กลับบ้าน
โดย
หมอแมว
งานอภิเษกจบลงอย่างงดงาม บรรดานายทหารทั้งสามอาณาจักรต่างกระจายกันกลับกองทัพ เตรียมตัวเคลื่อนพลส่วนที่เหลือออกไปกำจัดมอนสเตอร์ที่ยังหลบหนีอยู่
สำหรับอดีตจักรพรรดิลูเซียสเดินทางไปกับบิชอปคาร์มิลล่า ช่วยเหลือศาสนจักรเวโรน่าในการดูแลรักษาผู้คน
ส่วนเจ้าชายดีโอนั้นยังไม่ได้เข้าพิธีสถาปนายังคงดำรงตำแหน่งเดิมอยู่ … และเนื่องจากเป็นเชื้อสายที่สำคัญ ดังนั้นตอนนี้เลยถูกกำหนดให้อยู่ประจำบัญชาการจากเมืองโอลเซ่นแทน โรล่าและมาเรียเองก็ยังคงอยู่ภายในเมืองนี้ด้วยไม่ไปไหนจนกว่าสถานการณ์ของแอสคาลอนจะเข้าสู่ภาวะที่ปกติกว่านี้
คืนนั้นพ่อและแม่ของแพทก็กลับมาจากการรบที่แอมโบรเซีย ที่นั่นพวกเขาสามารถจัดการกับแม่ทัพของออร์คที่พยายามโจมตีเมืองได้และกวาดล้างมอนสเตอร์ละแวกนั้นจนหมด …
“รัสเซล ทีน่า แม็กซ์ สามคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ” รอนถาม
“ทีมนั้นน่ะเหรอ เยี่ยมมาก” วิทวัสบอก “โดยเฉพาะพ่อหนุ่มบ๊าธที่เล่นเพลงเพิ่มบัฟให้พวกเรา ช่วยได้เยอะทีเดียว … ตอนนี้น่าจะกลับไปอยู่กับแม่ของพวกเขาแล้ว สามคนนั่นฝากขอบคุณเธอมาด้วย”
“รอน แม่ได้ยินมาว่าเธอได้รับแต่งตั้งเป็นprince consort เจ้าชายสวามีของโรล่าอย่างนั้นรึ” อารยาถาม
“ครับ” รอนตอบนิ่งๆ
“เรื่องความรักแบบนี้ในช่วงแรกๆ ทุกอย่างอาจจะดูดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีในระยะยาวความสัมพันธ์แบบนี้จะมีปัญหาได้ เธอจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังดีๆนะ” อารยาเตือน
“เข้าใจแล้วครับ” รอนรับคำ … เขารู้ดีว่าการมีคนรักมากกว่าคนเดียวจะไม่สามารถให้เวลากับแต่ละคนได้อย่างเต็มที่ รอนสัญญากับตนเองเลยว่าเขาจะไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะมีคนใหม่เพิ่มขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
มันไม่ดีต่อทุกฝ่าย
“เอาล่ะ คืนนี้พอแม่กลับไปทางโน้น ก็จะจัดการเอาศิลานักปราชญ์ออกจากร่าง พอรอนเห็นศิลานักปราชญ์ปรากฎขึ้นก็ให้รับกลับเข้าร่างตามเดิมนะ แล้วพรุ่งนี้เที่ยงค่อยเดินทางกลับ”
“ครับแม่”
เด็กหนุ่มรับคำแล้วนึกขึ้นได้
“จะว่าไปผมกลับคืนนี้เลยได้ไหมครับ”
“ไม่ได้หรอก กว่าแม่จะทำพิธีให้ศิลานักปราชญ์หลุดออกได้ต้องใช้เวลา กว่ามันจะหลุดมาปรากฎที่ฝั่งนี้ได้ ก็คงเลยเวลาไปแล้ว”
“แต่วันก่อนนั่นที่ผมถูกดีดออกไป แม่ข้ามมาได้ทั้งที่เลยเวลาไป10นาทีแล้วนี่ครับ” รอนถามอย่างสงสัย … จะว่าไปวันก่อนเขาถามไปแล้ว แต่แม่ของแพทบอกว่าเรื่องมันยาว
“จะว่าไปเรื่องมันยาวน่ะ แต่เอาเป็นว่าเธอทำไม่ได้หรอก” อารยาตัดบท “อ้อ อีกเรื่องนึง แพท … ลูกลองเช็คสถานะข้ามมิติของลูกดูหน่อยซิ”
“คะ?”
แพทเปิดหน้าต่างสถานะของตนเอง
[เตรียมตัวข้ามมิติได้ใน 14 ชั่วโมง]
“ใช้ได้แล้ว!” แพทร้องออกมาอย่างดีใจ “อีก14ชั่วโมง”
“อืม พ่อเพิ่งได้ข่าวเมื่อตอนเดินทางกลับมา … นักรบมังกรทรอน … หัวหน้านักรบมังกรแห่งความมืด พ่ายแพ้ให้กับกองทัพศาสนจักรเวโรนที่ราบเดคคานเมื่อวานนี้ ดังนั้นสกิล [Dimension Lock] ที่ทำให้พวกเราข้ามกลับบ้านไม่ได้ก็หมดพลังแล้วล่ะ” วิทวัสบอก
“ดีจริงๆ” แพทร้องอย่างดีใจ “แบบนี้หนูก็กลับไปสอบไฟนอลทันแล้วสิคะ”
“ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย ขนาดนี้แล้วยังมาห่วงการสอบอีก”
“แหมคุณแม่คะ ก็ที่พวกเรามาที่นี่ตอนแรกน่ะก็เพื่อหาเวลามาอ่านหนังสือเพิ่มด้วยนี่คะ” แพทบอก “แถมเจ้าศิลานักปราชญ์นี่ก็ทำให้หนูอ่านหนังสือได้ด้วย”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ในเมื่อทุกอย่างลงตัวก็ดีแล้ว ทุกคนก็จะได้กลับกันซะที” วิทวัสบอก “ของพ่อได้รับผลกระทบน้อยกว่า เลยกลับได้ใน2ชั่วโมงนี้แล้ว … แล้วนายรอนเองจะได้กลับไปเยี่ยม..”
“คุณก็อย่าพูดให้รอนเค้าคิดมากสิ เค้าอยู่ที่นี่หลายวันก็จริงแต่ระหว่างนี้ชั้นก็ไปคุยกับพ่อแม่เค้าแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง”
วิทวัสเกาหัวแกรกๆอย่างรู้สึกถูกกระทำ เขาจะพูดเรื่องเจนัสแท้ๆ ทำไมถึงเจอเข้าใจผิดแบบนี้ไปได้
“โอเคๆ งั้นคืนนี้แพทไปนอนกับพ่อละกันนะ ไม่ได้เจอลูกตั้งหลายวันพ่อคิดถึง” วิทวัสบอก
“คุณ ได้ที่ไหนกัน อย่าลืมสิ ศิลานักปราชญ์ของคุณทำงานกลับโลกได้แล้ว แต่ว่าของลูกยัง … คืนนี้คุณจะไม่มีความรู้สึกง่วงแต่ลูกยังต้องนอน …ถ้าคุณนอนคุยกับลูกมีหวังลูกแพทไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ๆ” อารยาดุ “หน้าที่คุณคืนนี้คือต้องไปประจำกำแพงหมู่บ้าน อย่าให้มีมอนสเตอร์ลอบเข้ามาโจมตีตอนที่ลูกนอนอยู่ได้ …รอให้เด็กทั้งสองคนได้พลังคืนมาทั้งหมดก่อนแล้วคุณถึงไม่ต้องเฝ้ายาม”
วิทวัสถึงกับตบหน้าผากตัวเอง เขาลืมนึกไปเลยว่าช่วงเวลานี้ลูกแพทยังข้ามมิติไม่ได้ ยังต้องการการนอนเหมือนคนปกติ ถ้าหากกลางคืนมีมอนสเตอร์โจมตีขึ้นมาล่ะก็ต้องลำบากแน่ๆ
“โอเค. งั้นผมจะไปเฝ้ายามที่กำแพงชั้นนอกของหมู่บ้าน รับรองว่าคืนนี้จะไม่ให้มอนสเตอร์ใดๆบุกเข้ามาได้” วิทวัสเอามือทุบอกแล้วก็เดินออกไป
อารยาส่ายหน้า เธอตรงไปที่ผนังบ้านและวาดวงแหวนเวท ร่ายเวทไปก็บ่นไป
“ลูกอยู่แบบไม่ร่ายเวทป้องกันได้ยังไงนะ” อารยาร่ายเวทที่กำแพงบ้าน
“นี่มันเวทเก็บเสียงใช่ไหมครับ” รอนถาม
“ใช่ … หลักขั้นต้นในการพรางตัวก็คือเธอรู้จักด้วยเหรอ”
“พอรู้อยู่บ้างครับ ผมเอาวงแหวนเวทที่โลกนี้ให้รุ่นน้องช่วยวิเคราะห์” รอนบอก “งั้นรบกวนคุณแม่ร่ายเวทเพิ่มความแข็งแรงของกำแพงให้ด้วยละกันครับ”
อารยาร่ายเวทเพิ่มให้ตามต้องการ
“เอาล่ะ เดี๋ยวแม่จะไปลาดตระเวนด้วยเหมือนกัน แล้วตอนเที่ยงคืนก็จะไปรอข้ามมิติที่โบสถ์ พรุ่งนี้เช้ารอนก็ไปเก็บศิลานักปราชญ์จากที่นั่นก็แล้วกันนะ”
“ครับ”
“งั้นแม่ไปก่อนล่ะ …รอน แม่ฝากแพทด้วยนะ”
“ได้ครับคุณแม่”
อารยาเดินออกไปโดยไม่ลืมบอกให้เด็กทั้งสองลงกลอนให้ดี … รอนและแพทจัดการตรวจสอบความเรียบร้อยจนแน่ใจแล้วก็กลับไปที่ห้องนอนด้วยกัน
ด้วยเวทเก็บเสียงที่แม่ร่ายเอาไว้ทำให้คืนนี้ทั้งสองรู้สึกโล่งใจมากกว่าทุกวัน … ตั้งแต่ไม่มีพลังศิลานักปราชญ์ทำให้ต้องนอนหลับ ทั้งสองรู้สึกกลัวว่าจะมีมอนสเตอร์มาทำร้ายตอนนอนตลอด
รอนและแพทเอาอาวุธออกจากชุดที่ใส่อยู่แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ห่มผ้าห่มแล้วก็ดับตะเกียง
“รอน”
“อะไรเหรอแพท”
“เรื่องของโรล่า … กับเจ้าชาย … ตกลงเป็นแค่การแต่งงานกันบังหน้าอย่างนั้นหรือ” แพทถาม
“ไม่ใช่หรอก เป็นการแต่งงานจริงๆ” รอนบอก “ถึงจะมีโอกาสน้อย แต่ว่าก็ไม่ใช่ไม่มีโอกาส ถึงยังไงทางนั้นก็ต้องการเด็กที่สืบเชื้อสายโดยตรงจากเจ้าชายดีโออยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น … คืนแรก .. โรล่า … แล้วเธอไม่ว่าอะไรเหรอกับเรื่องแบบนี้”
“ทำไมผมต้องว่าอะไรด้วย … ในเมื่อโรล่าเองก็บอกแล้วว่ามันคือการแต่งงานเพื่อสร้างความมั่นคง เพื่อสร้างทายาทให้กับอาณาจักร … สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือโรล่ากับผมเราสองคนรักกัน”
“เธอนี่แปลกคน” แพทบอก
“แปลกยังไง” รอนถาม
“ช่างเถอะ” แพทตัดบท “เรานอนกันดีกว่า”
รอนและแพทขยับปกเสื้อขึ้นปิดคอกันแมลงกัดจากนั้นทั้งสองคนก็ข่มตานอน
“รอน”
“อื้อ”
“ขอบคุณนะสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่ให้ศิลานักปราชญ์มา ขอบคุณที่ปกป้องไม่ทิ้งกัน” แพทบอก
“ก็เรารักเธอ การปกป้องคนที่เรารักเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้วไง” รอนหันกลับมาจุมพิตที่หน้าผาก
“วันพรุ่งนี้ทุกอย่างก็จะกลับไปเหมือนเดิมแล้วสินะ” แพทกล่าว “จะได้กลับไปที่อยู่ที่บ้าน จะได้เจอเพื่อนๆ … จะได้ …”
“สอบไฟนอล” รอนบอกต่อให้
“ตายจริง อีกกี่วันสอบเนี่ย แล้วแพทจะอ่านหนังสือทันไหมเนี่ย”
“น่าจะสามสัปดาห์ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราอ่านล่วงหน้ากันไปแล้วจำไม่ได้เหรอ ที่เหลือก็แค่ทบทวนบทเรียน”
“งั้นกลับไปหลังเลิกเรียนก็ต้องไปทบทวนบทเรียนทุกวันเหมือนเคยนะ”
“ทบทวนที่นี่ดีกว่า เลิกเรียนก็กลับบ้านเจอคนที่บ้านบ้าง … เวลาของเราสองคนที่นี่มีเยอะ อีกอย่างถ้าไปบ้านเธอน่ะทั้งพ่อเธอ แม่เธอ ลุงบัว ตายาย เดินไปเดินมา ระหว่างทบทวนคงเจอพ่อเธอกวนเรื่อยๆ”
“ดีเหมือนกัน งั้นตกลงตามนี้ ทบทวนที่นี่ จะได้สอบไฟนอลได้ดีๆ” แพทกล่าว
“อืม” รอนรับคำ
“หลับฝันดี ผมรักคุณนะแพท”
“แพทก็รักรอนเหมือนกัน”
เด็กทั้งสองยิ้มให้กันในความมืด จูบกันเบาๆอีกครั้งท่ามกลางความมืดมิดของยามราตรี … แสงสว่างของดาวตกพุ่งพาดจาก้องฟ้าลงมาที่หมู่บ้านโอลเซ่นก่อนจะหายไปเหนือบ้านที่แพทและรอนนอนอยู่
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เด็กทั้งสองตื่นนอนขึ้นมาหันหน้ามองกัน
“เมื่อคืนฝันแปลกๆ เห็นเทพีเวโรน่า”
“เหมือนกัน”
ทั้งสองมองหน้ากับความฝันแปลกๆเมื่อคืนแต่คิดมากไปก็ไม่ได้คำตอบเลยเลิกไป (คำตอบอยู่ในเรื่อง Monster war fantasy)
“คุณ … เดี๋ยวผมไปที่โบสถ์ก่อนนะ จะไปดูศิลานักปราชญ์ที่คุณแม่ปล่อยไว้หน่อย” รอนหยิบเสื้อมาสวม “ผมไปก่อนนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวแพทไปซื้ออาหาร เดี๋ยวเอากลับมากินพร้อมกัน” แพทบอก
รอนออกจากห้องและออกจากบ้านตรงไปที่โบสถ์ ขณะที่แพทลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เด็กสาวร่ายเวทHealให้ตนเองจนรู้สึกสมองปลอดโปร่ง จากนั้นหยิบชุดมาสวมแล้วก็ออกจากบ้านไป
เด็กสาวออกไปซื้ออาหารน้ำและเครื่องใช้จำเป็นก่อนจะเดินไปที่กำแพง เธอตามบิดาให้ไปที่บ้านเพื่อไปกินอาหารพร้อมกัน
“กลับมาแล้วครับ” รอนเปิดประตูเข้ามา
“มากินข้าวเช้ากันเร็ว” แพทบอกพลางจัดโต๊ะ “คุณเจอศิลานักปราชญ์แล้วใช่ไหม”
“เจอแล้วล่ะคุณ นับเวลาถอยหลังกลับตอนเที่ยงวัน” รอนเช็คสถานะ
“ดีแล้ว ๆ มานั่งกินอาหารเช้ากัน” วิทวัสกวักมือ
รอนและแพทนั่งลงแล้วกินอาหารพร้อมกันสามคน
“น้ำชาครับคุณพ่อ” รอนยกแก้วน้ำชาให้วิทวัส “เมื่อคืนเรียบร้อยดีนะครับ”
“เรียบร้อยดี จะมีก็แค่มีแสงดาวตกแปลกๆตกมาในโอลเซ่น แต่เช็คแล้วไม่มีอะไร” วิทวัสบอก “อ้อ อารยาฝากบอกมาว่าเดี๋ยวพอเธอกลับไปที่ฝั่งโน้น ให้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม พาสปอร์ทอยู่ในตู้เซฟ รหัสเปิดตู้ 1222 หลิวลี่จงจะรอเธออยู่ที่สนามบิน เครื่องจะออกตอนบ่าย3”
“แล้วของแพทจะไปโผล่ที่ไหนคะ ที่ค่ายลูกเสือหรือเปล่า” แพทถาม
“ไม่หรอก พวกเราช่วยกันย้ายกลับไปไว้ที่บ้านแล้ว” วิทวัสว่า
“ไม่รู้คนอื่นๆจะเป็นยังไงกันบ้าง หายมาหลายวันทุกคนคงเป็นห่วงกันหมดแล้ว” แพทบอก
“เรื่องนั้น … เอาเถอะ เดี๋ยวกลับถึงที่นั่นเราทุกคนค่อยคุยกัน” วิทวัสตัดบทแล้วกินอาหารต่อไป
ทั้งสามคนอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน … รอนและแพทก็ตัดสินใจว่าวันนี้จะยังไม่ไปหาโรล่า … ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะคิดยังไง แต่เอาเข้าจริงทั้งสองก็นึกไม่ออกว่าจะทำตัวอย่างไรถ้าหากไปเจอโรล่าในวันนี้
ทั้งสามรอเวลาจนเกือบถึงเที่ยงวัน เวลาที่จะข้ามมิติ
“เดินทางปลอดภัย” รอนบอกแพท
“คุณก็เหมือนกัน” แพทตอบ
“ใกล้เวลาแล้ว … รอน ถ้ากลับถึงสนามบินแล้วมาที่บ้านพ่อแม่ก่อน พ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“ครับ”
5.. 4 .. 3 .. 2 .. 1 วาร์ป!
รอนมาปรากฎตัวในห้องโรงแรมในฮ่องกง เขามองไปรอบๆจัดการเก็บพาสปอร์ตแล้วเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม แล้วขึ้นแท็กซี่ไปสนามบิน
“แพท คุณเป็นยังไงบ้าง”
“เรียบร้อยดีค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เจอกันนะ”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
รอนไปที่สนามบินซึ่งหลิวลี่จงรออยู่ ดูคุณหลิวลี่จงมีท่าทีแปลกไปกว่าปกติ แต่ในเวลานี้รอนไม่มีอารมณ์ถาม
หลายวันมานี้เรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน
รอนหลับตาลงนึกทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้จนกระทั่งเครื่องลง เมื่อเข้าตัวอาคารผู้โดยสารขาเข้าเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังรัวขึ้น
“แพท มีอะไรเหรอคุณ ผมเพิ่งลงเครื่องมาเมื่อกี้นี้เอง” รอนรับสายอย่างยิ้มแย้มก่อนที่หน้าที่กำลังยิ้มจะเปลี่ยนไปเป็นหน้าตาตื่นตระหนก
“อะไรนะ คุณเจนัสหมดสติไป ยังไม่ฟื้นเหรอ!”