ความเงียบสงบก่อนพายุฝนมา…
โดย
หมอแมว
เด็กหนุ่มไปโรงเรียนแต่เช้าตามปกติ ความตึงเครียดของการช่วยเหลือหมู่บ้านโอลเซ่นลดลงไปมากแล้ว เหลือแต่เพียงการใจจดจ่อกับการเรียนตามที่ตั้งใจไว้
เขาไปที่ห้องสมุดเพื่อคืนหนังสือที่ยืมไปเมื่อวานนี้ ระหว่างคืนอยู่ก็มองเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์ของห้องสมุดด้วยความเคยชิน …. เห็นเด็กนักเรียนหลายคนนั่งเล่นเกมอยู่
จะว่าไป ตอนนี้ก็เกือบสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่เขาเลิกเล่นเกมทั้งออนไลน์ออฟไลน์ … แต่มาเห็นภาพแบบนี้แล้ว ชักอยากจะเล่นเกมขึ้นมาแล้วสิ
รอนเดินเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์อย่างไม่รู้ตัว ที่นั่งหมายเลข 10 ที่เขาเคยนั่งประจำมีเด็กม.1นั่งอยู่ … เพื่อนๆของเด็กม. 1 สะกิด
“เฮ้ย พี่รอนมา”
“มึงลุกเร็ว ที่พี่เค้า”
น้องม.1คนนั้นรีบออกจากเกมโดยไม่ได้เซฟแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้รอนทันที
“ขอโทษทีครับพี่ ผมเห็นพี่ไม่ได้มาเล่นทั้งสัปดาห์ เลยนึกว่าวันนี้พี่จะไม่มาเล่น” น้องม.1ขอโทษ
รอนพยักหน้าให้แล้วลงนั่งที่เครื่อง มือลากเมาส์ไปที่ไอคอนเกมที่คุ้นเคย … และกำลังจะกดเล่น
“นายรอน … พอดีเลย … ครูฝากไปบอกเพื่อนๆหน่อยสิ” มาสเตอร์ดุษฎีโผล่หน้าเข้ามาตรงทางเข้าห้องคอมพิวเตอร์
“วันนี้ครูไม่ว่างช่วงเช้า เลยแลกภาษาอังกฤษคาบสองวันนี้กับวิชาสังคมของวันจันทร์หน้า” มาสเตอร์บอก “เดี๋ยวเธอบอกเพื่อนๆในห้องด้วยนะ”
มาสเตอร์เดินออกไปแล้ว นักเรียนทั้งหลายหันกลับมาที่เครื่องของตนและกดเปิดเกมใหม่ … รอการ Carry ของรอนที่พาทุกคนไปสู่ชัยชนะ
… แต่รอนยังค้างนิ้วไว้เหนือเมาส์
“ฉิบละ … ยังไม่ได้อ่านสังคมวันจันทร์เลย แล้วตอนเที่ยงจะติวให้แพทยังไงเนี่ย”
รอนผุดจากที่นั่งแล้วรีบเดินออกไป “พี่ไม่เล่นแล้ว น้องเล่นได้ตามสบายเลย”
น้องๆเพื่อนๆที่เตรียมเล่นเกมหันไปมองเป็นตาเดียว
“อ้าวพี่รอน พี่จะรีบไปไหน”
“พี่จะไปอ่านหนังสือเตรียมเข้าเรียนคาบเช้าวิชาสังคม …… พี่อ่านมาแต่อังกฤษ ยังไม่ได้อ่านวิชาสังคม”
ว่าแล้วรอนก็พรวดพราดออกไป … ในห้องคอมฯปราศจากเสียงใดๆ นอกจากเสียงฮาร์ดดิสก์ที่หมุนในเครื่องPC
… ไปอ่านหนังสือเตรียม’ก่อน’เข้าเรียน!
… อ่านภาษาอังกฤษมาแล้ว!
อย่าว่าแต่รอนที่ทุกคนตามในฐานะคนเล่นเกมเลย … พวกที่นั่งๆกันอยู่ในห้องคอมก็ไม่มีใครอ่านหนังสือก่อนเข้าเรียนกันเลยสักคน
รอนรีบไปที่ชั้นหนังสือสังคม ตามตารางวันนี้ไม่มีวิชาสังคม แบบนี้ไม่มีใครเอาหนังสือมาแน่ … เอาไงดี
เขายกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปหนังสือบทที่จะน่าจะต้องเรียนวันนี้แบบรัวๆแล้วกดสร้างไฟล์ PDF
จากนั้นก็รอนก็รีบอ่านแล้วขีดไฮไลท์ในfileบนมือถือของตัวเองรัวๆ
** ** ** **
“วันนี้ครูสลับคาบสังคมกับวิชาภาษาอังกฤษของมาสเตอร์ดุษฎี” มาสเตอร์สุทินบอก “ว่าแต่มีใครเอาหนังสือสังคมมาบ้างไหม”
นักเรียนทุกคนส่ายหน้า … ทุกคนรู้จากที่รอนบอกในคาบแรกของวัน ไม่มีใครทันได้เตรียมตัว
“งั้นสงสัยเราต้องไปยืมหนังสือจากห้องที่เรียนคาบต่อจากนี้แล้ว … เอ วันนี้ห้องไหนเรียนอีกนะ” มาสเตอร์พูด “แต่ถ้าไปยืมก็ต้องเสียเวลาไปๆมาๆอีก หรือจะสอนไปเลยดี”
“มาสเตอร์ครับ … วันนี้มาสเตอร์สอนบทนี้หรือเปล่าครับ” รอนยกมือแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้ดูไฟล์เอกสารที่เขาถ่ายมาจากหนังสือแล้วทำสรุปไว้ในเครื่อง“
“ใช่ๆ บทนี้แหละ”
“งั้นเดี๋ยวผมต่อสายเข้ากับเครื่องฉายสไลด์แล้วเอาขึ้นจอก็ได้ครับ แล้วมาสเตอร์ก็เขี่ยหน้าจอมือถือผมเอา”
“โอ้ มีวิธีแบบนี้ด้วยเรอะ” มาสเตอร์บอก “นี่แปลว่าพวกเธอเคยเอาขึ้นจอหน้าห้องแบบนี้มาก่อนสิเนี่ย ครูดูเธอผิดไปจริงๆนะ นึกว่าเธอเอาแต่เล่นเกม ”
ทั้งหมดในห้องนั่งเงียบกลั้นหัวเราะ … เพราะความจริงที่ผ่านมาบางครั้งรอนกับเพื่อนๆบางคนปิดห้องแล้วต่อมือถือเล่นเกมขึ้นเครื่องฉายสไลด์ต่างหาก
“เอาล่ะ งั้นเริ่มบทเรียนกันเลย” มาสเตอร์สุทินสอนตามหนังสือบนหน้าจอ … แล้วเล่าเรื่องราวเพิ่มเป็นบางจุดที่ไม่มีในหนังสือเรียน … จากนั้นก็พลิกหน้าถัดไป
“สำหรับตรงนี้จุดที่สำคัญและควรจะจำ …. เอ๊ะ” มาสเตอร์ชะงักไป เพราะตรงที่กำลังจะพูดมีการขีดเส้นใต้ไว้แล้ว
“อ๋อ คือผมขีดสรุปไว้น่ะครับ” รอนบอก
“อ่อๆ ดีๆ ตั้งใจเรียนดี” มาสเตอร์ตอบ … “ ซึ่งตรงจุดนี้จริงๆเนื้อหาตรงนี้ยังไม่ละเอียด แต่มันจะมีพูดถึงอีกครั้งในบทรองสุดท้ายในหนังสือเล่มนี้”
มาสเตอร์เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่นักเรียนที่กำลังมองภาพบนจอ
… หืม … ในมือถือมีพิมพ์อะไรไว้เล็กๆมองไม่ชัด … มาสเตอร์จึงหันไปมองที่กระดานซึ่งภาพชัดกว่าแล้วอ่านตาม
“ ตรงนี้เนื้อหาไม่ละเอียด แต่จะมีในเนื้อหาบทรองสุดท้าย กับในหนังสือเทอมสองของ ม.4 “
………..
“คือพอดีผมอ่านสังคมจบไปแล้วครับ แล้วอ่านเลยของม.4ไว้หน่อยนึง พอดีวันนี้รีบเลยไม่ได้เขียนละเอียด”
‘ว้อททททททททททท’ เพื่อนๆกรีดร้องในใจ …. อ่านจบไปแล้วเรอะ แล้วนี่คืออ่านของม. 4 ไปแล้วด้วย
“อืม ดี ดี ตั้งใจเรียนแบบนี้ดีแล้ว คะแนนของเธอตอนต้นปีไม่ดีเลย ถ้าตั้งใจแบบนี้จะได้ทำคะแนนปลายปีได้ดี” มาสเตอร์สุทินบอก “ เอ๊ะ ตรงนี้มีต่อ … เขียนไว้ว่าอะไร”
“ตรงนี้เนื้อหาไม่ละเอียด แต่จะมีในเนื้อหาบทรองสุดท้าย กับในหนังสือเทอมสองของ ม.4 …. ตอนติวยังไม่ต้องบอกแพทก็ได้ เดี๋ยวไว้ตอนวีดีโอคอลคุยกันคืนนี้ค่อยบอกแล้วเอามาเปิดหาทีเดียว……………….”
มาสเตอร์สุทินพูดจบก็เงยหน้ามองแพทและรอนสลับไปมา เกิด Dead Air ขึ้นประมาณ 20 วินาทีก่อนที่จะสอนต่อเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
** ** ** **
“วันหลังไม่ต้องเขียนลงไปหมดทุกอย่างก็ได้นะ” แพทพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็ง …. แต่ใบหน้ากับท่าทางไม่ได้บ่งบอกไปในทางไม่พอใจแต่อย่างใด กลับกัน พวงแก้มเรื่อๆเป็นสีชมพูทั้งสองข้างอยู่บนผิวขาวผ่อง
“แหะ แหะ ขอโทษที พอดีเราชินไปหน่อย” รอนบอก “ทุกทีเวลาวางแผนเล่นเกมให้ทีม เราจะพิมพ์ลงไปแบบนี้แหละ”
ทั้งคู่นั่งกินข้าวกล่องต่อไปเงียบๆและเร่งทำเวลาเพื่อจะได้ติวช่วงกลางวัน … เสียงดังมาจากหน้าห้อง
“เฮ้ยรอน ทำไมนายไม่ออนเลยวะ”
ทั้งคู่หันไปมอง เป็นกวินและเอกชัยเดินเข้ามาในห้อง
“วันก่อนทีมเราวอร์กับทีมFire Furyแล้วแพ้ยับเยินเลย … ถ้านายอยู่พวกเราคงไม่แพ้ขนาดนี้” เอกชัยบ่นแบบหัวเสียสุดๆ
“วันนี้นายต้องลงให้ได้นะเว้ย” กวินบอก “ตอน5ทุ่มเรานัดBattleไว้แล้วจะต้องล้างตาให้ได้”
“คือ …. วันนี้เราไม่ว่างว่ะ” รอนตอบไป
“อะไรวะ ไม่ว่างได้ไง วันนี้วันศุกร์นะเว้ย พรุ่งนี้ไม่มีเรียน” กวินแย้ง
….
“ เรายุ่งจริงๆ” รอนปฏิเสธอีกครั้ง … ไหนจะเรื่องอ่านหนังสือเตรียมสอบ ไหนจะเรื่องเตรียมติว และก็ยังเรื่องโลกฝั่งโน้นอีก
ที่สำคัญ ตอนนี้การนึกถึงเกม การเล่นเกมมันไม่ได้ให้ความรู้สึกสนุกแบบสมัยก่อนอีกแล้ว
“จำไว้เลย” กวินร้องขึ้นก่อนจะเดินออกไปพร้อมเอกชัย ทั้งรอนและแพทนั่งแบบงงๆว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้โมโหขนาดนี้
“นี่รอน…จะดีเหรอ พวกนายคบเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปีนะ ดูเหมือนเค้าอยากจะชนะให้ได้มากๆเลย ” แพทถาม
“เอาเถอะ … แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยากเล่นเกมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” เขาตอบ “ถ้าจะโกรธก็คงต้องโกรธแหละ … แล้วแค่แพ้เกมแค่นี้มันจะอะไรกันเชียว”
“เอาล่ะ พวกเรามานั่งติวกันก่อนดีกว่า”
** ** **
“ไอ้รอน เดี๋ยวนี้มันเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน” เอกชัยบ่นขณะเดินไปตามทางเดิน
“แล้วเอาไงวะ นัดก็นัดไปแล้ว หรือจะยกเลิก” กวินถามความเห็น
“เลิกได้ไงวะ เงินเดิมพันลงไปแล้ว ไม่เล่นก็เจอยึดเงิน ยังไงก็ต้องเล่น”
“ปัดโธ่ … คราวนี้ดันลงไป2หมื่นด้วย ไม่นึกว่าไอ้รอนมันจะมาหักหลังแบบนี้”
แล้วทั้งคู่ก็เดินไปด้วยกันตามทางเดินด้วยความขุ่นมัว
** ** **
“กลับมาแล้วครับแม่” รอนบอกพร้อมผลักประตูเข้าไป วางกล่องกระดาษสองกล่องไว้ที่ข้างทางเข้าประตูแล้วหลบๆไว้
“รอนเหรอ … วันนี้มีพัสดุของลูกมาแน่ะ”
“อะไรเหรอครับ”
“เหมือนเขียนไว้หน้าซองว่าเป็นเสื้อแจ็คเกตนะ … แต่หนักเอาการเลย” แม่บอกแล้วยื่นห่อพลาสติกในมือให้ รอนรับไปแล้วเปิดดู Stab Jacket นั่นเอง
“เสื้อแจ็กเก็ตครับแม่ นี่ไง” รอนลองใส่ดู … แต่หนักเอาการเลย หน้าห่อเขียนว่า 1.5 กิโลกรัม …
แม่พยักหน้าให้แล้วไม่ได้ว่าอะไร … เพราะเธอแค่อยากดูว่าลูกสั่งอะไรแปลกๆมาหรือเปล่าเท่านั้น
พอแม่ไปแล้วรอนก็หยิบกล่องขึ้นห้องไป … รอนวางกล่องและเปิดออก กล่องหนึ่งคืออาหารกระป๋องสำหรับเลี้ยงคนทางโน้น
ส่วนอีกกล่องนึงทีแรกเขาลังเลอยู่ว่าจะเอาอะไรไปดี ระหว่างอาวุธหรืออาหาร … แต่ดูจากที่เพิ่งจัดการก็อบลินได้ คงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว … เอามาม่าไปเพิ่มอีกกล่องแล้วกัน
….
อาวุธเหรอ
คงไม่ต้องล่ะมั้ง
** ** ** **
(เวลา เที่ยงคืน10นาที) ที่ริมแม่น้ำห่างจากหมู่บ้านโอลเซ่น 3 ไมล์
เสียงฝีเท้าของคนสามคนดังแทรกผ่านต้นหญ้ามา แสงจันทร์สาดส่องลงเป็นประกายบนผิวน้ำ บนแม่น้ำมีเสียงน้ำแตกกระจาย เงาร่างของคน100กว่าเงา ฉายลงบนพื้นและผืนน้ำที่ฝั่งตรงข้าม มีแพที่ต่ออย่างลวกๆจอดเรียงรายอยู่ที่ฝั่งด้านโน้น
คนเกือบทุกคนมีสิ่งของสัมภาระติดตัวมาเพียงเล็กน้อย ผู้หญิงและคนชราอุ้มเด็กๆ พวกผู้ชายมีมีด ดาบสั้น ไม้พลองหรือหอก บางคนมีร่องรอยบาดแผลของการบาดเจ็บ แต่ก็ยืนป้องกันขบวนโดยกระจายรอบๆ ทุกคนมีสีหน้าตื่นตระหนกและกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ล็อค! พวกมันมาถึงไหนแล้ว ” ชายคนนึงตะโกนข้ามแม่น้ำไป
“อีกไม่เกินครึ่งไมล์” ล็อคตะโกนกลับไป
“ทุกคนเร่งฝีเท้าเร็วเข้า พวกเราต้องรีบไปให้ถึงหมู่บ้านโอลเซ่นก่อนพวกทันจะตามมาทัน … พวกนายรีบข้ามมาเร็ว”
“ทุกคนไปเถอะ …. พวกเราจะถ่วงเวลาพวกมันไว้ที่แม่น้ำนี่เอง” ล็อคตะโกนกลับไป
ไม่มีใครพูดอะไรต่อ การถ่วงเวลาที่ว่ามีความหมายอีกอย่างหนึ่งก็คือความตายเพียงสถานเดียว แต่ทุกคนก็รู้ดีในใจว่า หากไม่มีใครถ่วงเวลาก็อบลินเหล่านี้ไว้ ในอีกไม่กี่อึดใจมันจะต้องล้อมชาวบ้านที่หนีตายนี้ได้ทันแน่นอน
แต่ละคนเริ่มออกเดินต่อ หลายคนโบกมือให้ชายหนุ่มทั้งสามคนที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำ
“ล็อค ลูกพี่ไปกับชาวบ้านคนอื่นๆเถอะ ผมจะอยู่ตรงนี้เอง” ชายร่างผอมสูงบอก
“ใช่ ถ้าลูกพี่ไปที่หมู่บ้านโน้นและช่วยป้องกันที่นั่น น่าจะได้ประโยชน์กว่าเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่” ชายหนุ่มร่างท้วมบอก
” บิ๊ก … เวจ … นายคิดว่าลำพังพวกนายสองคนจะต้านก็อบลิน200กว่าตัวกับจอมเวทย์ก็อบลินได้กี่นาทีกัน”ล็อคถาม
ไม่มีใครตอบอะไรอีก เพราะการประทะกันที่หมู่บ้านก่อนหน้านี้ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพวกเขาไม่อาจสู้กับก็อบลินจำนวนมากได้จนต้องละทิ้งหมู่บ้านที่ถูกทำลายและหนีออกมาแบบนี้
เสียงแกรกกรากดังขึ้นที่บริเวณชายป่าร่างสีเขียวของก็อบลินตัวหนึ่งโผล่ออกมา ตามด้วยก็อบลินตัวที่สอง สาม …. สิบ …. สักพักกเดียวก็อบลินก็ยืนเต็มพื้นที่กว่าสองร้อยตัว
ตรงใจกลางกลุ่มของมัน มีก็อบลินกัปตัน 3 ตัว และก็อบลินเมจในเสื้อคลุมสีแดงขาดๆ ตัวหนึ่งยืนเด่นอยู่ มันยกมือขึ้นเอ่ยคำบรรยายร่ายเวทมนตร์จากนั้นปล่อยลูกไฟเล็กให้พุ่งขึ้นฟ้า…
แม้ดวงไฟจะเล็ก แต่ว่าแสงสว่างก็สาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ ส่องให้เห็นเหล่าก็อบลินนับร้อยที่กำลังประจัญหน้ากับชายร่างอ้วนผอม 2 คน ชั่วพริบตาเดียวก็อบลินทั้งหมดก็พุ่งเข้าใส่ชายทั้งสอง
” ข้าแต่เทพบีอา โปรดประทานพลังให้แก่ข้า !!! “บิ๊กตะโกนก่อนจะพุ่งเข้าไปหาฝูงก็อบลิน ดาบกลาเดียสในมือของเขาตัดคอก็อบลินตัวแรกกระเด็นไป ต่อยก็อบลินตัวที่สองจนคอยุบ จับก็อบลินตัวที่สามที่กัดขากระชากขว้างออก และพยายามสะบัดจากก็อบลินตัวที่สี่ ห้า หก ที่กระโดดเกาะที่หลัง
เวจ วิ่งไปอีกทิศหนึ่งที่ก็อบลินน้อยกว่า “ข้าแต่เทพเฮอร์เมส โปรดประทานความเร็วให้แก่ข้า ” ร่างผอมสูงเร่งความเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน เขามองไปที่เพื่อนซึ่งอยู่เบื้องหลัง … ร่างของบิ๊กถูกแทงพรุนและกำลังล้มลงท่ามกลางก็อบลินร้อยกว่าตัว …. แต่เวจไม่ลดความเร็วแต่พุ่งไปด้านหน้า เป้าหมายคือก็อบลินเมจ
“ย้ากกกกกก” ดาบในมือสะบัดออกแล้วมุ่งตรงไปที่ก็อบลินเมจ ลูกไฟขนาดกลางโผล่ขึ้นระหว่างกลางก่อนจะพุ่งมาที่เวจ ร่างของเขาลุกเป็นไฟ เสื้อผ้าเผาไหม้ไป แต่เขาไม่หยุดยังคงวิ่งต่อไปอีก คราวนี้จอมเวทย์ก็อบลินสร้างลูกไฟอีกลูกที่ใหญ่กว่าเดิม ร้อนกว่าเดิม มันใช้เวทย์ทั้งหมดที่มันมีปล่อยลูกไฟเพื่อกำจัดศัตรูตัวสุดท้าย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ๋า” เสียงของเวจดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะล้มลง ก็อบลินเมจที่รับรู้ได้ถึงความไม่ปกติหันขวับไปด้านหลังทันที
” ! ” ร่างของชายหนุ่มพุ่งเข้ามา มีดสั้นในมือปัดดาบสั้นในมือของก็อบลินกัปตันตัวแรกออก เขาพุ่งผ่านมันมาโดยไม่สนใจจัดการมันแต่อย่างใดแต่มุ่งเข้าหาก็อบลินกัปตันตัวที่2
” ข้าแต่เทพบีอา … !” เขาพุ่งมีดสั้นเข้าใส่ดาบของก็อบลินกัปตัน
เคร้ง!
พลั่ก! ล็อคใช้จังหวะที่ก็อบลินยกดาบป้องกัน เตะกวาดเข้าที่ลำตัวจนมันเสียหลัก … ชายหนุ่มไม่รอช้า ตั้งท่าเตรียมสปริ้นท์ตัวเข้าใส่ก็อบลินเมจ
แน่นอนว่าเพียงพวกเขาสามคน ไม่สามารถสู้กับก็อบลินทั้งหมดได้ แต่ถ้าพวกเขาจัดการกับก็อบลินเมจได้ ก็เท่ากับจัดการกำลังรบที่สำคัญของพวกมันได้ ทั้งชาวบ้านที่อพยพ และชาวบ้านหมู่บ้านโอลเซ่นจะได้มีโอกาสมากขึ้น
ล็อคได้แต่หวังว่า คนที่ส่งไปเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากทหารที่ตัวเมืองกาล่าจะไปถึงและทหารจะมาช่วย
“” ชายหนุ่มพุ่งใส่ก็อบลินกัปตันตัวสุดท้าย เขาฟาดหมัดเข้าใส่หัวของมันจนหน้าหันไป … เป็นอย่างที่คิด ก็อบลินเมจที่ใช้เวทย์ไฟขนาดใหญ่ใส่เวจ ไม่เหลือพลังเวทย์แล้ว มิฉะนั้นมันคงยิงลูกไฟใส่เขาแล้ว เขาจ้องหน้ามันก่อนจะพุ่งเข้าไป
“ตายยยยย!” ล็อคร้องขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าไปหามัน แสงไฟวาบขึ้นสว่าง… สว่างจนเขามองเห็นใบหน้าของก็อบลินเมจที่แสยะยิ้ม
เปลวไฟสว่างวาบจากด้านหลังก่อนที่เพลิงขนาดใหญ่จะปกคลุมทั่วทั้งร่างของเขา
มะ มะ ไม่จริงน่า … มันยังไม่ทันร่ายเวทย์เลยนี่
ร่างของชายหนุ่มชะงักด้วยความตกใจครู่หนึ่งก่อนพยายามพุ่งไปด้านหน้า แต่ความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่ลำคอ ลูกธนูปักทะลุเข้าที่คอ ล็อคพยายามเอ่ยเวทเพื่อเร่งพลังอีกแต่ลูกธนูที่ทะลุกล่องเสียงทำให้เขาพูดไม่ได้
เปลวไฟที่ลุกไหม้รอบตัวลดลงหลังจากพลังเวทที่หล่อเลี้ยงหมดลง ล็อครวมรวมพลังเฮือกสุดท้าย … อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น…
แสงไฟวาบจากแผ่นหลังของเขาอีกครั้งก่อนจะลุกท่วมร่าง ล็อคทรุดตัวล้มลง
‘อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว’
นั่นคือความคิดสุดท้ายของชายหนุ่มก่อนที่ก็อบลินกัปตันจะฟันดาบลงไป