ถนนอุกกาบาตฟังดูเหมือนชื่อถนน แต่มันเป็นชื่อทั่วไปสำหรับถนนทุกสายในสลัมของดาวดาบสวรรค์
พื้นที่มีชื่อว่าถนนอุกกาบาตเพราะหลายคนที่อาศัยที่นี่จะมีอายุขัยสั้นเหมือนอุกกาบาต หายไปทั้งอย่างนั้น
คนที่อาศัยในถนนอุกกาบาตเป็นชนชั้นทางสังคมที่ต่ำสุดของดาว
องค์กรอาชญากรรม พวกแก๊ง โจร ย่านโคมแดงและธุรกิจมืดทั้งหมดล้วนอยู่แถบนี้
ดาบ11เคยคิดจะกวาดล้างมัน แต่ก็พบทีหลังว่าองค์ประกอบมืดเหล่านี้ไม่อาจกำจัดได้อย่างสมบูรณ์ ต่อให้เขากวาดล้างถนนอุกกาบาต ในไม่กี่ปี ถนนอุกกาบาตก็จะเกิดขึ้นอีก แม้เขาจะทำการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าและลงโทษอาชญากร มันก็แค่จะแยกทั้งถนนอุกกาบาตเป็นถนนอุกกาบาตขนาดเล็กนับไม่ถ้วน
ไม่ว่าดวงอาทิตย์จะสดใสแค่ไหน มันก็จะมีสถานที่ที่แสงเข้าไม่ถึงเสมอ
ท้ายที่สุด ดาบ11ก็คิดได้ ตราบเท่าที่ถนนอุกกาบาตอยู่ภายในการควบคุมเขา เขาก็ไม่ต้องทำอะไร
หัวหน้าอาชญากรต่างๆของถนนอุกกาบาตเป็นคนฉลาด พวกเขาเข้าใจสถานะภายในและจับแนวคิดของดาบ11ไว้ พวกเขายอมแพ้และไม่คิดกล้าทำอะไรจนเกินเลย
แบบนี้ ถนนอุกกาบาตจึงเป็นอย่างที่เป็น
หลังพวกเขาออกศาลาหัวใจแกะสลัก หลินฮวงก็ปรากฏบนถนนอุกกาบาตพร้อมทาสดาบทั้งสอง
หลินฮวงอดขมวดคิ้วกับกลิ่นเหม็นเน่าในอากาศไม่ได้
มีขยะอย่างน้อย20-30ชิ้นบนพื้นถนนแคบๆ
กล่องอาหารกลางวัน กระดาษชำระ ถุงยางอนามัยใช้แล้ว เสมหะสีเขียวหนาบนพื้น..หลินฮวงยังเห็นคราบปัสสาวะบนผนังหลายด้าน ตัดสินจากความสูง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สุนัข
อีกด้านของถนน ผู้ชายรวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆสองสามคน มองทาส302ที่สูงเรียวโดยไม่ตั้งใจ บางคนไม่ปกปิดความตื่นตัวพวกเขาและยังลูบเป้าพวกเขาขณะยิ้มให้ดาบ302ด้วยลักษณะที่น่าขนลุก
ดาบ302ไม่แตกตื่น นางกลับยิ้ม ก้าวขายาวนางในส้นสูงออกไป
วินาทีต่อมา กลิ่นอายจางๆของการตรัสรู้ธาตุลมก็ปรากฏ
ทันใดนั้น ลมแรงก็พัดผ่านไปทั่วถนน แรงจนบ้านนับไม่ถ้วนถล่มลงมา
โชคดี ลมหายไปหลังจากนั้นสามถึงห้าวินาที
หลังลมหยุด ขยะทั้งหมดบนพื้นรวมถึงถังขยะที่ล้นไปด้วยน้ำสกปรกและผู้ชายข้างถนนก็หายไป
“ขยะควรถูกเก็บกวาด”ดาบ320กล่าวอย่างไม่แยแสขณะกลับมายืนข้างหลินฮวง
แน่นอน หลินฮวงเห็นว่าดาบ302ไม่ได้ฆ่าใคร นางแค่ใช้การตรัสรู้ธาตุลมเพื่อพัดคนเหล่านั้นไปพร้อมขยะ
หลังลมแรงก่อนหน้า เขาก็สามารถสัมผัสได้ว่าอากาศของถนนแคบๆนี้สดชื่นขึ้น
โดยไม่สนประตูและหน้าต่างที่รีบปิดข้างสองฝั่งถนน หลินฮวงนำสองทาสดาบเดินต่อไป
หลังเดินผ่านห้าหรือหกถนน ในที่สุดหลินฮวงก็พบบ้านที่เด็กชายชู่อู่ห่าวอาศัย มันคือส่วนลึกสุดของตรอกเล็กๆที่กว้างไม่ถึงเมตร
ตรอกซอยมืดนี้ไม่มีแสงแดดเลยเกือบ24ชั่วโมง
บ้านของอู่ห่าวถูกแบ่งส่วนอยู่ในสุด พื้นที่กว้างประมาณสิบตารางเมตรตามการตรวจสอบของหลินฮวง
ประตูห้องของอู่ห่าวเปิดออกกว้าง ประตูยังเน่าและพุพัง มีรูขนาดกำปั้นบนนั้นที่สูงประมาณหน้าแข้งคน ซึ่งดูเหมือนจะมาจากการเตะ
แต่ทว่า หลินฮวงยังสังเกตเห็นว่าตรงหน้าบ้านนั้นสะอาดและแทบไร้ที่ติราวกับมีคนเพิ่งทำความสะอาดไป
จากความเข้าใจเบื้องต้นเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของเด็ก หลินฮวงคิดถึงมันสักพัก บอกให้สองทาสดาบยืนรอและเดินเข้าห้องไปลำพัง
ในห้องเปิด ตามคาด มีแค่หนึ่งเตียง หนึ่งโต๊ะ
วัยรุ่นกำลังนั่งตรงขอบเตียง เขาถือมีดเล่มเล็กและกำลังแกะสลักชิ้นไม้เงียบๆ เศษไม้กระจายทั่วหนังสือพิมพ์บนโต๊ะเขา
หลินฮวงจำต้นแบบที่เด็กหนุ่มแกะสลักได้แต่แรกเห็น มันคืออสูรมังกร แม้จะไม่มีรายละเอียดพอ เขาก็บอกได้ว่ามันคือมังกรเพลิงโบราณ
เด็กไม่สังเกตเห็นการมาของหลินฮวงขณะจดจ่อกับการแกะสลัก หลินฮวงไม่พูดรบกวนเขา เขายืนเงียบๆและดูเด็กแกะสลักมังกรเพลิงโบราณ
มันเกือบบ่ายหลังเด็กแกะสลักรูปทรงพื้นฐานของมังกรโบราณที่เขาถืออยู่เสร็จ
เขาดูเหนื่อย วางของในมือลง เมื่อแหงนมอง เขาก็เห็นหลินฮวงที่ประตูเขา
เขาตกใจเมื่อเห็นหลินฮวง
แต่ทว่า เขาก็รีบสงบสติ ขยับนิ้วและส่งมีดแกะสลักในมือขวาเขาลงฝ่ามือเพื่อซ่อนมัน ในเวลาเดียวกัน เขาก็ตื่นตัวและถามหลินฮวงด้วยคำเตือนในน้ำเสียง”เจ้ามาหาใคร?”
หลินฮวงสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆนั่น เขายิ้มและนำรูปแกะสลักไม้ที่เขาได้รับจากศาลาหัวใจแกะสลักขึ้นมา”อีกาทองคำสามขานี่คือผลงานเจ้าสินะ?”
ดวงตาของเด็กหรี่แคบ ไม่ใช่เพราะเขาเห็นรูปแกะสลักไม้ แต่เพราะเขาสังเกตเห็นว่ารูปแกะสลักไม้ในมือหลินฮวงจู่ๆก็ปรากฏออกมา
“เจ้าคือผู้บ่มเพาะและข้าก็แค่คนธรรมดา บอกข้าว่าเจ้าต้องการอะไร อย่าอ้อมค้อมเลย”เด็กจ้องไปทางหน้าต่าง เขาเริ่มวางแผนเส้นทางหลบหนีในหัว
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย มันแค่ว่าเมื่อข้าไปเยือนศาลาหัวใจแกะสลักวันนี้ ข้าเห็นผลงานเจ้าและคิดว่ามันไม่เลว ดังนั้นข้าจึงมาหา”
“คิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรือไง?การลงลายของรูปแกะสลักน่าเกลียดมากและเต็มไปด้วย้ขอผิดพลาด ผู้บ่มเพาะอย่างเจ้าคิดว่ามันไม่เลว?”
“ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าแกะสลักได้ดี สิ่งที่ข้าคิดว่าไม่เลวคือความหมายที่เจ้าทิ้งไว้ในรูปแกะสลัก”หลินฮวงอธิบาย
เขาไม่คิดว่าอู่ห่าวจะสงสัยเขา แต่ทว่า หากพิจารณาตามสภาพแวดล้อมที่เด็กหนุ่มอาศัย มันก็เข้าใจได้
“อย่าทำเหมือนข้าเป็นเด็ก”อู่ห่าวชัดเจนว่าไม่เชื่อ”กฏของถนนอุกกาบาตคือห้ามผู้บ่มเพาะทำอะไรกับคนธรรมดาที่ไม่ใช่ผู้บ่มเพาะ ไม่ว่าเจ้าจะมาหาข้าทำไม เจ้าก็ได้แหกกฏแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้า ท่านดาบ11จะต้องส่งคนมาตรวจสอบแน่!”
แม้จะมีกฏดังกล่าวในถนนอุกกาบาต คนตายก็เกิดขึ้นทุกวัน มีคนธรรมดาอย่างน้อยร้อยคนที่ตายด้วยสาเหตุต่างๆทุกปี ดาบ11ไม่มีเวลามาตรวจสอบคดีพวกนี้
“อืม ดูเหมือนเจ้าจะไม่เชื่ออะไรก็ตามที่ข้าพูด”หลินฮวงพูดไม่ออกไปสักพัก”งั้น ข้าจะหาคนที่สามารถคุยกับเจ้าได้”
กล้ามเนื้อของอู่ห่าวตึงขึ้นขณะจ้องหลินฮวง เพียงเมื่อเขาคิดว่าหลินฮวงมีเพื่อนร่วมงานคนอื่น หลินฮวงก็โทรหาหมายเลขหนึ่งต่อหน้าเขา
ภายในวินาทีที่สายถูกรับ ภาพโฮโลแกรมของคนๆหนึ่งก็ฉายต่อหน้าอู่ห่าว
อู่ห่าวตกตะลึงเมื่อเห็นคนตรงหน้า
“ท่าน..ท่านดาบ11!?”