เปิดใจยามราตรี
โดย
หมอแมว
“แพท อยู่ไหนเหรอ” รอนมองไปรอบๆ ในห้องตอนนี้ปราศจากผู้คน มีเพียงเขาที่ยืนอยู่คนเดียว
เด็กหนุ่มวางกระสอบพลาสติกเส้นสำหรับเครื่องพิมพ์สามมิติลง เดินออกจากห้องรับแขกไปดูห้องนอน ห้องครัว แต่ก็ไม่เจอแพท จนเขานึกได้กดเปิดแชทในโทรศัพท์มือถือ
[พ่อมา 23:58 น.]
ข้อความสุดท้ายที่ขึ้นในแชททำให้รอนรู้ว่าแพทไม่ได้มาที่นี่
เธอน่าจะคุยกับพ่อเข้าพอดีเลยต้องยกเลิกการเดินทางข้ามมิติ เพราะว่าจังหวะที่มีการเดินทางข้ามมิติร่างกายจะหายวับไปชั่วขณะ ถ้าหากหายไปตอนกำลังคุยกันพ่อต้องรู้แน่ๆ
รอนมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือ เหลืออีกตั้ง 6 ชั่วโมงกว่าฟ้าจะสาง จะทำอะไรดีนะ
รอนอุ้มกระสอบจากนั้นเดินออกจากบ้านพักใจกลางหมู่บ้าน เดินไปตามถนนยามเที่ยงคืนมุ่งหน้าไปที่กังหันปั่นไฟที่เขาตั้งทิ้งไว้
เด็กหนุ่มตัดผ่านโบสถ์ เสียงครืดคราดบางอย่างดังออกมาจากต้นไม้ รอนเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเจ้าเสือดำ
“ไง เจนัว” เด็กหนุ่มยกมือทัก เสือดำผงกหัวให้เขาทีนึงก่อนจะนอนต่อเงียบๆ ขณะที่ลูกๆของมันวิ่งไปมาที่พื้น
โรล่าน่าจะอยู่ในโบสถ์กับมาเรีย ช่วงหลังนี้เธอย้ายออกมาจากบ้านของคุณเบรเซอร์เพื่อมาดูแลโบสถ์และเจ้าเสือดำแม่ลูก
อันที่จริงช่วงนี้หมู่บ้านโอลเซ่นมีนักเดินทางมากหน้าหลายตาเข้ามา การที่เด็กสาวมาอยู่ที่นี่แค่สองคนดูอาจจะไม่ปลอดภัย แต่ว่าเจ้าเสือดำที่ทำสัญญากับโรล่าก็ทำให้รอนอุ่นใจได้ว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับโรล่า
ยังไงเจ้าเสือนี่ก็เคยเกือบจะฆ่าเขามาแล้วครั้งนึง ฝีมือพอตัวแน่ๆ
เด็กหนุ่มลูบหัวลูกเสือสามตัวที่วิ่งไปมาบนพื้น ก่อนจะออกเดินต่อไปยังที่ของตน
บ้านของรอนยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนี้เพิ่งสร้างขึ้นไปถึงชั้นสอง
ตรงเขตรั้วที่ต่อกับกำแพงโบสถ์ มีเพิงเล็กๆซึ่งติดตั้งกังหันปั่นไฟไว้ รอนแกะเชือกที่ผูกประตูไว้แล้วเข้าไป เปิดสวิทซ์ไฟทั้งหมด หลอดไฟเพดานสว่างเรืองขึ้นเผยให้เห็นเครื่องพิมพ์ 3 มิติเบื้องล่าง
รอนจัดการประกอบใส่สายพลาสติกวัตถุดิบแล้วจัดการโหลดไฟล์จากโทรศัพท์เข้าไป เป็นไฟล์ของวัตถุกลมขนาด 1 นิ้ว เอากาวทาที่แป้น เทผงผลึกแกนมอนสเตอร์ลงในช่องที่ทำเสริม จากนั้นก็กดเดินเครื่อง
เครื่องพิมพ์ 3 มิติตัวใหม่นี้เป็นรุ่นปกติต่างจากรุ่นต้นแบบที่คุณหลิวลักลอบนำเข้ามาอันแรก ข้อดีคือพิมพ์เร็วขึ้น แต่ข้อเสียก็คือมันใช้พลาสติกเส้น เลยทำให้รอนต้องไปจ้างคนให้ทำอุปกรณ์เสริมที่จะผสมผงแกนมอนสเตอร์เข้าไปในพลาสติก แม้จะเป็นเรื่องที่ปกติไม่มีใครเค้าทำกัน แต่พออัดเงินเข้าไปก็หาคนทำได้ไม่ยาก
การมีเงินนี่มันดีจริงๆ
เด็กหนุ่มนั่งดูเครื่องพิมพ์พิมพ์ไปช้าๆ พลาสติกถูกขึ้นรูปทีละน้อย พลาสติกขาวใสเป็นกรอบด้านนอก ส่วนพลาสติกแดงที่มีแกนมอนสเตอร์ผสม ถูกสอดเป็นวงจรอยู่ภายใน เวลาผ่านไป 10 นาที ลูกทรงกลมขนาด 1 นิ้วก็พิมพ์เสร็จ รอนหยุดเครื่อง ดึงลูกกลมนั้นออกมา จากนั้นกดเดินเครื่องใหม่
“ไหนทดสอบดูหน่อยซิ” เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋าเอาลูกบอลนั้นขึ้นมาเตรียมยิง ก่อนจะนึกได้ตบหน้าผากตัวเอง
“ลืมไป เราไม่มีมานา ใช้ไม่ได้นี่หว่า”
รอนเก็บลูกกลมนั้นลงในกระเป๋า นั่งรอเครื่องพิมพ์ทำงานไปช้าๆ พอครบ 10 นาทีก็หยิบลูกที่สองออก ทำลูกที่ 3 ต่อ
[คุณรับรู้ได้ว่ากำลังถูกเฝ้ามอง]
รอนหันไปมองด้านนอก ในความมืดนั้นร่างเล็กๆของเด็กสาวผมสีทองกำลังยืนอยู่ในความมืด
“โรล่า” รอนทัก “มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ พอดีโรล่าได้ยินเสียงแปลกๆก็เลยเดินออกมาดูค่ะ” เด็กสาวบอกพลางเดินมาใกล้ๆ “
“ผมกำลังทำลูกแก้วเวทมนตร์อยู่น่ะครับ”รอนบอก “โรล่ามาพอดีเลย ช่วยทดสอบให้ผมหน่อยสิ”
“ยังไงเหรอคะ” เด็กสาวถาม
“นี่ครับ ใส่ลูกแก้วเข้าไปที่ไม้ง่ามยิงหิน พอก่อนจะยิงก็ให้ใส่มานากระตุ้นเข้าไปเหมือนตอนร่ายเวทน่ะครับ”
โรล่ารับไม้ง่ามไป เธอปล่อยมานาเข้าไปในลูกทรงกลมนั้นจนมันเรืองแสง จากนั้นก็ปล่อยออก แสงสีแดงเรืองพุ่งไปตกที่คาคบไม้
ปัง!
เสียงดังขึ้นพร้อมกับเปลวไฟวูบเล็กๆ ใบไม้บริเวณนั้นฉีกขาดร่วงผลอยลงสู่พื้น
“คล้ายๆกับลูกระเบิดเวทที่คุณรอนเอาให้พวกเราใช้ตอนนั้นเลยนี่คะ”
“ใช่แล้วล่ะ ลูกแก้วนี้ใส่วงจรเวทมนตร์ลมและไฟระดับสองเอาไว้” รอนบอก “พลังเวทที่ใช้เพื่อการกระตุ้นก็ไม่มาก ถ้าให้ชาวบ้านใช้ก็ไม่น่ามีปัญหา”
ถ้าหากยิงออกไปพร้อมๆกันหลายสิบลูก ต่อให้เป็นทหารม้าที่กำลังชาร์จเข้าใส่ก็ต้องล้มลงแน่ๆ
แถมการบรรจุยิงก็ทำได้เร็วพอๆกับธนู การใช้ก็ง่ายกว่า
ที่สำคัญเพราะเป็นการใช้แรงอัดอากาศในการโจมตี ต่อให้อีกฝ่ายใส่เกราะ ถ้าหากมีช่องให้อากาศผ่านไปได้ก็ต้องได้รับผลแน่ๆ
โรล่าหยิบลูกแก้วเวทมนตร์ลูกที่สองขึ้นมา เล็งอีกครั้งไปที่กิ่งไม้สูง จากนั้นอัดฉีดมานาแล้วยิงออกไป
ปัง! ซวบ
กิ่งไม้ย่อมๆนั้นหักฟาดลงมา
“แบบนี้ก็เยี่ยมไปเลยสิคะ ถึงพลังจะน้อยกว่าลูกระเบิด แต่ยิงได้ไกล ถ้าเราใช้เป็นอาวุธลับล่ะก็ต้องจัดการมอนสเตอร์ได้สบายๆแน่” โรล่าบอก “คุณรอนมีอีกไหมคะ”
“ผมมีแค่สองอันนั้นครับ กำลังทำลูกที่สามอยู่” รอนบอก “ผมสัญญากับเจ้าชายว่าจะส่งของชุดแรกให้ทหารองครักษ์ลองใช้ดูก่อนด้วย แต่หมดชุดนี้แล้วเดี๋ยวผมจะทำให้โรล่าเก็บเอาไว้ใช้โดยเฉพาะเลย”
“ทำให้เจ้าชายเหรอคะ จะว่าไปลูกนึงก็ช้าจริงๆ”เด็กสาวมองดูเครื่องปริ้นท์ที่ทำงานอยู่ “ว่าแต่ คุณรอนขายให้เจ้าชายลูกละเท่าไหร่คะ”
“50เหรียญเงินครับ”
“ห๊ะ! งั้นที่โรล่ายิงไปเมื่อกี้สองลูกก็ 1 เหรียญทองเลยสิ!” โรล่าตกใจ “ไม่เอาแล้ว อุปกรณ์เวทมนตร์แพงขนาดนั้นเอาไปขายดีกว่าค่ะ โรล่าใช้เป็นลูกหินธรรมดาก็ได้”
“ไม่ได้ๆ เจ้าลูกแก้วนี่น่ะ ผมอยากให้โรล่าและชาวบ้านที่นี่ใช้กัน” รอนบอก “ถึงมันจะแพงแค่ไหนแต่ก็เทียบไม่ได้กับความปลอดภัยของโรล่าหรอก”
เด็กสาวแก้มแดงและพยักหน้ารับ ทั้งสองนั่งมองลูกกลมลูกที่ 3 ที่กำลังพิมพ์เสร็จ รอนดึงออกมาเก็บ ทากาวที่แป้น แล้วก็เริ่มพิมพ์ลูกที่ 4 ขณะที่ห่างออกไปมีเสียงดังและมีคบไฟจำนวนหนึ่งปรากฎขึ้นมา
“เร็วเข้า ทางนี้”
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ระวังตัวด้วย”
รอนและโรล่าหยิบดาบสั้นออกมาถือโดยอัตโนมัติ ขณะที่เจ้าเสือดำไล่ลูกๆเข้าไปซ่อนแล้วตรงมาคุ้มกันโรล่า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” รอนร้องถามชาวบ้านหน่วยคุ้มกันหมู่บ้านที่กำลังเข้ามา
“อ้อ ท่านรอนนี่เอง” ชาวบ้านคนนั้นร้องกลับมา “เมื่อครู่พวกเราได้ยินเสียงเหมือนมีใครใช้เวทมนตร์โจมตีครับ พวกเราเลยมุ่งหน้ามาทางนี้ ท่านรอนเห็นอะไรน่าสงสัยไหมครับ”
“เวทโจมตี … อ๋อ น่าจะเป็นเสียงที่พวกเราลองอาวุธเมื่อครู่ครับ” รอนบอก “ขอโทษด้วยครับ ผมเผลอทดลองอาวุธโดยลืมไปว่านี่มันกลางดึก ทำทุกคนตกอกตกใจกันหมด”
“อ่อ ที่แท้ก็ไม่มีอะไร โล่งอกไป” ชาวบ้านคนนั้นบอก “งั้นพวกเราไม่กวนท่านรอนแล้วล่ะครับ ไปก่อนนะโรล่า”
หน่วยคุ้มกันหมู่บ้านยกกำลังกลับไป เด็กสาวนึกขึ้นได้
“เดี๋ยวโรล่าขอตัวดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณแพทมาเห็นเข้าล่ะก็ไม่ดีแน่ๆ” โรล่าบอกก่อนจะรีบลุกขึ้นอย่างตื่นๆ
“วันนี้แพทไม่ได้มาด้วยน่ะโรล่า” รอนบอก “แล้วทำไมโรล่าต้องกลัวแพทแบบนั้นด้วย”
“คุณแพทไม่ได้มาเหรอคะ?” เด็กสาวเอ่ยทวน
“อื้อ วันนี้แพทอยู่ที่โลกฝั่งโน้น ไม่ได้มาด้วย” รอนบอก
เรื่องที่รอนข้ามไปโลกโน้นได้ โรล่าพอจะรู้อยู่บ้างแล้วจากการที่รอนเคยหายตัวไปต่อหน้าต่อตา 2 ครั้ง สำหรับเรื่องแพทนั้นโรล่าเพิ่งจะได้คำยืนยันในวันนี้จากปากของรอน
“แต่มันจะไม่เหมาะสิคะ” เด็กสาวบอก
“โธ่ นี่เรานั่งกันมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะโรล่า มากลัวอะไรกันตอนนี้ แล้วนี่เราก็นั่งแบบเปิดประตูเปิดเผย ไม่ได้อยู่ในที่ลับตาใครซะหน่อย” รอนบอก
“แต่เดี๋ยวคุณแพทรู้จะว่าโรล่าได้ว่ามาแย่งอันดับคนรักของเธอ” เด็กสาวแย้ง
“เฮ้อ ถ้ามันเป็น… ” รอนกำลังจะพูดแต่ก็ยั้งปากทัน
“ถ้าอะไรเหรอคะ” เด็กสาวถาม
“ไม่มีอะไรหรอก” เด็กหนุ่มตอบ
“บอกมาเถอะค่ะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
เด็กสาวยิ้มให้และบอกกับเด็กหนุ่ม
“ชั้นรู้ค่ะว่าประโยคเมื่อครู่ที่คุณรอนคิดน่ะ มันคงจะเกี่ยวกับโรล่า แต่เราสองคนผ่านความเป็นความตายอะไรกันมาหลายรอบแล้ว เรื่องมารยาทอะไรพวกนั้นน่ะอย่าไปคิดมากเลยค่ะ”
“คือผมกำลังจะบอกว่า ถ้าแพทเป็นคนรักของผมและโมโหเพราะโรล่าก็ดีน่ะสิ” รอนตอบหน้าเจื่อนๆ
“อ้าว คุณแพทไม่ใช่คนรักของคุณรอนหรอกเหรอคะ” เด็กสาวบอกอย่างประหลาดใจ