หลังล่ามนุษย์หิมะสำเร็จ เหยื่อเทพแท้จริงตนสองที่หลินฮวงเลือกคืออินทรีพายุ เทพแท้จริงขั้น2
อินทรีพายุคือมอนสเตอร์ที่บ่มเพาะธาตุลมเป็นหลัก ด้วยธาตุสายฟ้าและน้ำแข็งเป็นตัวหนุน
มอนสเตอร์ประเภทนี้ครอบครองความเร็วที่ถือเป็นชั้นนำแม้กระทั่งในหมู่มอนสเตอร์ระดับเดียวกัน นอกจากนั้น การโจมตีมันยังทั้งรวดเร็วและเกรี้ยวกราด
มันใช้ธาตุลมเพื่อสร้างใบมีดสายลมที่เสริมด้วยการตรัสรู้ธาตุน้ำแข็ง จากนั้น มันก็เสริมใบมีดด้วยธาตุสายฟ้า ด้วยการตรัสรู้ธาตุทั้งสามที่ควบประกอบกัน แม้กระทั้งเทพแท้จริงขั้น3ก็ยังหลบได้ยาก
สำหรับการต่อสู้นี้ หลินฮวงพึ่งพาอาวุธพลังจิตเต็มที่เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเขา เขาใช้มีดบินพลังจิตเขาเพื่อจัดการกับใบมีดสายลมของอินทรีพายุ
มีดบินพลังจิตปะทะกับใบมีดสายลมของอินทรีพายุไม่หยุด ซึ่งถูกสนับสนุนด้วยการตรัสรู้ธาตุทั้งสาม
การต่อสู้นี้ดำเนินอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนหลินฮวงจะจบการต่อสู้ได้
ถึงแม้อินทรีพายุจะแข็งแกร่ง มันก็ใช้การตรัสรู้ธาตุได้แค่สาม ซึ่งทำให้มันด้อยกว่าหลินฮวง
หลินฮวงพัวพันกับมันอย่างดุเดือดถึงครึ่งชั่วโมงเพราะเขาเห็นว่ามันสร้างใบมีดสายลมได้เยอะและเขาก็อยากทดสอบมีดบินพลังจิตชุดใหม่เขานี้
หลังฆ่าอินทรีพายุ หลินฮวงก็สกัดไฟเทวะออกจากตัวมัน
แต่ทว่า เมื่อเขานำไฟเทวะลงในตัว เขาก็ตระหนักว่าไฟเทวะนี้ไม่ได้ไหลไปในกงล้อชีวิตเขา มันตรงไปมุมของโลกภายในตัว หยุดปล่อยพลังงานและเปลี่ยนเป็นกลุ่มไฟ
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลินฮวงก็แปลกใจ
ก่อนหน้านี้ ไฟเทวะของมนุษย์หิมะไม่ได้แค่ไหลไปในกงล้อชีวิตเอง แต่มันยังได้รับการยอมรับโดยกงล้อชีวิตง่ายๆ
แต่ทว่า ไไฟเทวะของอินทรีพายุกลับกลายเป็นเฉื่อยชาเมื่อเข้าโลกภายใน
หลินฮวงควบคุมกลุ่มก้อนไฟเทวะอย่างสับสนและพยายามโยนมันเข้ากงล้อชีวิต แต่ทว่า เมื่อประกายไฟใกล้กับกงล้อชีวิต ไฟสีแดงเลือดของกงล้อชีวิตก็เริ่มขับไล่มัน
หลินฮวงลองกับกงล้อชีวิตทั้งสิบ ทีละอัน แต่ทั้งหมดก็ตอบสนองเหมือนกัน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอีกเนี่ย?”
หลินฮวงพูดไม่ออก อย่างไรก็ตาม หลังเขาคิดถึงมันอีกครั้ง เขาก็พอเดาได้ว่าทำไมวังชีวิตถึงปฏิเสธไฟเทวะ
“ราชาจักรกล ทำการปรับเปลี่ยนเส้นทาง หาเทพแท้จริงขั้น1″
ประมาณ7-8นาทีต่อมา หลินฮวงและราชาจักรกลก็พบเป้าหมายล่าระดับเทพแท้จริงตัวที่สาม
เป้าหมายครั้งนี้คือจิ้งจอกขาว มันคือมอนสเตอร์กลายพันธ์ และระดับพลังมันก็เป็นแค่เทพแท้จริงขั้น1
มอนสเตอร์ตัวนี้มีพลังและความเร็วสูง รวมถึงทักษะในการลอบสังหาร อย่างไรก็ตาม มันไม่มีโอกาสได้แสดงทักษะมันต่อหน้าหลินฮวง
หลังฆ่าจิ้งจอกขาวง่ายๆ หลินฮวงก็ดึงไฟเทวะจากตัวมันและใส่ลงไปในตัวเขาอีกครั้ง
หลังเข้าสู่โลกภายในตัวเขา ไฟเทวะก็เปลี่ยนเป็นลำแสงและไหลเข้ากงล้อชีวิตที่สองง่ายๆ
เมื่อเขาเห็น หลินฮวงก็ยืนยันการคาดเดาเขา
“มันจะยอมรับแค่ไฟเทวะของเทพแท้จริงขั้น1?”
“ราชาจักรกล หาเทพแท้จริงขั้น3ที่ใกล้สุดเดี๋ยวนี้“
เพื่อยืนยันการคาดเดาเขา หลินฮวงเตรียมทดสอบผ่านการลองผิดลองถูก
หลังผ่านไปไม่กี่นาที ทั้งคู่ก็พบเหยื่อเทพแท้จริงตนที่สี่ ซึ่งยังเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งสุดที่หลินฮวงเคยเจอ
มอนสเตอร์เทพแท้จริงขั้น3ตนนี้คือหมีทองคำ
หมีทองคำถือว่าเก่งสุดในหมู่มอนสเตอร์ระดับเดียวกันในแง่ของการป้องกันและการต่อสู้ระยะประชิดมันก็มากพอจะท้าทายยอดฝีมือเทพแท้จริงขั้น3โดยตรง
หลินฮวงคันมือ ครั้งนี้ แทนที่จะใช้มีดบิน เขากลับยกดาบขึ้นเพื่อสู้เอง
โดยไม่เก็บรั้งพลังไว้ เขาปล่อยแก่นแท้เต๋าประเภทพลังทันที!
พลังกฏเทพทั้งหกรวเข้าด้วยกัน พละกำลังเหนือมนุษย์ พลังสังหารเทพ การตรัสรู้ธาตุสายฟ้า –เทพสายฟ้า การลงทัณฑ์สวรรค์ การตรัสรู้ธาตุไฟ –ปีศาจรอยสัก และการตรัสรู้ธาตุไฟ นรก ต่อให้เสริมทั้งหมดนี้กับแก่นแท้เต๋าดาบ มันก็ยังต้องใช้เวลาชั่วโมงเต็มก่อนเขาจะโค่นหมีทองคำได้
“การฆ่าเทพแท้จริงขั้น3นับเป็นขีดจำกัดข้าแล้วจริงๆ“การต่อสู้นี้ช่วยให้หลินฮวงประเมินขีดจำกัดสูงสุดของเขาได้
หลังสกัดไฟเทวะจากภายในตัวหมีทองคำ หลินฮวงก็โยนมันลงภายในตัวเขาอีกครั้ง
เช่นเดียวกับไฟเทวะของอินทรีพายุจากก่อนหน้า ในไม่ช้าไฟเทวะนี้ก็ลอยนิ่งในรูปแบบของประกายไฟ
กงล้อชีวิตทั้งสิบปฏิเสธที่จะดูดซับไฟเทวะนี้ เหมือนก่อนหน้า
หลังเก็บศพของหมีทองคำไว้ในมิติเก็บของเขา หลินฮวงก็หันไปเผชิญหน้ากับราชาจักรกล
“ราชาจักรกล ช่วยข้าหามอนสเตอร์เทพแท้จริงขั้น1อีก“
ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งคู่ก็พบเหยื่อรายต่อไป ครั้งนี้ มันคือเทพแท้จริงขั้น1
หลังฆ่ามัน หลินฮวงก็สกัดไฟเทวะมันออกมา
ขณะหลินฮวงเฝ้าดู ไฟเทวะก็ได้รับการยอมรับโดยกงล้อชีวิตที่สาม
ดังนั้น หลินฮวงจึงยืนยันการคาดเดาเขาได้ กงล้อชีวิตเขาจะยอมรับแค่ไฟเทวะขั้น1
“ราชาจักรกล มาเปลี่ยนเส้นทางกัน เราจะล่ามอนสเตอร์ขั้น1ก่อน!”
ชั่วโมงต่อมา โดยใช้เส้นทางของราชาจักรกลเป็นตัวชี้นำ หลินฮวงก็ล่าเหยื่อเขาได้ถึงเจ็ดตัว
โดยไม่มีข้อยกเว้น ไฟเทวะทั้งเจ็ดได้รับการยอมรับโดยเจ็ดกงล้อชีวิตที่เหลือโดยไม่ยากเลย
เมื่อกงล้อชีวิตทั้งสิบยอมรับไฟเทวะทั้งสิบ หลินฮวงก็รู้สึกชัดเจนราวกับมีการเปลี่ยนแปลงในกล้ามเนื้อเขา
เขายังมีความรู้สึกคลุมเครือว่าตราบเท่าที่ไฟเทวะขั้น1ทั้งสิบในตัวเขาสามารถผสานกับไฟเทวะในตะเกียงชีวิตเขาได้อย่างสมบูรณ์ เขาอาจเลื่อนเป็นเทพเสมือนได้
“ดูเหมือนข้าคงทำได้แค่รอ..”หลินฮวงสัมผัสถึงความเร็วการผสานไฟเทวะในตัวเขาได้และเดาว่าต้องใช้เวลาประมาณเดือน
เขาเหลือบมองเวลา และเตรียมพร้อมแข่งขันกับเวลา
“ราชาจักรกล ช่วยข้าวางเส้นทางใหม่ ยกเว้นมอนสเตอร์ขั้น1ทั้งหมดจากเป้าหมายล่าเรา จากนี้ไป เราจะล่าแค่ขั้น2และ3!”
ราชาจักรกลพยักหน้าและทำงานมัน
ในฐานะสิ่งมีชีวิตประเภทจักรกล มันไม่มีอารมณ์มนุษย์อย่างยินดี โกรธ เศร้าหรือมีความสุข ดังนั้น มันจึงไม่บ่นที่หลินฮวงสั่งให้มันเปลี่ยนเส้นทางตลอดเวลา
วันครึ่งถัดมา หลินฮวงเอาแต่วิ่งหาเทพแท้จริงขั้นสองและสามตามเส้นทางที่ราชาจักรกลทำไว้ ฆ่าทีละตัว
เมื่อเขาพบขั้น2 เขาไม่มีปัญหากับการฆ่าทันที แต่ทว่า เมื่อเขาพบขั้น3 การต่อสู้รุนแรงจะเกิดขึ้นซึ่งกินเวลาประมาณชั่วโมงถึงสองชั่วโมง
เทพแท้จริงขั้นต่ำโดยทั่วไปจะใช้พลังกฏเทพได้กว่าสิบประเภท
ตามจำนวนพลังกฏเทพที่คนทั่วไปจะใช้ได้ หลินฮวงเหนือกว่าเทพแท้จริงขั้น3โดยเฉลี่ย
นี่ทำให้เขาเต็มใจใช้มอนสเตอร์ขั้น3เหล่านี้เพื่อฝึกทักษะต่อสู้
หากเขาพบประเภทพลัง เขาจะเผชิญหน้าตรงๆโดยใช้ประเภทพลัง
เมื่อเขาพบประเภทความเร็ว เขาจะใช้ทักษะดาบความเร็วเพื่อจัดการศัตรู
…
สองวันสุดท้ายในแดนเยือกแข็งผ่านไปชั่วพริบตา
ภายในสองวันที่ผ่านมานี้ หลินฮวงล่าเทพแท้จริงขั้นต่ำได้ว่า60 ท่ามกลางพวกมันคือขั้นหนึ่ง 10ตัว ขั้นสอง 28ตัว และขั้นสาม 23ตัว
นอกจากไฟเทวะขั้น1ที่ถูกดูดซับทั้งหมด ไฟเทวะอื่นภายในตัวเขากลายเป็นประกายไฟ รอหวนกลับมา…