหรือไม่ ดังนั้น ราชินีเงื่อนงำจึงกำลังลังเลและคิดไม่ตก!

คงไม่หนีจากนี้มากนัก… ชักอยากรู้แล้วว่าจักรพรรดิเขียนอะไรลงไป และแบร์นาแดตใช้สิ่งใดเป็นเครื่องบ่งชี้คุณค่าของไดอารี… เราต้องไม่ลืมฝากบอกมาดามเฮอร์มิทเกี่ยวกับการขอนัดพบ… ขณะ ‘เดอะฟูล’ ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์หันไปมองทาง ‘เดอะสตาร์’ เลียวนาร์ด

“ขอแสดงความเสียใจ แต่ผมไม่พบสมบัติวิเศษที่ตรงตามความต้องการของคุณ”

“ไม่เป็นไรครับ นั่นเป็นเรื่องปรกติ สมบัติวิเศษของลำดับ 5 และ 6 ค่อนข้างหายาก” เลียวนาร์ดพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ

เดิมที มันพยายามนั่งหลังตรงอย่างประหม่า แต่เมื่อเห็นว่าเดอะมูนและเมจิกเชี่ยนก็มิได้นั่งเรียบร้อยอะไร จึงผ่อนคลายตัวเองลง

เห็นเช่นนั้น ไคลน์บังคับให้ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์เปล่งเสียงแหบ

“ผมมีสมบัติวิเศษ พลังของมันสอดคล้องกับความต้องการของคุณ เพียงแต่ผลข้างเคียงค่อนข้างมากและหลีกเลี่ยงได้ยาก สนใจฟังไหม?”

มันกำลังหมายถึงไม้เท้าวาจาสมุทร

ไคลน์ไม่เคยคิดจะขายสมบัติวิเศษที่เกือบจะกลายเป็นสมบัติปิดผนึกชิ้นนี้กับเลียวนาร์ด เพราะมันเชื่อว่าเพื่อนรักนักกวีของตนมิอาจต้านทานผลข้างเคียงด้านลบได้แน่ ไม้เท้าอันนี้จะคอยร้องเพลงที่ทำลายประสาทโดยไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู ชอบทุบตีผู้ถือ ชอบทำให้สะดุดล้ม แถมยังล่อฟ้าผ่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลีกเลี่ยงอย่างสมบูรณ์ การที่ไคลน์สามารถใช้งานได้ เพราะมันสั่งสอนบนมิติหมอก แถมยังใช้คนถือเป็นหุ่นเชิด ‘ผู้ชนะ’ เอ็นยูน จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แถมยังสามารถทำให้ข้อด้อยบางเรื่องกลายเป็นประโยชน์

แต่หลังจากพิจารณาว่า ในตัวเลียวนาร์ดมีปรสิตเทวทูตลำดับ 1 ของเส้นทางนักจารกรรมสิงอยู่ ไคลน์คิดว่าอีกฝ่ายอาจหาวิธีแก้ปัญหาได้ จึงตัดสินใจลองเสนอ

“ตกลง เล่ามาเลย” เลียวนาร์ดเชื่อว่าไคลน์ไม่คิดเอาเปรียบตน จึงยินดีที่จะฟังสถานการณ์

‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ชำเลืองไปทางแฮงแมนเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเชื่องช้า

“ไม้เท้าอันนี้สามารถยิงสายฟ้าใส่เป้าหมาย…”

มันบรรยายพลังและผลข้างเคียงของไม้เท้าวาจาสมุทรอย่างคร่าว เลียวนาร์ดที่ได้ยินพลันใจเต้นแรง แต่ขณะเดียวกันก็ขมวดคิ้ว

สามารถใช้เป็นไม้กายาสิทธิ์ที่พาเราบินไปในอากาศ… ต่อให้เป็นลำดับ 5 จอมอาคมวิญญาณ แต่เราก็ต้องรวบรวมวิญญาณที่เหมาะสมจึงจะมีพลังในการบิน… พลังโจมตีสูงมาก ประโยชน์ก็ยังหลากหลาย… แต่ผลกระทบด้านลบทั้งสามข้อก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน… คงต้องกลับไปถามตาแก่ว่า พอจะมีวิธีบรรเทาผลข้างเคียงลงบ้างไหม… เลียวนาร์ดคิดสักพักก่อนจะตอบ

“ขอคิดดูก่อน ให้คำตอบสัปดาห์หน้าได้ไหม?”

“ตกลง” ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ตอบด้วยสีหน้าไม่ประหลาดใจ

สำหรับสมาชิกคนอื่น แม้ในตอนต้นจะสนใจ แต่เมื่อได้ยินผลข้างเคียงของวาจาสมุทร พวกมันทยอยยกธงขาวไปทีละคน

ทันใดนั้น ‘เดอะฟูล’ ไคลน์พลันผุดแนวคิดใหม่ นั่นคือการถือโอกาส ‘ล้างสต๊อก’

ปัจจุบัน มันกลายเป็นลำดับ 4 สิ่งมีชีวิตครึ่งเทพ สมบัติหลายๆ ชิ้นไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

ยุบพองหิวโหยต้องเก็บไว้ก่อน ลำดับพลังท่องเที่ยวอย่างเดียวก็มีประโยชน์มากแล้ว… นอกจากนั้น เรายังสามารถใช้มัน ‘ต้อนแกะ’ วิญญาณนักบุญลำดับ 4 ได้ด้วย มีศักยภาพในการพัฒนา แถมความสามารถเดิมก็ผสมผสานได้ไม่เลว… ปืนลูกโม่ลางมรณะไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ถ้ายิงด้วยโหมดโจมตีหนักหน่วงใส่จุดอ่อนเป้าหมาย ความรุนแรงก็ยังสูงกว่าปืนใหญ่อัดอากาศ สามารถใช้ต่อไประหว่างที่ยังอยู่ในลำดับ 4… อา… และมันก็สามารถพัฒนาได้… วัตถุสองชิ้นแรกที่แล่นเข้ามาในหัวไคลน์คือสิ่งที่มันพึ่งพามากที่สุดในระยะหลัง

ตามความเห็นของมัน ปืนลูกโม่ลางมรณะสามารถพัฒนาได้ด้วยการบรรจุกระสุนที่ทรงพลัง แต่ปัญหาก็คือ กระสุนประเภทดังกล่าวหาได้ไม่ง่าย เทียบได้กับยันต์ขั้นสูง แม้จะรวบรวมวัสดุด้วยตัวเอง แต่ก็ใช้ว่าจะประสบความสำเร็จในการสวดวิงวอนถึงตัวตนระดับสูง แถมยังอาจเกิดผลข้างเคียง

สำหรับประเด็นนี้ ไคลน์คิดไว้เบื้องต้นหลายแผน เช่นการสวดวิงวอนถึงเทพธิดารัตติกาล ขอความช่วยเหลือจาก ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสติน ขอความช่วยเหลือจากพาลีส·โซโรอาสเตอร์ผ่านเลียวนาร์ด หยิบยืมพลังของมิติเหนือสายหมอก นอกจากนั้นยังมี ให้เลียวนาร์ดหาข้ออ้างกลับไปยังเหยี่ยวราตรีทิงเก็น ยืมตราศักดิ์สิทธิ์แห่งสุริยันที่กลายพันธุ์มาใช้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็นการยืมหยดเลือดของสุริยันเจิดจรัสจากสมบัติปิดผนึก ‘3-0782’

กระสุนเพลิงสุริยันจะกลายเป็นของแสลงของวิญญาณมารแน่นอน… เมื่อพิจารณาว่า พลังของมิติหมอกสามารถสร้างยันต์โจรปล้นดวงจากหนอนกาลเวลาของอามุนด์ หนอนวิญญาณของเราก็น่าจะนำไปสร้างกระสุนวิเศษได้เช่นกัน… แต่ทำยังไง? คงต้องตามพาลีส·โซโรอาสเตอร์… ไคลน์อดทนรอการพูดคุยระหว่างตนกับเลียวนาร์ดในครั้งถัดไป

หนอนวิญญาณ – นี่คือชื่อที่มันมอบให้หนอนแมลงโปร่งใสของตัวเอง

หลังจากนั้น มันหันไปพิจารณาวัตถุและตะกอนพลังอื่นๆ

เข็มกลัดสุริยัน? เราไม่ค่อยมีพลังพิเศษในขอบเขตนี้… ถึงสิ่งมีชีวิตวิญญาณจะถูกจัดการได้ง่ายด้วยการเข้าควบคุมด้ายวิญญาณ แต่อย่างน้อย เราสามารถใช้เข็มกลัดสุริยันทำให้เทวทูตกระดาษเปลี่ยนคุณสมบัติ แถมยังต้องเก็บไว้ให้เดนิสใช้งานเป็นครั้งคราว…

แหวนบุปผาโลหิต? นี่ก็ขายไม่ได้… ชุมนุมทาโรต์ไม่มีคนของชุมนุมแสงเหนือเข้าร่วมสักหน่อย… เก็บไว้ให้หุ่นเชิดใช้งานดีกว่า การมีชีวิตเพิ่มอีกหนึ่ง นั่นอาจหมายถึงความหวัง…

แหวนดอกไม้เขียว? ชิ้นนี้ขายได้ เพราะเราสามารถโอนถ่ายอาการป่วยได้แล้ว นอกจากนั้น ในยุบพองหิวโหยก็ยังมีวิญญาณของ ‘แพทย์’

กระดุมข้อมือเมอร์ล็อค? ไม่มีประโยชน์กับเราแล้ว หากต้องการดำน้ำ ก็แค่แปลงกายเป็นปลาตัวใหญ่ หรือถ้าต้องการใช้พลังระยะยาว เราสามารถส่งตัวเองขึ้นมาบนมิติหมอกและใช้พรจากคทาเทพสมุทร

นิ้วขาด? เราไม่คิดว่าจะมีใครอยากได้ นอกจากนั้น เรายังไม่ทราบจุดประสงค์ที่ครึ่งเทพเส้นทางนักจารกรรมรายนั้นหมกตัวอยู่ในท่อระบายน้ำ เก็บไว้ก่อนอาจมีประโยชน์

กระสุนพิเศษ… ตอนนี้มีกระสุนชำระล้างหนึ่งนัด ปราบมารหกนัด และปัดเป่าอีกสองนัด… ไม่มีความจำเป็นต้องขาย เดียวก็หาโอกาสใช้ได้เอง…

ขวดพิษชีวภาพ? เฮ้อ… ขายไม่ออกสักที

ออร่าของผู้ละเมอ? เราสามารถใช้มันสร้างยันต์หรือกระสุนได้ ตอนนี้อย่าเพิ่งขายดีกว่า… แต่ปัญหาก็คือ เราสามารถสวดวิงวอนถึงด้านมืดเอกภพได้หรือ? เก็บไว้ก่อน ค่อยหาทางออกในอนาคต

ตะกอนพลังนักสอบปากคำ… ตะกอนพลังคนบ้า… เลือดของนักล่าพันหน้าจำนวนสิบห้ามิลลิลิตร… ละอองผงของหัวขโมยโลกวิญญาณสี่สิบกรัม… ดวงตาการ์กอยล์หกปีก… สมาชิกชุมนุมทาโรต์คงไม่ต้องการสิ่งของเหล่านี้ เราควรเก็บไว้เป็นรางวัลให้เหล่าสาวกของเทพสมุทร กลุ่มต่อต้านบนหมู่เกาะรอสต์… ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์รีบตัดสินใจ

สำหรับคทาเทพสมุทร การเดินทางของกรอซาย และกุญแจวังราชาคนยักษ์ สิ่งเหล่านี้มีระดับไม่ต่ำกว่าครึ่งเทพ ไม่มีทางขายแน่นอน

จากนั้น มันบังคับให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์กล่าว

“ผมมีสมบัติวิเศษต้องการขายสองชิ้น ลำดับค่อนข้างต่ำ…”

แคทลียาตอบทันที

“ลำดับต่ำไม่ได้แปลว่าไร้ค่า ต่อให้เป็นความสามารถในลำดับต่ำ แต่ถ้าใช้อย่างเหมาะสมก็สามารถพลิกสถานการณ์ระหว่างการต่อสู้ของผู้วิเศษไม่เกินลำดับ 5 ได้… ดิฉันอยากได้ยินรายละเอียด”

ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อย อธิบายพลังและข้อเสียของกระดุมข้อมือเมอร์ล็อคกับแหวนดอกไม้เขียว จากนั้นก็ปิดท้ายว่า

“กระดุมข้อมือเมอร์ล็อคห้าร้อยปอนด์ แหวนดอกไม้เขียวหนึ่งพันปอนด์”

ทันทีที่สิ้นเสียง จัสติสออเดรย์ยกมือครึ่งหนึ่ง

“ดิฉันต้องการซื้อกระดุมข้อมือเมอร์ล็อค”

ใจจริง เธออยากพูดออกไปว่า ‘ฉันเหมา!’ เพราะท้ายที่สุด ผลข้างเคียงของสมบัติวิเศษทั้งสองชนิดนับว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนึงถึงผู้อื่น ออเดรย์ตัดสินใจสำรวมและเลือกกระดุมข้อมือ

สมบัติวิเศษชิ้นนี้สามารถสร้างเกล็ดมายา ช่วยให้ผู้ชมที่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอมีปราการป้องกันตัวเองเพิ่มอีกหนึ่ง และเหนือสิ่งอื่นใด เธอว่ายน้ำไม่เป็นอยู่แล้ว กระดุมข้อมือจึงนับเป็นการชดเชยจุดบอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผลข้างเคียงที่ว่า จะเกิดอาการอ่อนเพลียเมื่ออากาศร้อนและแห้ง เธอไม่กังวลมากนัก เพราะไม่ว่าจะเป็นแคว้นเชสเตอร์ตะวันออกหรือเบ็คลันด์ อากาศก็แทบไม่สูงกว่าสามสิบองศาเซลเซียส ระดับความชื้นก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน

เมื่อเห็นว่ามิสจัสติสเล็งกระดุมข้อมือ สมาชิกคนอื่นถอนตัวทันที ไม่มีใครคิดสู้ราคา เพียงไม่นานก็ปิดการขาย

หลังจากนั้น ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ขอซื้อแหวนดอกไม้เขียว เพราะสำหรับมัน แม้ว่าพลังในขอบเขตน้ำจะส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาฟื้นฟู แต่ประสิทธิภาพก็ไม่สูงเท่าพลังรักษาโดยตรง ในฐานะผู้วิเศษที่ต้องคอยต่อสู้ในระยะประชิด สิ่งนี้นับว่ามีประโยชน์

สำหรับข้อเสียที่ว่า จะถูกยุงรุมตอมได้ง่าย อัลเจอร์แทบไม่ใส่ใจ เกราะมันสามารถเสกเกล็ดมายาขึ้นมาปกป้องร่างกาย

หลังจากช่วงเวลาค้าขายจบลง ‘เดอะมูน’ เอ็มลินกระแอมในลำคอและกล่าว

…………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset