จับวิธีสร้างวงแหวนเวทแบบใหม่
โดย
หมอแมว
“ฮัลโหล รอน มีอะไรทำไมโทรมาดึกๆแบบนี้” แพทถาม พอกลับจากโลกโน้นเธอก็เพิ่งนอนไปได้แค่ชั่วโมงเดียว แถมยังห่วงๆว่ารอนจะเจอปัญหาอะไรหรือเปล่า
“แพท ที่หน้าจอของเธอมีตัวเลขที่มุมขวาหรือเปล่า”
“อ๋อ Bonus Stat นั่นน่ะเหรอ มีสิ” แพทบอก “ไม่ต้องห่วงหรอก เราใช้เรียบร้อยแล้ว”
“ธ เธอใช้ยังไงบอกเราหน่อย”
“เห?” เด็กสาวตอบกลับงงๆ ที่ผ่านมาเธอนึกว่ารอนไม่บอกเพราะอยากให้เธอค้นเจอเอง นี่ตกลงเขาก็ไม่รู้เหรอ
“นี่เธอยังไม่เคยใช้เหรอ”
“ยัง ยังไม่เคยใช้เลย นี่เราเพิ่งรู้ว่ามีคะแนนนี้อยู่ เราพยายามเปิดดูแล้วแต่ได้แต่ดู เปิดใช้ไม่ได้”
รอนบอกพลางดูหน้าจอ ตัวเลขทั้งหลายขึ้นก็จริงแต่เป็นสีเทาเหมือนกับไม่พร้อมใช้งาน
“เดี๋ยวเราลองดูตอนนี้เลย”
แพทเลือกกดดูBonus Stat ที่ยังเหลืออยู่ เธอลองกดใช้เพิ่มความจุพลังเวทดู ก็ใช้ได้ปกตินี่นา
“ใช้ได้ปกตินะรอน” แพทบอก
“ไม่จริงน่า” รอนพูด แล้วก็ฉุกคิดได้ “แพท เธอลองดูพลังเวทของเธอว่ามีเท่าไหร่ แล้วลองกดใช้Bonus Stat อีกทีนึงซิ”
แพทลองกดอีกครั้ง
“รอน จังหวะที่กดเข้าไปเลือกว่าจะใช้ Bonus Stat พลังเวทลดไป 0.5”
“อ้ากกกกกกก เพราะเราไม่มีพลังเวทนี่เองเลยใช้ไม่ได้” รอนกรีดร้องขึ้น
“รอน กลับบ้านก่อนเถอะแล้วค่อยโทรคุย ตรงถนนตัดใหม่ทางด่วนที่เธอยืนอยู่มันเปลี่ยวนะ” แพทมองใน Battle Map ของเธอ เห็นว่ารอนยังกลับไม่ถึงบ้านและอยู่ในระยะตรวจจับของแผนที่
“เห? แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเราอยู่ตรงไหน” รอนถามอย่างสงสัยตะหงิดๆ
ขณะที่แพทฟังแล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้เหมือนกัน
“รอน”
“อะไรเหรอ”
“เธอเคยใช้ Battle Map ไหม”
“อะไรคือ Battle Map อย่าบอกนะว่ามันยังมีอย่างอื่นให้ใช้อีก”
แพทลองกดดู ดูเหมือนการใช้ Battle Map ก็ต้องใช้มานา 0.5 เหมือนกัน
นอกจากนี้แพทก็สังเกตว่าถ้าอยู่ที่โลกโน้น มานาจะเพิ่มขึ้นช้าๆตามเวลา แต่ถ้าอยู่ที่โลกใบนี้ มานาจะไม่เพิ่มขึ้นเลยนอกจากดูดซับแกนมอนสเตอร์เข้าไป
แต่สำหรับรอนที่ไม่มีพลังเวทเลยนั้นอย่าว่าแต่ใช้Bonus StatหรือBattle Map เลย แค่การกดตามหน้าจอ ของพวกนี้ยังไม่ขึ้นมาด้วยซ้ำ
มิน่าที่ผ่านมา เขาที่ลองกดๆหาดูตลอดก็ไม่เคยเจอฟังก์ชั่นพวกนี้
เพราะแค่การกดให้เด้งขึ้นมาก็ต้องอาศัยพลังเวท พลังเวทที่เขาไม่มีในร่างกาย
“เธอไม่เคยลองใช้เหรอรอน” แพทถาม
“คือเราเคยลอกกดๆแล้วมันไม่ขึ้นเลยไม่ได้คิดอะไรน่ะ” รอนบอก “อีกอย่างเราคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เกม เลยไม่คิดว่ามันจะเป็น Bonus Stat อะไรนั่น”
“อืม แต่เรามองอีกอย่างนะ” แพทบอก “ในเมื่อผู้ที่สร้างเจ้าศิลานักปราชญ์นี้ขึ้นมา มีการวางรูปแบบหลายๆอย่างคล้ายๆเกม เขาอาจจะจงใจใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานให้่เหมือนเกมไปเลยเพื่อจะได้ใช้งานง่ายๆก็เป็นได้น่ะ เธอเป็นเกมเมอร์แท้ๆน่าจะรู้นี่”
“โอยยยย แพท อย่าขยี้” เด็กหนุ่มครวญคราง
เด็กหนุ่มกลับไปที่บ้านอย่างเซ็งๆ จัดการปีนขึ้นหน้าต่างบ้านแล้วเข้านอน
เช้าวันถัดมาทั้งคู่ไปที่โรงเรียนตามปกติ ทั้งสองคนนั่งง่วงสัปหงกในห้องเรียนเนื่องจากเมื่อคืนต่างไม่ได้นอนกันทั้งสองคนเจอเรียกกันไปหลายครั้งจนกระทั่งพักกลางวัน
“ห้องนี้มีพี่ที่ชื่อรอนหรือเปล่า” เด็กม.1คนนึงเดินมาถาม
“เฮ้ย รอน มีน้องมาหา” เพื่อนที่อยู่หน้าห้องร้องบอก
สุธนเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าตื่นเต้น เขาวางแฟ้มลงบนโต๊ะ
“พี่รอน ของที่พี่ให้ผมมามันเยี่ยมมาก ผมแกะความหมายข้างในได้ด้วย” สุธนพูดแค่นี้แล้วก็หยุดลงหันไปมองหน้าแพทที่ยังนั่งอยู่
“ไม่เป็นไร พูดต่อไปเถอะ พี่แพทเค้าก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว”
น้องม.1นักแกะรหัสคราฟของเปิดแฟ้มออกมา
“ตอนแรกผมก็ไม่หวังมากหรอกว่ามันจะใช้ได้ผลอะไร เพราะพวกวงแหวนเวทสวยๆส่วนใหญ่เป็นแค่งานศิลปะที่ทำออกมาสวยๆเท่านั้น แต่พอเอาข้อมูลทั้งหมดใส่เข้าไป ปรากฎว่ามันใช้ได้”
หน้าแรกเป็นหน้าเวทไฟ
“หน้าของเวทไฟระดับที่1 จะมีอักษรพื้นฐานอยู่ 4ตัวที่เรียงกันเป็นวงกลม
หน้าของเวทไฟระดับที่ 2 จะมีตัวอักษรเพิ่มเป็น 8 ตัว ถ้าหากสังเกตดีๆ จะมีการเรียงซ้อนกันของวงแหวนระดับที่ 1 อยู่ในภาพนี้ด้วย”
“และอันนี้คือหน้าของเวทไฟระดับที่ 3 จะมีตัวอักษร 16 ตัวเท่ากันไม่ว่าจะเป็นเวทใด และการจัดเรียงภายในจะมีการเรียงซ้อนของเวทระดับ1และ2ที่แตกต่างกันไป”
“คนที่ทำวงแหวนนี่ต้องเก่งมากๆ เพราะการจัดเรียงของวงแหวนเวทระดับที่ 1 และ 2 ที่อยู่ในเวทระดับที่ 3 มีกฎของมันอยู่ อย่างอันนี้เป็นเวท Fire Pillar เป็นเวทเสาเพลิง ตัวอักษรมีการ…”
“เดี๋ยวๆ เริ่มไม่เข้าใจแล้ว” รอนเบรก
“งั้นสรุปนะพี่ ตัวอักษรในนี้เป็นเหมือนวงจรไฟฟ้า ถ้าเราเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม และปล่อยไฟเข้าไปถูกวิธี จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป” สุธนบอก “เท่าที่ผมดู วงแหวนในนี้น่าจะทำให้สมจริง คือยิ่งเวทระดับสูงก็ต้องขยายขนาดวงแหวนให้ใหญ่ แรงดันของพลังที่ใส่เข้าไปก็ต้องใส่ให้มากขึ้น”
รอนคิดตาม …ก็จริง เวทระดับ 2 ก็ต้องใช้แกนมอนสเตอร์ระดับ 2 เวทระดับ 3 ก็ต้องใช้แกนระดับ 3
แล้วรอนก็ต้องหูผึ่งเมื่อได้ยินประโยคถัดไป
“แต่ความจริงแล้วถ้าเราต่อเป็นโมเดล 3 มิติให้การเดินของพลังงานมันทับซ้อนกัน มันจะทำให้พลังที่ใช้ป้อนเข้าไปลดลงและสามารถลดขนาดของวงแหวนเวทลงมาได้อีก”
“เดี๋ยวๆๆๆ ลดขนาดได้ โมเดล3มิติ ใช่แบบนี้หรือเปล่า”
รอนถอดเครื่องรางรักษาที่ห้อยคอไว้เอาให้ดู สุธนรับไปดูอย่างงงๆอยู่พักนึงก่อนจะร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“นี่แหละ จริงด้วย นี่เป็นโมเดล 3 มิติของเวทรักษาระดับ 3”
“เห ระดับ 3? ไม่ใช่ระดับ4รึ”
“ใช่ครับพี่ นี่ไง มันมีอักษร 16 แบบ ถ้าเป็นระดับ 4 ต้องมีอักษร 32 ตัวแล้วสิ”
รอนคิดในใจ หนอย เจ้าของร้านขายเครื่องราง หลอกกันได้นะคนเรา
“พี่รอน ผมขอเอาเจ้าแท่งนี้ไปดูได้ไหม จะได้เอาไปวิเคราะห์แบบจำลอง3มิติ เผื่อจะได้ใช้เป็นตัวอย่างในการสร้างชิ้นใหม่”
“ได้สิ แต่ว่าระวังอย่า ‘ใช้’ เข้าแล้วกัน”
“ใช้?”
“อ่อ คือมันแตกง่ายน่ะ”
สุธนเก็บเอาผลึกเครื่องรางเข้ากระเป๋าอย่างระมัดระวัง
“ดูเหมือนพี่จะเป็นเบต้าเพลยเยอร์ให้เกมนี้ใช่ไหมพี่รอน” สุธนบอก “ต้องเป็นเกมที่เยี่ยมมากๆแน่ ถึงได้มีรายละเอียดมากขนาดนี้ ถ้าพี่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเอามาบอกผมด้วยนะ”
“เอ่อ ได้ ได้”
“แล้วอันนี้ เป็นแบบจำลองเวทไฟระดับ3ที่ผมปรับปรุงใหม่ ใช้แผ่นเวทระดับ 1 เอามาซ้อนกัน 3 แผ่น สามารถเดินพลังด้วยการกระตุ้นระดับที่ 1 พี่รอนลองเอาไปใช้ในเกมดูว่าได้ผลไหม”
สุธนเอากระดาษแผ่นสุดท้ายให้รอน ข้างในมีแบบแปลนของวงแหวนเวท 3 แผ่นและวิธีประกอบรวมซ้อนกันเป็นแผ่นเดียวเขียนไว้เสร็จสรรพ
สุธนกลับออกไปอย่างหัวใจพองโต นานแล้วที่เขาไม่ได้เจองานที่ท้าทายแบบนี้ นี่โชคดีที่เขาได้มาเจอกับรอนและได้รับว่าจ้างจากรอน เพราะถ้าต่อไปมีคนเล่นเกมนี้มากๆเข้า คนที่จะมาขอให้เขาถอดรหัสเวทมนตร์ในเกมต้องเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ
น้อง ม.1 คนนี้ไม่รู้เลยว่าทั้งหมดที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่เกม
เย็นนั้นรอนกลับไปที่บ้าน สแกนและปริ้นท์แผ่นกระดาษออกมาตัดตามรอย ได้เป็นแผ่นวงแหวนเวทขนาดครึ่งกระดาษA4 (A5) ทำออกมา 20กว่าชุด
กิ๊ง
รอนดู Notification ในมือถือ เงินเข้า Wallet Bitcoin ของเขาเรียบร้อยแล้ว ดูจากจำนวนเงินที่อยู่ในBitcoin ตอนนี้ดูเหมือนว่าเงินที่ได้จะน้อยกว่าที่คาด ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าขายได้ด้วยrateเดิม จะได้เงิน 300 ล้านบาท แต่ดูจากที่เงินเข้ามาแปลงกลับเป็นเงินไทยแล้วเขาขายทองได้ราคา 270 ล้านบาทเท่านั้น
“ยังไม่พอ ยังน้อยเกินไป”
เด็กหนุ่มถอนหายใจ ท่าทางเขาจะต้องหาช่องทางปล่อยทองทางช่องอื่นบ้าง คุณพ่อของแพทมีช่องทางปล่อยทองจำกัด ถ้าใช้บ่อยๆก็จะไปกระทบธุรกิจร้านทองของท่านด้วย
ต้องหาให้มากกว่านี้ ต้องทำเงินให้มากกว่านี้
พอใกล้เที่ยงคืนรอนเตรียมเอาแผ่นม้วนเวทที่ปรินท์เรียบร้อยแล้วไปทางโน้น แต่ก็ประสบปัญหา
“อ้าว เฮ้ย เอาข้ามไปไม่ได้ ทำไงดี ทำไงดี”
หน้าจอขึ้นว่ากระดาษทั้งหมดแยกแผ่นกัน ไม่สามารถนำไปได้ในคราวเดียว รอนทั้งลองเอาแม็กมาเย็บ เอาหน้าปกมาใส่แล้วเนียนเขียนว่าเป็นสมุดภาพ แต่ระบบก็ไม่ยอมให้เขาเอามันข้ามไปโลกโน้น
“จริงสิ กฎ 30 วัน” รอนลืมนึกไปเสียสนิทว่าการนำของไปโลกโน้นยังติดกฎว่านำของไปได้Slotละชิ้น และของต้องอยู่ด้วยกัน 30 วันจึงจะถือเป็นชิ้นเดียว
รอนรีบคุ้ยกระดาษA4ต่อเนื่องที่เหลืออยู่แล้วปริ้นท์ออกมา กระดาษต่อเนื่องสำหรับสำนักงานถูกปรินท์ออกมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนครบ 20ชุด จากนั้นรอนก็ฉีกแล้วเอามาถือใหม่ คราวนี้สเตตัสไอเทมบ่งบอกว่ามันเป็นของชิ้นเดียวกันเอาข้ามไปได้ รอนเอากาวใส่กระเป๋ากางเกง และเอากรรไกรถือในมืออีกข้าง
“โอเค ได้แล้ว วาร์ปได้”
รอนมาโผล่ในห้อง มองไปรอบๆเห็นแพทกำลังนั่งรออยู่
“โทษทีแพท พอดีเอาของข้ามมาไม่ได้ เราเลยต้องไปปริ้นท์ใหม่”
ดูท่าทางเขาต้องอย่าเผลอลืมกฎพวกนี้ ไม่งั้นวันหน้าถ้าลืมในจังหวะสำคัญขึ้นมาอาจเกิดเรื่องยุ่งยากได้ เด็กหนุ่มเตือนใจตัวเองไว้(ปักธง)
ตอนนี้ที่นี่คือเที่ยงคืนและตอนนี้เด็กทั้งสองก็ไม่มีธุระต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบใดๆ ดังนั้นทั้งคู่จึงช่วยกันตัดกระดาษ ป้ายกาว เหยาะผงแกนมอนสเตอร์ แล้วประกอบกันขึ้นมาเป็นแผ่นเวทแบบสมบูรณ์
“มา เราเอาไปลองกัน” รอนบอกก่อนจะจูงมือแพทพาเดินออกไปนอกบ้านพัก
