ขับออกจากหมู่บ้าน
โดย
หมอแมว
“กรี๊ดดดดดด คุณคะ!”
“คุณพ่อ!”
ศีรษะทั้งสามกลิ้งหลุนๆไปตามพื้นดิน ดวงตาทั้งหมดเบิกโพลงแบบไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
รอนที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด มองไปที่ดาบตรงหน้า ดาบที่เพิ่งบั่นคอคนทั้งสามไปนั้นค่อยๆเลื่อนกลับไป
นายกองโยฮันใช้ผ้าคลุมเช็ดเลือดทิ้งไปก่อนจะเสียบดาบกลับเข้าฝัก
“ฆ่าคนตาย!”
“แกมีสิทธิอะไรมาฆ่าคนโดยยังไม่ได้ตัดสิน ทำไมไม่ส่งไปตัดสินในเมือง”
“เงียบ!” นายกองโยฮันตวาด “เห็นหรือไม่ว่านี่คืออะไร”
นายทหารแห่งเมืองกาล่าชี้ไปที่เสาที่มีรูปนกอินทรีสีทองอยู่ด้านบน
“เสาซิกนั่มแห่งเซ็นจูเรี่ยนที่1นี้ คงจะย้ำเตือนพวกเจ้าได้บ้างว่าข้าคือใคร” นายกองโยฮันชี้หน้า “เจ้าลืมไปแล้วใช่ไหมว่าที่ตั้งอยู่ที่นอกหมู่บ้านของเจ้านี้คือกองทหารที่ท่านโซล่าส่งมาคุ้มครองหมู่บ้าน และข้ามีอำนาจในการตัดสินคดี”
แล้วชาวบ้านทั้งหมดก็นึกได้ จริงสิ นายทหารระดับเซ็นจูเรี่ยนขึ้นไปมีอำนาจในการประหารและตัดสินคดี
แต่ว่าปกติจะแทบไม่มีใครใช้อำนาจนี้ รวมไปถึงท่านโยฮันที่เป็นคนใจดีไม่ค่อยเอาเรื่องใคร ทำให้ทุกคนไม่ทันนึกถึงเรื่องนี้
“ต แต่ไม่มีการตัดสินคดี สามีข้าถูกใส่ความ”
“แต่เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะถึงตาย” หญิงคนนึงร้องขึ้น “จะโทษสามีข้าก็ไม่ได้ ถ้าไอ้รอนคนนี้มันเน้นสักนิดว่าจะต้องซื้อเครื่องรางระดับที่5 สามีข้าก็คงซื้ออยู่แล้ว นี่เขาน่าจะแค่อยากประหยัดเงินให้เท่านั้น”
“เงียบ! ข้ามีหลักฐานพร้อมมูล คำสารภาพก็อยู่นี่ หรือเจ้าจะอธิบายเรื่องเงิน3000เหรียญทองที่พบในบ้านของพวกเจ้าทั้งสามอย่างไร แล้วยังหลักฐานที่ว่าพวกเจ้ามีการติดต่อกับพ่อค้าจากเมืองหลวงเรื่องการซื้อบ้านที่นั่นอีก” นายกองโยฮันตวาด “เงินที่เหลือไม่ส่งคืนแต่เก็บเอาไว้เองได้รึ”
“ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม จริงสิ เจ้ารอนมันหลอกพวกเราทุกคน มันหลอกเราตั้งแต่ต้นว่ามันคือ Paladin มันเล่นละครใช้เวท Regenerate เพิ่มพลังชีวิตให้ตนเองได้ แต่จริงๆมันใช้เวทมนตร์ไม่ได้ มันเลยต้องอาศัยหมู่บ้านเราเพื่อปกป้องมัน เจ้าเด็กนี่มันหลอกใช้พวกเรา เพราะความอ่อนแอของมันต่างหากที่พาพวกเราไปตาย”
เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งดังต่อไป
“ใช้เวทมนตร์ไม่ได้งั้นเรอะ” รอนบอกก่อนจะหันไปมองคนอื่นที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “คุณเบรเซอร์ คุณโยฮัน ทุกคน ถอยไปก่อน”
คนรอบๆถอยออกไปตามที่รอนบอก เด็กหนุ่มหายใจเข้าออกช้าๆพยายามคุมอารมณ์ หากแต่หน้าจอ Rage นั้นแดงฉาน เขาเลือกคำสั่งนักรบคลั่ง
“พวกท่านคิดว่าที่ข้ามาอาศัยที่นี่เป็นเพราะต้องการเกาะพวกท่านกิน ต้องการอาศัยพวกท่านเป็นโล่มนุษย์เพราะข้าไม่มีเวทมนตร์ในการปกป้องตัวเองงั้นเรอะ” รอนบอก “ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะแสดงให้ดู [Fire Pillar]”
เปลวไฟพวยพุ่งหมุนเป็นวงจากพื้นดิน ก่อนจะหมุนเป็นเกลียวเสาเพลิงขนาดใหญ่ เผาผลาญศพของชายทั้งสามจนไหม้เป็นตอตะโก
“[Tornado]”
ลมหมุนยักษ์ก่อตัวขึ้นเหนือเสาไฟที่กำลังรอนแสงลง จากนั้นพัดเอาเถ้าธุลีของร่างทั้งสามนั้นลอยขึ้นฟ้าหายไป
“ห๊ะ ท่านรอนใช้เวทมนตร์ได้”
“จริงเหรอ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นท่านรอนใช้มาก่อนเลยนี่”
“ตอนที่ชนะดราซัค มีคนลือว่าเพราะท่านรอนปราศจากเวทมนตร์ เวทHell Fireของดราซัคเลยย้อนเข้าตัวเอง ที่แท้มันก็เป็นแค่ข่าวลือเรอะ”
“บ้าจริง ใครกันที่ลือว่าท่านรอนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนต้องมาอาศัยหมู่บ้านเราเป็นเกราะกำบัง คนที่มีพลังเวทขนาดเอาชนะนักรบมังกรดราซัคได้ต้องไม่ใช่ธรรมดาอยู่แล้ว”
ชาวบ้านที่ยืนมุงดูทั่วบริเวณต่างพูดคุยกัน ขณะที่รอนเองกระอักเลือดออกมาชุดใหญ่หลังจากใช้พลังชีวิตในการร่างเวทของนักรบคลั่ง ยังดีที่เลือดของสามคนนั่นที่ท่วมเต็มตัวของเขาปกปิดเลือดที่เขากระอักออกมาได้
รอนไปที่แพท ให้แพทช่วยร่างเวทรักษาให้แบบเงียบๆ
“ท่านรอนจะให้จัดการยังไงกับครอบครัวของสามคนนี้” โยฮันถามขึ้น รอนมองกลับไป ครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิงและเด็ก 3 ครอบครัว 10 กว่าชีวิตสะดุ้งตัวสั่น หญิงทั้งสามมองไปรอบๆ มีแต่สายตาของญาติพี่น้องคนตายที่มองมาอย่างโกรธแค้น แค้นที่การโกงกินนั่นทำให้ทหารชาวบ้านต้องตายหลายคน และแค้นที่พยายามหาเรื่องท่านรอนอีก
“สามครอบครัวนี้ไม่ควรอยู่ในเมืองนี้ ขับไล่พวกมันออกไป” รอนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ฆ่ามัน เอาชีวิตพ่อข้าคืนมา”
“ฆ่ามันซะ เอาคืนพวกมันให้สาสม”
ครอบครัวคนตายไม่ยินยอม
“ริบเงินทั้งสามครอบครัวนี้ให้หมด ทรัพย์สินทั้งหมดขายและเอาเงินมาร่วมชดเชยให้ครอบครัวผู้ที่ตายในการรบครั้งนี้” รอนบอก “แล้วขับไล่พวกมันออกจากหมู่บ้าน”
“แต่พวกมันทำให้คนในครอบครัวของข้าต้องตาย”
รอนส่ายศีรษะ
“ถึงแก้แค้นไปคนตายก็ไม่อาจฟื้น ถ้าพวกท่านลงมือเองพวกท่านก็ทำความผิด” รอนบอก “สู้ให้พวกนี้ออกไปตายด้วยคมเขี้ยวของมอนสเตอร์เหมือนที่คนของเราต้องตาย รอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับสวรรค์ก็แล้วกัน”
แล้วทั้งหมดก็แยกย้าย ครอบครัวผู้สละชีพนำร่างไร้วิญญาณไปที่สุสานเพื่อเตรียมการฝัง บรรยากาศมืดลงช้าๆ อาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ครอบครัวทั้งสามถูกผลักดันไปที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน
“รอพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ อ๊ะ”
ภรรยาของจอร์ดี้อุทานเมื่อเห็นใบหน้าด้านหลัง เพื่อนบ้านคนรู้จักที่เสียสมาชิกครอบครัวในการรบ จ้องมองมาที่พวกเธอ ที่เอวของแต่ละคนคาดมีดเอาไว้
ออกไปในความมืดแบบนี้ ก็ไม่รู้จะรอดไหม
แต่ถ้าอยู่ในหมู่บ้านต่อไป พรุ่งนี้พวกเธอทั้งหมดอาจจะเป็นศพที่ไม่ทราบคนฆ่าก็ได้
“ออกไปให้หมด แล้วอย่ากลับมาอีก ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกเจ้า” พ่อเฒ่าเบรเซอร์พูดขึ้น
เด็กหนุ่มลูกชายของเดราหันไปมองรอนด้วยสายตาเคียดแค้น แม้จะรู้ว่าพ่อของเขาทำความผิด แต่เขาก็แค้นรอน แค้นชาวบ้าน แค้นทุกคนที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัง แค้นความโหดเหี้ยมของรอนที่ผลักดันให้ครอบครัวของเขาออกไปนอกหมู่บ้านยามค่ำคืนแบบนี้
“ไอ้รอน จำเอาไว้ให้ดี ข้าจะล้างแค้นให้พ่อของข้า” เด็กหนุ่มชี้หน้าของรอน
เผียะ!
แล้วเขาก็หน้าหัน จากแรงตบของรอน
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็เชิญ ข้าจะรออยู่ที่นี่ไม่หนีไปไหน” รอนบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แต่ถึงจะพูดแบบนี้ รักษาชีวิตของแม่และน้องๆของแกให้ได้ก่อนเถอะ”
“คอยดูก็แล้วกัน พอครอบครัวของข้าหาที่อยู่ได้ ข้าจะฝึกฝนวิชาแล้วกลับมาล้างแค้นให้ได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะรอดูก็แล้วกัน” รอนบอกแล้วก็เดินกลับเข้าหมู่บ้านไป
ทั้งสามครอบครัวเดินไปในความมืดมิดยามค่ำคืนอาศัยเพียงแสงเดือนและกรวดหินสีขาวที่บอกพื้นที่ถนน
“แม่จ๋า หนูกลัว” เด็กหญิงคนนึงร้อง
“หนูหิว” เด็กหญิงอีกคนร้อง “ทำไมทุกคนทำกับเราแบบนี้ ทำไมแม่ของโมนาบ้านข้างๆเค้าถึงทำหน้าเหมือนเกลียดเราแบบนั้น”
ภรรยาของแชทไม่ตอบอะไร หนึ่งในคนที่ตายไปจากการโกงครั้งนี้ก็คือลูกชายคนโตของบ้านข้างๆเธอเอง
แชะ แชะ แชะ กึก
เสียงฝีเท้าทั้งหมดหยุดลง ข้างหน้ามีร่างกลุ่มหนึ่ง รถลาก และแสงไฟ
แล้วคบเพลิงก็ส่องให้เห็นศีรษะของร่างนั้น
“กรี๊ดดดดดด โคบอลท์ มอนสเตอร์ มอนสเตอร์โคบอลท์”
“เฮ้ย พวกเราไม่ใช่โคบอลท์” ร่างนั้นพูด “พวกเราเป็นเผ่าสัตว์ ข้าเป็นมนุษย์หมา”
“เฮ้ มืดแบบนี้จะไปไหนกัน เดินทางแบบนี้อันตรายนะ” มนุษย์หมีบอก “เอางี้ไหม พวกข้าจะเดินทางไปเมืองแอมโบรเซีย พวกเจ้าจะอาศัยเดินทางไปด้วยกันไหม”
สามครอบครัวดีใจขอติดตามไปด้วย ทั้งหมดไปที่รถลากและพบว่ามีรถลากคันใหญ่สองคันที่ว่างอยู่พอให้ทั้งสามครอบครัวขึ้นไปนั่งได้
“เอ้า นี่ เดินทางรีบร้อนกลางดึกแบบนี้คงจะไม่ได้เตรียมอะไรมา พวกเรามีอาหารพอดี เอาไปกินก่อนสิ” มนุษย์เสือบอก
ครอบครัวทั้งสามรับเอาห่ออาหารไปกินอย่างดีใจ มนุษย์เสือดึงบังเหียนม้าเดินทางไปเรื่อยๆและชวนคุย
“จะว่าไปรีบร้อนเดินทางกลางดึกแบบนี้ไม่มีของเตรียมมาเลยเรอะ” เขาบอก “เอางี้ พวกข้าให้ยืมเงินก่อน พอไปถึงแอมโบรเซียหางานการทำมีเมื่อไหร่ก็เอาไปคืนที่กิลด์นักผจญภัยเอา”
“ไอ้หนุ่มสามคนนี่หน่วยก้านดี ทำไมเดินทางมาแบบนี้ไม่มีอาวุธติดตัวมาเลย เฮ้ย เอาอาวุธเก่าๆในลังมาให้สามคนนี้หน่อยสิ”
มนุษย์หมีเอาดาบสั้นและเกราะอ่อนมาให้เด็กหนุ่มสามคน เด็กหนุ่มลูกชายของเดรายกดาบในมือขึ้นมอง
“สักวันเถอะ สักวันข้าจะต้องล้างแค้นไอ้รอนให้ได้” เขาพูดออกมา
นักผจญภัยเผ่าสัตว์ฟังคำพูดนั้นแล้วมองหน้ากันแต่ไม่มีใครพูดอะไร หากแต่การกระทำนั้นทำให้บรรดาแม่ๆเอะใจ ทั้งสามคนมองห่อข้าวในมือ
กับข้าวนี่มัน …
“คอยดูเถอะ สักวันข้าต้องเอาเลือดไอ้รอนนั่นล้างแค้นให้พ่อ…. ”
เผียะ!
“แม่ตบข้าทำไม”
หญิงทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วหันไปหานักผจญภัยเผ่าเสือที่ถือบังเหียนรถลาก
“พวกคุณมารอพวกเราอยู่แล้ว”
“เปล๊าาาาา พวกเราไม่ได้รอ ไม่รู้วววว” มนุษย์เสือร้องเสียงสูง
“แต่รถลากว่างอยู่ มีอาวุธและเงินให้พวกเรา”
“โอ๊ย แค่เรื่องบังเอิญ รถลากว่างเฉยๆ” มนุษย์หมีร้อง
“แต่กับข้าวพวกนี้มันเป็นของมนุษย์ เผ่าสัตว์ไม่กินของพวกนี้นี่”
“อ๊ะ ความแตกซะแล้ว”
ขบวนเงียบเสียงลงครู่ใหญ่ๆ
“คุณรอนสั่งพวกเรา ให้มารอและพาพวกคุณสามครอบครัวไปเมืองอื่น”
“ทำไม”
“คุณรอนบอกว่าพวกคุณไม่ได้ทำความผิด แต่ถ้าพวกคุณอยู่ในหมู่บ้านต่อไป ครอบครัวผู้ตายคงไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่” มนุษย์เสือบอก “แต่จะให้ปล่อยไปเฉยๆหรือห้ามปรามก็ไม่ได้ เพราะครอบครัวคนตายก็คงไม่พอใจ”
“คุณรอนเกรงว่าถ้าชาวบ้านโอลเซ่นที่เคยฝ่าฟันอะไรกันมา ต้องมาฆ่ากันเองแบบนี้ ต่อไปทุกคนก็คงอยู่กันแบบไม่มีความสุข จะปล่อยพวกคุณไปตาย ก็สงสารเด็กๆที่ไม่รู้เรื่องด้วย ก็เลยให้พวกเรามารอ”
“แต่ที่หน้าหมู่บ้านนั่น แล้วทำไมต้องพูดกับข้าแบบนั้น ทำไมถึงท้าให้กลับมาแก้แค้น” ลูกชายของเดราร้อง
“ไอ้หนู ถ้าแกจะแก้แค้น ก็ต้องมีชีวิตรอด …คุณรอนอยากกระตุ้นให้แกน่ะฝึกฝีมือ ถ้าคิดแก้แค้นได้ก็ต้องคุ้มครองครอบครัวได้ไง”
นักผจญภัยเผ่าสัตว์ยิ้มให้ก่อนจะพาทั้งหมดเดินทางไป …ความรู้สึกผิดในใจของพวกเขาค่อยๆลดลงบ้าง
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาละโมบบุกไปก่อน ชาวบ้านก็คงไม่ต้องบุกตามไปช่วย
นี่เป็นสิ่งเล็กๆสิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะชดเชยให้หมู่บ้านได้
“ผมเป็นผู้นำที่ใช้ไม่ได้เลยสินะครับ” รอนพูดที่กำแพงหมู่บ้าน มองออกไปภายนอกที่มืดมิด
“ใช่ จิตใจแบบคุณรอนไม่เหมาะเป็นผู้นำใหญ่ๆ คุณน่ะเป็นได้แค่ระดับผู้นำกองร้อยแค่นั้นแหละ” โยฮันตบบ่าแปะๆ
“สำหรับตอนนี้นะ”