“ท่านคือศิษย์พี่ของท่านดาบ11จริงๆ?!”
หลังได้ยินคำอธิบายของดาบ111 อู่ห่าวก็เชื่อ80% แต่ยังสงสัยอีก20%
“หากข้าอยากทำอะไรเจ้าจริง ข้าคงทำไปแล้ว ไม่ต้องมายืนหน้าประตูเพื่ออธิบายเจ้าหรอก”
“แถม เจ้าไม่ต้องสงสัยว่าดาบ11ในภาพฉายนั้นคือตัวจริงหรือตัวปลอม ข้าจะพาเจ้าไปวังดาบสวรรค์ เพื่อพบเขาเอง”
ด้วยคำพูดของหลินฮวง ในที่สุดอู่ห่าวจึงหมดข้อสงสัย
อู่ห่าวรู้ว่าคนตรงหน้าเขาคือผู้บ่มเพาะ อู่ห่าวไม่สามารถสู้หรือหลบหนีได้ หากหลินฮวงมีเจตนาไม่ดีต่อเขาจริงๆ เขาคงทำมันไปนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายให้มากความ ต่อให้หลินฮวงลักพาตัวอู่ห่าว ก็จะมีคนไม่มากที่รู้
สำหรับดาบ11ที่เขาเป็นนั้นจะเป็นตัวจริงหรือไม่ อู่ห่าวเองก็ไม่แน่ใจ แต่ทว่า เมื่อเขาพิจารณามัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีเจตนาอะไร ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาหลอกเด็กธรรมดาอย่างเขาเลย แถมคนที่ปลอมตัวเป็นดาบ11ยังมีน้อยมาก
มีรายละเอียดหนึ่งที่ทำให้อู่ห่าวมั่นใจว่าหลินฮวงไม่คิดร้ายต่อเขาเพราะหลินฮวงยืนอยู่นอกห้อง และไม่ก้าวพ้นประตูเข้ามา
ด้วยความที่เติบโตในสถานที่อย่างถนนอุกกาบาต อู่ห่าวจึงมีความตื่นตัวสูงมากตั้งแต่เด็ก จากมุมมองเขา คนที่เข้าหาเขาต้องมีแผนการอะไรบางอย่าง
นั่นเป็นสาเหตุให้เขาระวังตัวมากตอนเห็นหลินฮวงครั้งแรก
ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าหลินฮวงไม่ได้คิดทำร้ายเขา ในที่สุดเขาจึงวางมีดแกะสลักในมือลง
“เชิญนั่ง”อู่ห่าวเพิ่งจำได้ว่าเขาไม่มีที่นั่งในบ้านหลังพูดจบ
นี่ไม่ได้รบกวนหลินฮวงเลย เมื่อเขาเข้าบ้าน เขาก็เห็นแถวรูปแกะสลักตรงขอบหน้าต่าง เขาสุ่มหยิบมันขึ้นมาและศึกษา
รูปแกะสลักนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่มีรายละเอียดที่ชัดเจนกว่าอีกาทองคำสามขาก่อนหน้า ลายเส้นของการแกะสลักยังน่าพึงพอใจกว่า เกือบจะไม่มีข้อตำหนิเลย แม้กระทั่งความหมายภายในรูปแกะสลักก็ยังรุนแรงกว่า
หลินฮวงยังสังเกตเห็นว่าฐานรูปแกะสลักยังสลักด้วยคำสองคำ “จิน อู่”
เขาใช้จิตเทวะเพื่อตรวจสอบรูปแกะสลักที่เหลือและพบคำ’จินอู่”บนฐาน จากนั้นก็ยิ้มและหันไปหาอู่ห่าว
“เจ้าใช้นามแฝงหรือ?”
“การใช้ชื่อจริงอาจทำให้ข้าลำบาก”อู่ห่าวอธิบาย”มันไม่ใช่เรื่องแย่ที่จะระวังตัว”
หลินฮวงอยากพูดว่า’เจ้าระวังเกินไป’แต่ก็ระงับไว้
หลังยืนยันว่า’จินอู่’คือนามแฝงของอู่ห่าว หลินฮวงก็มั่นใจเกือบ90%ว่าเด็กนี่คือคนที่สโมสรกำลังมองหา
เมื่อเขาเห็นอู่ห่าวจากประตูก่อนหน้า เขาตระหนักว่าเต๋าดาบของเด็กนี่ทะลวงผ่านขั้น3แล้ว แต่ทว่า ไม่มีร่องรอยกลิ่นอายบ่มเพาะภายในตัวเขาเลย
นี่หมายความว่าเด็กหนุ่มยกระดับเต๋าดาบตัวเองเป็นขั้น3ในเวลาแค่สองเดือน ผ่านการแกะสลัก
หลินฮวงรู้ว่าการยกระดับเต๋าดาบเขายากเพียงใด
เขาต้องใช้เวลากว่าปีเพื่อยกระดับเต๋าดาบเป็นขั้น3ผ่านการฝึกฝนและต่อสู้
เด็กที่ชื่ออู่ห่าวย่อมเป็นสุดยอดอัจฉริยะในเต๋าดาบอย่างไม่ต้องสงสัย!
หลังเขายืนยันถึงพรสวรรค์เต๋าดาบได้ หลินฮวงก็อดถูกล่อลวงไม่ได้
“เจ้าอยากเป็นศิษย์ข้าและเรียนทักษะดาบจากข้าไหม?”
เดิมที แผนนำตัวอู่ห่าวเป็นศิษย์แค่ข้ออ้าง หลินฮวงอยากดูว่าคนแบบไหนที่สโมสรกำลังค้นหาและเขามีอะไรพิเศษ
แต่ทว่า หลังเห็นพรสวรรค์เต๋าดาบของอู่ห่าว…ภารกิจของสโมสรแล้วยังไง?มันสำคัญไหม?
“ข้าลืมแนะนำตัวไป ข้าชื่อหลินฮวง”หลินฮวงกล่าวเสริม
อู่ห่าวแปลกใจ แต่ทันใดนั้น เขาก็ดูลำบากใจ
“หากเจ้ามีอะไรที่อยากพูด แค่บอกมา”หลินฮวงสังเกตเห็นความลังเลของอู่ห่าว
อู่ห่าวลังเลสักพักแต่ก็อดพูดขึ้นไม่ได้
“หากท่านคือศิษย์พี่ของท่านดาบ11จริง ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินชื่อท่านมาก่อน?”
หลินฮวงคิดสักพัก ถามนี้ไม่ใช่อันที่เขาสามารถตอบได้ง่ายๆ
“ข้าจะอธิบายรายละเอียดหลังข้าพาเจ้าไปพบดาบ1 หากเจ้ายังไม่พร้อมเป็นศิษย์ข้าตอนนี้ เจ้าสามารถรอได้จนกว่าเจ้าจะพบดาบ11ก่อนตัดสินใจ”
อู่ห่าวคิดเกี่ยวกับมันก่อนพูดอีกครั้ง
“งั้นข้าขอเปลี่ยนคำถาม ระหว่างท่านและดาบ11 ใครแข็งแกร่งกว่า?”
“ระดับพลังเขาสูงกว่าข้า แต่ข้าควรสามารถเอาชนะเขาได้หากเรามีระดับพลังเท่ากัน”หลินฮวงบอกความจริง ด้วยความสามารถปัจจุบันเขา ต่อให้เขาพบจอมเทพภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งคู่มีพลังเท่ากัน เขาย่อมเอาชนะได้
“ข้ามีคำถาม..”อู่ห่าวจ้องหลินฮวง”ข้าไม่มีศักยภาพบ่มเพาะ ท่านแน่ใจนะว่าอยากรับข้าเป็นศิษย์?”
“ไม่มีศักยภาพบ่มเพาะ?”
หลินฮวงใช้จิตเทวะเขาตรวจสอบร่างอู่ห่าวทันที พบว่าวิญญาณของเด็กเสียหายหนัก เขาไม่อาจสัมผัสถึงพลังงานต่างๆได้เลย พูดให้ถูก นี่ร้ายแรงยิ่งกว่าคนธรรมดาไร้ศักยภาพ
แต่ทว่า มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ หลินฮวงรีบหาเคล็ดบ่มเพาะที่เหมาะกับอู่ห่าวจากความทรงจำจอมเทพ
“เจ้าไม่ต้อกังวลเรื่องการไร้ศักยภาพบ่มเพาะ ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าบ่มเพาะได้”
ดวงตาอู่ห่าวสว่างขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่หลินฮวงพูด เขารีบลุก เดินไปหาหลินฮวงและหมอบแทบพื้น”ศิษย์น้อมพบอาจารย์!”
“จากวันนี้เจ้า เจ้าคือศิษย์ที่แท้จริงคนแรกของข้า”หลินฮวงพยักหน้าและพยุงอู่ห่าวขึ้น
เหตุผลที่หลินฮวงกล่าวว่า’ศิษย์ที่แท้จริง’ก็เพราะเขาเคยเป็นอาจารย์ที่สถาบันนักล่ายุทธ์และมีนักเรียนมากมาย
“มีปัญหาบางอย่างกับร่างเจ้าที่ทำให้เจ้าบ่มเพาะไม่ได้ แต่ทว่า ข้ารู้วิธีที่จะช่วยให้เจ้าเดินบนเส้นทางของการบ่มเพาะ เคล็ดบ่มเพาะนี้เรียกว่าเทพนักดาบ!”
“พูดง่ายๆ เจ้าไม่ต้องบ่มเพาะร่างกายหรือวิญญาณ เจ้าแค่ต้องบ่มเพาะดาบ เมื่อเต๋าดาบเจ้าบรรลุแก่นแท้เต๋าดาบ เจ้าจะสามารถใช้เทพนักดาบเพื่อผสานกับแก่นเทวะเจ้าได้ตรงๆ”
“สำหรับคนทั่วไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเต๋าดาบผ่านการบ่มเพาะดาบอย่างเดียว แต่สำหรับเจ้า มันเป็นไปได้…”
หลังอธิบาย หลินฮวงก็วางปลายนิ้วบนหน้าผากของอู่ห่าวและถ่ายทอดทักษะดาบที่เขาเลือกให้
เหนือสิ่งอื่นใด เด็กหนุ่มแค่คนธรรมดาและจำนวนข้อมูลที่สมองเขาจะรับได้ก็มีจำกัด
หลินฮวงมอบทักษะดาบให้แค่หมื่นชุด ตั้งแต่ระดับธรรมดาถึงตำนาน
“เจ้าควรค่อยๆหลอมทักษะดาบเหล่านี้ได้เมื่อเจ้ามีเวลา”หลินฮวงพูดและเหลือบมองรอบห้อง”ตอนนี้ เจ้าไปเก็บของซะ และตามข้ามา”
“เราจะไปไหนกันครับ?”อู่ห่าวถาม
“วังดาบสวรรค์ของดาบ11”