ความเกรี้ยวกราดของสองอดีตนักรบมังกร (aka ซวยแล้วรอน)
โดย
หมอแมว
ทั้งค่ายลูกเสืออยู่ในความวุ่นวายเพราะมีเด็กหายไปหนึ่งคน
บราเดอร์ มาสเตอร์ มิส ช่วยกันค้นหา
ตำรวจท้องที่เข้ามาสอบสวน
แพทหายไปในพื้นที่ป่าข้างทางก็จริง แต่พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ปิด มีรั้วล้อมเอาไว้ ถ้าจะมีใครเข้ามาก็ต้องปีนรั้วเข้ามา แต่ว่าพื้นที่บริเวณนั้นกลับไม่มีร่องรอยใดๆทั้งสิ้น
“นี่มัน ปริศนาเด็กหายในพื้นที่ปิดตาย” ร้อยเอกนันทวิศาลสรุป “ติดต่อพ่อแม่เด็กได้หรือยังครับ”
“ผมโทรบอกพ่อของเด็กไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว ตอนนี้น่าจะกำลังเดินทางมาครับ” บราเดอร์ตอบ
แท่ด ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงเฮลิคอปเตอร์บินมาอยู่เหนือค่ายลูกเสือ โรยเชือกลงมา แล้วร่างของชายวัยกลุ่มคนผู้หนึ่งก็รูดลงมาถึงพื้น
วิทวัสขยับสูทและเนคไทให้เข้าที่และส่งสัญญาณให้เฮลิคอปเตอร์กลับไป จากนั้นก็เดินเข้าในตัวอาคาร
“เกิดอะไรขึ้นครับบราเดอร์” วิทวัสถาม
“วิกานดาหายตัวไปครับ เหตุเกิดช่วงเดินทางไกล” บราเดอร์บอก “เธอขอตัวไปทำธุระส่วนตัวในพุ่มไม้ แต่ว่าหายไปนานผิดปกติ เพื่อนๆเข้าไปหาก็ไม่พบตัวแล้ว”
“ทางตำรวจตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ไม่มีรอยเท้า ไม่มีหลักฐานใดๆเลย” ร้อยเอกนันทวิศาลบอก “คุณพ่อพอจะทราบข้อมูลอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับเราไหมครับ”
“เช่น?” วิทวัสถาม
“คุณพ่อมีธุรกิจอะไร มีความขัดแย้งกับใคร ลูกสาวของคุณพ่อมีแฟนหรือคบใครอยู่หรือเปล่า” ตำรวจถาม “หรือว่ามีปัญหาในครอบครัวอะไรไหม”
“บราเดอร์ครับ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่าเหตุเกิดยังไง ที่ไหน เวลาไหน” วิทวัสหันไปถามบราเดอร์โดยไม่สนใจกับตำรวจ ร้อยเอกนันทวิศาลถึงกับหน้าชาไป
“เหตุเกิดที่กิโลเมตรที่3 ตอนเวลาเที่ยงวันพอดีครับ” บราเดอร์ตอบ
“คุณวิทวัส ตอบคำถามของผมก่อน คุณ……”
ร้อยเอกชะงักไป เพราะร่างตรงหน้าของเขานั้นจู่ๆก็ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา เป็นจิตสังหารที่หนักเสียจนทำให้แทบหายใจไม่ออก
“บราเดอร์ครับ นายรอนอยู่ไหมครับ”
“ย ย อยู่ครับ”
“ตามตัวนายรอนมาพบผมที ผมมีเรื่องต้องคุยกับมัน!”
ที่กิโลเมตรที่3 วิทวัสยืนรอกับคนอื่นๆขณะที่รถอีกคันพาตัวรอนมา
“คุณลุง…” รอนเอ่ยปากขึ้น
“บราเดอร์ ช่วยพาผมไปตรงที่ที่มีคนเห็นแพทครั้งสุดท้ายหน่อยครับ” พ่อของแพทบอก
“นี่ครับ เชิญ” บราเดอร์เดินนำไป มีมาสเตอร์เทพ ตำรวจ กับครูอีกสามคนที่เดินตามไป
วิทวัสเดินไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ขนาดสองคนโอบ บราเดอร์ชี้ไปที่ต้นไม้นั้น
“ตรงนี้ครับ เพื่อนๆบอกว่าแพทเข้ามาหลังต้นไม้ตรงนี้ แล้วจู่ๆก็หายไป”
วิทวัสเดินตรงไปที่หลังต้นไม้ แล้วจู่ๆก็ชะงักนิ่ง จ้องบางสิ่งที่พื้น
“รอน!”
“ครับ”
“มานี่”
รอนสะดุ้งโหยง ค่อยๆเดินเข้าไปหา แล้วเขาก็รู้ว่าอะไรที่ทำให้พ่อของแพทจ้องขนาดนั้น
ที่พื้นมี Rally Point หรือลูกศรแสดงจุดกลับของศิลานักปราชญ์ตั้งอยู่
ผัวะ!
หมัดของวิทวัสต่อยเข้าที่ใบหน้าของรอนจนหน้าหัน
“คุณวิทวัส!” บราเดอร์ร้องเสียงหลง แต่วิทวัสไม่สนใจ กระชากคอเสื้อของรอนยกตัวเด็กหนุ่มขึ้น
“แพทอยู่ที่ด้านโน้นใช่ไหม นี่แกพาแพทไปที่นั่นมาใช่ไหม”
“ค ครับ”
“แกใช้ลูกแก้วของใคร”
“ดราซัคครับ”
“เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมแพทไม่ได้กลับมา”
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
วิทวัสประเคนหมัดเข้าที่หน้าของรอนอีกสามหมัด
“ผมก็ไม่ทราบครับ เราสองคนอยู่ด้วยกันช่วงเย็น กำลังดูSuperNovaบนท้องฟ้า แล้วจู่ๆผมก็เด้งกลับมาที่นี่ แล้วหน้าจอก็ขึ้นคำว่า Dimension Lock”
รอนตอบพ่อของแพทไป ดูเหมือนเมื่อได้ยินคำที่ว่า วิทวัสจะนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“คุณวิทวัส วางรอนลงก่อนเถอะครับ” มาสเตอร์เทพขอร้อง
“ใช่ครับ คุณพ่อใจเย็นๆ” บราเดอร์บอก
“คุณพูดแบบนี้เหมือนรู้อะไรบางอย่าง ผมขอเชิญไปให้ปากคำหน่อย” ตำรวจพูด
“ออกไป”
“เอ๊ะ”
“ทุกคนออกไป ผมจะคุยกับหมอนี่แค่สองคน” วิทวัสบอก “เราคงมีเรื่องต้องคุยกันสักพัก”
“ใจเย็นๆครับ” บราเดอร์ห้าม
“เห็นทีจะไม่ได้ ผมขอเชิญตัวคุณไปสอบสวนเดี๋ยวนี้เลย” ตำรวจบอก “อย่าให้ผมต้องใช้กำลัง”
ตำรวจยกกุญแจมือขึ้นมา ขณะที่วิทวัสโยนร่างของรอนลงพื้น หยิบแท่งแกนมอนสเตอร์4แท่งออกมาดูดซับพลังเข้าไป แกนมอนสเตอร์สลายตัวกลายเป็นผงทรายจนหมด
“[Might]!”
ปัง!
โครม!
ไวเกินกว่าที่ตามองเห็น ร่างของรอนกระเด็นตามแรงเตะกระแทกเข้ากับต้นไม้ ลำต้นขนาดสองโอบแตกขาดเป็นรูโหว่ แล้วต้นไม้ที่สูงกว่า20เมตรก็ค่อยๆโค่นหักลง
ตูม!
วิทวัสเดินเข้าไปอุ้มต้นไม้ใหญ่ขึ้น เงื้อขึ้นเหนือศีรษะ
ทั้งครู และตำรวจต่างอ้าปากค้าง ไม่มีใครเอ่ยปากห้ามแล้ว
“ไอ้เด็กบ้า ทำอะไรไม่รู้จักคิด”
ตูม!
ต้นไม้ถูกฟาดลงไปตรงจุดที่รอนนอนจมกองเลือดอยู่
“แกทำแบบนี้ได้ยังไง”
ตูม!
“แกรู้ไหมว่าทำแบบนี้แล้วแพทอาจจะไม่ได้กลับมาอีก”
ตูม!
“ค ค คุณวิทวัส” ตำรวจพูดขึ้น
“อะไร!”
“ผ ผ ผมขอตัวก่อน”
“เชิญ!”
ตูม ตูม ตูม ตูม!
ยี่สิบนาทีต่อมา ร่างของรอนถูกแงะออกมาจากพื้นดิน วิทวัสดูดซับพลังจากแกนมอนสเตอร์แล้วใช้เวทรักษาร่าย พลังชีวิตที่หายไปพันกว่าจากการถูกต้นไม้ฟาดกลับขึ้นเต็มอีกครั้ง หากแต่เด็กหนุ่มยังหน้าม่อยจากความรู้สึกผิด
แล้วทั้งหมดก็กลับไปที่ตึกรับรองของค่ายลูกเสือ
“บราเดอร์ คุณตำรวจ ผมขอสรุปเลยแล้วกันเพื่อไม่ให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้”
ทุกคนในห้อง คนทั้งหมดจ้องพ่อของแพทว่าเขาจะอธิบายยังไง
“แม่ของแพทอยู่ต่างประเทศ ไม่สบายหนัก วันนี้ผมเลยสั่งให้แพทกลับบ้านและเดินทางไปต่างประเทศด่วนโดยไม่ได้ลาใคร” วิทวัสบอก “ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอทำเรื่องลาไปก่อนแบบไม่มีกำหนดแล้วกันนะครับ”
“ห๊ะ!”
แค่ฟังก็รู้ว่าโกหก
“จริงเหรอครับ” ตำรวจถาม
“แน่นอนครับ” วิทวัสจ้องหน้ากลับจนตำรวจกลืนน้ำลาย
สภาพป่าที่ต้นไม้ใหญ่ร่วม30ต้นเจอตัดด้วยฝ่ามือเพื่อเอามาใช้ทุบรอนยังตราตรึงในจิตใจของทุกคน
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องทั้งหมดก็คือ แม่ของแพทที่เป็นหมอในหน่วยงานนานาชาติป่วยหนักอยู่ต่างประเทศ คุณเลยบอกให้แพทกลับบ้านแล้วรีบเดินทางโดยไม่ได้บอกใครถูกต้องไหมครับ” บราเดอร์ถามอีกครั้ง
“ใช่ครับ” วิทวัสตอบ
ปึง! ประตูเรือนรับรองเปิดออกอย่างแรง
“คุณ! ลูกแพทเป็นยังไงบ้าง” อารยาถาม
“คุณเป็นใคร” ตำรวจถามกลับ
“ชั้นเป็นแม่ของวิกานดา หนูแพทค่ะ” อารยาตอบ “คุณคะ ว่าไง ลูกเราเป็นยังไง”
….. ทุกคนมองหน้ากันและกันห่อนจะหันไปมองวิทวัส
โกหกชัดๆ!
อารยามองหน้าทุกคนสลับไปมาและไปจบที่รอนซึ่งนั่งเก้าอี้อยู่ในสภาพเสื้อผ้ายับเยิน เธอเอะใจขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“รอนเอาศิลาของดราซัคให้แพทใช้” วิทวัสพูด “แล้วดูเหมือนทรอนจะใช้ Dimension Lock ลูกเราเลยติดอยู่ที่โน่น”
อารยาลืมตาโตกว้าง อ้าปากค้าง ขณะที่คนอื่นๆที่ฟัง ฟังอย่างไม่เข้าใจ อะไรคือดราซัค อะไรคือdimension lock
“ร..อ..น..” อารยาตาเขียวปัด
“ค ค ครับ”
“คุณแม่ใจเย็นๆครับ” บราเดอร์
“ทุกคนออกไป!” อารยาตวาด
“คุณแม่เป็นหมอมีชื่อทำงานระดับนานาชาติ คงไม่ทำอะไรรุนแรงใช่ไหมครับ” บราเดอร์รีบห้ามศึก
“ไม่ออกไปใช่ไหม ได้!” อารยาเดินเข้าไปหารอน
ชักปืนพกออกมายิงใส่รอนไป6นัด
ปัง ปัง ปัง. ปัง ปัง ปัง.
[-50] [-50] [-50] [-50] [-50] [-50]
ร่างของรอนล้มจมกองเลือดท่ามกลางหน้าซีดปากสั่นของคนทุกคนในห้อง อารยาหยิบแกนมอนสเตอร์มาดูดพลัง ก่อนจะร่ายเวทรักษา เลือดที่กำลังไหลอยู่ค่อยๆหยุดลง เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นช้าๆอย่างสำนึกผิด
“ผมขอโทษครับคุณแม….”
ปัง ปัง ปัง. ปัง ปัง ปัง.
[-50] [-50] [-50] [-50] [-50] [-50]
ร่างของรอนล้มจมกองเลือดอีกรอบ
เสียงปืนดังออกมาจากเรือนรับรองอีก4ชุด ภายในนั้นทั้งครูและตำรวจต่างกอดกันกลม อารยาค่อยๆระงับอารมณ์โกรธเก็บปืน แล้วดึงร่างของรอนขึ้นมา
แล้วห่อพลาสติกสีเงินก็ตกมาจากกระเป๋ากางเกงของรอน
ทุกสายตามองตาม
ห่อถุงยางอนามัย!
“นายรอนนนน เราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยล่ะนะ” วิทวัสพูดก่อนจะวางฝ่ามือลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มเบาๆ
********
“ตกลงตามนี้แล้วกันนะคะ แพทได้เข้าร่วมกับหน่วยแพทย์สากล ไปทำงานอาสาสมัครที่ประเทศวานาซูเอเล่ เป็นตัวแทนของประเทศในการเชื่อมสัมพันธ์”
“แต่ว่าให้โกหกแบบนี้มัน …” บราเดอร์ร้องขึ้นมา
“ไม่ได้โกหกค่ะ” อารยาเปิดทีวีในเรือนรับรอง ภาพของหลิวลี่จงจับมือกับรอนและแพทกำลังให้สัมภาษณ์เรื่องนักเรียนอาสาสมัครไปทำงานบรรเทาทุกข์ รอนและแพทในนั้นเดินไปเดินมาเหมือนตัวจริง
“เกี๋ยวนะ นายรอนนั่งอยู่นี่”
“Deep Fakeค่ะ สองคนนั้นเป็นนักแสดงแทน ชั้นให้หลิวลี่จงจัดการถ่ายทำ ทำคลิปปลอม และให้เขาเอาให้รัฐบาลวานาซูเอเล่เผยแพร่ คงหลอกทุกคนได้ แต่ก็ขอให้ทุกคนในที่นี้เก็บเรื่องไว้เป็นความลับด้วยนะคะ”
อารยาโค้งคำนับเหมือนเป็นการขอร้อง
“เราคงจะทำตามที่คุณแม่ขอร้องไม่ได้หรอก เรื่องนี้มัน…” ครูคนนึงสวนขึ้นด้วยออร่าแห่งความเป็นครู
ปึง! ปืนพกถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะ
“อย่าเข้าใจผิดค่ะ นี่ไม่ใช่การขอร้อง ดิฉันกำลังขอความร่วมมือ” อารยาเงยหน้าขึ้นเสียงเข้ม “รบกวนคุณครู … ให้ความร่วมมือด้วยนะคะ”
ครูกลืนน้ำลายเอื้อก ขณะที่ร้อยเอกเจ้าของคดีคุยโทรศัพท์อย่างเคร่งเครียด ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีหลังเกิดเหตุก่อการร้าย รอนขอให้ทางตำรวจสั่งการลงมาอีกชั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเพราะพ่อแม่ของคนที่สูญหายก็ต้องการเช่นนั้น
“อย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อนค่ะ” อารยาบอก “รอน ไปกัน”
“คุณแม่จะพานายรอนไปไหนครับ” มาสเตอร์เทพถาม
“ที่ชั้นให้รอนอยู่ในคลิปในข่าวเมื่อครู่ เพราะจะต้องยืมตัวรอนสักพักนึง ไม่ต้องห่วงค่ะ ชั้นจะคุยกับพ่อแม่ของเค้าเอง” อารยาบอก “คุณคะ รอน ไป กลับกัน”
รอนถูกพาตัวขึ้นรถ อารยาขับ วิทวัสนั่งหน้า ส่วนรอนนั่งหลัง ท่าทีของทั้งสองคนดูอ่อนลงไปกว่าเดิมมาก
“ผมขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยนะครับกับเรื่องที่เกิดขึ้น” รอนกล่าวคำขอโทษอีกครั้ง
“ไม่ต้องเรียกลุงป้าอีกแล้ว” วิทวัสกัดฟันกรอด “มาถึงป่านนี้แล้ว เรียกพ่อกับแม่ก็ได้”
“เห” รอนเลิกคิ้วขึ้น
“เอาเถอะ ในเมื่อเธอสองคนเลยเถิดมากันขนาดนี้แล้ว ก็ให้มันแล้วไปเถอะ ตอนนี้มาคิดก่อนดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อดี” อารยาบอก
“เลยเถิด !?!” รอนร้อง
“พวกเธอสองคนไปอยู่ที่โลกโน้นกันสองต่อสองทั้งวันทั้งคืนกันมาตั้งนานแค่ไหนแล้ว แถมยังพกของแบบนั้นอีก ยังจะมาทำหน้างงอะไรกันอีก” วิทวัสกระแทกเสียงใส่
“เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องเข้าใจ…”
“ถ้าอย่างนั้นบอกมาซิว่าทำไมถึงพกของแบบนั้นได้ อย่าบอกนะว่าใช้กับผู้หญิงคนอื่น” วิทวัสกำหมัดหักข้อนิ้วดังลั่นเปรี๊ยะๆๆ
รอนใจหายวูบ ขืนบอกไปว่าคุณเจนัสใส่มา เกิดเข้าใจผิดว่าเขากับคุณเจนัส … ตายๆๆๆ บอกไม่ได้
“ขอโทษครับ”
“เลิกขอโทษได้แล้ว เล่าออกมาให้หมด ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง ทำไมเธอถึงเอาศิลานักปราชญ์แห่งความมืดให้แพทได้” อารยาตัดบท
แล้วรถก็วิ่งกลับบ้าน บนท้องฟ้าปรากฎแสงสว่างจากซูเปอร์โนวาบีเทลจุสสว่างวาบขึ้นมา
๙๙๙๙๙
ขณะเดียวกันที่รัฐเท็กซัสประเทศUA บ้านไร่ขนาดมหึมากลางท้องทุ่งห่างไกล ชายคนหนึ่งวิ่งเข้าไปในห้องลับ
“เรียนท่านผู้เฒ่าลิมูลัสทั้ง7 มีความเคลื่อนไหวไม่ปกติของศัตรูของเราครับ”
“เรื่องอะไร” ผู้เฒ่าคนหนึ่งถาม
“วันนี้มีภาพข่าวของหลิวลี่จง ออกข่าวพร้อมกับเด็กที่ชื่อวิกานดาและรอนครับ” มันรายงาน “แต่สายของเรารายงานว่า ความจริงวันนี้เจ้าเด็กทั้งสองคนนั่นไปเข้าค่ายลูกเสือ และมีข่าวจากตำรวจว่าเด็กชื่อวิกานดาหายตัวไป”
ผู้เฒ่าทั้ง7คนมองดูรายงานก่อนจะยิ้มออกมา
“ไปกัน ไปพาตั่วเจ๊เมษา ถ้าเป็นไปตามคาดเจ้าพวกนั้นคงกำลังวุ่นวายอยู่”
“เราจะเปิดโปงฐานะของพวกมัน ไม่ให้พวกมันใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข”