Midterm Fantasy – ตอนที่ 230

กลับเมืองหลวงพร้อมกับเจ้าชาย?
โดย
หมอแมว

ทหารม้าองครักษ์ของเจ้าชายดีโอยกมือทำความเคารพนายกองโยฮันและเด็กทั้งสอง ทั้งหมดเดินเข้ากระโจมไป ที่กลางกระโจมมีโต๊ะตัวใหญ่ ที่นั่นมีนายทหารอีก4คนนั่งพร้อมกันอยู่แล้วกับพ่อเฒ่าเบรเซอร์และมาเรีย
รอนและแพทนั่งลง รอนมองเจ้าชายอย่างสงสัย ทำไมเพียงแค่มีการรายงานเรื่องนี้ไป เจ้าชายถึงกับต้องเดินทางมาด้วยพระองค์เองเลยรึ
“ทั้งสองอย่าได้สงสัยไป เรื่องของพวกเผ่าลิงที่ได้รับรายงานไป ทำให้เสนาธิการของกองทัพประชุมถึงความเสี่ยงเรื่องหนึ่งที่เป็นไปได้”  เจ้าชายกล่าว “และที่ข้ามานี่ในครั้งนี้เป็นเพราะได้รับบัญชาจากท่านพ่อให้มาทำงานชิ้นหนึ่งในพื้นที่ของเมืองกาล่า เป็นงานที่ข้าจะต้องทำด้วยตนเอง”
เจ้าชายเปิดหีบตรงหน้าเผยให้เห็นลูกแก้วทรงกลมสีฟ้าที่ลอยอยู่ใจกลางวงแหวนโลหะสีเหลือง เมื่อปราศจากฝาหีบที่ปิดทับ ลูกแก้วและวงแหวนนั้นก็ลอยตัวขึ้นเหนือโต๊ะอย่างช้าๆ
“นี่คือลูกแก้วไพล่อน เป็นของวิเศษประจำอาณาจักรทั้งสามของมนุษย์ในทวีปซีแลนเดีย” เจ้าชายบอก “มีหน้าที่ในการเปิดประตูมิติขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการเคลื่อนกำลังพลระหว่างอาณาจักร ถือเป็นของวิเศษสำคัญสำหรับการต่อสู้กับกองทัพแห่งความมืด”
“ระหว่างอาณาจักรทั้งสามล้วนมีระยะห่างกัน การส่งกำลังเสริมช่วยเหลือกันจะต้องใช้เวลาประมาณ2-3เดือน” เจ้าชายดีโอกล่าว “คุณแพทและคุณรอนคงจะยังไม่ทราบ ว่าอาณาเขตของเมืองกาล่าเป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้ใช้ลูกแก้วไพล่อนได้”
“ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะหากมีการโจมตีเมืองหลวง กำลังที่จะมาช่วยก็ควรที่จะมีพื้นที่ในการเดินทัพเพื่อกอบกู้สถานการณ์ ถ้าหากให้กำลังเสริมมาแต่มาตกอยู่กลางวงล้อมของข้าศึก ก็เท่ากับไม่ช่วยอะไร” นายทหารอีกคนเสริม
“ข้อจำกัดเดียวของลูกแก้วไพล่อนนี้ก็คือ มันต้องอาศัยพลังเวทจากนักรบมังกรกระตุ้นต่อเนื่องเป็นเวลา3วัน จึงจะเปิดประตูมิติได้” เจ้าชายดีโอบอกต่อ
รอนพยักหน้า ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เองที่เมื่อ30ปีก่อนนักรบมังกรอารย่าได้มาร่วมกองทัพของเมืองที่ห่างไกลเช่นนี้ เพราะว่าที่นี่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แบบนี้นี่เอง
“และที่ข้าเรียกทุกท่านมาวันนี้ ก็เพื่อที่จะปรึกษาเรื่องที่จะเก็บลูกแก้วไพล่อนไว้ที่หมู่บ้านโอลเซ่นแห่งนี้” เจ้าชายดีโอกล่าว
“ของสำคัญเช่นนี้จะไว้ที่นี่ได้หรือคะ” แพทถาม
“ใช่ครับ ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านเท่านั้นนะครับ” รอนแย้ง
“คุณรอนอย่าได้พูดเช่นนั้น แม้ว่าที่นี่จะได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้าน หากแต่อย่างที่เราเห็นในตอนนี้” เจ้าชายชี้ไปที่กำแพงสูงเกือบสิบเมตรที่ตั้งตระหง่าน “แนวป้องกันที่สร้างขึ้นมานี้ไม่ต่างอะไรกับแนวป้องกันของเมืองใหญ่ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่หมู่บ้านนี้จะได้รับการยกระดับเป็นเมือง”
“อีกอย่างหนึ่ง นักรบมังกรแห่งความมืด อัศวินมังกรเวก้า มันเองก็เคยผ่านสงครามในครั้งที่แล้วมาและรู้จักลูกแก้วไพล่อน ดังนั้นเมืองกาล่าจะต้องเป็นเป้าหมายแรกในการโจมตีของมันแน่” เจ้าชายกล่าวต่อ “ดังนั้น การเอาลูกแก้วเก็บไว้ที่นี่น่าจะปลอดภัยกว่า เพราะศัตรูต้องคาดไม่ถึงแน่ว่าเราจะเก็บของสำคัญแบบนี้ไว้ในหมู่บ้าน”
ทุกคนพยักหน้า
“เรื่องนั้นข้าไม่มีความเห็นคัดค้าน หากเป็นประสงค์ของเพรย์เตอร์และเจ้าชาย ข้าก็ขอน้อมรับ”​ พ่อเฒ่าเบรเซอร์กล่าว
“ถ้าหากถึงเวลานั้นขึ้นมาข้าจะส่งนักรบมังกรให้เดินทางมาที่นี่”​ เจ้าชายดีโอบอก
“จะว่าไป ทำไมไม่เห็นนักรบมังกรแห่งแสงสว่างที่เจ้าชายเคยพามาเลยล่ะครับ” รอนถาม
“อ๋อ พวกเขาน่ะถูกส่งไปต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเก็บเลเวล” เจ้าชายบอก “ระยะหลังนี้มอนสเตอร์หายากขึ้นกว่าปกติ พวกเขาเลยต้องเดินทางไปใกล้แนวชายแดนเพื่อหามอนสเตอร์”
“มอนสเตอร์น้อยลง ที่จริงก็น่าจะดีนะคะ” แพทพูด
“ไม่ใช่เช่นนั้นสิคุณแพท พอมอนสเตอร์น้อยลง พวกนักรบมังกรที่เพิ่งเริ่มฝึกฝน เลยไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้” เจ้าชายกล่าว “สำหรับนักรบมังกรที่ต้องใช้เลเวลในการเพิ่มพละกำลังและความสามารถ การไม่มีมอนสเตอร์นี่ถือเป็นเรื่องแย่เชียวล่ะ”
“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับนักรบมังกรแห่งความมืดเวก้าก็ได้” กอร์ดอนคนสนิทของเจ้าชายดีโอบอก “ในบรรดานักรบมังกรแห่งความมืดทั้งหมด มันคือคนที่ระแวงระวังตัวมากที่สุด อีกทั้งชอบวางแผนรัดกุม จะไม่โจมตีจนกว่าจะมั่นใจ การที่มอนสเตอร์หายไปก็น่าจะเป็นเพราะมันกำลังระดมมอนสเตอร์ไปรวมเอาไว้เพื่อจะโจมตีในคราวเดียว”
“ที่เมืองหลวงก็คิดเช่นนั้น ถ้าเป็นเจ้าเวก้า มันจะต้องดึงเอามอนสเตอร์ไปจนหมดจนไม่เหลือมอนสเตอร์ให้นักรบมังกรรุ่นใหม่ของเราได้ฝึกฝีมือเพิ่มเลเวล จากนั้นมันก็คงจะโจมตีนักรบมังกรฝั่งเราด้วยมอนสเตอร์ระดับสูงไปเลย”
รอนพยักหน้า ถ้าเป็นในเกมพวกราชาปีศาจชอบส่งลูกกระจ๊อกไปให้พวกตัวเอกสู้เก็บประสบการณ์ จากนั้นพอแพ้ก็จะส่งตัวที่เก่งขึ้นไปนิดนึงไปสู้ พอแพ้อีกก็จะส่งตัวที่เก่งขึ้นอีกนิดไปสู้ จนพอถึงช่วงสุดท้ายตัวเอกก็เก่งพอที่จะสู้กับราชาปีศาจ
แต่ดูเหมือนนักรบมังกรเวก้าจะไม่งี่เง่าแบบนั้น ดูเหมือนมันเลือกที่จะเก็บกำลัง และรอโจมตีในครั้งเดียวไปเลย
“และนี่คืออีกเรื่องที่ข้าเดินทางมาในวันนี้ … คุณรอน … ท่านพ่ออยากคุยตกลงกับร้าน ARMAMENT ทางเราต้องการการสนับสนุนทางด้านอาวุธจากท่าน”
“อาวุธ ที่เราทำส่งขายน่ะหรือครับ”
“ถูกต้องแล้ว ข้าเห็นว่าคุณรอนใช้เครื่องมือแปลกประหลาดนั่นในการผลิตอาวุธโดยใช้แรงงานเด็ก จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะให้เครื่องมือนั่นและเด็กๆ ไปอยู่ที่เมืองหลวงและทำการผลิตอาวุธที่นั่นไปเลย จะได้ไม่ต้องทำการขนส่งกันไกล” เจ้าชายกล่าว
[คุณรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายพยายามใช้ Poker face]
หืม … อะไรกัน
“ว่ายังไงคุณรอน เรื่องนี้พอจะเป็นไปได้ไหม” เจ้าชายถามย้ำอีกครั้งจนรอนละความสนใจกลับมา
“เรื่องนั้น …​แต่ว่าพวกเด็กๆ…” รอนลังเล
“คุณรอนไม่ต้องกังวลหรอก ในกลุ่มเด็กที่ไปทำงานกับคุณรอนน่ะ กว่าครึ่งเป็นเด็กที่กำพร้าทั้งพ่อแม่ การได้ไปเมืองหลวงนอกจากจะไม่มีข้อเสียแล้วยังอาจจะเป็นผลดีกับพวกเขาอีกด้วย
เมื่อตกลงกันได้แล้ว รอนกับแพทก็กลับไปที่คฤหาสน์เก็บเครื่องพิมพ์สามมิติ10เครื่องแพ็คลงรถม้า เก็บจักรยานปั่นไฟ และแบตเตอรี่
“ไม่ต้องขนเยอะไม่ได้เหรอ กว่าจะถึงเมืองหลวงก็อีกตั้งหลายวัน เธอก็ขนแบตเตอรี่กับอุปกรณ์อื่นๆข้ามจากโลกมาก็ได้นี่”
“ได้ที่ไหนกันเล่าแพท ตอนขนขึ้นรถม้า ทหารของเจ้าชายก็เห็นหมดว่าเอาไปแค่ไหน ถ้าตอนลงรถของมันเพิ่มขึ้นเค้าก็สงสัยกันพอดี”
ทั้งคู่แพ็คของจนเสร็จ
“เราจะไปด้วยกัน หรือว่าจะเอาไงดี​“ รอนถาม ใจนึงก็ไม่อยากแยกกัน แต่อีกด้านนึง เครื่องพิมพ์สามมิติกับระบบไฟฟ้ายังไม่เข้าที่เข้าทาง ถ้าไปพร้อมกันสองคนคงไม่เหมาะ
“ยังไงเครื่องตรงนี้มันต้องมีเราคนใดคนนึงคุม ไม่งั้นถ้ามีปัญหาขึ้นมายุ่งแน่ๆ” แพทบอก “เดี๋ยวเราอยู่ตรงนี้เอง เธอน่ะเป็นตัวแทนร้านARMAMENTเดินทางไปคุยน่ะถูกแล้ว แล้วก็อย่าลืมสอนพวกเด็กๆที่จะไปให้เรียบร้อยล่ะ พอเธอกลับมาจากที่นั่นก็ไม่มีใครคอยแก้ปัญหาเวลาเครื่องพิมพ์สามมิติขัดข้องให้เด็กๆแล้วนะ”
“อืม แต่ว่าตั้งแต่มาที่นี่ เราสองคนไม่เคยแยกจากกันเลยนะ แยกกันไปแล้วมันจะดีเหรอ” รอนบอก
“คิดมากน่า พอกลับไปที่โลก เราสองคนก็เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้วนี่” แพทหัวเราะ
“ก็จริง ๆ” รอนเกาหัวแกรกๆ
แพ็คของขึนรถม้าจนเรียบร้อย คุณเบรเซอร์ก็พาบรรดาเด็กกำพร้าที่ยินดีที่จะเดินทางไปทำงานที่เมืองหลวงมาพร้อมกัน
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว เราก็ออกเดินทางกันเถอะ” พ่อเฒ่าเบรเซอร์บอก “โรล่า ไปกับคุณรอนก็ทำตัวดีๆ อย่าให้คุณรอนต้องเหนื่อยใจกับเรานะ”
“ค่ะ” โรล่ารับคำ
“โฮกกก”​เจ้าเสือดำเจนัวคำรามรับ
รถม้าเคลื่อนออกจากหมู่บ้านไปยังค่ายทหารด้านนอก ที่นั่น ทหารม้าของเจ้าชายกำลังตั้งแนวรออยู่ ที่ด้านหน้าสุดมีรถม้าของเจ้าชาย
“เอาล่ะ ในเมื่อมาถึงแล้วพวกเราก็ออกเดินทางได้”​ ทหารที่อยู่ด้านหน้าสุดร้องสั่ง รถม้าของเจ้าชายเคลื่อนตัวไป โดยมีเหล่าทหารชักม้าตาม
หลังจากออกเดินทางไปสักพัก
“แปลกจัง” รอนว่า
“ทำไมเหรอคะท่านรอน” โรล่าถาม
“ทหารของเจ้าชายดูน้อยกว่าปกติ แล้วนี่ผมก็ไม่เห็นกอร์ดอน นายทหารคนสนิทของเจ้าชายด้วย” รอนกล่าว
“เอ่อออออ คงจะอยู่ในรถม้ากระมังคะ” โรล่าบอก
[คุณรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายพยายามใช้ Poker face]
หืม? อะไรกัน ทำไมวันนี้มีแต่คำนี้ มันชักจะแปลกๆ
ที่หมู่บ้าน แพทกำลังคุมการผลิตอาวุธเวทมนตร์อยู่ ในตอนที่มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา
“คุณแพท”
“เจ้าชาย ท่านไม่ได้ไปกับรอนเหรอคะ”​
เจ้าชายดีโอพยักหน้าเบาๆ ยิ้มให้กับแพทที่ยืนแปลกใจอยู่ตรงหน้า

Midterm Fantasy

Midterm Fantasy

เมื่อเด็กหนุ่มติดเกมส์ จำเป็นต้องสอบให้ได้คะแนนดีๆเพื่อให้ขึ้นชั้นม.4ให้ได้ หนำซ้ำในคืนก่อนสอบ Midterm เขายังดันเผลอเล่นเกมจนไม่ได้อ่านหนังสือ … มารู้ตัวอีกทีเขาก็หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งซะแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset